ฮอกไกโดทริปนี้ เราจะพาไปเที่ยว เมือง Bibai (บิไบ) , Biei (บิเอะ) , Furano (ฟูราโนะ) ในช่วงฤดูหนาวกัน หลายคนคงคุ้นชื่อกับ บิเอะ และ ฟูราโนะ กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นสถานที่ยอดฮิต ที่คนนิยมมาเที่ยวกันในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีทุ่งลาเวนเดอร์ และ ทุ่งเนินตัดสลับที่สวยงาม และโด่งดังมากๆของฮอกไกโด ส่วน เมือง บิไบ (Bibai) หลายคนอาจยังไม่คุ้นชื่อ หรือยังไม่เคยรู้จักเลย อย่างเราก็เพิ่งได้ยินครั้งแรก เพิ่งรู้ว่าฮอกไกโดเค้ามีเมืองนี้ด้วย การเดินทางไปเที่ยวที่ เมือง บิไบ ก็ไม่ยากเลย จากตัวเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางไปที่ บิไบ สามารถนั่งรถไฟจากซัปโปโร ไปลงที่ สถานี Bibai ได้เลย และต่อรถจากสถานีไปยังสถานที่ต่างๆ หรือจะเลือกเช่ารถขับเอง ซึ่งเราว่าสะดวก สบายกว่า และการขับรถเที่ยวที่ฮอกไกโด ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ขอแค่ทำตามกฏของประเทศเค้าให้เคร่งครัด เท่านี้ก็สามารถขับรถเที่ยวได้อย่างสบายแล้ว
และการเดินทางในทริปนี้ เรามีโอกาสได้เช่ารถขับกันเองอีกแล้ว ต้องบอกว่าติดใจการเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นซะแล้วสิ เพราะสะดวก และสามารถจอดแวะถ่ายรูประหว่างทางสวยๆ ได้อีกด้วย ซึ่งถ้านั่งรถสาธารณะ หรือรถไฟมันทำไม่ได้ ต้องตรงเวลา บางสถานที่เลทนิดเดียว คือตกรถกันเลยทีเดียว และทริปนี้เราเดินทางกันหลายคน การเลือกเช่ารถขับก็เป็นอะไรที่คุ้มมากๆ และทริปนี้พิเศษคือเป็นช่วงฤดูหนาว หิมะปกคลุมไปทั่วถนนแทบทุกสายในฮอกไกโดเลยทีเดียว การขับรถเที่ยวในช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

โดยเราจองรถเช่ากับ Tocoo https://www.facebook.com/ToCoo-Rent-a-Car-276586643254336/ ซึ่งเป็นบริษัทเช่ารถอันดับต้นๆของญี่ปุ่น มีรถให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ข้อดีคือราคาถูก และสามารถเปรียบเทียบราคารถเช่าแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นได้ด้วยว่าอันไหนถูกที่สุดและเหมาะสมกับการเดินทางในทริปนั้นๆ สำหรับคนที่อยากเช่ารถขับ เรามีส่วนลดและลิ้งค์การจองมาฝากกันด้วยค่ะ
คลิกที่ลิ้งค์ >> http://bit.ly/2wBYgqO เพื่อจองรถ 
แล้วใส่ Code ส่วนลด 14 KKAY ได้เลย 
จะมีส่วนลดให้ 1,000 เยน เมื่อมียอดค่ารถเช่า 10,000 เยนขึ้นไป 
สามารถใช้ได้กับทุกสาขารถเช่า
ยกเว้นสาขาของบริษัท Times Car Rental
– หมดเขตใช้ส่วนลดวันที่ 31 มีนาคม 2020

สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการเช่ารถขับในต่างแดน
- ใบอนุญาตขับขี่สากล
การทำใบขับขี่สากล 
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่สากล
– สำเนาหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต
เล่มที่ใช้ในการเดินทางต่างประเทศ
– บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) 
– สำเนาและฉบับจริงของใบขับขี่รถยนต์
– รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
– ถ้าเปลี่ยนชื่อนามสกุล ควรสำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อและสกุลไปด้วย
– หลักฐานอื่น ๆ เช่น ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
– ค่าธรรมเนียมใบขับขี่ระหว่างประเทศ จำนวน 505 บาท

 เราไปเริ่มการเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 6 คน ก็เลือกรถแบบ Mini van โดยที่รับรถอยู่ไม่ไกลจาก สถานี ซัปโปโร ไปถึงก็ยื่นเอกสาร ใบขับขี่สากล และหลักฐานที่จองรถให้กับเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายวิธีการขับขี่ กฏต่างๆ กรณีที่มีอุบัติเหตุ หรือมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน อ้อ สำหรับคนที่เช่ารถขับ อย่าลืมทำประกันภัยด้วยนะคะ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมามันไม่คุ้มค่ะ ยิ่งเป็นในต่างแดนด้วยแล้ว ประกันนี่ถือว่าสำคัญมากจริงๆค่ะ นอกจากประกันรถแล้ว ประกันการเดินทางก็จำเป็นมากๆ กรณีเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง หรือ กรณีเครื่องบินดีเลย์ โดนแคนเซิลไฟล์ท กระเป๋าเดินทางสูญหายหรือล่าช้า เรายังสามารถเคลมได้หมด คิดดูว่าถ้าเจ็บป่วยที่ต่างประเทศ ค่ารักษาคงจะแพงมากๆเลยค่ะ เราเลือกซื้อประกันกับ cigna เพราะถ้าเจ็บป่วยในต่างแดน หลังจากกลับมาไทยแล้ว ยังเข้ารักษาต่อได้อีก 7 วัน ด้วยค่ะ ใครสนใจลองดูแผนประกันตามลิ้งค์นี้ได้เลย https://www.cigna.co.th/our-plans/travel-insurance

 


ขับรถจากซัปโปโร ประมาณ 60 กิโล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงเมือง บิไบ (Bibai)


โดยสถานที่แรกที่เราแวะกันคือ สวนศิลปะกลางแจ้ง Arte Piazza Bibai (อาร์เต้ ปิอาซซ่า บิไบ) โดยที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ของเมือง บิไบ เลยทีเดียว โดยเค้าจะเป็นให้เค้าชมฟรี และสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูเลยทีเดียว แต่ฤดูที่คนนิยมมาชมมากสุดน่าจะเป็นช่วงหน้าร้อน แต่เราว่า ช่วงหน้าหิมะ นี่ก็สวยงามไปอีกแบบนะ โดยที่นี่เป็นสวนศิลปะที่มีขนาดใหญ่ มีผลงานที่จัดแสดงไว้กว่า 40 ชิ้น แต่ละชิ้นตั้งโชว์ทั้งในส่วนของในอาคาร และ ด้านนอกอาคาร ซึ่งเป็นผลงานของ คาน ยาสุดะ (Kan yasuda) ประติมากรชื่อดังระดับโลก ที่เป็นชาวเมืองบิไบ โดยผลงานแต่ละชิ้นทำมาจากหินอ่อนแกะสลัก โดยผลงานแต่ละชิ้นนั้นเคยนำไปจัดแสดงที่ประเทศ อิตาลี และที่เมืองต่างๆทั่วโลกมาแล้ว ก่อนที่เค้าจะนำกลับมาโชว์ที่ Arte Piazza Bibai ในเมืองบิไบ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ คาน ยาสุดะ


ผลงานที่โชว์ในส่วนของ indoor จะมีอยู่ 2 ทั้งหมด 2 อาคาร อาคารแรก ชั้นล่าง จะโชว์ประติมากรรมขนาดต่างๆ อยู่ ทั่วทุกมุมของอาคาร ซึ่งรูปทรงจะแตกต่างกันไป ในแต่ละชิ้นงาน


 บนชั้นสอง จะเป็นส่วนของห้องที่แสดงรูปภาพผลงานที่ คาน ยาสุดะ นำไปโชว์ที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยจะมีจอโทรทัศน์ให้เปิดดูเพิ่มเติมได้


พื้นที่ด้านนอก จะกระจายผลงานไว้ตามที่ต่างๆโดยรอบ บางชิ้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน บางชิ้นต้องเดินหารอบๆสวนซึ่งจะตั้งอยู่บนเนินเขาบ้าง ซึ่งมีเยอะมากๆ เรายังเดินเก็บภาพไม่หมด เพราะเนื่องจากวันที่เราไป หิมะตกค่อนข้างหนัก


เดินจากอาคารแรก จะเจอกับอาคารที่สอง ซึ่งเป็นอาคารไม้สองชั้น ชั้นล่างจะเป็นอาคารเรียน ส่วนชั้นบนจะจัดแสดงผลงาน โดยผลงานทุกชิ้น สามารถถ่ายรูป และจับต้องผลงานได้ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สามารถปีนขึ้นไปถ่ายรูปหรือนั่งถ่ายรูปบนผลงานก็ได้ ทางสวนเค้าไม่ได้หวงนะคะ


ขึ้นมาบนชั้นสองของอาหาร ห้องแรกคือห้องที่ขายของที่ระลึก ที่สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ค่ะ


ต่อมาเป็นห้องที่แสดงผลงาน ประติมากรรม ซึ่งมีมุมแปลกๆให้ได้ลองฝึกถ่ายรูปกันอยู่หลายมุมเลยค่ะ


ตรงบันได ก็มีผลงานแสดงโชว์ไว้ด้วย


ทางเดินภายในของสวน มีจัดแสดงผลงานเป็นระยะๆ


ภายในสวน ยังมีร้านคาเฟ่ซึ่งเป็นอาคารไม้สไตล์ล็อกโฮล์มหลังเล็กๆ ชื่อ Cafe Arte บรรยากาศภายในร้าน เงียบสงบ โทนการตกแต่งดูอบอุ่น มีเตาผิงไฟในหน้าหนาว และที่นั่งจิบกาแฟ ชมวิวริมหน้าต่าง มองบรรยากาศภายนอกยามหิมะโปรยปราย เป็นภาพที่สวยงามมากๆเลยค่ะ
 

ที่นี่จะดังเรื่อง กาแฟคั่วสด รสชาติเค้าดีทีเดียว


นอกจากกาแฟแล้ว ขนมเค้ก คุ้กกี้ ของเค้าก็อร่อยและขึ้นชื่อไม่แพ้กันเลยค่ะ เราลองสั่งมาทาน รสชาติอร่อยใช้ได้เลย ตัวกาแฟก็หอมมาก นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวธรรมชาติ และประติมากรรมโดยรอบ ช่างฟินมากๆเลยค่ะ ใครที่มาเมืองบิไบ แนะนำให้ลองแวะมาดูค่ะ
เวลาทำการของ Arte Piazza Bibai  9:00  - 17:00 น. และในส่วนของ Cafe Arte เปิดบริการ 10:00 -17:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)



ออกจาก Arte Piazza Bibai เราก็ขับรถต่อไปเล่นกิจกรรม Snow Activity ที่ Bibai Snow land กันค่ะ โดยใช้เวลาขับรถไม่นานประมาณ 10 นาทีจากสวนศิลปะ Arte Piazza Bibai