-ขอเริ่มเท้าความก่อนเราเป็นเด็กผญ.ธรรมดาคนนึงที่ชอบทำกิจกรรมมากเลยละชอบทำนู้นนี้บ่อยไม่ว่าจะเล่นกีฬาเเข่งวิชาการในรร.แข่งศิลปหัตถกรรมแข่งดนตรีไทยหรืออะไรมากมายถือว่าเราเป็นเด็กกิจกรรมว่าอย่างนั้นเถอะเราเป็นอย่างนี้ตั้งแต่อนุบาลละเป็นตลกสนุกสนานห้าวๆบ้างเเต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากลายเป็นเด็กที่เหมือนเข้าข้างโรคซึมเศร้าร้องไห้บ่อยมากอยากฆ่าตัวตายเลยนะแต่ยังไม่ได้เป็นจริงๆนะ(แต่ยังไม่เคยไปลองตรวจสักที)มันเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่ป.6เราได้ลองเล่นกีฬาชนิดนึงตามเพื่อนในรร.ซึ่งเราเป็นเด็กกิจกรรมก็ไม่พลาดอยู่แล้วเมื่อเล่นไปเรื่อยๆประมาณซักเกือบครึ่งปีได้มั้งเพื่อนเราลาออกหมดเหลือเเต่เรากับน้องที่อยู่ในกีฬานี้เเหละเพื่อนอีก2-3คนเราเริ่มรู้สึกแหละว่ามันไม่ใช่ทางของเราแต่เราตามเพื่อนมาเราเลยขอพ่อแม่ว่าอยากลาออกจากกีฬานี้แต่คำตอบที่ได้เข้าบอกว่ามาไกลแล้วเสียตังเยอะแล้วทั้งๆที่เราไปแข่งแค่แมทเดียวลองไปซ้อมเป็นคอร์ทนักกีฬาแค่3-4เดือนเองซึ่งมันเหนื่อยมากเราไม่มีความชอบมันเลยแต่ทำไงได้อะพ่อแม่ไม่เลิกเราก็ก้าวต่อไปโดยที่เราไม่ได้ชอบกีฬานี้ตั้งแต่เเรกเลยเราเหนื่อยท้อมากเราแข่งแล้วแพ้มาตลอดไม่เคยชนะเลยพ่อแม่หวังเรามากแต่เราไม่ชอบกีฬานี้อะทำไงได้เราก็หาทุกวิทีที่จะทำให้ให้ออกจากวงการนี้ได้ทั้งเตะแพ้ซ้อมไม่เต็มที่บ้างแต่ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆเราไม่ตั้งใจทำเเค่เป็นการทำประชดลบคำสบประมาทของคนบ้างคนที่ทำไม่ได้เรากลายเป็นเด็กที่เต็มใจซ้อมในสายตาโค้ชมาตลอดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราก็ซ้อมเป็นนักกีฬาเต็มตัวมีลดน้ำหนักบ้างได้เหรียญทองระดับประเทศบ้าง เหรียญเงินบ้าง ทองแดงบ้างได้บ้างไม่ได้บางตามเกมกีฬาเนาะแต่เราไม่เคยภูมิใจเลยนะถึงแม้จะเล็กๆก้ตามที่ได้ลบคำสบประมาทของคนอื่นที่ดูถูกไว้พ่อแม่มีความสุขนะที่เห็นเราได้เหรียญระดับประเทศเราก็ไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะทำได้แต่ความสุขของพ่อแม่มันกลายเป็นความทุกข์ของเรามาตลอดเราไม่เคยเหล่าให้พ่อแม่ฟังเพราะเราไม่เคยบอกความในใจอะไรเค้าเลยพ่อแม่เป็นคนที่ดุเอาเรื่องอยุ่เหมือนกันมีเรื่องหนักใจเราไม่เคยปรึกษาพ่อแม่เลยเราปรึกษาเพื่อน แม่เพื่อน และครูมาตลอดมันกลายเป็นเรากลัวเค้ามาตลอดเมื่อเราไม่ฟังเค้าเค้าก้คอยสอนแต่พอเราพูดเค้าก็หาว่าเราก้าวร้าวเรายอมรับนะว่าเราเริ่มก้าวร้าวนิดนึงแค่ไม่ขนาดทำร้ายร่างกายพ่อแม่หรอกนะเราแค่เริ่มโตขึ้นมีความคิดเป็นของตัวเองบ้างทีมันอาจจะขัดแย้งพ่อแม่บ่อยๆก็ตามก็รู้นะว่าเค้าหวังแต่เรารู้สึกว่าเค้าหวังจนเกินไปตอนไปคัดทีมชาติเราไม่ได้อยากไปเลยแต่โค้ชให้ไปเราก็เอาประสบการณ์ละกันคำถามที่เราเกลียดมากเลยคือ"ที่เข้ามาซ้อมกีฬาเนี้ยมีใครบังคับมาเข้าเล่นไหม"เราอยากจะยกมือมากเลยเเต่คือทั้งห้องบอกมาเองหมดถ้าเรายกไปก้คงออกจากการซ้อมโค้ชแหละพ่อแม่ไม่พอใจแน่เราก็เลยตอบตามเพื่อนๆที่ซ้อมไปซึ่งไม่ชอบเลยที่ไปเสแสร้งว่าตัวเองไม่ได้บังคับมาซ้อมทั้งๆที่เราบังคับมาโดยตลอดอะเราเก็บกดมากอะเราร้องไห้แทบทุกคืนเราอยากเป็นเหมือนเพื่อนบ้างที่เล่นกีฬาที่ชอบโดยไม่มีใครบังคับโคตรอิจฉาเลยจริงๆแต่เริ่มปี2020วันที่21/01/20เราต้องแข่งกีฬานร.ซึ่งเป็นระดับประเทศที่อุดรธานีวันนั้นเป็นวันชั่งน้ำหนักของเราเราทำตั้งแต่เช้าน้ำหนักก็ไม่ลงเช้า-เย็นจนชั่งครั้งสุดท้ายเราก็ไม่ผ่านเพราะเราเหลือ3ขีดเราตกตาชั่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมากแล้วมันการแข่งเริ่มปีที่ซวยเลยแหละมันเป็นตราบาปของเราเลยทุกคนโกรธเรามากเราก้เข้าใจแหละว่าเค้าหวังไอเราก็รู้สึกผิดแต่ทำไงได้อ่ะมันเป็นไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เลยจริงตั้งแต่นี้พ่อแม่แหละโค้ชยังไม่คุยกับเราเลยในลึกๆดีใจนะที่ไม่ได้แข่งแต่ข้างนอกไห้เหมือนตอนทีท้อเหนื่อยแหละอยากเลิกเลยเราเหมือนก้าวขาแล้วสะดุดตัวเองเลยเราอยากอธิบายความรู้สึกให้พ่อแม่ฟังมากว่าเราอึดอัดแค่ไหนแต่เราก็บอกไม่ได้เพราะเราทำลาสความหวังเค้าไปอ่ะมันเป็นช่วงเวลาของอายุ16ที่เริ่มมาต้นปีที่ซวยเอาเรื่องเลย
เราขอคำแนะนำหน่อยว่าเราควรทำไงดีเราควรพูดให้พ่อแม่ฟังมั้ยยหรือเราควรรอสักซักหรือยังไงดีเราไม่มีจุดยืนเลยท้อแหละเหนื่อยมากจริง?????????
เราควรเริ่มต้นไงดี???
เราขอคำแนะนำหน่อยว่าเราควรทำไงดีเราควรพูดให้พ่อแม่ฟังมั้ยยหรือเราควรรอสักซักหรือยังไงดีเราไม่มีจุดยืนเลยท้อแหละเหนื่อยมากจริง?????????