คืนที่เพื่อนบวช

กระทู้สนทนา
นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมจะเล่าประการณ์หลอกหลอนให้ฟังนะครับ
อาจจะเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรใจก็สั่นๆ ขึ้นมาทุกที

เริ่มเลยนะครับ เนื่องด้วยว่าญาติของเพื่อนเราเสียนะครับ ทางเพื่อนเราก็ต้องไปบวชให้เค้าเรียกว่าบวชอะไรผมไม่ค่อยแน่ใจ เพราะตัวผมเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ คือตัวผมเนี่ยเป็นคนไทย ตอนประถมเรื่องที่โรงเรียนคริส แต่พอมัธยมมาก็เข้าโรงเรียนปกติซึ่งส่วนมากเค้าจะนับถือพุทธ ตัวผมเลยไม่ค่อยได้อินหรือศรัทธาในศาสนาพุทธเท่าไหร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกผี หรือนรก สวรรค์อะไร ออกแนวทางจะไปลองของด้วยซ้ำ
มาต่อที่เพื่อนผมเลยดีกว่า สมมุติว่าเพื่อนชื่อ โอ๊ต นะครับ เนื่องจากญาติเสียโอ๊ตจะต้องไปบวชอยู่ที่วัด วัดนี้ดังเหมือนกันนะครับอยู่ย่านถนนจันทน์ เคยมีเรื่องคดีศพเด็กทารกหลายพันศพ และเคยสร้างเป็นหนังด้วยนะ ผมดูอยู่
โอ๊ตต้องบวชกี่วันนี่ผมไม่แน่ใจ วันที่โอ๊ตปลงผม ผมก็ไปด้วยนะครับไปดูบรรยากาศวัดตอนกลางวัน ก็ดูเฉยๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ดูน่าเกรงขามเหมือนมีบารมีอะไรไปทั่วทั้งวัด ซึ่งผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ เพราะเคยเห็นในข่าวบ่อยๆ ผมก็เลยนึกขึ้นได้ว่าอยากลองดูว่าตอนกลางคืนมันจะน่ากลัวจริงรึป่าว ผมก็เลยชวนเพื่อนอีกคนนึงสมมติชื่อ โน่ เพื่อนคนนี้นี่สนิทกับผมไปไหนไปกัน กินเหล้าด้วยกัน พอผมเมาๆ อยากลองของอะไรมันก็จะพาไปถ่ายคลิปถ่ายวิดีโอลองของกัน ผมก็เลยชวนโน่ว่าอยากมาลองนอนดู นอนกะพระโอ๊ตที่บวชอยู่นี่แหละ ว่าวัดนี้มันจะน่ากลัวขนาดไหนนนน โน่ก็ตบปากรับคำว่าจะมานอนด้วย โดยผมได้ไปบอกพระโอ๊ตว่าจะมานอนด้วยนะ สักคืนนึง ขอกลับบ้านไปเก็บของก่อน เด่วจะแวะเข้ามาหาช่วงดึก ๆ

ระหว่างที่กลับบ้านรู้สึกหวิวเหมือนมีอะไรมากระแทกด้านหลัง ในใจมันสั่นๆ แอบนึกว่าจะมานอนดีรึป่าว อยากลองอะไรจริงหรอ เหมือนมีอะไรดลใจให้เราคิดวนไปวนมา ว่าควรจะมารึป่าว แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็กลับบ้านไปเก็บของ

ช่วงเย็นๆ เราก็ตั้งวงดื่มรอเลยกะว่ากลึมๆ สบายๆ จำได้เลยว่าวันนั้นละครเรื่อง แรงเงา ตอนจบ เราก็ดื่มไปดูละครไปกะว่าละครจบแล้วค่อยไปนอนที่วัด พอละครจบก็บอกโน่ว่าป่ะได้เวลาลองของแล้ว เราก็มีนๆ นึกสนุกๆ ว่าผีอะไรไม่มีหลอก กูจะพิสูทให้ดู ไปถึงหน้าวัดมีเซเว่นฝั่งตรงข้าม ผมนี่พุ่งจะไปซื้อเบียร์ก่อนเลย แต่โน่ห้ามไว้บอกนี่วัดนะพี่จะเอาเบียร์เข้าไปกินเลยหรอ ผมก็บอกว่าผมไม่ได้สนใจ ผมไม่ใช่พระผมดื่มได้ แต่โน่บอกมันไม่ควร อาจจะไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธ์ได้ ผมก็ได้แต่ เออๆ แล้วซื้อมากระป๋องนึงดื่มหมดกระป๋องตอนนั้นเลย ...

ระหว่างกะลังจะเข้าวัดก็โทรหาพระโอ๊ตให้ออกมารับพาขึ้นกุฏิ ก้าวขาเข้าวัดเท่านั้นแหละ หมาหอนนนนไปทั่ววัดเลย ซึ่งปกติมันจะต้องเห่าสิครับ เวลาเจอคนแปลกหน้าหมาจะเห่าหรือเข้ามากัด แต่อันนี้หอนจนหลอนเลยครับ เอาไงทีนี้ใจสั่นๆ ไม่ค่อยดึเลย พระโอ๊ตก็เดินออกมาจากกุฏิแล้วบอกว่า อยู่ชั้นสอง ผมไม่แน่ใจเรียกเป็นกุฏิรึป่าว เพราะเหมือนตึกสองชั้น ชั้นละประมาณ15ห้อง แต่ขอเรียกเป็นกุฏิละกันนะ จำได้ว่าก่อนเข้ากุฏิจะมีเมธุเผา อยู่ด้านขวามือรึป่าวไม่แน่ใจ ผมก็จะเอาไปถ่ายรูปเซลฟี่เช็คอินซะหน่อย กะลังขึ้นกุฏิชั้น2ก็มีหมานอนเฝ้าเต็มเลย เดินๆอยู่ก็หอนที บอกเลยใจนี่สั่นมากกก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน

พอไปถึงกุฏิก็ไม่มีอะไรทำทีวีไม่มี แต่เพื่อนเอาโน๊ตบุคมาก็นั่งเล่นเกมไปพลาง ๆ เปิดวิทยุฟังไปเรื่อยๆ กะว่าเที่ยงคืนครึ่งจะฟังรายการเดอะช็อก บิ้วซะหน่อย หันหน้าไปอีกที พระโอ๊ตกะเพื่อนหลับไปแล้ว เอาแล้วไงงานเข้า ปวดฉี่ด้วยที่นี้เอาไง ปลุกเพื่อนไม่ยอมตื่น จะปลุกพระก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ตอนขึ้นมาพระโอ๊ตบอกอยู่ว่าห้องน้ำอยู่ชั้น2นี่แหละตรงบันได ห่างจากห้องเราไปประมาณ4-5ห้อง เราเปิดประตูโผล่หน้าไปดูก่อน อ่ามีไฟอยู่หน้าทุกกุฏิ เอาวะไม่ไหวแล้วไปเยี่ยวก็ได้ เดินๆ เตะใส่หมาเฉย ไม่รู้มาจากไหน มาตอนไหน ไฟก็มองเห็นนะแต่กลับไม่เห็นหมานอน ก็เลยรีบไปเข้าห้องน้ำ
พอทำธุระเส็ด กะลังเดินออกมาถึงกลับสะดุ้งและอุทานว่า Here !!! เดินชนพระแก่ๆรูปนึง ไม่รู้มาจากไหน มาตอนไหน ที่เดินผ่านมาทุกกุฏิก็เหมือนจะหลับกันหมดแล้ว พระท่านเลยบอกว่า "พระไม่ใช่Here นะโยม" ผมก็ไม่แต่ขอโทดแล้วรีบเดินกลับเข้ากุฏิที่เรานอน ตอนนั้นใจไม่ดีแล้ว ขวัญหนีไปหมดเพราะตกใจมาก เดอะช็อกอะไรไม่ฟังแล้วกูจะนอน..

นอนไปได้สักพักหนึ่งได้ยินเสียงเด็กๆเล่นกัน วิ่งไปวิ่งมา ยังงัวเงียอยู่ก็นึกว่าเช้าแล้ว มองนาฬิกาข้อมือนี่มันตีสองนี่หว่า ใครจะมาวิ่งเล่นวะ ลุกขึ้นมานั่งดูพระกะเพื่อนเราก็ยังนอนสบายอยู่ เอาวะไม่กลัวมากอย่างน้อยเพื่อนก็อยู่ กะลังจะเอนตัวลงนอน ซักพักเหมือนจะมีคนมาเปิดประตู ดังเก๊ะๆ ทำใจคิดว่าไม้ลั่น เก๊ะ ๆ ๆ ทีนี้สองสามครั้งติดๆ ไม้ไม่ลั่นแน่ ๆ หมาแน่นอน ปรากฏว่าเปิดมาเป็นเด็กวิ่งเข้ามาเลย ขนผมนี่ลุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวกระโดดไม่อยู่มุมห้องโดยอัตโนมัติ ตามองไปที่เพื่อนกะพระหลับสนิท ประสาทตอนนั้นไม่สามารถขยับไปทางเพื่อนได้ อาจจะกลัวสุดขึดไม่กล้าขยับตัว ไม่ได้โดนอำ แต่โดนมาให้เห็นแบบเต็มๆ จะร้องก็ร้องไม่ออก ได้แต่หลับตาปี๋ นั่งกอดเข่าอยู่สักพัก เสียงก็เงียบไป ทีนี้เราเลยไปปลุกเพื่อนบอกจะกลับบ้านแล้ว เพื่อนก็งัวเงียไม่ยอมตื่น ทีนี้ทำไงนอนมุดผ้าสิครับ นึกภาพนะครับไม่มีเตียง นอนบนพื้นไม้เย็นๆ กะผ้าห่มของพระสีเหลืองๆ ผืนเดียวมุดอยู่อย่างนั้น นอนไม่หลับระหว่างนั้นได้ยินเสียงเด็กตลอดเลยไม่หยุด ไม่กล้ามองดู

จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ ระหว่างที่เรากะลังกลัว กลิ่นธูปวนเข้ามาในจมูก แบบในหนังแป๊ะ สัมพัสได้ว่ามีคนมาจับขา เหมือนจะดึงแต่ไม่ได้ดึง เหมือนหยอกให้เรากลัว แล้วมีเสียงกระซิบว่า "นู๋จะเอาพี่ไปเล่นด้วย อยากให้พี่ไปอยู่ด้วย แต่ลุงเค้าไม่ให้พี่ไป" พูดซ้ำไปซ้ำมา เจออย่างนี้ทำไงครับ ประสาท-สิครับ กระโดดปลุกเพื่อนกะพระแทบตาย ไม่มีใครตื่น นอนขดอยู่อย่างนั้นจนเช้าสักหกโมงได้มั้ง บอกพระโอ๊ตเลยว่าพาไปหาหลวงพ่อด่วนนนน พระโอ๊ตก็พาไปผมก็เล่าให้หลวงพ่อฟัง อย่างที่เจอมา หลวงพ่อบอกเราไปลบหลู่อะไรรึป่าว ผมก็บอกว่าไม่ได้ไปพูดอะไรท้าทายนะ แต่ใจลึกๆอยากมาลองของ
หลวงพ่อก็บอกนั่นแหละ "เค้าทราบเจตนาเห็นว่าเราอยากรู้อยากเห็นเค้าอยากให้ไปอยู่ด้วย" หลวงพ่อเลยบอกให้เราไปช่วยพระโอ๊ตบิณบาตร โดยให้เป็นลูกมือถือของ แผ่บุญกุศลให้ดวงวิญญาณ พอพระโอ๊ตไปบิณทบาตรเส็ด ที่นี่ก็มาแบ่งอาหารให้พระรูปอื่นและญาติโยม แต่สังเกตเหนว่ากุฏิระหว่างทางไปกุฏิพระโอ๊ตปิดล็อกแน่หนานเหมือนไม่ได้ใช้มานาน ประมาน2-3ห้อง ส่วนกุฏิที่ติดกะพระโอ๊ตก็เป็นพระหนุ่ม ผมเลยถามว่ากุฏิที่ล็อกมีพระอยู่มั้ย พระโอ๊ตบอกไม่มี ผมเลยบอกว่าเมื่อคืนผมเจอพระแก่ๆรูปนึง พระหนุ่มข้างกุฏิพระโอ๊ตก็ตกใจ บอกว่ากูฏิตึกนี้มีแต่พระหนุ่มๆ แก่ขนาดไหนละ ผมก็บอกประมาร50-60มั้ง รู้ว่าแก่ พระหนุ่มเลยไปเอารูปมาให้ดูว่าเป็นพระรูปนี้มั้ย ผมเห็นแล้วบอกว่าใช่ครับ พระหนุ่มบอกว่า ท่านมรณะภาพไปนานแล้วนะ


พอผมได้ยินแทบจะเป็นลมเลย

หลังจากนั้นผมมานั่งคิดดูว่าสิ่งที่วิญญาณเด็กบอกว่า ลุงเค้าไม่ให้พี่ไป จะเป็นพระแก่รูปนั้นรึป่าวถ้าใช่ผมก็ขอบคุณมากนะครับ
ปล.วันนั้นผมเลยต้องไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่พระรูปนั้น เจ้ากรรมนายเวร แล้วก็ทำบุญให้กุมารทอง เพราะที่วัดนั้นขึ้นชื่อเรื่องกุมารทองมากกก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่