บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ (ตอน 15)


ตอน 15
แตกหัก
 
          เวลาที่ผ่านมาได้เยียวยาทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง แท้ที่จริงแล้วกลับไม่ใช่เลย ทุกอย่างเป็นแค่ความเงียบสงบเพียงชั่วคราว ก่อนที่พายุลูกใหญ่จะโหมพัดอย่างรุนแรงต่างหาก และก็ทำให้ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
 
          ขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น เธอได้โทรมาบอกว่าช่วงสุดสัปดาห์นี้อยากให้ผมพาไปทำงาน เธอพูดเพียงสั้นๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ผมคิดอย่างนั้น และเมื่อถึงสุดสัปดาห์ ผมขับรถมาถึงคอนโดตั้งแต่ช่วงบ่ายวันศุกร์ และเช้าวันเสาร์เธอนัดให้ผมไปรับที่บ้าน 
          เธอเดินขึ้นรถในสภาพไร้เรี่ยวแรงด้วยอาการป่วย ใบหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับสภาพของเธอที่เห็นหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานพอสมควร เธอเล่าให้ฟังว่า พักหลังมานี้งานเยอะมาก ต้องเดินทางลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลแทบทุกวัน อากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง และจะต้องกลับมาสรุปงานจนดึกดื่มแทบทุกวัน ทำให้เธอป่วยมาหลายวันแล้ว เมื่อขึ้นมาบนรถเราคุยกันได้ไม่นาน เธอก็ขอตัวนอนพัก เธอนอนหลับตลอดทาง
          เมื่อรถจอดที่คอนโด เธอสะดุ้งตกใจตื่นมองไปรอบๆ ด้วยความมึนงง สอบถามว่าพาเธอมาที่นี่ทำไม ผมบอกให้เธอขึ้นไปพักผ่อนที่ห้อง ส่วนเรื่องไปทำงานในวันนี้ ผมจะเป็นคนไปทำให้เอง ขอให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่ เธอปฏิเสธเสียงแข็งในตอนแรก แต่ด้วยสภาพร่างกายที่แทบจะเดินไม่ไหว จึงยินยอมทำตามในที่สุด
          ตลอดทั้งวันผมเดินทางไปทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย อากาศที่ร้อนจัดตั้งแต่ช่วงเช้า เธอโทรสอบถามด้วยความเป็นห่วงแทบทุกระยะ เมื่อถึงเวลาบ่ายผมเร่งรีบทำงานต่อจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นน้องที่เคาน์เตอร์นั่นเอง  โทรมาบอกว่าตอนนี้สาวทอมขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านหลัง ครู่ต่อมาเธอก็เดินลงมาจากห้องพัก จากนั้นรถเก๋งคันเดิมก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
          เธอโกหกอีกแล้ว!
 
          ผมรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวกับสิ่งที่เธอทำ เหมือนถูกหักหลัง ผิดหวังเสียเหลือเกิน เธอคงจะกลับมาเป็นคนเดิมอีกไม่ได้แล้ว ต้องทำใจยอมรับว่าเธอได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ การแกล้งทำทีเป็นป่วย เดินแทบไม่ไหว แล้วให้ผมไปทำงานให้ จากนั้นก็ออกไปข้างนอกกับสาวทอม เธอทำเกินไปจริงๆ  
          ผมอดทนข่มอารมร์ทำงานต่อให้เสร็จ แล้วเมื่อกลับถึงห้อง เราคงจะได้คุยกันอย่างจริงจังเสียที เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น เธอโทรหาผมอีกครั้งขณะที่กำลังอยู่ข้างนอกกับสาวทอม ทำทีเป็นสอบถามว่างานเรียบร้อยไหม ส่วนอาการป่วยของเธอ เมื่อได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ดีขึ้นมาก ผมนิ่งจนพูดอะไรไม่ออก ฟังคำโกหกหลอกลวงของเธอคำแล้วคำเล่าด้วยความเจ็บปวด
          ความจริงแล้วเธอไม่ได้เป็นห่วงผมหรอก เพียงแค่อยากรู้ว่าผมกำลังขับรถถึงไหนแล้วต่างหาก เพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้กลับเข้าไปที่คอนโด ผมขับรถกลับอย่างใจเย็น เมื่อใกล้ถึงคอนโด น้องที่เคาน์เตอร์ก็โทรมาบอกว่า เธอกลับเข้ามาที่คอนโดแล้ว หลังจากที่หายไปตลอดช่วงบ่าย 
          ผมหมดความอดทนกับเธอแล้วจริงๆ
 
          เมื่อประตูถูกเปิดออก ผมระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธถามเธอด้วยคำพูดที่รุนแรง
          “เมื่อไหร่จะเลิกโกหกเสียที”
          เธอตกใจหน้าตาตื่นกับคำพูดที่รุนแรง โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว โกหกว่านอนหลับตลอดช่วงบ่าย แต่ที่จริงแล้วออกไปข้างนอกกับสาวทอม แล้วก็เพิ่งกลับเข้ามา เราทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง เธอร้องไห้เสียงดัง ไม่มีคำปฏิเสธใดๆ ทั้งสิ้น แต่กลับกล่าวโทษว่าผมสั่งให้ลูกน้องคอยเฝ้าติดตามเธออีกแล้วใช่ไหม อารมณ์ของเธอแปรแปรน อาละวาดรุนแรง เสียงดังลั่นห้อง ขว้างปาสิ่งของจนเสียหาย จากนั้นก็เก็บข้าวของออกจากห้องไป
          ผมไม่คิดว่าจะอยู่กับผู้หญิงคนนี้ได้อีกต่อไป และทุกคำที่เธอพูดนั้นแยกไม่ออกเลยว่าคำไหนเป็นเรื่องจริง และคำไหนเป็นคำโกหก ดังนั้นเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างจบลง
          เราควรเลิกกันเสียที
 
          การเลิกราของเรายังไม่สามารถทำได้ เพียงเพราะเหตุผลเดิมๆ เธอจะร้องไห้ฟูมฟายเสียใจ ขอให้ผมอยู่กับเธอ อย่างจากไป สุดท้ายผมก็ใจอ่อนจนได้ เธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกลับไปกลับมาตลอดเวลา ทุกอย่างวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอด บางเวลาเธอดีเหมือนกับเป็นเธอคนเดิม แต่บางเวลาเธอเหมือนกับคนเสียสติ 
          ทุกอย่างเหมือนกับอยู่ในวังวน เหมือนคนที่ต้องคำสาป ไม่อาจที่จะหลุดพ้นไปได้ ...ชั่วกัปชั่วกัลป์    
 
          ความสัมพันธ์ของเราแย่ลงเรื่อยๆ จนทำให้ผมสิ้นหวังในตัวเธอ อยากจะยอมแพ้เสียเหลือเกิน หันหลังแล้วเดินออกจากปัญหาทุกอย่าง ขณะที่ร่างกายของผมซูบผอมจากความทุกข์ใจอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่อทุกอย่างยังคลุมเครือหาเหตุผลไม่ได้ ทำให้ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองของผม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผมจะไม่มีวันเชื่อเรื่องลักษณะนี้เลย ไม่มีอะไรเสียหายนี่ แค่ลองค้นหาข้อมูลดู
          ผมเริ่มค้นหาข้อมูลจากเว็บไซด์ พบเรื่องราวลักษณะนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่า จะจริงเท็จยังไงก็คงต้องเป็นดุลพินิจของผู้อ่านว่าจะเชื่อหรือไม่ หลายเรื่องยังไร้ข้อสรุป ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงความเชื่อ จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า อาการของเธอเหมือนอย่างที่ข้อมูลบอกเอาไว้ไม่มีผิด
          พฤติกรรมเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์แปรปรวน ไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรลงไป เหมือนที่เธอเป็นทุกอย่าง 
          ผมไม่เชื่อ! ยังไงก็ไม่ขอเชื่อ! ว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อาการของเธอเป็นอาการของคนที่...
 
          “ต้องมนตร์ดำ”

by พรนับพัน

ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ
หนังสือ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
โดย พรนับพัน
สำนักพิมพ์คุณหนูชูใจ
เปิดให้พรีออเดอร์แล้วนะครับ หนังสือไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป
 
บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
เป็นบันทึกเรื่องราวน่าพิศวงที่เกิดขึ้นจริง ในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและจบลงภายในเวลาหนึ่งปี เรื่องราวไม่น่าเชื่อหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นตลอดเวลา เชื่อมโยงอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เข้ากับคำว่า “มนตร์ดำ” อย่างลงตัว เป็นช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทั้งสุขและทุกข์ทนไปพร้อมกัน และเรื่องราวทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป สำหรับบุคคลต่างๆ ผมต้องขอสงวนชื่อเอาไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่