บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ (ตอน 13)


ตอน 13
ปิดตาย
 
“การตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาที
อาจนำมาซึ่งหายนะอย่างคาดไม่ถึง”
 
          ประตูด้านหลังของคอนโดถูกสั่งให้ปิดแล้ว จะไม่มีรถคันไหนจะออกไปจากที่นี่ได้
          
          เธอยังคงพูดจาด่าทอต่อไปอีกสักพักก็เงียบเสียงลง เพราะไม่มีเสียงตอบโต้ใดๆ จากอีกฝ่าย เมื่อเธอหยุดพูด ก็ถึงคราวที่ผมจะต้องพูดอะไรเสียบ้าง ผมพยายามรวบรวมสติ โดยไม่ใช่อารมณ์ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ บอกให้เธอตั้งใจฟังสิ่งที่กำลังพูดนี้ให้ดี
          ห้องนี้เป็นห้องพักของเรา ผมตั้งใจเช่าเอาไว้สำหรับเราสองคน 
          “ไม่ใช่ให้เอาคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วย” น้ำเสียงของผมแข็งขึ้นและเสียงดัง 
          คำพูดประโยคสุดท้ายทำให้เธอตกใจมาก ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ บอกว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยมีใครมาที่ห้องของเรา แล้วก็พยายามเบี่ยงเบนด้วยการด่าทอด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ผมอดทนฟังคำโกหกของเธอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว จึงบอกกับเธอไปว่า ผมรู้ว่าตอนนี้เธออยู่กับใคร บอกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยว่า จะออกไปดีๆ โดยไม่มีใครเจ็บตัว หรือจะให้ลูกน้องของผมขึ้นไปลากตัวออกมา
          เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป ผมมั่นใจเลยว่าเธอรู้สึกกลัวมาก เพราะผมมีลูกน้องที่ชายฉกรรจ์หลายคน และที่สำคัญทุกคนอาวุธครบมือ เธอไม่ปฏิเสธอะไรอีกแล้ว รีบวางสายทันที
 
          ครู่เดียวน้องที่เคาน์เตอร์โทรมาบอกว่า สาวทอมวิ่งออกจากลิฟต์ด้วยอาการตื่นกลัว จากนั้นก็ไปที่รถ และเมื่อเห็นประตูทางเข้าปิดอยู่ ก็พยายามจะเปิดประตู แต่ด้วยกุญแจที่ล็อกปิดตายเอาไว้ จึงไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ความตื่นกลัวยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกหลายเท่า สาวทอมวิ่งวนไปวนมา พยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะโทรหาใคร มองซ้ายทีขวาที จากนั้นก็รีบเข้าไปภายในรถ 
          ยังไม่ทันที่น้องที่เคาน์เตอร์จะวางสาย ก็เห็นภาพของเธอวิ่งออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าตื่นกลัวไม่แพ้กัน จากนั้นก็ไปที่ลานจอดรถด้านหลัง พนักงานทุกคนกำลังมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านจอแสดงภาพจากล้องวงจรปิด สีหน้าของเธอตื่นกลัวยิ่งขึ้น เมื่อเห็นประตูด้านหลังถูกปิด ขณะที่สาวทอมวิ่งลงจากรถมาสมทบ
          เธอกำลังโทรหาใครบางคน!
 
          เสียงสายเรียกซ้อนดังขึ้น โดยที่ผมไม่สนใจจะรับ ยังคงคุยกับน้องที่เคาน์เตอร์ต่อ ท่าทางของเธอดูกระสับกระส่ายด้วยความกังวลมากขึ้น เมื่ออีกฝ่ายไม่รับสาย สาวทอมก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน กลับเข้าไปในรถอีกครั้ง เสียงสายเรียกซ้อนยังคงดังต่อไป
 
          ผมถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง จากนั้นก็บอกให้น้องที่เคาน์เตอร์ว่าให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเปิดประตูปล่อยสองคนนั้นไป เพียงเท่านี้คงจะให้บทเรียนกับทั้งคู่เพียงพอแล้ว 
          เมื่อเธอเห็นชายใส่ชุดสีดำเดินออกมาจากความมืด เธอตื่นกลัวรีบเข้าไปหลบในรถ เพราะคิดว่าเป็นลูกน้องของผม และเมื่อเห็นว่าเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังเดินมาเปิดประตูให้ ทั้งคู่คงรู้สึกโล่งใจ รถสีขาวแต่งซิ่งที่สตาร์ตเอาไว้อยู่แล้ว ก็ขับออกไปด้วยความรวดเร็ว
          “จะให้ผมตามไปไหม” ลูกน้องที่ดักซุ่มอยู่ด้านหน้าโทรมาทันทีที่เห็นรถยนต์สีขาวขับออกไปด้วยความเร็ว ผมปฏิเสธตอบไปว่าไม่เป็นไร ปล่อยพวกเขาไป 
          หมดภารกิจสำหรับค่ำคืนนี้แล้ว
 
          อารมณ์โกรธแค้นที่คุกรุ่นได้ลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างไปจากตอนแรกที่บอกให้พนักงานรักษาความปลอดภัยปิดประตู เพราะคิดอย่างเดียวว่าจะต้องทำให้สาวทอมได้รู้สำนึกเสียบ้าง แล้วความคิดแว๊บหนึ่งก็พุดขึ้นมาในสมอง ทั้งหมดเป็นเรื่องระหว่างผมกับเธอ ไม่ควรที่จะทำให้ใครคนใดต้องเดือดร้อนไปด้วย การจะสั่งให้ลูกน้องเข้าไปทำร้ายสาวทอมก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก หากพลาดพลั้งหนักมือไปด้วยความใจร้อนของลูกน้อง หรืออาจมีการต่อสู้จนต้องใช้อาวุธ คงจะทำให้เรื่องนี้บานปลายไปได้
          ครั้งนี้เพียงแค่สั่งสอนเท่านั้น
 
          แล้วตัวผมล่ะ!
          กำลังมีใครบางคนคิดจะสั่งสอนผมอยู่หรือไม่ เพราะสถานะของผมก็ไม่ต่างอะไรกับสาวทอม ผมกำลังมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเธออยู่เช่นเดียวกัน
          ลืมไปแล้วหรือยังไง!
 
by พรนับพัน
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ
หนังสือ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
โดย พรนับพัน
สำนักพิมพ์คุณหนูชูใจ
เปิดให้พรีออเดอร์แล้วนะครับ หนังสือไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป
 
บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
เป็นบันทึกเรื่องราวน่าพิศวงที่เกิดขึ้นจริง ในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและจบลงภายในเวลาหนึ่งปี เรื่องราวไม่น่าเชื่อหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นตลอดเวลา เชื่อมโยงอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เข้ากับคำว่า “มนตร์ดำ” อย่างลงตัว เป็นช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทั้งสุขและทุกข์ทนไปพร้อมกัน และเรื่องราวทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป สำหรับบุคคลต่างๆ ผมต้องขอสงวนชื่อเอาไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่