ปืนนายแบบของสัปดาห์นี้ เป็น 1911 ที่ลำกล้องยาวกว่าห้านิ้วมาตรฐาน แต่งพิเศษสำหรับยิงเป้าวงกลม “ตาวัว” (Bull’s Eye) ระบบของ NRA โดยเฉพาะ ซึ่งออกจะหาดูได้ยากในปัจจุบัน



ปืน 1911 หรือโคลท์ กัฟเวิร์นเม้นท์ มาตรฐาน ใช้กระสุน.45 ACP เมื่อเปลี่ยนใช้ลำกล้องระดับยิงเป้า และแต่งชิ้นส่วนให้ฟิตแน่นพอดี  จะให้ความแม่นยำสูงมาก ใช้ยิงเป้าแข่งขันได้อย่างดี  จุดเริ่มต้นมาจากสมาคมยิงปืนของสหรัฐ หรือ NRA (National Rifle Association) ที่กำหนดให้การแข่งขันระดับชิงชนะเลิศแห่งชาติต้องใช้ปืนสามขนาด  คือ .22 ลูกกรด, .38 และ .45 แต่ไม่บังคับแบบตัวปืน ตำรวจที่ถนัดปืนลูกโม่สามารถใช้ลูกโม่สามกระบอกได้ ส่วนทหารที่ชำนาญปืนออโตฯ ก็อาจเลือกใช้ปืนออโตฯ สามกระบอกได้เช่นกัน แต่เมื่อแข่งกันไปไม่นาน ปืนลูกโม่ก็ค่อย ๆ เสื่อมความนิยม เพราะเสียเปรียบในการยิงจับเวลาเป็นชุดคือ ยิงเร่ง ห้านัด 20 วินาที และยิงเร็ว ห้านัด 10 วินาที ยิงเหยียดแขนมือเดียวแบบไกดับเบิลไม่ค่อยได้ผล จะง้างนกก็ไม่สะดวก สู้ปืนออโตฯ ไม่ได้
ปืนนายแบบของสัปดาห์นี้  เป็น 1911 ที่ลำกล้องยาวกว่าห้านิ้วมาตรฐาน แต่งพิเศษสำหรับยิงเป้าวงกลม “ตาวัว” (Bull’s Eye) ระบบของ NRA โดยเฉพาะ  ซึ่งออกจะหาดูได้ยากในปัจจุบัน ไม่เหมือนแบบที่ตัดสั้นเพื่อการพกพามีให้ดูมากมายหลายยี่ห้อ อักษรสลักบนตัวปืนบ่งว่าเป็น โคลท์ ขนาด .38 สเปเชียล แต่งพิเศษฝีมือช่างปืนระดับตำนานของสหรัฐคือ จิม คลาร์ค ชื่อเต็ม James E. Clark ผู้ก่อตั้ง Clark Custom Guns ที่ดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 จนถึงปัจจุบัน
ผลงานสร้างชื่อของ คลาร์ค ชิ้นแรก คือการแต่งปืนสั้นลูกกรด รูเกอร์ (Ruger Mark I) ที่จัดว่าเป็นปืนราคาสุดประหยัดของยุคนั้น เปลี่ยนลำกล้อง ติดศูนย์ใหม่ ไกใหม่  ใช้ลงแข่งร่วมกับปืน ค.ศ. 1911 อีกสองกระบอกที่แต่งเอง จนได้แชมป์ระดับชาติในปี ค.ศ. 1958 โดยเป็นการลงแข่งแบบไม่มีทีมสนับสนุน ควักกระเป๋าจ่ายค่าปืนค่ากระสุน ตลอดจนค่าเดินทาง ค่าสมัคร ออกเองทั้งหมด จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทำได้เหมือนคลาร์ค
งานชิ้นที่สอง ที่คลาร์ค เป็นผู้ริเริ่มทำ คือทางลาดป้อนกระสุนเสริมจากฐานโตงเตงใต้ลำกล้องของปืน 1911 ทำให้ผิวทางลาดเรียบลื่นเป็นชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อจากโครงปืนถึงขอบรังเพลิง  นับเป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ปืนทำงานเรียบร้อยกับหัวกระสุนแบบยิงเป้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  กระสุนลูกโม่ .38 สเปเชียล แบบหัวตัดเสมอปลอก ซึ่งเป็นขนาดกระสุนที่นิยมใช้ในการแข่งขัน “ปืนสั้นชนวนกลาง” ระบบสากลของยุคนั้น แน่นอนว่าปืนที่คลาร์คใช้ลงแข่งย่อมแต่งในจุดนี้ด้วย





เมื่อดูจากเลขประจำปืนกระบอกนี้ 00224 H เทียบกับคู่มือสะสมปืนโคลท์ ระบุว่าออกจากโรงงานโคลท์ในปี ค.ศ. 1964 ใช้ชื่อรุ่น .38 Special Kit ตรงตามที่สลักไว้บนลำเลื่อนและลำกล้อง ปืนที่ใช้ชื่อ Kit มักเป็นแบบที่มุ่งขายให้ช่างปืนนำไปแต่งเติมเอง ดูตัว เลขผลิตของโคลท์รุ่นนี้ รวมทั้งสิ้นมีเพียงเจ็ดร้อยกว่ากระบอก ในจำนวนนี้ คลาร์ค แต่งเป็นแบบลำเลื่อนยาวไม่เกิน 100 กระบอก จัดเป็นปืนหายากระดับที่นักสะสมปืนโคลท์ใช้คำว่า extremely rare สภาพดีเหมือนกระบอกตัวอย่างนี้ราคาขายในสหรัฐ ไม่ต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์
คลาร์ค เลิกตะเวนแข่งยิงปืนในปี ค.ศ. 1975 และสิบปีต่อมาได้รับเลือกเป็น “ช่างปืนแห่งปี” โดยสมาคมช่างแต่งปืนอเมริกัน (American Pistolsmiths Guild)  ที่น่าสนใจคือ ลูกชายคนโต จิม คลาร์ค จูเนียร์ ก็เป็นนักยิงปืนระดับแนวหน้า และรับช่วงงานแต่งปืนจนได้รับเลือกเป็นช่างปืนแห่งปี ใน ค.ศ.  2000 ห่างจากพ่อเพียง 15 ปี.

https://www.dailynews.co.th/article/246478/
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
...................................................................
ข้อมูลสรุป Colt .38 Special Kit , with Clark’s Long Slide
ขนาดกระสุน       .38 Special    ซองกระสุน 7 นัด
มิติ    ยาวxสูงxหนา :  235x145x33 มิลลิเมตร
น้ำหนัก    1,220 กรัม
แรงเหนี่ยวไก    1,350 กรัม (3 ปอนด์)
วัสดุ    เหล็กรมดำ
อื่น ๆ    ปืนยิงเป้าสั่งทำพิเศษ
ลักษณะใช้งาน    ยิงเป้าแข่งขัน
ตัวเลือกอื่น    Smith M.52, SIG-Hammerli M.240