ทำไมเราถึงทำกระทู้นี้ออกมา...ต้องย้อนไปถึงที่มาของการตรวจสุขภาพของเราก่อนค่ะ เราเป็นโรคประจำตัวคือหอบหืดและภูมิแพ้ โดย 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ อาการภูมิแพ้เริ่มหนักมากขึ้น ซึ่งของเราจะมีอาการขึ้นที่ตา เช่น ปวดตา แสบตา มีต่อมไขมันขึ้นในตา ต้องไปเจาะออกบ่อยๆ และยังมีอาการเพลีย นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ นอกจากนี้เรายังมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ มีเหงื่อออกในขณะที่นอนอยู่ตอนกลางคืนประมาณเดือนละ 1 ครั้ง เหงื่อออกขนาดต้องตื่นมาเปลี่ยนเสื้อเลยค่ะ ไม่ห่มผ้าก็หนาว ห่มก็เหงื่อออก เหมือนอาการวัยทองเลย ทั้งๆ ที่เราอายุเพียง 30 ต้นๆ มันผิดปกติของคนอายุอย่างเราค่ะ เราจึงตัดสินใจไปตรวจร่างกายหาสาเหตุอาการที่เราเป็น ไปมาถึง 3 โรงพยาบาล ทั้งรัฐบาลและเอกชนชั้นนำ หมอตรวจเลือดเราทุกโรงพยาบาลเลยค่ะ ค่าผลที่ได้ออกมาปกติ ไม่ได้มีอะไรที่น่ากังวล ไม่ได้มีค่าผิดปกติของฮอร์โมนเพราะประจำเดือนเราก็มาปกติ มีเลื่อนบ้างนิดหน่อย คุณหมอบอกว่าถ้าตราบใดเรายังมีประจำเดือน เราไม่มีสิทธิ์เป็นวัยทองแน่นอนค่ะ คุณหมอก็ยังให้เราตรวจไทรอยด์ ผลก็ยังไม่เป็นพิษแต่อย่างใด เอ็กซเรย์ปอดก็ไม่เป็นวัณโรค สรุปสิ่งที่เราได้คือ ยาภูมิแพ้ และยาปรับฮอร์โมนมาทาน นอกนั้นไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหนนะคะ
จนล่าสุดพี่สาวแนะนำให้เราไปลองตรวจที่ ADDLIFE ค่ะ (อยู่ตรงตึก Q-House ลุมพินี ฝั่งที่เป็น Life Center ) ก็ไม่รู้จักหรอกว่าคืออะไร แล้วจะดีกว่า รพ. ยังไง แต่พี่สาวบอกว่าที่นี่เก่งเรื่องการเจาะตรวจฮอร์โมน และเทคโนโลยีที่ล้ำกว่า รพ.เยอะ (เพราะฉันตรวจมาแล้ว...) เราเลยตัดสินใจลองอีกครั้ง พอไปถึงประทับใจมาก ชอบการบริการตั้งแต่ที่เข้าไปที่ศูนย์เลยค่ะ ทั้งการต้อนรับ ความสะอาด และความ Private ซึ่งต่างจากโรงพยาบาลที่เราเคยเจอ ต้องบอกก่อนว่าการ Consult ครั้งแรก คุณหมอไม่คิดเงินนะคะ (ยิ้มอ่อน) เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราลงทะเบียน ถ่ายรูปสร้างประวัติของเราก่อนค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปชั่งน้ำหนัก วัดไข้ วัดความดัน วัดระดับออกซิเจนในเลือด (ชอบบรรยากาศ มีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน )
วันนี้เราก็ได้พบกับคุณหมอป้อมค่ะ คุณหมอน่ารักมากเลยค่ะ คุณหมอก็ให้เราเล่าอาการต่างๆ ที่เราเป็นอยู่ ซึ่งจากที่คุณหมอฟังจบ คุณหมอก็อธิบายว่าอาการเหล่านี้การตรวจ Check up ทั่วไปอาจจะปกติ แต่ที่นี่จะตรวจลึกเพื่อหาสาเหตุของอาการเหล่านั้น โดยไม่ต้องตรวจรวมทุกระบบแบบหว่านแห จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะโดยไม่ใช่เหตุ
สิ่งที่เราควรตรวจเบื้องต้นในวันนี้คือ 1. VNS Analysis 2. Bio Scan 3. Cell Well-Being 4. Laboratory Vitamin D ฟังเสร็จ งง!!! ไปสักแพร่บเลยค่ะ มันคืออะไรนะ
VNS Analysis คือการตรวจระบบสมดุลประสาทอัตโนมัติ Bio Scan คือการตรวจความสนามพลังงานของเซลล์ซึ่งจะทำให้พบว่าปัญหาสุขภาพของเรานั้นมีอะไรบ้าง Cell Well-Being คือการตรวจรากผม เพื่อจะทำให้รู้ว่าร่างกายเราขาดอะไร ควรทานอะไรและเสริมส่วนไหน Vitamin D คือการตรวจวิตามิน D ในร่างกายเพราะเราเป็นภูมิแพ้ หอบหืด จึงต้องดูจำนวนวิตามิน D ในร่างกาย เนื่องจาก Vitamin D มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้ จึงทำให้เราอ่อนเพลียค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปตรวจตามโปรแกรมที่คุณหมอบอกมาเลยค่ะ การตรวจ จขกท ขอไม่ลงรูปนะคะ เพราะ VNS ต้องตรวจใต้หน้าอกค่ะ แต่รับรองว่าเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ตรวจนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากค่ะ ส่วนตัว Bio Scan นั้นเป็นการตรวจโดยการจับเครื่องเฉยๆ เท่านั้นเลย ง่ายมากๆ การตรวจ Cell Well-Being คุณพยาบาลก็ถอนผมเราไปนิดหน่อยค่ะ และสุดท้ายเราก็เจาะเลือดเพื่อตรวจวิตามิน D ค่ะ
หลังจากเสร็จเราก็นั่งรอผลค่ะ เนื่องจากวันนี้เราตรวจไม่เยอะ ประมาณ 1 ชั่วโมง ผลก็ได้เรียบร้อยค่ะ (แต่ถ้าเป็นการตรวจอื่นๆ ที่ละเอียดมากกว่าของเรา อาจจะรอประมาณ 1-2 วันค่ะ ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน)และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย...จขกท. ต้องบอกก่อนว่าปกติที่เราเคยเจอสำหรับการตรวจสุขภาพที่อื่นๆ ทั่วไป หมอจะบอกแค่ว่าค่าเลือดปกติ น้ำตาลปกติ คอเลสเตอรอลปกติหรือสูงหน่อยๆ สรุปแล้วทุกอย่างปกติด้วยกระดาษเพียงหนึ่งแผ่น กลับบ้านได้เป็นอันจบ แต่ที่นี่ไม่ใช่ค่ะ ผลที่ออกมาทำเราอึ้งไปเลยค่ะ หมอป้อมอธิบายเยอะมาก เพราะผลมันละเอียดแบบสุดๆ แบบที่ไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ จขกท จะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ นะคะ
จากกราฟผลตรวจ VNS Analysis ระบบสมดุลประสาทอัตโนมัติของเรานั้นจะเน้นที่กราฟสีแดงกับสีน้ำเงินค่ะ สีน้ำเงินคือระบบการพักผ่อน ผลของเราปกติ ส่วนสีแดงคือระบบพลังงาน หมอบอกว่าพลังงานของเราไม่มีเลย ค่อนข้างขาดออกซิเจน ต้องออกกำลังกาย สรุปคือเราพักผ่อนเยอะแต่ไม่ได้คุณภาพ จึงทำให้ไม่มีพลังงาน พลังงานไม่สมดุลกับการพักผ่อน เป็นสาเหตุของความอ่อนเพลียแม้จะนอนหลับเต็มที่
ต่อไปคือ ผล Bio Scan เทคโนโลยีมากจากเยอรมันเลยค่ะ ตรวจสมดุลสนามพลังงานของเซลล์ซึ่งจะทำให้พบว่าปัญหาสุขภาพของเรานั้นมีอะไรบ้าง อันนี้ชอบมากกกกกกกกก (จขกท ไม่ได้บอกหมอในเรื่องของลำไส้ ที่ จขกท มีปัญหาเลย แต่เครื่องจับได้ค่ะ และจับได้อย่างละเอียดสุดๆ)
ผลแรกที่โชว์คือเรื่องของลำไส้ค่ะ มีปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องไม่ดูดซับ กินอะไรไม่ค่อยได้ผล
ผลที่ 2 คือเรื่องของปอด ความจุปอดไม่ดี ออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรออกกำลังกาย
ผลที่ 3 กระดูกบาง ขาดแคลเซียม ต้องออกกำลังกาย ทานแคลเซียม และวิตามินดีเสริม
ผลที่ 4 ขาดสารอาหารจำพวกผัก ถั่วแดง ถั่วเขียว
ผลที่ 5 ขาดวิตามินบี
ผลที่ 6 ขาดธาตุเหล็ก ผักเขียว เนื้อแดง ไข่แดง เนื้อหมู (ต้องเน้นพวกโปรตีน)
ต่อไปเป็นสิ่งที่ร่างกายเกิน คือพวกโลหะหนัก (อันนี้ต้องมาเอาออกอีกทีค่ะ) และก็เซลลูไลท์ที่เริ่มมี
สิ่งที่ต้องระวังคือ ต้อกระจกตา ควรใส่แว่นเวลาใช้คอม หรือ ออกนอกบ้าน เวลาเจอแสงอาทิตย์
จบด้วยคอลลาเจนต่ำ ต้องทานเสริมนะคะ
ส่วนผลของ Cell Well-Being จากรากผม อันนี้ละเอียดแบบลึกมาก หมอป้อมก็จะช่วยอธิบายค่ะ ว่าสิ่งที่ร่างกายเราต้องการคืออะไร ต้องทานอะไรเสริมบ้าง
Anitoxidants ต้องหา Q10 มาทาน
Resistance คือการติดเชื้อง่าย ต้องระวัง
Food ปรับการทาน เน้นทานผัก บล็อกโคลี ธัญพืช โปรตีน เนื้อแดง ทานวิตามิน D3 B E แคลเซียม โฟลิกและเหล็ก เสริม
Fatty Acids ให้ทาน EFAs หรือ Omega3
Interference ระวังกระแสไฟฟ้า ลดการใช้ไมโครเวฟ ไดร์เป่าผม อุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ชาร์ตแบตมือถือไกลๆ ตัว และถอดรองเท้าเหยียบหญ้าทุกๆ วัน
สิ่งที่จะ Support คือ Emotions อารมณ์ อย่าเครียด เพื่อปรับ Hormone ระวังระบบ Gut ลำไส้ติดเชื้อง่าย ให้ทาน Probiotic
คุณหมอกล่าวสรุปปิดท้ายด้วยสิ่งที่เราต้องมา Follow ตรวจต่อจากนี้คือ 1. DHEA-s คือฮอร์โมนที่สัมพันธ์กับความเครียด ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานและความอ่อนเพลียที่มีผลจากการพักผ่อนน้อย 2. TSH คือไทรอยด์ เกี่ยวช้องกับการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย 3. Cortisol คือ Stress Hormone ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ทั้งหมดทั้งมวลนี้สิ่งที่เราเป็นมันคือความไม่สมบูรณ์ของร่างกายทำให้แสดงอาการขาดเหล่านั้นออกมา เช่น เพลียจากออกซิเจน ฮอร์โมนต่ำเป็นต้น แต่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นโรค จึงไม่สามารถตรวจเจอจากการตรวจทั่วๆ ไปได้ เมื่อรู้สาเหตุก็ปรับเพิ่มในส่วนที่ขาด หากเราปรับการกิน การออกกำลังกายให้ร่างกายสมบูรณ์ ผลของอาการภูมิแพ้ ความอ่อนเพลียก็จะดีขึ้นค่ะ มันคือการมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
เป็นรีวิวที่ยาวมากจริงๆ 5555 เรียกได้ว่าเรา Select ผลบางตัวมาให้ดูเพียงนิดเดียวนะเนี่ย สุดท้ายนี้หากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง แต่ตรวจทั่วไปไม่พบความผิดปกติ ให้ลองมาปรึกษาคุณหมอที่ Add Life ดูนะคะ หรือถ้าใครอยากตรวจสุขภาพที่นี่ก็มีศูนย์ Check up ด้วยค่ะ ศูนย์กายภาพบำบัดก็มี ศูนย์ส่องกล้อง ล้างลำไส้ก็มีค่ะ แต่วันนี้เรายังไม่ได้ตรวจสุขภาพนะคะ เพราะเพิ่งตรวจไป แต่แอบไปเดินดูส่วนต่างๆ อยู่ค่ะ เราชอบสถานที่มากเพราะที่นี่ไม่ใช่ ร.พ.ดังนั้นเราจะไม่เสี่ยงเชื้อโรคจากคนป่วยเลยค่ะ ถ้าอยากตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมตัวดูแลรักษาตัวเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยากจะแนะนำที่ Add Life ให้ทุกคนลองมาตรวจกันจริงๆ ค่ะ เรามั่นใจว่าทุกคนจะประทับใจเหมือนที่เราเป็นแน่นอน เพราะที่นี่ไม่ได้แค่ตรวจ ฟังผลแล้วกลับ แต่คุณหมอจะแนะนำสิ่งที่เราควรปฎิบัติหลังจากการตรวจไปแล้วเช่น การกิน ออกกำลังกาย พักผ่อน ราคาไม่แพงค่ะ (แต่ตอนแรกก็กลัวราคาจะแพง) สิ่งที่เราตรวจไป Cell Well Being ราคาโปร 3,600 บาทจาก 5,000 บาท / VNS ราคา 600 บาท / Bio Scan ราคา 3,000 บาท / Vitamin D 2,400 บาท รวมแล้วไม่ถึง 10,000 ซึ่งราคาไม่ได้แตกต่างจากการตรวจสุขภาพที่อื่นเลยค่ะ
[CR] แบ่งปันประสบการณ์รักษาภูมิแพ้ที่ Add life !!!
จนล่าสุดพี่สาวแนะนำให้เราไปลองตรวจที่ ADDLIFE ค่ะ (อยู่ตรงตึก Q-House ลุมพินี ฝั่งที่เป็น Life Center ) ก็ไม่รู้จักหรอกว่าคืออะไร แล้วจะดีกว่า รพ. ยังไง แต่พี่สาวบอกว่าที่นี่เก่งเรื่องการเจาะตรวจฮอร์โมน และเทคโนโลยีที่ล้ำกว่า รพ.เยอะ (เพราะฉันตรวจมาแล้ว...) เราเลยตัดสินใจลองอีกครั้ง พอไปถึงประทับใจมาก ชอบการบริการตั้งแต่ที่เข้าไปที่ศูนย์เลยค่ะ ทั้งการต้อนรับ ความสะอาด และความ Private ซึ่งต่างจากโรงพยาบาลที่เราเคยเจอ ต้องบอกก่อนว่าการ Consult ครั้งแรก คุณหมอไม่คิดเงินนะคะ (ยิ้มอ่อน) เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราลงทะเบียน ถ่ายรูปสร้างประวัติของเราก่อนค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปชั่งน้ำหนัก วัดไข้ วัดความดัน วัดระดับออกซิเจนในเลือด (ชอบบรรยากาศ มีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน )
วันนี้เราก็ได้พบกับคุณหมอป้อมค่ะ คุณหมอน่ารักมากเลยค่ะ คุณหมอก็ให้เราเล่าอาการต่างๆ ที่เราเป็นอยู่ ซึ่งจากที่คุณหมอฟังจบ คุณหมอก็อธิบายว่าอาการเหล่านี้การตรวจ Check up ทั่วไปอาจจะปกติ แต่ที่นี่จะตรวจลึกเพื่อหาสาเหตุของอาการเหล่านั้น โดยไม่ต้องตรวจรวมทุกระบบแบบหว่านแห จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะโดยไม่ใช่เหตุ
สิ่งที่เราควรตรวจเบื้องต้นในวันนี้คือ 1. VNS Analysis 2. Bio Scan 3. Cell Well-Being 4. Laboratory Vitamin D ฟังเสร็จ งง!!! ไปสักแพร่บเลยค่ะ มันคืออะไรนะ
VNS Analysis คือการตรวจระบบสมดุลประสาทอัตโนมัติ Bio Scan คือการตรวจความสนามพลังงานของเซลล์ซึ่งจะทำให้พบว่าปัญหาสุขภาพของเรานั้นมีอะไรบ้าง Cell Well-Being คือการตรวจรากผม เพื่อจะทำให้รู้ว่าร่างกายเราขาดอะไร ควรทานอะไรและเสริมส่วนไหน Vitamin D คือการตรวจวิตามิน D ในร่างกายเพราะเราเป็นภูมิแพ้ หอบหืด จึงต้องดูจำนวนวิตามิน D ในร่างกาย เนื่องจาก Vitamin D มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้ จึงทำให้เราอ่อนเพลียค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปตรวจตามโปรแกรมที่คุณหมอบอกมาเลยค่ะ การตรวจ จขกท ขอไม่ลงรูปนะคะ เพราะ VNS ต้องตรวจใต้หน้าอกค่ะ แต่รับรองว่าเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ตรวจนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากค่ะ ส่วนตัว Bio Scan นั้นเป็นการตรวจโดยการจับเครื่องเฉยๆ เท่านั้นเลย ง่ายมากๆ การตรวจ Cell Well-Being คุณพยาบาลก็ถอนผมเราไปนิดหน่อยค่ะ และสุดท้ายเราก็เจาะเลือดเพื่อตรวจวิตามิน D ค่ะ
หลังจากเสร็จเราก็นั่งรอผลค่ะ เนื่องจากวันนี้เราตรวจไม่เยอะ ประมาณ 1 ชั่วโมง ผลก็ได้เรียบร้อยค่ะ (แต่ถ้าเป็นการตรวจอื่นๆ ที่ละเอียดมากกว่าของเรา อาจจะรอประมาณ 1-2 วันค่ะ ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน)และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย...จขกท. ต้องบอกก่อนว่าปกติที่เราเคยเจอสำหรับการตรวจสุขภาพที่อื่นๆ ทั่วไป หมอจะบอกแค่ว่าค่าเลือดปกติ น้ำตาลปกติ คอเลสเตอรอลปกติหรือสูงหน่อยๆ สรุปแล้วทุกอย่างปกติด้วยกระดาษเพียงหนึ่งแผ่น กลับบ้านได้เป็นอันจบ แต่ที่นี่ไม่ใช่ค่ะ ผลที่ออกมาทำเราอึ้งไปเลยค่ะ หมอป้อมอธิบายเยอะมาก เพราะผลมันละเอียดแบบสุดๆ แบบที่ไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ จขกท จะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ นะคะ
จากกราฟผลตรวจ VNS Analysis ระบบสมดุลประสาทอัตโนมัติของเรานั้นจะเน้นที่กราฟสีแดงกับสีน้ำเงินค่ะ สีน้ำเงินคือระบบการพักผ่อน ผลของเราปกติ ส่วนสีแดงคือระบบพลังงาน หมอบอกว่าพลังงานของเราไม่มีเลย ค่อนข้างขาดออกซิเจน ต้องออกกำลังกาย สรุปคือเราพักผ่อนเยอะแต่ไม่ได้คุณภาพ จึงทำให้ไม่มีพลังงาน พลังงานไม่สมดุลกับการพักผ่อน เป็นสาเหตุของความอ่อนเพลียแม้จะนอนหลับเต็มที่
ต่อไปคือ ผล Bio Scan เทคโนโลยีมากจากเยอรมันเลยค่ะ ตรวจสมดุลสนามพลังงานของเซลล์ซึ่งจะทำให้พบว่าปัญหาสุขภาพของเรานั้นมีอะไรบ้าง อันนี้ชอบมากกกกกกกกก (จขกท ไม่ได้บอกหมอในเรื่องของลำไส้ ที่ จขกท มีปัญหาเลย แต่เครื่องจับได้ค่ะ และจับได้อย่างละเอียดสุดๆ)
ผลแรกที่โชว์คือเรื่องของลำไส้ค่ะ มีปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องไม่ดูดซับ กินอะไรไม่ค่อยได้ผล
ผลที่ 2 คือเรื่องของปอด ความจุปอดไม่ดี ออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรออกกำลังกาย
ผลที่ 3 กระดูกบาง ขาดแคลเซียม ต้องออกกำลังกาย ทานแคลเซียม และวิตามินดีเสริม
ผลที่ 4 ขาดสารอาหารจำพวกผัก ถั่วแดง ถั่วเขียว
ผลที่ 5 ขาดวิตามินบี
ผลที่ 6 ขาดธาตุเหล็ก ผักเขียว เนื้อแดง ไข่แดง เนื้อหมู (ต้องเน้นพวกโปรตีน)
ต่อไปเป็นสิ่งที่ร่างกายเกิน คือพวกโลหะหนัก (อันนี้ต้องมาเอาออกอีกทีค่ะ) และก็เซลลูไลท์ที่เริ่มมี
สิ่งที่ต้องระวังคือ ต้อกระจกตา ควรใส่แว่นเวลาใช้คอม หรือ ออกนอกบ้าน เวลาเจอแสงอาทิตย์
จบด้วยคอลลาเจนต่ำ ต้องทานเสริมนะคะ
ส่วนผลของ Cell Well-Being จากรากผม อันนี้ละเอียดแบบลึกมาก หมอป้อมก็จะช่วยอธิบายค่ะ ว่าสิ่งที่ร่างกายเราต้องการคืออะไร ต้องทานอะไรเสริมบ้าง
Anitoxidants ต้องหา Q10 มาทาน
Resistance คือการติดเชื้อง่าย ต้องระวัง
Food ปรับการทาน เน้นทานผัก บล็อกโคลี ธัญพืช โปรตีน เนื้อแดง ทานวิตามิน D3 B E แคลเซียม โฟลิกและเหล็ก เสริม
Fatty Acids ให้ทาน EFAs หรือ Omega3
Interference ระวังกระแสไฟฟ้า ลดการใช้ไมโครเวฟ ไดร์เป่าผม อุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ชาร์ตแบตมือถือไกลๆ ตัว และถอดรองเท้าเหยียบหญ้าทุกๆ วัน
สิ่งที่จะ Support คือ Emotions อารมณ์ อย่าเครียด เพื่อปรับ Hormone ระวังระบบ Gut ลำไส้ติดเชื้อง่าย ให้ทาน Probiotic
คุณหมอกล่าวสรุปปิดท้ายด้วยสิ่งที่เราต้องมา Follow ตรวจต่อจากนี้คือ 1. DHEA-s คือฮอร์โมนที่สัมพันธ์กับความเครียด ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานและความอ่อนเพลียที่มีผลจากการพักผ่อนน้อย 2. TSH คือไทรอยด์ เกี่ยวช้องกับการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย 3. Cortisol คือ Stress Hormone ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ทั้งหมดทั้งมวลนี้สิ่งที่เราเป็นมันคือความไม่สมบูรณ์ของร่างกายทำให้แสดงอาการขาดเหล่านั้นออกมา เช่น เพลียจากออกซิเจน ฮอร์โมนต่ำเป็นต้น แต่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นโรค จึงไม่สามารถตรวจเจอจากการตรวจทั่วๆ ไปได้ เมื่อรู้สาเหตุก็ปรับเพิ่มในส่วนที่ขาด หากเราปรับการกิน การออกกำลังกายให้ร่างกายสมบูรณ์ ผลของอาการภูมิแพ้ ความอ่อนเพลียก็จะดีขึ้นค่ะ มันคือการมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
เป็นรีวิวที่ยาวมากจริงๆ 5555 เรียกได้ว่าเรา Select ผลบางตัวมาให้ดูเพียงนิดเดียวนะเนี่ย สุดท้ายนี้หากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง แต่ตรวจทั่วไปไม่พบความผิดปกติ ให้ลองมาปรึกษาคุณหมอที่ Add Life ดูนะคะ หรือถ้าใครอยากตรวจสุขภาพที่นี่ก็มีศูนย์ Check up ด้วยค่ะ ศูนย์กายภาพบำบัดก็มี ศูนย์ส่องกล้อง ล้างลำไส้ก็มีค่ะ แต่วันนี้เรายังไม่ได้ตรวจสุขภาพนะคะ เพราะเพิ่งตรวจไป แต่แอบไปเดินดูส่วนต่างๆ อยู่ค่ะ เราชอบสถานที่มากเพราะที่นี่ไม่ใช่ ร.พ.ดังนั้นเราจะไม่เสี่ยงเชื้อโรคจากคนป่วยเลยค่ะ ถ้าอยากตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมตัวดูแลรักษาตัวเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยากจะแนะนำที่ Add Life ให้ทุกคนลองมาตรวจกันจริงๆ ค่ะ เรามั่นใจว่าทุกคนจะประทับใจเหมือนที่เราเป็นแน่นอน เพราะที่นี่ไม่ได้แค่ตรวจ ฟังผลแล้วกลับ แต่คุณหมอจะแนะนำสิ่งที่เราควรปฎิบัติหลังจากการตรวจไปแล้วเช่น การกิน ออกกำลังกาย พักผ่อน ราคาไม่แพงค่ะ (แต่ตอนแรกก็กลัวราคาจะแพง) สิ่งที่เราตรวจไป Cell Well Being ราคาโปร 3,600 บาทจาก 5,000 บาท / VNS ราคา 600 บาท / Bio Scan ราคา 3,000 บาท / Vitamin D 2,400 บาท รวมแล้วไม่ถึง 10,000 ซึ่งราคาไม่ได้แตกต่างจากการตรวจสุขภาพที่อื่นเลยค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้