61 วัน บนเส้นทางล่าฝัน 20 ประเทศ จากทรานไซบีเรียถึงยุโรปตะวันออก EP.5 เอสโตเนีย...ตามรอยเมืองเก่าในยุคกลางที่ทาลลินน์

EP.0 ที่มาของทริป ประเทศที่ไปทั้งหมด การเตรียมตัว ค่าใช้จ่าย แผนการเดินทาง ฯลฯ >> https://ppantip.com/topic/37261427
EP.1 เริ่มต้นประเทศแรก...จีน >> https://ppantip.com/topic/38053618
EP.2 มองโกเลีย...ดินแดนเจงกีสข่าน >> https://ppantip.com/topic/38470734
EP.3 ดินแดนหลังม่านเหล็ก...รัสเซีย >> https://ppantip.com/topic/38533158
EP.4 ฟินแลนด์...ธิดาแห่งทะเลบอลติค >> https://ppantip.com/topic/39619926
EP.6 ลัตเวีย...เยือนริกา เมืองแห่งสถาปัตยกรรม : https://ppantip.com/topic/39697022
EP.7 ลิทัวเนีย...ดินแดนแห่งทะเลสาบและปราสาทเก่า : http://ppantip.com/topic/39850942
EP.8 โปแลนด์...ดินแดนประวัติศาสตร์สงคราม : https://ppantip.com/topic/40488168
EP.9 สาธารณรัฐเช็ก...เมืองโรแมนติคแห่งยุโรปตะวันออก : https://ppantip.com/topic/40546715
EP.10 ออสเตรีย...ดินแดนแห่งขุนเขา : https://ppantip.com/topic/40638786
EP.11 สโลวาเกีย...เมืองแห่งมรดกโลก : https://ppantip.com/topic/40659219
EP.12 ฮังการี...ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ : https://ppantip.com/topic/40672729
EP.13 สโลวีเนีย...ดินแดนดั่งเทพนิยาย : https://ppantip.com/topic/40714757
EP.14 โครเอเชีย ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวแห่งทะเลเอเดรียติก : https://ppantip.com/topic/40811429
EP.15 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ดินแดนของวัฒนธรรมที่แตกต่าง : https://ppantip.com/topic/40870439
EP.16 มอนเตเนโกร...ดินแดนแห่งภูเขาสีดำ : https://ppantip.com/topic/40913895
EP.17 โคโซโว...ประเทศน้องใหม่ของยุโรป : https://ppantip.com/topic/40964628
EP.18 มาซิโดเนียเหนือ...เมืองแห่งป้อมปราการ : https://ppantip.com/topic/41050626
EP.19 แอลเบเนีย...ดินแดนแห่งวัฒนธรรมที่หลากหลาย : https://ppantip.com/topic/41080966
EP.20 กรีซ...แหล่งอารยธรรมตะวันตกอันยิ่งใหญ่ : https://ppantip.com/topic/41156390

พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่... 
Facebook page : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram : https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/

D a y 2 0 T a l l i n n - E s t o n i a
“ 1 ใน 3 ของกลุ่มประเทศบอลติค “

เอสโตเนียเป็น 1 ใน 3 ประเทศของกลุ่มบอลติก ซึ่งทริปนี้เราจะไปทั้งหมดเลย โดยเริ่มที่เอสโตเนียเป็นประเทศแรกค่ะ

เราแวะกันที่ทาลลินน์ เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าหลักของประเทศเอสโตเนีย ตั้งอยู่เหนือสุดของคาบสมุทรบอลติค ทิศเหนือติดกับอ่าวฟินแลนด์ ทิศใต้ติดกับประเทศลัตเวีย ทิศตะวันตกติดกับทะเลบอลติค และทิศตะวันออกติดกับประเทศรัสเซีย 

ย้อนไปเมื่อวาน (Day 19) ตอนนั่งเรือเฟอร์รี่จากเฮลซิงกิมาถึงทาลลินน์ตอนประมาณหัวค่ำ ซึ่งท่าเรือทาลลินน์ถือเป็นท่าเรือที่มีผู้โดยสารคึกคักที่สุดในยุโรปตอนเหนือ ช่วงเรือใกล้เทียบท่า เริ่มเห็นโซนเมืองเก่าเล็กๆ ของทาลลินน์ ที่เพิ่งเปิดไฟส่องให้เห็นหอคอย กำแพงเมือง และยอดโบสถ์ ที่ส่วนใหญ่หลังคาจะเป็นสีส้มกับสีแดง ความรู้สึกแรกที่เห็น “ทำไมเมืองน่ารักขนาดนี้” เหมือนเมืองตุ๊กตาในนิยาย หรือกล่องช๊อคโกแลตเลย วินาทีนั้นตื่นเต้นมาก ที่จะได้เหยียบแผ่นดินใหญ่ของยุโรปด้วย

แต่เมื่อลงจากเรือ ก็ต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ว่า ต้องเดินจากท่าเรือไปที่พักชื่อ United Backpackers Hostel ที่อยู่ติดกับฝั่งกำแพงเมืองเก่าอีกด้านที่ตรงข้ามกับท่าเรือโน่นเลย ระยะทางประมาณ 2.5 กม. ในตอนนั้นเราคิดกันว่า ก็เดินได้นะท่ามกลางอากาศเย็นๆ กำลังดีและไม่ไกลมาก เพราะที่ผ่านมาเกือบ 20 วัน เราเดินกันวันนึงหลายกิโล แค่นี้สบายยย

แต่เอาจริงๆ เราเพลียสะสมกันมา 2 วัน 1 คืนเต็ม ตั้งแต่ออกจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยที่ไม่ได้นอนกันจริงจัง บวกกับแบกเป้ 17 กก. และหิ้วเสบียงที่มีทั้งขวดน้ำมันพืช ข้าวสาร เส้นสปาเก็ตตี้ อาหารกระป๋องจากไทย ขวดซอสต่างๆ กันมาอีก...อันนี้เรายินดีช่วยกันถือมา เพราะมันสำคัญมาก ฮ่าๆ

แต่เราไม่รู้ว่าทางมันขึ้นเนิน!! มันก็เนินไม่สูงนะ แต่มันเนินยาวๆ หรือเพราะเพลียไม่รู้ รู้สึกว่า 2.5 กม. นั้น ทำไมมันไกลมากกก กว่าจะถึงโฮสเทล เหงื่อซก เหนื่อยจนหน้าสั่น!!

ถึงโฮสเทลคืนวันแรก คือสลบเหมือดหมดสติกันไปเลย > <

ตื่นเช้ามาวันนี้ ได้ชาร์ทแบตเต็มที่ เตรียมออกสำรวจเมืองนี้กัน ซึ่งทาลลินน์เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักๆ ของยุโรปเหนือ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในส่วนของเมืองเก่าได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1997

เมืองเก่าของทาลลินน์ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยแบ่งเป็นเมืองโซน Lower Town บริเวณนี้จะประกอบไปด้วย กำแพงเมือง หอคอย โบสถ์ และโซน Upper Town ที่เป็นเนินเขาสามารถมองเห็นบริเวณเมืองเก่าด้านล่าง ในส่วน Upper Town มีปราสาท Toompea วิหาร และโบสถ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นสถาปัตยกรรมในยุคกลาง

โฮสเทลของเรา จะอยู่ตรงข้ามกับด้านหลังของ St. Charles ’s Church เป็นโบสถ์นิกายลูเธอรันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 ของทาลลินน์ และเพราะอยู่ใกล้ที่พักมากๆ ก็เลยข้ามไปก่อน คิดว่าจะกลับมาเที่ยวโบสถ์นี้ตอนไหนก็ได้
จากโบสถ์เดินเลี้ยวเข้ามาทางเมืองเก่า ผ่าน Vabamu Museum of Occupations and Freedom เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเรื่องราวของชาวเอสโตเนีย ในระหว่างภายใต้การยึดครองของสหภาพโซเวียต ที่เต็มไปด้วยความทุกข์จากการถูกกดขี่ข่มเหง ความไร้มนุษยธรรม พลัดพรากจากถิ่นฐาน และสุดท้ายการได้มาซึ่งเสรีภาพ เราไม่ได้เข้าไปนะ เผื่อใครสนใจลองเข้ามาชมดูค่ะ ^^
ข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.vabamu.ee
เดินตรงขึ้นเนินมาเรื่อยๆ จะผ่าน Estonian Christian Pentecostal Church อยู่ด้านล่างขวามือ
จนมาถึงสวน Kuberneri (Governor’s) Garden หรือสวนที่รู้จักกันในชื่อของ Toompea Castle Garden และเป็นส่วนหนึ่งของ Toompea Castle ปราสาทซึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมปราการโบราณ ที่ใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ปราสาทแห่งนี้เคยถูกรุกรานจากชาวเดนมาร์ก เมื่อปี 1219 ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นที่ตั้งของรัฐสภาเอสโตเนีย
เดินลัดเลาะต่อไปผ่านตึกสีพาสเทลน่ารักๆ ช่วงเช้านี้ยังไม่เจอนักท่องเที่ยวมากนัก 
St. Mary’s Cathedral โบสถ์ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่เก่าแก่ที่สุดในเอสโตเนีย และเป็นอาคารเพียงแห่งเดียวที่รอดจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 17 เดิมทีเป็นวิหารโรมันคาทอลิค แต่ได้กลายเป็นนิกายลูเธอรันตั้งแต่ปี 1561 ด้านในมีหลุมฝังศพของบุคคลจากศตวรรษที่ 13 - 18 ซึ่งบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ถูกฝังอยู่ในโบสถ์ได้แก่ นายทหารสวีเดน  Pontus De la Gardie และภรรยาของเขา, Sophia Gyllenheim ลูกสาวของกษัตริย์สวีเดนโยฮันที่ 3, พลเรือเอก Samuel Greigh และ พลเรือเอก Adam Johan von Krusenstern ผู้ที่เดินทางรอบโลกคนแรกของรัสเซีย ภายในโบสถ์มีการตกแต่งที่สวยงาม และยังสามารถปีนขึ้นไปบนหอระฆังสไตล์บาโรกที่สูง 69 เมตรเพื่อชมวิวเมืองได้อีกด้วย
ร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ มีให้เห็นอยู่ทั่วเมือง
อากาศพังเบาๆ แดดไม่มี นี่เลือกมาหน้าร้อนนะเนี่ย > <
Alexander Nevsky Cathedral โบสถ์รัสเซียออร์โธดอกซ์ที่ยิ่งใหญ่และตกแต่งอย่างหรูหราที่สุดในทาลลินน์ ออกแบบโดย Mikhail Preobrazhensky ช่างจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1900 ประกอบด้วยระฆัง 11 ตัว รวมถึงระฆังที่ใหญ่ที่สุดของทาลลินน์ที่หนักถึง 15 ตัน
อาคารสีเหลืองคือไปรษณีย์ Toompea Post Office ค่ะ
เดินวนมาอีกด้านก็จะเจอ The Parliament of Estonia เป็นอาคารรัฐสภาของเอสโตเนีย สถาปัตยกรรมแบบบารอคทาสีชมพูพาสเทล
จาก Alexander Nevsky Cathedral เดินลงมาทางแนวกำแพงที่มีหอคอย Stable Tower and Town Wall Walkway  ลอดใต้กำแพงมาก็จะเจอสวน Danish King’s Garden ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าเข้าหาโบสถ์ St. Nicholas ที่บริเวณนี้มีตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับธง Dannebrog ที่รู้จักกันดีทั้งในเอสโตเนียและเดนมาร์ก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการเฉลิมฉลองวัน Danneborg กันที่นี่ด้วย
รถเข็นขายถั่วต่างๆ มีให้ลองชิมกันก่อนได้
ปีนขึ้นกำแพงหินชันพอสมควรเดินได้ทีล่ะคน ต้องคอยส่งสัญญาณบอกกันว่าใครจะเดินขึ้นหรือเดินลงก่อน
 
ด้านบนเป็นคาเฟ่ค่ะ
ตรงกันข้ามกับแนวกำแพง จะเห็นวิวโบสถ์ St. Nicholas ’s Church and Museum เดี๋ยวเราเดินลงไปทางนั้นกัน
สุดกำแพงอีกด้านคือ Kiek in de Kok Museum and Bastion Tunnels เป็นป้อมปราการยุคกลาง ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเหตุการณ์สำคัญด้านสงคราม มีห้องอาวุธ สามารถเดินชมหอคอย และทางเดินในกำแพง มีทางเข้าได้ 2 ทางค่ะ
ลงจากกำแพง เดินมาทางตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ 
St. Nicholas ’s Church and Museum เป็นโบสถ์ในยุคกลาง สร้างเพื่ออุทิศให้กับนักบุญนิโคลัสผู้มีพระคุณของชาวประมงและกะลาสี โบสถ์นี้ถูกระเบิดทำลายลงบางส่วนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นได้รับการบูรณะและกลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Niguliste ซึ่งเป็นศิลปะในยุคกลาง โบสถ์ยังใช้เป็นห้องโถงแสดงคอนเสิร์ตด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่