สวัสดีค่ะ : )
นี่เป็นครั้งที่สองที่เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวฮอกไกโด
คราวที่แล้วไปช่วงก่อนฤดูหนาว ประมาณปลายพฤศจิกายน
แต่ปีนี้วางแผนไปหนาวแบบเต็มๆ เลย เพราะแพลนจะไปเที่ยวเทศกาลหิมะด้วย
แล้วก็หนาวสมใจ! เพราะหิมะตกแทบทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันที่ไปเดินเทศกาลหิมะ
เลยอยากเอาประสบการณ์เที่ยวฮอกไกโดช่วงฤดู (โคตร) หนาวมาแบ่งปัน
รวมถึงภาพความทรงจำ และโมเมนต์ดีๆ ที่เกิดขึ้นที่ฮอกไกโดด้วย
เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวเทศกาลหิมะในปีหน้านะคะ ^^



เกาะฮอกไกโด และการเดินทาง
ฮอกไกโด คือ เกาะเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
โอบล้อมด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk)
เป็นเกาะใหญ่อันดับสองรองจากเกาะฮอนชู และถูกเชื่อมถึงกันด้วยอุโมงค์ใต้ทะเลเซกัง
ปัจจุบันเส้นทางรถไฟชินคันเซ็น “Hokkaido Shinkansen” สร้างเสร็จส่วนหนึ่งแล้ว
ทำให้การเดินทางจากโตเกียวไปยังเมืองฮาโกดาเตะของฮอกไกโดสะดวกรวดเร็วขึ้นมาก
โดยใช้เวลาแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง (เร็วกว่าแต่ก่อนมากกก)


แผนที่ของเมืองเด่นๆ ในฮอกไกโดค่ะ พยายามออกแบบกราฟฟิกให้ดูง่าย
อาจจะไม่ครบทุกเมือง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวฮิตๆ ของของเขาค่ะ : )



ส่วนการเดินทางจากประเทศไทยสู่ฮอกไกโด ปัจจุบันมีเพียงการบินไทย
ที่มีเที่ยวบินตรงสู่สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport)
นอกนั้นจะเป็นไฟลท์ต่อเครื่องค่ะ ซึ่งราคาบินตรงของการบินไทยก็แรงอยู่เหมือนกัน
ปกติแล้วถ้าจองได้ช่วงโปรโมชั่นจะราคาประมาณ 23,xxx - 24,xxx บาท
แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงโปรฯ ก็จะกระโดดไปเลขสองปลายๆ จนถึงเลขสามเลยทีเดียว
ฉะนั้นถ้าอยากประหยัดอาจจะลองดูสายการบินอื่นๆ ที่ต่อเครื่องแทนก็ได้
ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณหมื่นปลายๆ หรือจะใช้วิธีเดียวกับเราในทริปนี้ก็ได้ค่ะ
คือจองตั๋วโปรฯ ของการบินไทย 2 คน 15,xxx บาท มาลงที่โตเกียว
แล้วซื้อ JR Rail Pass สำหรับทั่วประเทศเพื่อใช้นั่งชินคันเซ็นขึ้นมาที่ฮาโกดาเตะอีกที
เพราะคำนวณดูแล้วคุ้มกว่า แถมยังใช้นั่งรถไฟไปเมืองอื่นๆ ในฮอกไกโดได้อีกด้วย



สนามบินนิวชิโตเสะเป็นสนามบินที่บันเทิงมากค่ะ แทบจะเหมือนห้างสรรพสินค้าย่อมๆ เลย
ที่เด็ดคือมี “Doraemon Waku Waku Skypark” อยู่ที่  Arrival Hall ชั้น 3 โซน Smile Road
ที่นี่จำลองโลกของโดราเอมอนและผองเพื่อนไว้ให้เข้าไปถ่ายรูปมากมายหลายฉาก
ไฮไลท์คือห้องนอนของโนะบิตะที่เหมือนซะจนแฟนคลับโดราเอมอนรุ่นเก๋าอย่างเราเผลอกรี๊ดดดด
ใครมีไฟลท์ถึงเช้า แวะเที่ยวที่นี่ก่อนได้เลยนะคะ ค่าเข้าจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 500 เยน ค่า



การเดินทางจากสนามบินนิวชิโตะเซะเข้าเมือง
1. JR Rapid Airport
รถไฟด่วนของ JR ให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างสนามบินนิวชิโตะเซะกับสถานีซัปโปโร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที มีทั้งที่นั่งแบบจอง (Reserved Seat) ราคา 1,590 เยน
และแบบไม่จอง (Non-Reserved Seat) ราคา 1,070 เยน สุดสายที่สถานีซัปโปโร
แต่ก็จะมีบางขบวนที่วิ่งต่อไปถึงสถานีโอตารุ (Otaru Station) ได้เลยค่ะ

2. Bus
ใครที่มีสัมภาระเยอะและไม่อยากลากของรุงรังขึ้นรถไฟ ตรงบริเวณ Terminal 1 ของสนามบิน
จะมีรถบัสให้บริการรับส่งผู้โดยสารสู่ย่านสำคัญๆ ของเมืองซัปโปโร เช่น สถานีซัปโปโร สถานีซูซูกิโนะ
รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที ราคาเริ่มต้น 1,030 เยน
ดูจุดจอดรถบัสเพิ่มเติมได้ทาง > www.new-chitose-airport.jp/en/access/bus/timebusc/



ส่วนการเดินทางในเกาะฮอกไกโด เราใช้วิธีนั่งรถไฟผสมกับเช่ารถขับค่ะ
โดยจะเช่ารถขับแค่บางเมืองที่การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะไม่ค่อยสะดวก
เพราะรอบรถบัสในฮอกไกโดมีเวลาให้เลือกน้อยมาก ยิ่งหน้าหนาวมืดเร็วด้วย
ฉะนั้นการเช่ารถขับจึงสะดวกกว่ามาก แถมยังอิสระกว่า แล้วก็มีโอกาสได้เห็นวิวสวยๆ
แวะจอดถ่ายรูปแจ่มๆ ได้มากกว่าใช้ระบบขนส่งสาธารณะอีกด้วยค่า



แต่สำหรับบางเมือง เช่น ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ หรือโอตารุ ที่มีรถไฟหรือรถรางครอบคลุมอยู่แล้ว
เราว่าใช้รถไฟจะสะดวกกว่า รวมถึงการเดินทางระหว่างเมืองเราก็นั่งรถไฟเอาค่ะ เพราะซื้อ JR Pass มาแล้ว
แล้วก็จะได้ประหยัดค่าทางด่วนด้วย ใครที่คิดจะเช่ารถขับทั้งทริป แนะนำว่าอย่าลืมคำนวณค่าทางด่วนเข้าไปด้วยนะ
เพราะค่าทางด่วนค่อนข้างแพงทีเดียว (ลองเช็คก่อนได้จากที่นี่นะคะ > https://goo.gl/GT5uKo)
ส่วนค่าเช่ารถไม่ค่อยเท่าไร ตกวันละประมาณ 1,500+ บาท ค่าน้ำมันอีกนิดหน่อย ถ้าไปกันหลายคนก็หารกันคุ้มเลยค่ะ



สำหรับรีวิวในกระทู้นี้ เราจะขอรีวิวในส่วนของเมืองซัปโปโร และโอตารุนะคะ
เพราะน่าจะง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ สามารถนั่งรถไฟเที่ยวได้ ไม่ต้องเช่ารถ
แล้วถ้ามีโอกาส เราจะกลับมารีวิวการเช่ารถขับเที่ยวฮอกไกโดอีกน้า : )