ปืนพก 1911 ที่เบรานิงก์ออกแบบให้โคลท์ทำขายมากว่าร้อยปี ความยาวลำกล้องของเดิมคือ 5 นิ้ว เป็นมาตรฐาน เมื่อใช้งานต่อมาจนได้รับความนิยมสูงสุดมีการปรับเปลี่ยนลำกล้องทั้งสั้นลงเพื่อความคล่องตัว พกพาสะดวก และยาวออกไปเพื่อใช้งานเชิงกีฬายิงเป้า
ปืนพก 1911 ที่เบรานิงก์ออกแบบให้โคลท์ทำขายมากว่าร้อยปี ความยาวลำกล้องของเดิมคือ 5 นิ้ว เป็นมาตรฐาน เมื่อใช้งานต่อมาจนได้รับความนิยมสูงสุดมีการปรับเปลี่ยนลำกล้องทั้งสั้นลงเพื่อความคล่องตัว พกพาสะดวก และยาวออกไปเพื่อใช้งานเชิงกีฬายิงเป้า ยืดระยะศูนย์ให้เล็งได้ประณีตขึ้น หรือหวังผลในการล่าสัตว์ด้วยความเร็วกระสุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 40 ฟุต/วินาที เมื่อลำกล้องยาวออกไปหนึ่งนิ้ว
ในการทำงานด้วยรีคอยล์แบบลำกล้องกระดกของปืน 1911 นี้ ปลายลำเลื่อนเป็นตัวคุมตำแหน่งลำกล้องในจังหวะพร้อมยิง เมื่อเปลี่ยนความยาวลำกล้องจึงต้องปรับลำเลื่อนตามไปด้วยกัน มีผลกระทบต่อเนื่องคือลำเลื่อนที่ต้องวิ่งถอยหลังสุดแล้วดีดกลับด้วยแรงสปริงเพื่อป้อนกระสุน ตัดสั้นลงน้ำหนักเบาลงต้องการสปริงลำเลื่อนแข็งกว่าเดิม แต่ก็ทำให้ลำเลื่อนดีดกลับเร็วมากจนกระสุนอาจป้อนขึ้นจากแม็กกาซีนไม่ทัน สำหรับปืนลำกล้องสั้นในปัจจุบันกล่าวได้ว่า ผ่านการพัฒนาปรับแต่งจนการทำงานเรียบร้อยไว้ใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกลำกล้องไม่สั้นกว่า 4 นิ้ว ถ้าสั้นกว่านี้อาจต้องเลือกซองกระสุน ยิงทดสอบว่าทำงานเรียบร้อย
ในทางกลับกัน เมื่อใช้ลำกล้องยาวและยืดลำเลื่อนตามออกไป น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องลดแรงสปริงต้านเพื่อให้ถอยได้สุดทาง แต่ก็จะทำให้ดีดกลับไม่แรงพอ กระสุนเข้ารังเพลิงไม่สุด ปืนขัดลำ เป็นปัญหาที่ยังพบบ่อยสำหรับปืน 1911 ลำเลื่อนยาว อาจเป็นเพราะยอดขายไม่สูง การศึกษาทดลองค่อนข้างจำกัด
นายแบบของสัปดาห์นี้ เป็นตัวอย่างของปืน 1911 ลำกล้องยาว 6 นิ้ว ผลิตโดย อาไค คัสตอมกันส์ (Akai Custom Guns) บริษัทระดับ SME ของสหรัฐ ทำปืนแต่งรายกระบอกตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งปกติอาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีกว่าจะส่งมอบได้ โดยมีบางรุ่นที่บริษัทพบว่าถูกใจลูกค้ากลุ่มใหญ่ ก็จะทำไว้พร้อมส่งมอบได้เลยไม่ต้องรอนาน เช่นรุ่นสำหรับลงแข่งรณยุทธ์ในกลุ่ม Limited เป็นต้น
อาไคกระบอกนี้มีชื่อรุ่นว่า The Grand หลังจากกำหนดสเปกตามความต้องการของตัวแทนในไทยแล้วใช้เวลาทำเกือบหนึ่งปี โครงปืนเป็นแบบโมดุลล่าร์ 2011 แท้จาก STI, ลำกล้องไฮบริดของ Infinity ชิ้นส่วนนกและเซียร์ ของ EGW, ศูนย์ Dawson Precision, ไกปืน STI เปลี่ยนหน้าไกได้ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ล้วนเป็นระดับคุณภาพสูงที่ช่างแต่งปืนให้ความไว้วางใจ
การแต่งผิวเป็นเหล็กชุบฮาร์ดโครมทั้งกระบอก ลำเลื่อนด้านข้างขัดเงา แต่งลายกันลื่นโดยใช้หัวกัดปลายกลมทำหลุมแบบรังผึ้ง, ศูนย์หน้าหลังเป็นสีดำ ศูนย์หลังติดที่ลำเลื่อนแบบฝังลึก ศูนย์หน้าติดที่สัน “หลังถนน” ของลำกล้อง, รางยาวตลอดพ่นแก้วด้านชิ้นส่วนเสียบประกอบขัดเงา คือห้ามไกซ้ายขวา, หลังอ่อน, คันค้างลำเลื่อน และกรอบส้นด้าม, ตัวด้ามเป็นไฟเบอร์ดำ แต่งผิวลายผ้าเพิ่มเกล็ด, ปาดใต้โกร่งไกสองตำแหน่งให้จับได้สูงพิเศษ
มีสองจุดที่เสริมความโดดเด่นให้ อาไค กระบอกนี้ หนึ่งคือไก 2 ปอนด์พอดี ถือได้ว่าเบาที่สุดเท่าที่โรงงานจะกล้าทำ สองคือความรู้สึกในการยิงที่นิ่มนวลดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการใช้ลำกล้องไฮบริด ที่มีสันหนาขึ้นมาเสมอสันลำเลื่อนตั้งแต่ปลายสุดมาเกือบถึงบริเวณสันขัดกลอน ลำเลื่อนส่วนนี้ถูกผ่าออก ลดน้ำหนักจนใกล้เคียงกับปืนลำกล้อง 5 นิ้ว การทำงานไม่มีอาการลำเลื่อนอืด และเสริมด้วย stroked recoil system ของอาไค ที่เก็บเนื้อเหล็กโครงปืนภายในไม่ให้กระแทกกับลำเลื่อนในจังหวะถอยหลังสุด ช่วยลดอาการลำกล้องกระดกได้อีกระดับหนึ่ง.
https://www.dailynews.co.th/article/746615
..........................................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 335 หกนิ้วลูกดกสั่งพิเศษ Akai the Grand .45
ปืนพก 1911 ที่เบรานิงก์ออกแบบให้โคลท์ทำขายมากว่าร้อยปี ความยาวลำกล้องของเดิมคือ 5 นิ้ว เป็นมาตรฐาน เมื่อใช้งานต่อมาจนได้รับความนิยมสูงสุดมีการปรับเปลี่ยนลำกล้องทั้งสั้นลงเพื่อความคล่องตัว พกพาสะดวก และยาวออกไปเพื่อใช้งานเชิงกีฬายิงเป้า ยืดระยะศูนย์ให้เล็งได้ประณีตขึ้น หรือหวังผลในการล่าสัตว์ด้วยความเร็วกระสุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 40 ฟุต/วินาที เมื่อลำกล้องยาวออกไปหนึ่งนิ้ว
ในการทำงานด้วยรีคอยล์แบบลำกล้องกระดกของปืน 1911 นี้ ปลายลำเลื่อนเป็นตัวคุมตำแหน่งลำกล้องในจังหวะพร้อมยิง เมื่อเปลี่ยนความยาวลำกล้องจึงต้องปรับลำเลื่อนตามไปด้วยกัน มีผลกระทบต่อเนื่องคือลำเลื่อนที่ต้องวิ่งถอยหลังสุดแล้วดีดกลับด้วยแรงสปริงเพื่อป้อนกระสุน ตัดสั้นลงน้ำหนักเบาลงต้องการสปริงลำเลื่อนแข็งกว่าเดิม แต่ก็ทำให้ลำเลื่อนดีดกลับเร็วมากจนกระสุนอาจป้อนขึ้นจากแม็กกาซีนไม่ทัน สำหรับปืนลำกล้องสั้นในปัจจุบันกล่าวได้ว่า ผ่านการพัฒนาปรับแต่งจนการทำงานเรียบร้อยไว้ใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกลำกล้องไม่สั้นกว่า 4 นิ้ว ถ้าสั้นกว่านี้อาจต้องเลือกซองกระสุน ยิงทดสอบว่าทำงานเรียบร้อย
ในทางกลับกัน เมื่อใช้ลำกล้องยาวและยืดลำเลื่อนตามออกไป น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องลดแรงสปริงต้านเพื่อให้ถอยได้สุดทาง แต่ก็จะทำให้ดีดกลับไม่แรงพอ กระสุนเข้ารังเพลิงไม่สุด ปืนขัดลำ เป็นปัญหาที่ยังพบบ่อยสำหรับปืน 1911 ลำเลื่อนยาว อาจเป็นเพราะยอดขายไม่สูง การศึกษาทดลองค่อนข้างจำกัด
นายแบบของสัปดาห์นี้ เป็นตัวอย่างของปืน 1911 ลำกล้องยาว 6 นิ้ว ผลิตโดย อาไค คัสตอมกันส์ (Akai Custom Guns) บริษัทระดับ SME ของสหรัฐ ทำปืนแต่งรายกระบอกตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งปกติอาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีกว่าจะส่งมอบได้ โดยมีบางรุ่นที่บริษัทพบว่าถูกใจลูกค้ากลุ่มใหญ่ ก็จะทำไว้พร้อมส่งมอบได้เลยไม่ต้องรอนาน เช่นรุ่นสำหรับลงแข่งรณยุทธ์ในกลุ่ม Limited เป็นต้น
อาไคกระบอกนี้มีชื่อรุ่นว่า The Grand หลังจากกำหนดสเปกตามความต้องการของตัวแทนในไทยแล้วใช้เวลาทำเกือบหนึ่งปี โครงปืนเป็นแบบโมดุลล่าร์ 2011 แท้จาก STI, ลำกล้องไฮบริดของ Infinity ชิ้นส่วนนกและเซียร์ ของ EGW, ศูนย์ Dawson Precision, ไกปืน STI เปลี่ยนหน้าไกได้ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ล้วนเป็นระดับคุณภาพสูงที่ช่างแต่งปืนให้ความไว้วางใจ
การแต่งผิวเป็นเหล็กชุบฮาร์ดโครมทั้งกระบอก ลำเลื่อนด้านข้างขัดเงา แต่งลายกันลื่นโดยใช้หัวกัดปลายกลมทำหลุมแบบรังผึ้ง, ศูนย์หน้าหลังเป็นสีดำ ศูนย์หลังติดที่ลำเลื่อนแบบฝังลึก ศูนย์หน้าติดที่สัน “หลังถนน” ของลำกล้อง, รางยาวตลอดพ่นแก้วด้านชิ้นส่วนเสียบประกอบขัดเงา คือห้ามไกซ้ายขวา, หลังอ่อน, คันค้างลำเลื่อน และกรอบส้นด้าม, ตัวด้ามเป็นไฟเบอร์ดำ แต่งผิวลายผ้าเพิ่มเกล็ด, ปาดใต้โกร่งไกสองตำแหน่งให้จับได้สูงพิเศษ
มีสองจุดที่เสริมความโดดเด่นให้ อาไค กระบอกนี้ หนึ่งคือไก 2 ปอนด์พอดี ถือได้ว่าเบาที่สุดเท่าที่โรงงานจะกล้าทำ สองคือความรู้สึกในการยิงที่นิ่มนวลดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการใช้ลำกล้องไฮบริด ที่มีสันหนาขึ้นมาเสมอสันลำเลื่อนตั้งแต่ปลายสุดมาเกือบถึงบริเวณสันขัดกลอน ลำเลื่อนส่วนนี้ถูกผ่าออก ลดน้ำหนักจนใกล้เคียงกับปืนลำกล้อง 5 นิ้ว การทำงานไม่มีอาการลำเลื่อนอืด และเสริมด้วย stroked recoil system ของอาไค ที่เก็บเนื้อเหล็กโครงปืนภายในไม่ให้กระแทกกับลำเลื่อนในจังหวะถอยหลังสุด ช่วยลดอาการลำกล้องกระดกได้อีกระดับหนึ่ง.
https://www.dailynews.co.th/article/746615
..........................................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช