ชายหนุ่มยืนเอามือเกาะกระจกที่มีผ้าม่านด้านในบดบังสายตา หัวใจเต้นรัว มือเท้าเย็นเฉียบ แต่เหงื่อออกเปียกเสื้อและกางเกง นึกในใจ “เป็นอะไรบ้าง ทำไมไม่มีใครมาส่งข่าวบอกเราเลย” น้ำตาไหลออกเต็มสองตา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
“คุณรันใช่ไหมคะ” เสียงผู้หญิงดังจากด้านข้างๆ
“ครับ ใช่ครับ” ชายหนุ่มรีบส่งเสียงตอบทั้งๆที่ยังไม่เห็นเจ้าของเสียงเรียกนั้น เมื่อชายหนุ่มหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นพยาบาลนั่นเอง “คุณตามดิฉันมาด้านในได้เลยคะ” เมื่อพยาบาลสาวพูดเสร็จ หันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปทันที
เมื่อเข้าไป สิ่งที่ชายหนุ่มเห็น ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก เพราะเห็นแฟนสาวนอนบนเตียงพร้อมสายระโยงระยางรอบตัว ใส่ทั้งปากทั้งจมูก เสาถุงน้ำเกลือ ถุงเลือด ทั้งหมอพยาบาลยืนรอบเตียง และเครื่องวัดชีพจรก็ดังติ้บๆๆ
“คุณหมอคะ ญาติคนไข้มาแล้วคะ”
คุณหมอเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับส่งเสียงถามชายหนุ่ม “สวัสดีครับ คุณเป็นอะไรกับคนไข้รายนี้ครับ”
“ผมเป็นแฟนครับ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยความกังวลใจ
หมอพูดขึ้นว่า”ทางเราต้องแจ้งคุณก่อนที่จะตัดสินใจทำการรักษาต่อไป คือว่าแฟนคุณตอนนี้ เธอเสียเลือดมาก จึงช๊อคจนหมดสติ ชีพจรหยุดเต้น ทางเราทำการปั้มหัวใจจนชีพจรเธอกลับมาเต้นอีกครั้ง แต่อาการยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง เรากำลังรอดูอาการอยู่”
ชายหนุ่มยังคงสับสนในใจ แต่นึกถึงลูก จึงเอ่ยปากถามทั้งๆที่ไม่ค่อยมีสติ “ แล้วลูกผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอตอบกลับว่า ”ลูกคุณปลอดภัยดี ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำตอบ รู้สึกมีความสุขเล็กๆ ขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที และกลับมาทุกข์ใจอีกครั้งเมื่อมองหน้าแฟนสาว เพราะหน้าตาเธอซีดเซียว ดูอาการไม่ดีเอามากๆ ชายหนุ่มนึกในใจ “พร อย่าทิ้งพี่ไปนะ พี่จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ”
น้ำตาชายหนุ่มไหลออกมาอีกครั้ง ยืนนิ่งหน้าซีดจนพยาบาลสังเกตุเห็น จึงส่งเสียงปลอบโยนชายหนุ่มว่า “ใจเย็นๆนะคะ แฟนคุณต้องปลอดภัยแน่นอน” แต่คำปลอมโยนนั้น ไม่อาจช่วยให้คลายกังวลเลย น้ำตาชายหนุ่มยิ่งไหลออกมามากขึ้น
เมื่อพยาบาลมองเห็นอาการชายหนุ่ม ที่ดูไม่ค่อยดี จึงรีบคว้าตัว จับประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้ ชายหนุ่มไม่ขัดขืนใดๆ นั่งลงด้วยความอ่อนระทวยในใจ ไร้เรี่ยวแรงกำลัง ยกมือทั้งสองขึ้นกุมหน้า ร้องให้อย่างไม่มีความละอายใดๆ ส่งเสียงสะอึกสะอื้นตลอดเวลา
หมอพูดขึ้นว่า “ผมขอตัวก่อนนะครับ” เหล่าพยาบาลเริ่มเก็บเครื่องมือ แยกย้ายไปทำภารกิจอื่นๆต่อไป คงเหลือพยาบาลเพียงคนเดียว คอยเฝ้าดูแลอาการคนไข้ ปล่อยให้ความเงียบรักษาใจชายหนุ่มเท่านั้น
เมื่อเวลาเข้าสู่ยามคำ่คืน ความเงียบเริ่มครอบคลุม เสียงนาฬิกาข้างฟาห้อง ดังกิก กิก กิก เหมือนย้ำเตือนสัจธรรมบางอย่าง ความคิดชายหนุ่มเริ่มทำงานโดยธรรมชาติ “ อนิจจานี่หรือ ความสุขที่เราคาดหวัง ทำไมมันสร้างทุกข์ให้ได้ขนาดนี้” เวลายังคงเดินต่อไป ไม่มีวันหยุด มนุษย์จะสุขหรือทุกข์ ดีหรือร้าย เป็นหรือตาย เวลาไม่เคยรอใคร หน้าที่ของมัน คือเดินหน้าโดยถ่ายเดียวเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ ชายหนุ่มครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ท่านกลางความเงียบสงัดที่ครอบคลุมทั่วทั้งห้อง จนถึงความอ่อนล้าหมดแรงและก้มหน้าหลับไปในที่สุด
ถึงเวลารุ่งสาง
มีเสียงดังติ้ดเป็นเสียงลากยาวจากเครื่องวัดชีพจร ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจตื่น เงยหน้าขึ้นมามอง เห็นพยาบาลคนหนึ่งกำลังกดสัญญาณเรียกเพื่อนพยาบาลด้วยกัน และมีเสียงประตูห้องเปิดออก พยาบาลมาเพิ่มอีกสองสามคน ทุกคนเริ่มเข้ารุมคนไข้
พยาบาลคนหนึ่งยกตัวเองขึ้นบนเตียง ประสานมือกดหน้าอก กดปั้มเป็นจังหวะๆ อีกคนชักสายอ๊อกซิเจน เอาเสียบเข้ากับตัวเป่าลมบีบมือและบีบมือเป็นระยะๆ อีกสองคนช่วยกันเปิดและเตรียมเครื่องปั้มหัวใจ ประมาณ 1 ถึง 2 นาที หมอก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” พยาบาลตอบกลับทันทีว่า “ หัวใจหยุดเต้นคะ กำลังจะปั้มด้วยเครื่องคะ”
หมอหันหน้ามาที่ชายหนุ่ม พร้อมกับพูดว่า “เชิญคุณออกไปข้างนอกก่อนครับ” ชายหนุ่มเดินออกนอกห้องด้วยความทุกข์ใจอีกครั้ง
โปรดติดตามตอนต่อไป
จากผู้เขียน โนเนม โนเนม โนเนม
ผิดพลาดประการใด ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ปั่นฝัน สู่วันสุดท้ายของชีวิต ๒
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
“คุณรันใช่ไหมคะ” เสียงผู้หญิงดังจากด้านข้างๆ
“ครับ ใช่ครับ” ชายหนุ่มรีบส่งเสียงตอบทั้งๆที่ยังไม่เห็นเจ้าของเสียงเรียกนั้น เมื่อชายหนุ่มหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นพยาบาลนั่นเอง “คุณตามดิฉันมาด้านในได้เลยคะ” เมื่อพยาบาลสาวพูดเสร็จ หันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปทันที
เมื่อเข้าไป สิ่งที่ชายหนุ่มเห็น ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก เพราะเห็นแฟนสาวนอนบนเตียงพร้อมสายระโยงระยางรอบตัว ใส่ทั้งปากทั้งจมูก เสาถุงน้ำเกลือ ถุงเลือด ทั้งหมอพยาบาลยืนรอบเตียง และเครื่องวัดชีพจรก็ดังติ้บๆๆ
“คุณหมอคะ ญาติคนไข้มาแล้วคะ”
คุณหมอเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับส่งเสียงถามชายหนุ่ม “สวัสดีครับ คุณเป็นอะไรกับคนไข้รายนี้ครับ”
“ผมเป็นแฟนครับ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยความกังวลใจ
หมอพูดขึ้นว่า”ทางเราต้องแจ้งคุณก่อนที่จะตัดสินใจทำการรักษาต่อไป คือว่าแฟนคุณตอนนี้ เธอเสียเลือดมาก จึงช๊อคจนหมดสติ ชีพจรหยุดเต้น ทางเราทำการปั้มหัวใจจนชีพจรเธอกลับมาเต้นอีกครั้ง แต่อาการยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง เรากำลังรอดูอาการอยู่”
ชายหนุ่มยังคงสับสนในใจ แต่นึกถึงลูก จึงเอ่ยปากถามทั้งๆที่ไม่ค่อยมีสติ “ แล้วลูกผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอตอบกลับว่า ”ลูกคุณปลอดภัยดี ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำตอบ รู้สึกมีความสุขเล็กๆ ขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที และกลับมาทุกข์ใจอีกครั้งเมื่อมองหน้าแฟนสาว เพราะหน้าตาเธอซีดเซียว ดูอาการไม่ดีเอามากๆ ชายหนุ่มนึกในใจ “พร อย่าทิ้งพี่ไปนะ พี่จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ”
น้ำตาชายหนุ่มไหลออกมาอีกครั้ง ยืนนิ่งหน้าซีดจนพยาบาลสังเกตุเห็น จึงส่งเสียงปลอบโยนชายหนุ่มว่า “ใจเย็นๆนะคะ แฟนคุณต้องปลอดภัยแน่นอน” แต่คำปลอมโยนนั้น ไม่อาจช่วยให้คลายกังวลเลย น้ำตาชายหนุ่มยิ่งไหลออกมามากขึ้น
เมื่อพยาบาลมองเห็นอาการชายหนุ่ม ที่ดูไม่ค่อยดี จึงรีบคว้าตัว จับประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้ ชายหนุ่มไม่ขัดขืนใดๆ นั่งลงด้วยความอ่อนระทวยในใจ ไร้เรี่ยวแรงกำลัง ยกมือทั้งสองขึ้นกุมหน้า ร้องให้อย่างไม่มีความละอายใดๆ ส่งเสียงสะอึกสะอื้นตลอดเวลา
หมอพูดขึ้นว่า “ผมขอตัวก่อนนะครับ” เหล่าพยาบาลเริ่มเก็บเครื่องมือ แยกย้ายไปทำภารกิจอื่นๆต่อไป คงเหลือพยาบาลเพียงคนเดียว คอยเฝ้าดูแลอาการคนไข้ ปล่อยให้ความเงียบรักษาใจชายหนุ่มเท่านั้น
เมื่อเวลาเข้าสู่ยามคำ่คืน ความเงียบเริ่มครอบคลุม เสียงนาฬิกาข้างฟาห้อง ดังกิก กิก กิก เหมือนย้ำเตือนสัจธรรมบางอย่าง ความคิดชายหนุ่มเริ่มทำงานโดยธรรมชาติ “ อนิจจานี่หรือ ความสุขที่เราคาดหวัง ทำไมมันสร้างทุกข์ให้ได้ขนาดนี้” เวลายังคงเดินต่อไป ไม่มีวันหยุด มนุษย์จะสุขหรือทุกข์ ดีหรือร้าย เป็นหรือตาย เวลาไม่เคยรอใคร หน้าที่ของมัน คือเดินหน้าโดยถ่ายเดียวเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ ชายหนุ่มครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ท่านกลางความเงียบสงัดที่ครอบคลุมทั่วทั้งห้อง จนถึงความอ่อนล้าหมดแรงและก้มหน้าหลับไปในที่สุด
ถึงเวลารุ่งสาง
มีเสียงดังติ้ดเป็นเสียงลากยาวจากเครื่องวัดชีพจร ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจตื่น เงยหน้าขึ้นมามอง เห็นพยาบาลคนหนึ่งกำลังกดสัญญาณเรียกเพื่อนพยาบาลด้วยกัน และมีเสียงประตูห้องเปิดออก พยาบาลมาเพิ่มอีกสองสามคน ทุกคนเริ่มเข้ารุมคนไข้
พยาบาลคนหนึ่งยกตัวเองขึ้นบนเตียง ประสานมือกดหน้าอก กดปั้มเป็นจังหวะๆ อีกคนชักสายอ๊อกซิเจน เอาเสียบเข้ากับตัวเป่าลมบีบมือและบีบมือเป็นระยะๆ อีกสองคนช่วยกันเปิดและเตรียมเครื่องปั้มหัวใจ ประมาณ 1 ถึง 2 นาที หมอก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” พยาบาลตอบกลับทันทีว่า “ หัวใจหยุดเต้นคะ กำลังจะปั้มด้วยเครื่องคะ”
หมอหันหน้ามาที่ชายหนุ่ม พร้อมกับพูดว่า “เชิญคุณออกไปข้างนอกก่อนครับ” ชายหนุ่มเดินออกนอกห้องด้วยความทุกข์ใจอีกครั้ง
โปรดติดตามตอนต่อไป
จากผู้เขียน โนเนม โนเนม โนเนม
ผิดพลาดประการใด ช่วยแนะนำด้วยนะคะ