เจียงไคเช็ค ทรราชโลกไม่ลืม

กระทู้สนทนา

ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์ อาวุธยุทโธปกรณ์

ธันวาคม 2559 คือเมื่อไม่นานมานี้เอง รัฐบาลของ ไซ่อิงเหวิน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของไต้หวัน ที่มาจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ได้รับชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋ง ได้เสนอกฎหมายผ่านรัฐสภาที่ทำให้ เจียงไคเช็ค มีสถานะเป็นทรราช มีคำสั่งให้ลบล้างเกียรติยศต่างๆของเจียงไคเช็คออกจากประวัติศาสตร์ ยกเลิกการเรียกชื่อสถานที่สำคัญต่างที่ตั้งให้เป็นเกียรติแก่เขา ยุติการจำหน่ายของที่ระลึกที่มีรูปหรือสัญลักษณ์ รวมทั้งให้เก็บรูปปั้นต่างๆจำนวนมากมายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มารวมไว้ที่อนุสรณสถานของเขาเพียงแห่งเดียว และกำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป

อนุสาวรีย์ที่มี 1063 แห่งทั่วประเทศ ถูกรื้อทำลายไปแล้วบางส่วน รูปปั้นที่ไม่เป็นที่ต้องการราว 250 ถูกย้ายมารวมไว้ที่อนุสรณ์สถาน

ที่ผ่านมาเรารู้จักเจียงไคเช็คผ่านประวัติศาสตร์ชาติจีนที่บิดเบี้ยว ที่บริวารของเขาเขียนขึ้นเพื่อยกย่องและสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเขา การบิดเบือนข่าวสารในสมัยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่รัฐบาลสามารถควบคุมหนังสือพิมพ์และวิทยุ ก็สามารถกำหนดให้ประชาชนรู้เรื่องราวเป็นอย่างไรก้ได้ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ เนื่องจากเจียงไคเช็ครวมทั้งทายาททางการเมืองของเขาได้ครองอำนาจอย่างต่อเนื่องยาวนานรวม 75 ปี ข้อมูลประวัติศาสตร์จีนช่วงนี้จึงได้รับความเสียหายมาก เพราะเรื่องราวในช่วงเวลาที่พวกเผด็จการมีอำนาจจะถูกบันทึกไว้อย่างผิดเพี้ยน รวมทั้งมีเหตุการณ์หลายเรื่องที่ถูกปกปิดไม่ให้คนรุ่นหลังได้รู้

ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าเจียงไคเช็คได้ขึ้นสู่อำนาจโดยการยึดอำนาจจาก หวางจิงเว่ย ในเหตุการณ์กบฎกวางตุ้งปี 1926 และอยู่ในอำนาจจนสิ้นชีวิตในปี 1975 จากนั้นเหยียนเจียกัน รองประธานาธิบดีก็ได้ขึ้นรักษาการในช่วงวาระที่เหลือนาน 3 ปี จากนั้น เจียงชิงกัวะ ลูกชายเจียงไคเช็คก็ได้ขึ้นครองอำนาจต่อ เจียงชิงกัวะยอมยกเลิกกฎอัยการศึกในปี 1987 แต่ยังคงปกครองประเทศในแบบเผด็จการต่อมา หลังจากนั้น ลีเต็งฮุย ซึ่งเป็นทายาททางการเมืองก็ได้เป็นประธานาธิบดีต่อระหว่างปี 1988 จนถึงปี 1996 ลีเต็งฮุยก็ทนแรงกดดันจากนานาชาติไม่ได้ จึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญและจัดให้มีการเลือกตั้ง ทำให้ไต้หวันได้มีโอกาสเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรกในปี 1996 อย่างไรก็ตาม ลีเต็งฮุยก็สามารถชนะการเลือกตั้ง และเป็นประธานาธิบดีต่อมาจนถึงปี 2000

ในช่วงเวลาที่เจียงไคเช็คและทายาททางการเมืองของเขาปกครองประเทศ พวกเขาทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมาย ส่วนใหญ่เป็นการกำจัดผู้ที่ต่อต้านเขา เรามักจะได้ยินว่าเขาคือผู้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ แต่จริงๆแล้วเขาถือโอกาสกำจัดฝ่ายเสรีนิยมที่ต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการของเขาไปด้วยอย่างมากมายโดยใส่ร้ายว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ทั้งบนแผ่นดินใหญ่และเกาะที่ไต้หวัน แต่ทว่ากลุ่มบริวารของเจียงไคเช็คมีความเก่งกาจอย่างยิ่งในการปกปิดเรื่องราว บิดเบือนความจริง และใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้าม ในช่วงที่พวกเขาครองอำนาจนั้น คอลัมนิสต์หรือนักวิชาการคนใดที่พยายามนำเสนอข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อย่างตรงไปตรงมาที่ทำให้เจียงไคเช็คหรือพรรคพวกของเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ จะถูกจับและถูกลงโทษ นับเฉพาะในช่วงที่เขาปกครองไต้หวันนั้นมีผู้ที่ถูกสังหารหมู่ในระหว่างประท้วงต่อต้านการปกครองของเขาหนึ่งหมื่นแปดพันคน ถูกลงโทษจำคุกกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นคน ถูกประหารชีวิตสามถึงสี่พัน และอีกหลายพันคนได้กลายเป็นผู้ที่หายสาบสูญ

https://en.wikipedia.org/wiki/White_Terror_(Taiwan)

https://en.wikipedia.org/wiki/Shanghai_massacre

อย่างไรก็ตาม ในปี 2000 เฉินสุยเปียน จากพรรคฝ่ายค้าน Democratic Progressive Party ชนะการเลือกตั้ง และได้เป็นประธานาธิบดีติดต่อกัน 2 สมัย นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิชาการได้รับอิสระภาพ และเริ่มมีการค้นคว้าข้อเท็จจริงเพื่อจะชำระประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นในช่วงแรกค่อนข้างเชื่องช้าและยากลำบาก เพราะข้อมูลที่มีอยู่ส่วนใหญ่ถูก corrupt รวมทั้งยังถูกต่อต้านจากพรรคก๊กมินตั๋งที่แม้จะแพ้การเลือกตั้ง แต่ก็ยังคงมีอิทธิพลในสังคมอยู่มาก นักวิชาการที่พยายามชำระข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เหล่านี้มักจะถูกเรียกว่าพวก กบฎวิชาการ และถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติ

นอกจากนี้ในปี 2008 หม่าอิงจิ่ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง กลับมาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีก 2 สมัย อย่างไรก็ตามกระบวนการชำระประวัติศาสตร์นั้นถูกจุดติดขึ้นแล้ว และยังคงเดินหน้าต่อไปตามลำดับ จนกระทั่งปี 2016 ไช่อิงเหวิน จากพรรค Democratic Progressive Party กลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ในตอนนี้ข้อเท็จจริงได้ตกผลึกออกมามากเพียงพอที่จะยอมรับอย่างเป็นทางการได้ว่าเจียงไคเช็คคือเผด็จการทรราชที่ชั่วร้าย ที่ไม่ควรได้รับเกียรติยศใดๆ รวมทั้งควรต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เขาทำกับเพื่อนร่วมชาติ

รูปปั้นที่หน้าสนามบิน Taitung กำลังถูกรื้อถอน

แม้ว่าฝ่ายเสรีนิยมจะได้ชัยชนะ และสภาเห็นชอบที่จะออกกฎหมายให้เจียงไคเช็คมีสถานะเป็นทรราช แต่การค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อชำระประวัติศาสตร์ยังคงทำได้ค่อนข้างยาก เพราะเรื่องราวส่วนใหญ่ถูกจดบันทึกไว้อย่างบิดเบี้ยว นอกจากนี้ประวัติศาสตร์จีนตามที่เป็นจริงๆในช่วงศตวรรษที่ 20 ก็ค่อนข้างจะน่าอึดอัด ไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไร ทำให้ความพยายามจะแก้ไขประวัติศาสตร์ให้ถูกต้องเจอแรงต้านค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามจะมีข้อมูลใหม่ปรากฏออกมาเป็นเรื่องๆ คือใครค้นคว้าเรื่องราวตอนไหน ก็จะนำมาเสนอ เรื่องราวส่วนใหญ่ยังถือว่าอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา และคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้รับการยอมรับถึงระดับที่แก้ไขประวัติศาสตร์

แม้ว่าข้อมูลต่างๆจะยังอยู่ในช่วงของการตกผลึก แต่ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง ก็เพื่อให้คนที่สนใจประวัติศาสตร์จีนได้รู้ว่า เรื่องราวต่างๆในประวัติศาสตร์จีน ในช่วงเวลาที่เจียงไคเช็คครองอำนาจ ตามที่เราเคยได้ยินได้ฟัง รวมทั้งที่อยู่ในตำราเรียน มีบางส่วนที่ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และในอนาคตอาจจะมีการแก้ไข ดังนั้นถ้าหลังจากนี้คุณได้ยินอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับสงครามกลางเมืองของจีนที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน หรือเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม จีน-ญี่ปุ่น ที่ขัดแย้งกับที่คุณเคยรู้ ก็ขอให้เปิดใจรับฟังบ้าง

ผู้ประท้วงกำลังขว้างปาสีแดงใส่อนุสรณ์สถานของเจียงไคเช็ค รัฐบาลเคยพิจารณาจะรื้อทำลายอนุสรณ์สถานแห่งนี้เพื่อทำเป็นสวนสาธารณะ แต่เทศบาลเมืองคัดค้านเพราะต้องการจะเก็บไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว