[CR] แจกแพลนเที่ยว Hokkaido 7 วัน

แจกแพลนเที่ยว Hokkaido 7 วัน
นั่งรถไฟเที่ยวเหนือจรดใต้ แวะ 6 เมือง ด้วยทางไกลกว่า 1,612 กิโลเมตร
โกดังอิฐแดง หุบเขานรก แหลมโซยะ ถนนช็อปปิ้งซาไกมาจิ คลองโอตารุ ฯลฯ
เที่ยวแบบจุกๆ กันไปเล้ยยยยย!

สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อเอิน อาศัยอยู่ที่ฮอกไกโด และเป็นแอดมินเพจ Hokkaido Diary นะคะ
พอดีวันปีใหม่เราแบกเป้นั่งรถไฟไปเที่ยวมาเลยจะนำแพลนมาแบ่งปันค่ะ

ทุกคนรู้มั้ยคะว่าฮอกไกโดคือจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
บางคนถามว่า 10 วันเที่ยวพอมั้ย? อยากจะบอกว่าตัวเราอยู่ฮอกไกโดมาจะ 4 ปียังเที่ยวไม่ทั่วเลยค่ะ55  

เอาละ ไปเที่ยวพร้อมกันกับเราได้เล้ยยยยย

.
.
ปู๊นปู๊นนนนนนนนนนนนนน

.
แพลนสำหรับเที่ยว 7 วันของเรา
ทริปนี้เราเดินทางกัน 2 คน คือเรา(เอิน)กับพี่โน๊ต(พี่คนไทยที่อยู่ฮอกไกโด)
Day 1 คือวันที่ 30 ธันวาคม 2021 วันนั้นเรามีทำงานครึ่งวัน เลยนัดเจอกับพี่โน๊ตที่Sapporoในเย็นวันนั้นค่ะ
ถือว่ามาเริ่มเดินทางกันที่ Sapporo แล้วกันนะคะ
นี่คือแพลนที่ตั้งใจจะไปให้ครบ แต่พอไปถึงจริงๆ ก็มีบางที่ที่เค้าปิด เลยต้งเปลี่ยนไปที่อื่นแทน
การไปเที่ยวที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่วางไว้ก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำในทริปเลยค่ะ
เผลอๆ จำได้ติดหัวมากกว่าที่ที่ตั้งใจจะไปอีก5555

ครั้งนี้เราใช้Passที่ชื่อว่า Hokkaido Love! 6日周遊パス เป็นPassที่สามารถนั่งรถไฟJRได้ทั่วทั้งฮอกไกโดแบบไม่อั้นเป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน
เรานั่งคุ้มสุดๆ
จากที่ต้องเสียค่ารถ 48,610 เยน(14,583 บาท) แต่ใช้Pass นี้แล้วหมดไปเพียง 12,000 เยน(3,600 บาท)เท่านั้นค่ะ!
ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเราแนะนำให้ซื้อPassมาจากที่ไทยนะคะ ซื้อกับบริษัททัวร์บางที่เค้ามีส่วนลดให้ด้วยค่ะ
ถ้ามาซื้อที่ญี่ปุ่นเลยจะได้เป็นราคาเต็มค่ะ

.
Day 1
นัดเจอกันที่Sapporo มาถึงก็ 5 โมงเย็นแล้ว
แล้วฤดูหนาวมืดเร็วมากกกก
ไม่มีอะไรทำนอกจากเดินเล่นเก๋ๆ
คืนนี้เรานอนกันที่โรงแรมCapsule Hotel City Cabin Susukino อยู่ที่ Susukino ราคาคนละ 2,000 เยน(600 บาท)
มีผ้าเช็ดตัว แปรงฟันให้ครบเลย ขาดแต่ชุดนอน อันนี้ต้องเตรียมไปเองค่ะ

.
Day 2 - 3
เรายอมไม่นั่งรถไฟกัน 1 วันเพื่อเที่ยวHakodateแบบจุกๆ 2 วัน 2 คืนเลยค่ะ ไปครบเกือบทุกที่
Hakodateเป็นเมืองที่สวยมากกก เราแนะนำให้มาพักอย่างน้อย 1 คืนนะคะ
ไม่แนะนำให้ไปกลับจาก Sapporo ค่ะ

.
Day 2 - 3
วิวกลางคืนของHakodate รู้สึกคุ้มกับค่าโรงแรมทั้ง 2 คืนมากๆ ค่ะ ราเม็งอร่อยยย

.
Day 4
แวะมาตามรอยแฟนเดย์ที่หุบเขานรกเมืองNoboribetsu
วิวสวยมากก เพิ่งรู้ว่าตอนมีหิมะสวยขนาดนี้
ปล.ใครแพ้กลิ่นกำมะถันไม่แนะนำให้มาน้า

.
Day 4
มานอนที่Asahikawa เพื่อรอต่อรถไฟไปเมืองWakkanai
หน้าสถานีมีไฟประดับสวยและยาวไป 1 กิโลเมตรเลยค่ะ

.
Day 5
สิ่งที่ต้องเตรียมใจสำหรับทริปฤดูหนาวในฮอกไกโดก็คือพายุหิมะค่ะ
วันนั้นหิมะตกหนักมากจนรถไฟที่จะไปWakkanaiของเราหยุดวิ่ง
เรา 2 คนเลยไปลั้นลากันที่AEON หน้าสถานีJR Asahikawaค่ะ
ทั้งเล่นเกมตีกลอง แข่งMario Kart แล้วก็ไปถ่ายรูปสติ๊กเกอร์(ภาษาญี่ปุ่นเรียกรูปแบบนี้ว่า ปุริคุระ)
หน้าเราจะดูเอเลี่ยนหน่อยๆ แต่ไม่เหมือนตัวจริงดี ชอบค่ะ55555555555

.
Day 5
ในที่สุดเราก็ได้นั่งรถไฟรอบบ่ายมาเมืองWakkanaiได้สมใจ
กว่าจะมาถึงก็มืดแล้ว เลยได้แต่เดินเล่นดูบ้านเมืองไปรอบๆ
วันนั้นอากาศ -9 องศา ลมแรงมากกกกก สมกับเป็นเมืองติดทะเล หนาวเหมือนหูจะขาดเลยค่ะ555
พี่โน๊ตก็ได้ทำภารกิจกินไอศกรีมกลางหิมะได้สำเร็จ นับถือใจมาก5555

.
Day 6
เนื่องจากDay 5 เรามาถึงWakkanaiตอนเย็นจนไม่ได้เที่ยวที่ไหน มันเลยมาอัดแน่นวันนี้ค่ะ
เราไปเยือนแหลมโซยะ หรือจุดที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว สุดยอดมากก แล้วก็หนาวม๊ากกก

.
Day 6
นั่งรถไฟจากWakkanaiมายังOtaru
มาถึงตอนเย็นแล้ว ร้านค้าปิดหมดเลย เลยมาเดินเล่นชมเมืองแล้วไปหาอะไรกินกันที่ร้านสะดวกซื้อ

.
Day 7
ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย พวกเราเลยจัดเต็ม!
แวะกินมันทุกร้านที่ขวางหน้าเลยค่ะ
ย้อนมาดูในมือถือมีแต่รูปของกิน5555
โชคดีนะที่เค้าเปิดไม่ครบทุกร้าน ไม่งั้นเงินเรา 2 คนไม่เหลือแน่ค่ะ5555
หลังจากเที่ยวโอตารุเสร็จเรา 2 คนก็แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ
กลับบ้านมาเหนื่อยๆ ก็ยังพักไม่ได้ ต้องไปกวาดหิมะที่สะสมมา 7 วันอีก! โอ้ยยยยย5555

.
ภาพรวมๆ การนั่งรถไฟของเราก็ประมาณนี้ค่ะ

.
การเที่ยวปีใหม่ในญี่ปุ่นถือว่าลำบากกว่าเทศกาลอื่น
เพราะเป็นช่วงที่ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวปิดทำการเยอะมาก
ใครจะไปที่ไหนก็เช็คดูให้ดีๆ ก่อนนะคะ
อย่างพวกสวนสัตว์หรือเทศกาลนี่ส่วนใหญ่จะปิดค่ะ
รถก็หมดรอบเร็วมาก ถ้าใครไปเที่ยวไกลอาจจะต้องเตรียมค่าแท็กซี่ไปเยอะๆ หน่อย
แต่รวมๆ แล้วสนุกมากๆ ค่ะ รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่มา

.

.
เราอยากให้ทริปนี้มีสีสัน เลยวางแผนกับพี่โน๊ตว่าจะมีภารกิจให้ทำระหว่างทริปด้วย
พอดีชอบเล่นอะไรแผลงๆ ค่ะ แหะๆ

.
ภารกิจที่ 1 เอากระเป๋าไปได้แค่ใบเดียวเท่านั้น **ห้ามเอากระเป๋าลากไป
กระเป๋าเราหนักประมาณ 7 กิโลค่ะ แบกวันแรกหลังเกือบหัก แถมบางอย่างเอาไปก็ไม่ได้ใช้ด้วย เอามาเพื่ออออ55555
status : ภารกิจสำเร็จ

.
ภารกิจที่ 2 ห้ามใช้เงินเกิน 50,000 เยน
เกือบทำได้แล้วเชียวถ้าไม่เผลอไปเข้าร้านขายยาอ่ะ//ฮรือออ
อื่นๆ เป็นค่าฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์ค่ะ
มากัน 2 คนก็พยายามยัด จะได้หารๆ กันได้ แหะๆ
ปล.ร้านขายยาญี่ปุ่นจะไม่ได้ขายแค่ยา มีทั้งของกิน เครื่องสำอาง ครีมบำรุง และอื่นๆ เราไปโดนลิปมาค่ะ เกินงบเลย55555
status : ภารกิจล้มเหลว
 
.
ภารกิจที่ 3 อ่านหนังสือให้จบ 1 เล่มระหว่างนั่งรถไฟ
อันนี้ตลกมาก เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าแอบถ่ายกัน มาเห็นอีกทีคือตอนเอารูปมาแชร์หลังจบทริป เอ๊ยย โป๊ะแตก555555555555
เรามีเงื่อนไขว่าให้พกหนังสือที่คิดว่าจะอ่านแต่ไม่ได้แตะซักทีมาคนละ 1 เล่ม แล้วก็เอาไปอ่านวันไหนก็ได้ แต่ขอให้จบภายในทริปนี้
ก่อนจะอ่านก็ถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกค่ะ จากนั้นก็มีสภาพอย่างที่เห็น55555
status : ภารกิจสำเร็จ(มั้ง555)

.
ภารกิจที่ 4 เอามาม่าต้มยำกุ้งมากินที่เมืองWakkanai
สมใจแล้วค่ะ ซื้อไข่ต้มมาใส่ด้วย เริ่ด อิอิ
คนไทย แปลว่า เผ็ช อยู่ที่ไหนเราก็ต้องแซ่บ
status : ภารกิจสำเร็จ

.
แถม! เกร็ดความรู้วิธีขึ้นรถบัสญี่ปุ่น

.
แถม! เกร็ดความรู้รถรางเมืองฮาโกดาเตะ
ปล. ในฮอกไกโดจะมีอยู่ 2 เมืองที่มีรถราง คือ เมืองฮาโกดาเตะ และซัปโปโร ค่ะ

.

จบแล้วค่าาาาาา!!
ขอบคุณทุกคนที่อ่ามาจนถึงตรงนี้นะคะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนๆ ได้สนุกกับการท่องเที่ยวในฮอกไกโดมากขึ้นค่ะ

ถ้าชอบฝากเข้าไปไลก์เพจ https://www.facebook.com/HokkaidoSoGoodDiary หน่อยนะคะ

*******************************

ชื่อสินค้า:   แจกแพลนเที่ยว Hokkaido ด้วยรถไฟ 7 วัน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่