ฮอกไกโด เมืองที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
ตกหลุมรักฮอกไกโด เมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย เดินทางง่าย เที่ยวได้ทุกฤดู ทริปนี้เราโชคดีมากที่ได้เจอครบทั้ง หิมะ และใบไม้เปลี่ยนสี ในทริปเดียวกันเลย เราเดินทางช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงปลายของใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดแล้วค่ะ บางสถานที่ใบไม้อาจจะเลยช่วงพีคมาบ้างแล้ว แต่ถือว่าความสวยยังคงเหลืออยู่เยอะมาก เพราะทริปนี้ได้รูปมาเพียบ แต่ละสถานที่แต่ละจุดสวยงามมาก อดใจไม่ไหวที่จะเก็บภาพมาฝากกัน เพราะบางสถานที่ก็เที่ยวได้ทุกฤดูเลย เผื่อใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวฮอกไกโดอยู่ เราเอาพิกัดเด็ดๆ ที่น่าไปมาฝากกันจ้า
ชมแบบคลิปสั้นๆกันก่อน
เริ่มต้นการเดินทางกันเลย
ทริปนี้เราบินกับสายการบิน Nokscoot ซึ่งช่วงที่เราไปเค้าเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ บินตรงจากดอนเมือง - ซัปโปโร ที่มีเที่ยวบิน 4 วัน /สัปดาห์ ด้วยเครื่องลำใหญ่ โบอิ้ง 777 ชอบตรงเบาะที่นั่งเค้าใหญ่ กว้างสบาย ไม่อึดอัด ไม่เมื่อย เพราะเหยียดขาได้เยอะ แถมไม่นก ไม่เท ไม่เลทนะจ้ะ ระหว่างบินก็ไม่ต้องกลัวหิว เพราะเค้ามีบริการ Nokscoot Cafe พร้อมเสริฟเมนูอร่อย แนะนำ Pre Order ชุดอาหารอุ่นร้อน ที่สั่งล่วงหน้าได้ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนบิน ที่
https://www.nokscoot.com/th/
นั่งเครื่องมาประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนิวชิโตเสะ แล้วค่ะ ทริปนี้การเดินทางในฮอกไกโด เราใช้บริการ ทั้งรถไฟ รถเช่าขับเอง และรถเช่าพร้อมคนขับ แต่ก่อนอื่นมาถึงสนามบินแล้ว ก็ต้องไปแลก Pass กันก่อนค่ะ เราเลือกใช้
Hokkaido Rail Pass Flexible 4 วัน เป็นตั๋วรถไฟแบบไม่จำกัดรอบ สามารถใช้งานได้แบบยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องติดกันทั้ง 4 วัน Pass นี้สามารถใช้นั่งรถไฟ JR ที่ Hokkaido ได้ทุกสาย ทั้งรถไฟด่วนพิเศษ รถไฟธรรมดาและรถไฟนำเที่ยว ยกเว้น รถไฟ Shinkansen สามารถเลือกจองที่นั่งล่วงหน้าได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ราคา 23,480 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,500 บาท ถ้าไปหลายสถานที่ หลายรอบ ในหนึ่งวันก็คุ้มอยู่ค่ะ
นอกจากนั่งรถไฟแล้ว การไปตามเมืองต่างๆ เราเลือกเช่ารถขับเองด้วยค่ะ เพราะสะดวกสบาย เหมาะกับสายชิล สายถ่ายรูปอย่างเรามาก สามารถจอดแวะได้ตลอดทาง ไม่ต้องรีบทำเวลาให้ทันรอบรถ ใครที่สนใจเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น แนะนำของที่นี่เลยค่ะ :
https://www.facebook.com/ToCoo-Rent-a-Car-276586643254336/
คลิกที่ลิ้งค์
https://www2.tocoo.jp/th?asp_id=929 เพื่อจองรถ แล้วใส่ Code ส่วนลด 14 KKAY ได้เลย จะได้คูปองส่วนลด 1000 เยน สำหรับยอดเช่ารถ 10,000 เยนขึ้นไป สามารถใช้ได้กับทุกสาขา ยกเว้นบริษัท Times หมดเขต 31 มีนาคม 2020
สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการเช่ารถขับในต่างแดน
- ใบอนุญาตขับขี่สากล
การทำใบขับขี่สากล
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่สากล
– สำเนาหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต
เล่มที่ใช้ในการเดินทางต่างประเทศ
– บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง)
– สำเนาและฉบับจริงของใบขับขี่รถยนต์
– รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
– ถ้าเปลี่ยนชื่อนามสกุล ควรสำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อและสกุลไปด้วย
– หลักฐานอื่น ๆ เช่น ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
– ค่าธรรมเนียมใบขับขี่ระหว่างประเทศ จำนวน 505 บาท
แพลนการเดินทางของเราในทริปนี้
Day 1
*Don Mueang International Airport - New Chitose Airport
* Hill of Buddha (เนินพระพุทธเจ้า)
* Hana Momiji (โรงแรมสไตล์เรียวกังย่าน Jozankei)
Day 2
* Hiraoka Jugei center (อุโมงค์เมเปิ้ล)
* Hokkaido University (มหาลัยฮอกไกโด)
* Maeda Forest park (สวนป่าสาธารณะ)
Day 3
* Jigokudani noboribetsu (หุบเขานรก)
* Usuzan Ropeway (กระเช้าชมวิว)
* Lake Toya (ทะเลสาบโทยะ)
* Sairo view point (จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ)
* Lake Hill Farm (ร้านไอศกรีมโฮมเมด)
Day 4
* Hakodate
* Onuma Park
* Miharashi Park
* Mt.Hakodate Ropeway
* Uni Murakami
Day 5
* Hakodate Morning Market ( ตลาดปลาฮาโกดาเตะ )
* Kanemori Red Brick Warehouse (โกดังอิฐแดง)
* Goryokaku Tower (จุดชมวิวป้อมดาวห้าแฉก)
* Dam Park
Day 6
* Mt.Asahidake
* Blue Pond (บ่อน้ำสีฟ้า)
* Shirahige (น้ำตกชิโรฮิเงะ )
Day 7
* Biei
* Otaru
Day 1
สถานที่แรกที่เราแวะมาเที่ยวกัน คือ Hill of Buddha หรือ เนินพระพุทธเจ้า ค่ะ ที่นี่สวยงามและเที่ยวได้ทุกฤดู ถ้าช่วง Summer เนินนี้จะปกคลุมไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเวอร์ นับหมื่นต้น และช่วงฤดูหนาวก็จะขาวโพลนไปด้วยหิมะ ก่อนถึงทางเข้าอุโมงค์ จะมีสระน้ำ ที่มีกำแพงปูนเปลือย คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการเดินอ้อมสระน้ำตามเข็มนาฬิกา เพื่อชำระล้างจิตใจให้สงบ เย็นสบายทั้งกายใจ ก่อนจะเข้าอุโมงค์ เดินเข้าไปในอุโมงค์จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ ด้านบนจะมีแสงธรรมชาติสาดลงมาที่องค์พระ สวยงามมากค่ะ
ที่พักคืนแรกของเราในทริปนี้ เราเลือกมาพักย่าน Jozankei ซึ่งเป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังที่ไม่ไกลจากซัปโปโร ที่นี่มีแหล่งน้ำพุร้อนมากมาย สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูเลยค่ะ เราเลือกพักที่ Hana momiji เป็นโรงแรมสไตล์เรียวกัง ที่มีบ่อออนเซ็นให้เลือกแช่หลายบ่อ ทั้งบ่อกลางแจ้งที่วิวสวยมาก มองเห็นเทือกเขาโดยรอบ และบ่อด้านใน รวมถึงบ่อออนเซ็นส่วนตัวด้วยค่ะ ทำเลที่ตั้งโรงแรมใกล้ป้ายรถเมล์ และสวนสาธารณะ เดินออกจากโรงแรมนิดเดียว ก็เจอบ่อแช่เท้าสาธารณะแล้วค่ะ ซึ่งบ่อตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ
สำหรับคนที่จองห้องพัก เค้าจะมีรวมอาหารมื้อเช้า และเย็นให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สามารถเลือกจองผ่านเว็ปไซด์ของโรงแรมโดยตรง
https://shikanoyu.co.jp/en/hanamomiji/ หรือจองผ่าน Agoda หรือ Booking.com ได้เลยค่ะ
บ่อออนเซ็นของโรงแรม Hana momiji ที่อยู่กลางแจ้งจะเป็นบ่อรวม ถ้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเห็นวิวต้นไม้แดงแบบในรูปเลยค่ะ ถ้าช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุมดูสวยงามไปคนละแบบ
ใครสนใจอยากมาพักที่ Hana Momiji เราเขียนรีวิวของที่นี่ไว้ลองเข้าไปดูที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
https://ppantip.com/topic/39441104
สถานที่เที่ยวย่าน Jozankei จริงๆมีเยอะมาก แต่เนื่องจากรอบนี้เวลาเราน้อยเลยเลือกอยู่แต่ในโรงแรม และก็แวะมาเก็บภาพที่สะพานแดง หรือ Jozankei Futami Bridge ซึ่งเป็นจุดแลนด์มากของที่นี่เลยค่ะ
สำหรับวันแรกนี้เราลองใช้บริการเช่ารถอัลพาร์ท พร้อมคนขับญี่ปุ่น เค้ามีบริการให้เลือกทั้งแบบ One day Trip หรือจะเช่ายาวตลอดทั้งทริปเลยก็ได้ ใครที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ และ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ไม่ต้องกังวลค่ะ คนขับน่ารัก บริการดี สามารถสื่อสารกับเราได้อย่างเข้าใจ มีแอปช่วยแปลภาษาด้วยแหละ ดีงามมากจ้า เหมาะกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่เดินทางกันหลายคน และต้องการความสะดวก สบาย สนใจเช่ารถตู้ หรือ รถอัลพาร์ทพร้อมคนขับแบบเรา ติดต่อได้ที่ Line @hokkaidoman เค้ามีคนไทยคอยตอบอยู่จ้า ที่นี่มีบริการออกแพลนเที่ยว และจองร้านอาหารให้พร้อมเลย สะดวกมากค่ะ
Day 2
ออกจากที่พักย่าน Jozankei เราก็มาแวะถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีกันที่ สวน Hiraoka Jugei Center ที่นี่ต้นเมเปิ้ลจะปลูกเรียงรายเป็นแถวมองแล้วเหมือนอุโมงค์ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบเมเปิ้ลสีแดง จะแดงพร้อมกันทั้งสวน เป็นภาพที่สวยงามมากค่ะ
จากใบไม้แดง เราก็แวะมาชมความงามของต้นแปะก๊วย ที่มหาลัยฮอกไกโดกันต่อค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน ต้นแปะก๊วยที่ปลูกอยู่สองข้างทางราวๆ 70 กว่าต้น ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามไปทั่วถนนทั้งเส้นภายในมหาลัยเลยค่ะ แต่ช่วงที่เราไป คนค่อนข้างเยอะ เลยถ่ายเก็บบรรยากาศมาได้ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ
ปิดท้ายของวันด้วยอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ที่นี่เป็นสวนป่าสาธารณะ ชื่อว่า Maeda Forest ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Sapporo ตอนเราไปสวนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย มีแต่คนญี่ปุ่นที่มาเดินออกกำลังกาย หรือจูงสุนัขมาเดินเล่น ไฮไลท์ของที่นี่คือ แนวต้น Poplar Tree ที่เรียงรายยาวสองฝั่งกว่า 170 ต้น ที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงามทั้งสองข้างทาง และฉากด้านหลังเป็นภูเขา สวยงามมากๆ
Day 3
วันนี้เราเช่ารถพร้อมคนขับไปยังเมืองแห่งออนเซน Noboribetsu และทะเลสาบ Toya กันค่ะ รูทนี้สามารถเดินทางเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และสวยงามทุกฤดูเลยค่ะ
จุดแรกที่เราแวะเที่ยวกัน คือหุบเขานรก Jigokudani หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง แฟนเดย์ นั่นเอง ที่นี่มีภูเขาไฟที่ยังปะทุพวยพุ่ง และกำมะถันที่ส่งกลิ่นอบอวลไปทั้งแนวเขา ทางเดินไปยังหุบเขานรก จะเป็นสะพานไม้ทอดยาวไปจนสุดทางเดิน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมค่ะ
[SR] รวมพิกัดเที่ยวฮอกไกโด เก็บครบทั้งหิมะและใบไม้เปลี่ยนสีในทริปเดียว
ฮอกไกโด เมืองที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
ตกหลุมรักฮอกไกโด เมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย เดินทางง่าย เที่ยวได้ทุกฤดู ทริปนี้เราโชคดีมากที่ได้เจอครบทั้ง หิมะ และใบไม้เปลี่ยนสี ในทริปเดียวกันเลย เราเดินทางช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงปลายของใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดแล้วค่ะ บางสถานที่ใบไม้อาจจะเลยช่วงพีคมาบ้างแล้ว แต่ถือว่าความสวยยังคงเหลืออยู่เยอะมาก เพราะทริปนี้ได้รูปมาเพียบ แต่ละสถานที่แต่ละจุดสวยงามมาก อดใจไม่ไหวที่จะเก็บภาพมาฝากกัน เพราะบางสถานที่ก็เที่ยวได้ทุกฤดูเลย เผื่อใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวฮอกไกโดอยู่ เราเอาพิกัดเด็ดๆ ที่น่าไปมาฝากกันจ้า
ชมแบบคลิปสั้นๆกันก่อน
เริ่มต้นการเดินทางกันเลย
ทริปนี้เราบินกับสายการบิน Nokscoot ซึ่งช่วงที่เราไปเค้าเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ บินตรงจากดอนเมือง - ซัปโปโร ที่มีเที่ยวบิน 4 วัน /สัปดาห์ ด้วยเครื่องลำใหญ่ โบอิ้ง 777 ชอบตรงเบาะที่นั่งเค้าใหญ่ กว้างสบาย ไม่อึดอัด ไม่เมื่อย เพราะเหยียดขาได้เยอะ แถมไม่นก ไม่เท ไม่เลทนะจ้ะ ระหว่างบินก็ไม่ต้องกลัวหิว เพราะเค้ามีบริการ Nokscoot Cafe พร้อมเสริฟเมนูอร่อย แนะนำ Pre Order ชุดอาหารอุ่นร้อน ที่สั่งล่วงหน้าได้ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนบิน ที่ https://www.nokscoot.com/th/
นั่งเครื่องมาประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนิวชิโตเสะ แล้วค่ะ ทริปนี้การเดินทางในฮอกไกโด เราใช้บริการ ทั้งรถไฟ รถเช่าขับเอง และรถเช่าพร้อมคนขับ แต่ก่อนอื่นมาถึงสนามบินแล้ว ก็ต้องไปแลก Pass กันก่อนค่ะ เราเลือกใช้ Hokkaido Rail Pass Flexible 4 วัน เป็นตั๋วรถไฟแบบไม่จำกัดรอบ สามารถใช้งานได้แบบยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องติดกันทั้ง 4 วัน Pass นี้สามารถใช้นั่งรถไฟ JR ที่ Hokkaido ได้ทุกสาย ทั้งรถไฟด่วนพิเศษ รถไฟธรรมดาและรถไฟนำเที่ยว ยกเว้น รถไฟ Shinkansen สามารถเลือกจองที่นั่งล่วงหน้าได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ราคา 23,480 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,500 บาท ถ้าไปหลายสถานที่ หลายรอบ ในหนึ่งวันก็คุ้มอยู่ค่ะ
นอกจากนั่งรถไฟแล้ว การไปตามเมืองต่างๆ เราเลือกเช่ารถขับเองด้วยค่ะ เพราะสะดวกสบาย เหมาะกับสายชิล สายถ่ายรูปอย่างเรามาก สามารถจอดแวะได้ตลอดทาง ไม่ต้องรีบทำเวลาให้ทันรอบรถ ใครที่สนใจเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น แนะนำของที่นี่เลยค่ะ : https://www.facebook.com/ToCoo-Rent-a-Car-276586643254336/
คลิกที่ลิ้งค์ https://www2.tocoo.jp/th?asp_id=929 เพื่อจองรถ แล้วใส่ Code ส่วนลด 14 KKAY ได้เลย จะได้คูปองส่วนลด 1000 เยน สำหรับยอดเช่ารถ 10,000 เยนขึ้นไป สามารถใช้ได้กับทุกสาขา ยกเว้นบริษัท Times หมดเขต 31 มีนาคม 2020
สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการเช่ารถขับในต่างแดน
- ใบอนุญาตขับขี่สากล
การทำใบขับขี่สากล
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่สากล
– สำเนาหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต
เล่มที่ใช้ในการเดินทางต่างประเทศ
– บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง)
– สำเนาและฉบับจริงของใบขับขี่รถยนต์
– รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
– ถ้าเปลี่ยนชื่อนามสกุล ควรสำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อและสกุลไปด้วย
– หลักฐานอื่น ๆ เช่น ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
– ค่าธรรมเนียมใบขับขี่ระหว่างประเทศ จำนวน 505 บาท
แพลนการเดินทางของเราในทริปนี้
Day 1
*Don Mueang International Airport - New Chitose Airport
* Hill of Buddha (เนินพระพุทธเจ้า)
* Hana Momiji (โรงแรมสไตล์เรียวกังย่าน Jozankei)
Day 2
* Hiraoka Jugei center (อุโมงค์เมเปิ้ล)
* Hokkaido University (มหาลัยฮอกไกโด)
* Maeda Forest park (สวนป่าสาธารณะ)
Day 3
* Jigokudani noboribetsu (หุบเขานรก)
* Usuzan Ropeway (กระเช้าชมวิว)
* Lake Toya (ทะเลสาบโทยะ)
* Sairo view point (จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ)
* Lake Hill Farm (ร้านไอศกรีมโฮมเมด)
Day 4
* Hakodate
* Onuma Park
* Miharashi Park
* Mt.Hakodate Ropeway
* Uni Murakami
Day 5
* Hakodate Morning Market ( ตลาดปลาฮาโกดาเตะ )
* Kanemori Red Brick Warehouse (โกดังอิฐแดง)
* Goryokaku Tower (จุดชมวิวป้อมดาวห้าแฉก)
* Dam Park
Day 6
* Mt.Asahidake
* Blue Pond (บ่อน้ำสีฟ้า)
* Shirahige (น้ำตกชิโรฮิเงะ )
Day 7
* Biei
* Otaru
Day 1
สถานที่แรกที่เราแวะมาเที่ยวกัน คือ Hill of Buddha หรือ เนินพระพุทธเจ้า ค่ะ ที่นี่สวยงามและเที่ยวได้ทุกฤดู ถ้าช่วง Summer เนินนี้จะปกคลุมไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเวอร์ นับหมื่นต้น และช่วงฤดูหนาวก็จะขาวโพลนไปด้วยหิมะ ก่อนถึงทางเข้าอุโมงค์ จะมีสระน้ำ ที่มีกำแพงปูนเปลือย คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการเดินอ้อมสระน้ำตามเข็มนาฬิกา เพื่อชำระล้างจิตใจให้สงบ เย็นสบายทั้งกายใจ ก่อนจะเข้าอุโมงค์ เดินเข้าไปในอุโมงค์จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ ด้านบนจะมีแสงธรรมชาติสาดลงมาที่องค์พระ สวยงามมากค่ะ
ที่พักคืนแรกของเราในทริปนี้ เราเลือกมาพักย่าน Jozankei ซึ่งเป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังที่ไม่ไกลจากซัปโปโร ที่นี่มีแหล่งน้ำพุร้อนมากมาย สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูเลยค่ะ เราเลือกพักที่ Hana momiji เป็นโรงแรมสไตล์เรียวกัง ที่มีบ่อออนเซ็นให้เลือกแช่หลายบ่อ ทั้งบ่อกลางแจ้งที่วิวสวยมาก มองเห็นเทือกเขาโดยรอบ และบ่อด้านใน รวมถึงบ่อออนเซ็นส่วนตัวด้วยค่ะ ทำเลที่ตั้งโรงแรมใกล้ป้ายรถเมล์ และสวนสาธารณะ เดินออกจากโรงแรมนิดเดียว ก็เจอบ่อแช่เท้าสาธารณะแล้วค่ะ ซึ่งบ่อตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ
สำหรับคนที่จองห้องพัก เค้าจะมีรวมอาหารมื้อเช้า และเย็นให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สามารถเลือกจองผ่านเว็ปไซด์ของโรงแรมโดยตรง https://shikanoyu.co.jp/en/hanamomiji/ หรือจองผ่าน Agoda หรือ Booking.com ได้เลยค่ะ
บ่อออนเซ็นของโรงแรม Hana momiji ที่อยู่กลางแจ้งจะเป็นบ่อรวม ถ้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเห็นวิวต้นไม้แดงแบบในรูปเลยค่ะ ถ้าช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุมดูสวยงามไปคนละแบบ
ใครสนใจอยากมาพักที่ Hana Momiji เราเขียนรีวิวของที่นี่ไว้ลองเข้าไปดูที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ https://ppantip.com/topic/39441104
สถานที่เที่ยวย่าน Jozankei จริงๆมีเยอะมาก แต่เนื่องจากรอบนี้เวลาเราน้อยเลยเลือกอยู่แต่ในโรงแรม และก็แวะมาเก็บภาพที่สะพานแดง หรือ Jozankei Futami Bridge ซึ่งเป็นจุดแลนด์มากของที่นี่เลยค่ะ
สำหรับวันแรกนี้เราลองใช้บริการเช่ารถอัลพาร์ท พร้อมคนขับญี่ปุ่น เค้ามีบริการให้เลือกทั้งแบบ One day Trip หรือจะเช่ายาวตลอดทั้งทริปเลยก็ได้ ใครที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ และ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ไม่ต้องกังวลค่ะ คนขับน่ารัก บริการดี สามารถสื่อสารกับเราได้อย่างเข้าใจ มีแอปช่วยแปลภาษาด้วยแหละ ดีงามมากจ้า เหมาะกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่เดินทางกันหลายคน และต้องการความสะดวก สบาย สนใจเช่ารถตู้ หรือ รถอัลพาร์ทพร้อมคนขับแบบเรา ติดต่อได้ที่ Line @hokkaidoman เค้ามีคนไทยคอยตอบอยู่จ้า ที่นี่มีบริการออกแพลนเที่ยว และจองร้านอาหารให้พร้อมเลย สะดวกมากค่ะ
Day 2
ออกจากที่พักย่าน Jozankei เราก็มาแวะถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีกันที่ สวน Hiraoka Jugei Center ที่นี่ต้นเมเปิ้ลจะปลูกเรียงรายเป็นแถวมองแล้วเหมือนอุโมงค์ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบเมเปิ้ลสีแดง จะแดงพร้อมกันทั้งสวน เป็นภาพที่สวยงามมากค่ะ
จากใบไม้แดง เราก็แวะมาชมความงามของต้นแปะก๊วย ที่มหาลัยฮอกไกโดกันต่อค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน ต้นแปะก๊วยที่ปลูกอยู่สองข้างทางราวๆ 70 กว่าต้น ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามไปทั่วถนนทั้งเส้นภายในมหาลัยเลยค่ะ แต่ช่วงที่เราไป คนค่อนข้างเยอะ เลยถ่ายเก็บบรรยากาศมาได้ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ
ปิดท้ายของวันด้วยอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ที่นี่เป็นสวนป่าสาธารณะ ชื่อว่า Maeda Forest ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Sapporo ตอนเราไปสวนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย มีแต่คนญี่ปุ่นที่มาเดินออกกำลังกาย หรือจูงสุนัขมาเดินเล่น ไฮไลท์ของที่นี่คือ แนวต้น Poplar Tree ที่เรียงรายยาวสองฝั่งกว่า 170 ต้น ที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงามทั้งสองข้างทาง และฉากด้านหลังเป็นภูเขา สวยงามมากๆ
Day 3
วันนี้เราเช่ารถพร้อมคนขับไปยังเมืองแห่งออนเซน Noboribetsu และทะเลสาบ Toya กันค่ะ รูทนี้สามารถเดินทางเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และสวยงามทุกฤดูเลยค่ะ
จุดแรกที่เราแวะเที่ยวกัน คือหุบเขานรก Jigokudani หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง แฟนเดย์ นั่นเอง ที่นี่มีภูเขาไฟที่ยังปะทุพวยพุ่ง และกำมะถันที่ส่งกลิ่นอบอวลไปทั้งแนวเขา ทางเดินไปยังหุบเขานรก จะเป็นสะพานไม้ทอดยาวไปจนสุดทางเดิน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม