ครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นาน ในช่วงนั้นผมได้บวชเป็นพระ อยู่วัดป่า
ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นป่าช้าเก่าแก่มาก่อนที่จะเป็นวัด มีหลายศพที่ตายโหง ศพไม่มีญาติบ้าง
สารพัดศพ ทั้งวัดมีพระอยู่สามรูป รวมทั้งผม ในช่วงเช้าก็ปกติดี ไม่มีอะไรแปลก
แต่อย่าได้ออกจากกุฏิในยามดึกอย่างเด็ดขาด. มีพระหลายท่านที่ไม่เชื่อ อยากลองดี คิดว่าตัวเองเป็นพระ มีวีชาดี
ไม่กลัวผีสางนางไม้ ไม่ฟังพ่อแก่แม่แก่
ก็เลยออกไป สุดท้ายท่านเหล่านั้นก็เก็บขิงออกไปทุกคนบ้างคนถึงกับวิ่งหนีตะโกนร้องลั้น ไม่เป็นภาษา เหมือนไปเจออะไรมา
พูดเพียงคำเดียวว่า ไม่ิอยู่แล้วๆ
อยากจะไปจากวัดนี้เดียวนี้เลย
ส่วนผมเป็นคนเชื่อในเรื่องพวกนี้
จึงไม่ออกไปในเวลากลางคืน
แต่สุดท้ายก็ต้ิองมีเหตุให้ผมต้องออก
เพราะว่า ผมดันปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำ
ตอนนั้นผมถือเทียนหนึ่งเล่ม พร้อมกับยาเส้น และไฟแช็กหนึ่งอัน
ตอนเดินไปยังห้องน้ำ ยังพอเห็นแสงสว่าง
จากดวงจันทร์ แต่ในห้องน้ำไม่มีแสงสว่าง
มีแต่ความมืด จึงจุดไฟ ใข้แสงสว่างจากเทียน จากนั้นก็ทำธุระ
และยืบยาเส้นมาสูบ กำลังจะจุดไฟแช็กต่อยาสูบ พอจุดไฟปุ้บ
เทียนดับทันที่ แรกๆไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นลม เลยจุดอีกครั้ง ครั้งนี้จุดติด
แล้วอยู่ก็ดับ เหมือนมีคนมาเป่าให้เทียนดับ
เวลานั้นผมกลัวมาก ได้แต่ยกมือขึ้นไหว้
ขออย่าได้มาให้เจอเลย พอลองจุดอีกที
ทันใดนั้นภาพที่เห็นคาตา ของร่างของ คนสูงวัย ยืนอยู่ข้างหน้าเรายืนมองเราแบบหน้าเกือบจะชน ผมตกใจสุดขีด ลุกวิ่งหนีออกจากห้องน้ำแบบไม่คิดชีวิต
วิ่งมาที่กุฏิหลวงพ่อเจ้าอาวาส เคาะประตู่ดังมากๆ แต่ก็แปลกน่ะครับ
ผมเคาะดังและนานมาก ท่านก็ไม่ลุกมาเปิดไม่ได้ยินเสียงขานรับเลย ผมเลยนั้งอยู่หน้าประตู่ห้องท่าน
จนเช้า ท่านเจ้าอาวาสก็เปิดประตูออกมาเจอผม
นอนขดอยู่ท่านจึงเรียกผมลุกขึ้น
ผมจึงเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ท่านฟ้ง และก็ยังบอกว่าผมมาเคาะกุฏิท่านดังมากท่านก็ไม่ขานตอบเลย ท่านก็พูดขึ้นมาว่าไม่ได้ยินเสียงใครเลย
เงียบสนิท ท่านยังบอกอีกว่าเมื่อคืนท่านนอนดึกเกือบตี1.แต่ผมจำได้ว่าไปเข้าห้องน้ำตอน3ทุ่ม
ทำใมท่านถึงไม่ได้ยิน ได้แต่ยืนงง
แสดงว่าเมื่อคืนผมเจอของจริงแบบจังๆ
นับแต่นั้นมาผมไม่เคยออกจากกุฏิอีกเลย
ในเวลากลางดึก หลังจากผมบวชครบกำหนดสึกผมจึงสึก
ออกมาและไม่เคยกลับไปวัดนั้นอีกเลยครับ ที่นำมาเล่านี้จากเหตุการจริงที่เจอมากับตัวผมครับ
คุณว่าผีมีจริงหรือไม่
ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นป่าช้าเก่าแก่มาก่อนที่จะเป็นวัด มีหลายศพที่ตายโหง ศพไม่มีญาติบ้าง
สารพัดศพ ทั้งวัดมีพระอยู่สามรูป รวมทั้งผม ในช่วงเช้าก็ปกติดี ไม่มีอะไรแปลก
แต่อย่าได้ออกจากกุฏิในยามดึกอย่างเด็ดขาด. มีพระหลายท่านที่ไม่เชื่อ อยากลองดี คิดว่าตัวเองเป็นพระ มีวีชาดี
ไม่กลัวผีสางนางไม้ ไม่ฟังพ่อแก่แม่แก่
ก็เลยออกไป สุดท้ายท่านเหล่านั้นก็เก็บขิงออกไปทุกคนบ้างคนถึงกับวิ่งหนีตะโกนร้องลั้น ไม่เป็นภาษา เหมือนไปเจออะไรมา
พูดเพียงคำเดียวว่า ไม่ิอยู่แล้วๆ
อยากจะไปจากวัดนี้เดียวนี้เลย
ส่วนผมเป็นคนเชื่อในเรื่องพวกนี้
จึงไม่ออกไปในเวลากลางคืน
แต่สุดท้ายก็ต้ิองมีเหตุให้ผมต้องออก
เพราะว่า ผมดันปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำ
ตอนนั้นผมถือเทียนหนึ่งเล่ม พร้อมกับยาเส้น และไฟแช็กหนึ่งอัน
ตอนเดินไปยังห้องน้ำ ยังพอเห็นแสงสว่าง
จากดวงจันทร์ แต่ในห้องน้ำไม่มีแสงสว่าง
มีแต่ความมืด จึงจุดไฟ ใข้แสงสว่างจากเทียน จากนั้นก็ทำธุระ
และยืบยาเส้นมาสูบ กำลังจะจุดไฟแช็กต่อยาสูบ พอจุดไฟปุ้บ
เทียนดับทันที่ แรกๆไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นลม เลยจุดอีกครั้ง ครั้งนี้จุดติด
แล้วอยู่ก็ดับ เหมือนมีคนมาเป่าให้เทียนดับ
เวลานั้นผมกลัวมาก ได้แต่ยกมือขึ้นไหว้
ขออย่าได้มาให้เจอเลย พอลองจุดอีกที
ทันใดนั้นภาพที่เห็นคาตา ของร่างของ คนสูงวัย ยืนอยู่ข้างหน้าเรายืนมองเราแบบหน้าเกือบจะชน ผมตกใจสุดขีด ลุกวิ่งหนีออกจากห้องน้ำแบบไม่คิดชีวิต
วิ่งมาที่กุฏิหลวงพ่อเจ้าอาวาส เคาะประตู่ดังมากๆ แต่ก็แปลกน่ะครับ
ผมเคาะดังและนานมาก ท่านก็ไม่ลุกมาเปิดไม่ได้ยินเสียงขานรับเลย ผมเลยนั้งอยู่หน้าประตู่ห้องท่าน
จนเช้า ท่านเจ้าอาวาสก็เปิดประตูออกมาเจอผม
นอนขดอยู่ท่านจึงเรียกผมลุกขึ้น
ผมจึงเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ท่านฟ้ง และก็ยังบอกว่าผมมาเคาะกุฏิท่านดังมากท่านก็ไม่ขานตอบเลย ท่านก็พูดขึ้นมาว่าไม่ได้ยินเสียงใครเลย
เงียบสนิท ท่านยังบอกอีกว่าเมื่อคืนท่านนอนดึกเกือบตี1.แต่ผมจำได้ว่าไปเข้าห้องน้ำตอน3ทุ่ม
ทำใมท่านถึงไม่ได้ยิน ได้แต่ยืนงง
แสดงว่าเมื่อคืนผมเจอของจริงแบบจังๆ
นับแต่นั้นมาผมไม่เคยออกจากกุฏิอีกเลย
ในเวลากลางดึก หลังจากผมบวชครบกำหนดสึกผมจึงสึก
ออกมาและไม่เคยกลับไปวัดนั้นอีกเลยครับ ที่นำมาเล่านี้จากเหตุการจริงที่เจอมากับตัวผมครับ