ขอออกตัวว่าได้รับผลกระทบไม่มาก แต่ก็โดน พอร์ตหุ้นที่เหลือแดงเถือก แต่เหลือไม่ค่อยเยอะ ธุรกิจผมที่หุ้นกับเพื่อนมีสะเทือนอยู่บ้าง ถ้าไม่จบใน 3 เดือน คงต้องหยุดชั่วคราว แต่คนรอบตัวผมตอนนี้หน้าแห้ง หมองหม่น เพื่อนฝูงที่ทำธุรกิจคนไหน cash เยอะก็ยังพอประวิงเวลา คนไหน cash น้อยอันนี้อ่วม คนมายืมเงิน ผมนี่โชคดีเลย ตอบแบบนี้เลย เจ๊งหุ้นหมดแล้ว เพราะทุกคนรู้ว่าผมเล่นหุ้น

มองหามาตรการทางภาครัฐยังนิ่งสนิท ไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรม นอกจากพักหนี้ชำระแต่ดอกเบี้ย เร่งเบิกจ่าย เลื่อนชำระภาษีเงินได้

ผมมั่นใจว่าตอนนี้ผู้ประกอบการทางด้านท่องเที่ยวทั้ง ใน/นอกประเทศ กินแกลบกันแล้ว พวกโรงแรมหลายแห่งเดี้ยงสนิท 

ส่วนโรงงานไม่ต้องพูดถึง เชื่อมั้ยผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทในตลาดติด - ไม่ต่ำกว่า 50% เพราะยอดขายดิ่งเหวทุกๆ sector ยกเว้นพวกได้งานรัฐ และขายไฟฟ้า

สิ่งที่รัฐควรทำเลย และต้องเร็วเลย คือลดดอกเบี้ย และต้องลดแรงอย่างน้อย 1%  คนเป็นหนี้จะลดภาระลงไปได้ระดับหนึ่ง รวมถึงลด spread ด้วยนะ ในยามวิกฤต ยาแรงคือต้องรักษาคนป่วยที่มีปัญหารายได้ เพราะธุรกิจขับเคลื่อนด้วยเงินกู้กันทั้งนั้น ถ้าไม่มีปัญญาส่งดอกเบี้ย ก็คือ npl รัฐ/ ธนาคารมันต้องช่วยกัน
ปีนี้กำไรน้อย ไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่ npl มาเยอะมันจะอ่วมกันหมด

กระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องออกมากระตุ้นเลยด้วยการลงทุน ขยายงานภาครัฐ / ไทยเที่ยวไทย ฯลฯ

จะบอกว่าผู้ประกอบการไม่ปรับตัว คงไม่ใช่ วันนี้ขายของ on line ใช่ว่าจะดี ยกเว้นขายหน้ากาก วันก่อนไปคุยเรื่องผลิตหน้ากาก ปัญหาคือวัตถุดิบขาดตลาด คนแห่มาทำ ทั้งเจลล้างมือ หน้ากากกันเต็ม ทุกคนดิ้นรนครับ แต่ไม่ใช่จะสามารถทำได้กันหมด เพราะถ้าใครประมาท สะสมทุนไม่ได้เพียงพอรองรับวิกฤตก็คงเหนื่อย เพราะทุกอย่างเริ่มส่งผลกระทบเรื่อยๆ แล้ว 

แนะนำอย่างเดียวตอนนี้ซื้อหุ้นไฟฟ้า ที่ราคาถูก mw มีเยอะๆ กับหุ้นมาม่า ครับ