เมื่อข้าพเจ้าถูกเทตอน 40+

เรื่องการถูกเทตอนอายุ 40+ ของจขกท.นั้นซับซ้อน กินเวลา ปัจจัยบางอย่างก็เกินกำลังที่จะควบคุมได้ จึงไม่ปรารถนาที่จะเอ่ยถึง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าและอยากแบ่งปันคือ เราได้อะไรจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
 
ด้วยอายุที่มากขึ้น จขกท.จึงเคยผ่านความผิดหวังทำนองนี้มาหลายครั้ง แต่ละครั้งก็มีปฏิกิริยาแตกต่างออกไปตามวัยและประสบการณ์ แต่นี่คือครั้งแรก ที่สามารถข้ามผ่านความผิดหวังมาได้อย่างสบายๆ จึงอยากเขียนกระทู้เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเผชิญความเสียใจอยู่ ขอให้ข้อความนี้มีส่วนเยียบวยาใจคุณนะคะ เราจะผ่านจุดนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ
 
ก่อนอื่น คุณจงเชื่อเถอะค่ะ ว่าทุกความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับคุณ ล้วนเป็นสากล มันไม่ได้เกิดกับคุณคนเดียว แต่เคยเกิดขึ้นกับทุกคนบนโลกมาแล้ว จะผ่านพ้นมันไปได้ง่ายหรือยาก ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจซึ่งฝึกฝนได้เสมอ และต้องฝึกฝนตลอดชีวิต
 
5 ข้อต่อไปนี้ คือสิ่งที่จขกท.เรียบเรียงขึ้น เพื่อจัดการกับความรู้สึกแย่ของตัวเองค่ะ
 
1.    ยอมรับความจริง     ต้องยอมรับความจริงค่ะ ว่าเรากับเค้าไม่เหมาะสมกันจริงๆ หรือมันก็คงไม่ไช่เวลาที่ใช่ ที่คุณสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกัน ความรักที่ดี คุณจะไม่ต้องพยายามมาก จนเสียความเป็นตัวของตัวเองไป คุณจะมีความสุข มากกว่าความทุกข์ แต่ถ้ามันตรงกันข้าม จงยอมรับ และเดินออกมาสวยๆค่ะ ชีวิตคุณมีค่าอยู่แล้ว แม้จะไม่มีเขา อย่าเอาคุณค่าของคุณไปให้ใครตีราคาค่ะ เพราะมันเป็นของคุณ และมันคือเรื่องจริง
 
2.    เบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ตอกย้ำความเจ็บปวดให้ตัวเอง     ช่วงแรกๆของการถูกบอกเลิก คุณอาจจะมึนงง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่มาแทนที่คือความโหยหา คิดถึงช่วงเวลาดีๆที่เคยมีร่วมกัน อยากยื้อ อยากกลับไปแก้ไข เพื่อให้ความหวานละมุนนั้นกลับมาอีก ..แต่คุณขา มันเป็นอดีตไปแล้ว มันจบแล้วค่ะ คุณต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ แล้วจะทำยังไงล่ะ เมื่อยังคิดถึงเขา ..
 
คุณต้องเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองค่ะ ต้องเบี่ยงไปในทางที่ดีด้วยนะคะ ไม่ใช่เบี่ยงไปหาคนใหม่มาแทนที่ความว่างเปล่าในใจทันที เพราะมีแนวโน้มที่จะเจอคนที่แย่กว่าเดิมมากกว่า สำหรับจขกท.นั้น ใช้วิธีการกลับมารักตัวเอง ด้วยการดูแลสุขภาพกายก่อน อาทิ

-      ทำ IF 16/8 โดยหวังผลให้ระบบย่อยในร่างกายมีโอกาสได้พักสัก 16 ชม.ต่อวัน ลดการหลั่งของอินซูลิน และกระตุ้นโกรทฮอร์โมนให้ทำงานดีขึ้นค่ะ
-      นอนหลับก่อนสี่ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายไปถึงจุดที่หลับลึกในเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมามากที่สุด 
-      กินอาหารไม่เกินค่าพลังงานต่อวันที่ร่างกายควรได้รับ แต่สารอาหารต้องครบ โดยเฉพาะ โปรตีน และวิตามิน จขกท.หุงข้าวไรซ์เบอรี่ผสมควินัว และพกไข่ต้มไปกินที่ทำงานทุกวัน เลี่ยงแป้งขัดขาว เลี่ยงของทอด เน้นไขมันดี ทุกวันนี้มีความสุขกับการเตรียมอาหารดีๆให้ตัวเองมาก กินอะโวคาโด อัลมอนด์ น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล งาดำ ปลา และแอปเปิ้ล เป็นประจำ
-      ออกกำลังกายด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง คือ ประกอบไปด้วยคาร์ดิโอ 80% และเวทเทรนนิ่ง 20% โดยพยายามออกกำลังกายสม่ำเสมอในเวลาเดิม เพื่อให้นาฬิกาชีวิตไม่รวน
-      ทาครีมก่อนนอน .. อันนี้เพิ่งเพิ่มขึ้นมาค่ะ ตอนเป็นสาวไม่ยักชอบทำ ทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเองมาก ที่ได้บำรุงบำเรอตัวเอง ทาทั้งหน้า ตัว และส้นเท้า อย่าเรียงสลับกันนะคะ (555)
 
3.    หาแหล่งความสุขให้เจอ   คำว่า “ความสุขนั้นมีอยู่ทุกที่” เป็นเรื่องจริงค่ะ และเป็นสิ่งที่ฝึกกันได้ บางคนมีความสุขได้แม้แค่การเฝ้าดูลมหายใจ หรือจิบน้ำอุ่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง ยิ่งคุณหาความสุขง่ายๆเป็นมากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะจมทุกข์เมื่อวิกฤตชีวิตมาเยือนก็น้อยลงเท่านั้นค่ะ สำหรับจขกท. การได้ชั่งน้ำหนักแล้วพบว่า % ไขมันในร่างกายลดลง ก็ทำให้ลิงโลดไปทั้งวันแล้วค่ะ จขกท.ตื่นเต้นกับคลิปออกกำลังกายใหม่ๆ และมีแรงขับที่อยากจะขยับร่างกายอยู่เสมอ เพื่อเป้าหมาย คือ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่สวยงามค่ะ เราจงถือคติว่า อย่าให้อายุมาเป็นอุปสรรคในการมีรูปร่างที่ดีเด็ดขาด และแม้จะเชื่อว่ากายนี้ใจนี้ไม่เที่ยงหนอ แต่ก็ควรดูแลมันให้ดี ทั้งกายและใจ ให้สมกับที่ได้เกิดมาค่ะ
 
4.    แสวงหากัลยาณมิตรที่ดี    จขกท.ไม่ได้มีครอบครัวอบอุ่น หรือมีเพื่อนมากมายห้อมล้อมหรอกค่ะ แต่กัลยาณมิตรที่มี อยู่ในยูทูปค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Dr.V Channel, Fitjunctions, กินดีอยู่ดีโดยหมอนัด, DrAmp Team, ปลดล็อกกับหมอเวช ฯลฯ ท่านเหล่านี้ล้วนเอื้อเฟื้อคลิปดีๆเพื่อสุขภาพกายใจแก่เรา บางท่านกรุณาตอบข้อความเป็นการส่วนตัวด้วย การได้รับฟังสาระดีมีประโยชน์ก็เป็นอาหารใจอย่างหนึ่งเช่นกัน ทำให้เรารู้จักจัดการกับ mind set ของตัวเองให้อยู่เป็นที่เป็นทาง มีเข็มทิศในการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง
 
5.    วางรากฐานชีวิตให้มั่นคง มองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง     จขกท.มีความเชื่อว่า มนุษย์เราเกิดมาเพื่อพัฒนายกระดับจิตใจตนเองให้สูงขึ้น ซึ่งในทางธรรมนั้นลึกซึ้งสูงสุดคือนิพพาน แต่ก่อนจะไปขั้นสูงนั้นได้ เราต้องไต่ไปทีละขั้นก่อน เริ่มจากการรักษาศีล รักษาใจ มีเมตตาต่อตนเองและผู้อื่น จงพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อเป็นเหตุเอื้อให้พัฒนาใจได้ง่ายขึ้นด้วย ความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจนี่แหล่ะ คือต้นทุนของชีวิตที่สำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินใดๆในโลก 
 
 
อย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ก็ไม่สายที่จะพัฒนาตนเอง ไม่สายที่จะดูแลสุขภาพ ไม่มีอะไรที่สายเกินไปสำหรับการทำสิ่งที่ดีค่ะ (แต่อย่าใช้มันเป็นข้ออ้างที่จะไม่เริ่มต้นทำในวันนี้นะคะ ไม่งั้นจะสายจริงๆ อิอิ)
 
ที่สำคัญ จงรักและเข้าใจตัวเองให้เป็นค่ะ 
 
 
จขกท.ได้รับสิ่งดีๆจากผู้อื่นในโลกออนไลน์มาไม่น้อย จึงมีพลังใจมากมายที่จะต่อสู้กับความผิดหวัง ขอส่งต่อพลังนี้ไปให้ผู้อ่านทุกท่านเช่นเดียวกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่