ผู้ค้าประตูน้ำครวญยอดขายตกกว่าร้อยละ 50 'เพื่อไทย' รับปากชงญัตติแก้ปัญหาเข้าสภาฯ
https://voicetv.co.th/read/dFAkYMX6A
'สุดารัตน์' นำ 'เพื่อไทย' ถกผู้ประกอบการ - ผู้ค้าย่านประตูน้ำ โดยกลุ่มผู้ค้าครวญกว่าร้อยละ 50 ยอดขายตกลง ชี้ทุนต่างชาติขนาดใหญ่เข้ามาทำลายคนตัวเล็ก ด้าน 'เพื่อไทย' ซัดรัฐบาลให้ความสำคัญต่างชาติมากกว่าคนไทย ยืนยันชงญัตติแก้ปัญหาผลกระทบดังกล่าวเข้าสภาฯ
คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนาย
โภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นาย
ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทย นาย
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นาย
ประพนธ์ เนตรรังษี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ร่วมประชุมสัมมนารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ค้าย่านประตูน้ำ
โดยกลุ่มผู้ค้าสะท้อนถึงปัญหา หลากหลายประเด็น โดยเรื่องใหญ่คือยอดขายที่ตกลงกว่าร้อยละ 50 - ร้อยละ 70 ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลจากการเข้ามาของกลุ่มทุนจีน และการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงออนไลน์ ต่างชาติยักษ์ ใหญ่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการงดเว้นภาษี ในส่วนของออฟไลน์ผู้ค้าต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นจีนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น วิธีการเข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีกระบวนการที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของไทย ซึ่งอาจมีผลประโยชน์มาแลกเปลี่ยน ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น อย่างต่อเนื่องมีผลทำให้ยอดขายตกลง ส่งออกได้รับผลกระทบ ย้ายฐานการผลิต
นาย
โภคิน มองว่านักธุรกิจชาวจีนเข้ามามากขึ้น รวมถึงเมียนมา เวียดนาม ลาว มีการแข่งขันกับผู้ประกอบการไทย สถานการณ์เป็นเช่นนี้มาประมาณ 5 ปีซึ่งจุดแข็งของผู้ประกอบการที่เป็นคนจีนคือมีความขยัน เจ้าเล่ห์ไม่สนใจข้อกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับผลประโยชน์จากพ่อค้าจีน ประกอบกับรัฐบาลของประเทศต้นทางให้การสนับสนุนเช่นเรื่องของค่าขนส่ง หรือการคืนอัตราภาษี ส่วนไทยแม้ผู้ประกอบการพยายามดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้องแต่เมื่อเข้าสู่ระบบกลับถูกตรวจสอบย้อนหลัง ขณะที่ภาษีนิติบุคคลไม่ว่าจะมีกำไรมากน้อย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งหมด เกิดช่องว่างระหว่างผู้ค้าตัวเล็กกับบริษัทขนาดใหญ่ จึงเห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่ควรเสียภาษีเพิ่มขึ้น ไม่ให้ภาระตกไปอยู่กับคนตัวเล็ก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเข้ามาของผู้ค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากจีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้มีอำนาจอาจดีใจเมื่อเห็นการลงทุนหลักหมื่นล้าน จากต่างชาติแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการขนาดเล็กขนาดกลางของไทยกลับเสียเป็นแสนล้าน นอกจากนี้ผู้ประกอบการแสดงความต้องรวมตัวเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงมีแนวคิดที่จะเชิญผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมาพูดคุยเพื่อจัดทำข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมให้รัฐบาลโดยเสนอผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งญัตติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
ด้านคุณหญิง
สุดารัตน์ย้ำว่าจากที่รับฟังปัญหาทราบว่า รัฐบาลส่งเสริมต่างชาติมากกว่า ส่วนเอสเอ็มอีในประเทศไทย เช่นการให้สิทธิพิเศษกับค้าส่งหรือออนไลน์ยักษ์ใหญ่ จนทำให้การทำมาหากินของคนไทยได้รับผลกระทบ ทุนใหญ่ภาษีไม่ต้องเสีย ได้รับการยกเว้นพิธีการทางศุลกากรทุกอย่าง ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศต้นทาง ทำให้ผู้ประกอบการของไทย ไม่ว่าจะเป็นประตูน้ําสําเพ็งตลิ่งชัน บางบอน ได้รับผลกระทบ ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องทบทวนการคุ้มครองและให้สิทธิพิเศษกับคนต่างชาติที่มาค้าขายแข่งกับคนไทย โดยเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ คือการให้สิทธิพิเศษกับคนไทยโดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็ก เอสเอ็มอีจะต้องได้สิทธิพิเศษให้แข็งแรงเพียงพอที่จะยืนสู้กับคนต่างชาติได้
ขณะที่เรื่องของค่าเงินบาทเป็นปัญหาหลักทีขณะที่เรื่องของค่าเงินบาทเป็นปัญหาหลักที่ทำให้การส่งออกและการท่องเที่ยวซบเซา รัฐต้องมีวิธีการบริหารจัดการไม่ปล่อยปละละเลย โดยเชื่อว่ามีหลายมาตรการที่ทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยไม่ใช้การแทรกแซง
ส่วนมาตรการทางภาษีที่เข้ามาตรวจสอบทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าเข้าสู่ระบบ พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าจำเป็นต้องลดภาษี นิรโทษกรรมแล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งทั้งหมดจะทำเป็นรายงานและจะจัดสัมมนาใหญ่อีกครั้ง
ช่อ ปัดอนาคตใหม่ ปลุกม็อบชุมนุม ชี้ถ้าคนจะเดือด มาจากรัฐบาลทำตัวเองทั้งนั้น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3382217
ช่อ ปัดอนาคตใหม่ ปลุกม็อบชุมนุม ชี้ถ้าคนจะเดือด มาจากรัฐบาลทำตัวเองทั้งนั้น
ช่อ – เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ม.ค. น.ส.
พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแสดงออกของประชาชนในงานวิ่ง-เดินเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า เวลาที่มีการพูดว่า งานเดินเชียร์ลุง มีแต่คนที่มีอายุไป งานวิ่งไล่ลุง มีแต่คนรุ่นใหม่ เป็นการทำให้เกิดการแตกแยกทางช่วงวัย
เราเห็นอยู่แล้วในงานวิ่งไล่ลุง คนที่ไปก็รู้ว่าตอนที่วิ่งเป็นคนหนุ่มสาวซะเยอะ เพราะจะให้คนอายุ 50-60 ปีไปวิ่งก็คงมีไม่เยอะที่วิ่งไหว แต่ถ้าดูคนที่ไปร่วมงาน ที่มาพบปะคุยกันจะเห็นว่า มีทุกช่วงวัย
อีกอย่างเราได้เห็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง คือไม่ได้มีฝ่ายใดพยายามจัดงานให้ชนในสถานที่เดียวกัน แม้จะชนวัน เวลาก็จริง แต่คนทั้งสองกลุ่มไม่มีทางมาปะทะกันแน่นอน อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า มันคงหมดสมัยแล้วที่จะนำมวลชนต่อมวลชนมาปะทะกัน เพราะทุกคนคงไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
“
ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือ อย่าเอาคนมาปะทะกันให้เกิดความรุนแรง อย่าไปใช้วาจาดูถูก ดูหมิ่น ยุยง กันไปมา ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกลียดกันมากขึ้น อีกอย่างคือรัฐบาลเองควรอำนวยความสะดวกในการแสดงออกของประชาชนให้เท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย พูดตรง ๆ คือ เราเห็นว่า ลุ้นอยุ่ทุกวันว่างานวิ่งไล่ลุงจะได้จัดไหม แต่งานเดินเชียร์ลุงราบรื่นมาก เราหวังว่ารัฐเองจะปล่อยให้การแสดงออกแบบนี้เป็นไปอย่างเสรี”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตุในปี 2563 พรรคอนาคตใหม่ พยายามจะเร่งปฏิกริยาให้เกิดการชุมนุม โฆษกอนาคตใหม่ กล่าวว่า คนที่เร่งปฏิกริยาน่าจะเป็นรัฐบาลมากกว่า ต่อให้ใครจะกระตุ้นประชาชนขนาดไหน มันกระตุ้นไม่ขึ้นหรอก หากไม่มีปัจจัยที่ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเดือดร้อนจริง ๆ
“คุณดูสิ น้ำประปาก็เค็ม ฝุ่น PM 2.5 ก็เยอะ คนตกงานเป็นว่าเล่น มีคนฆ่าตัวตายรายวัน ซึ่งเราไม่เห็นข่าวแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2540 แต่ตอนนี้กลับมาอีก ปัญหาเหล่านี้รุมล้อมและทำให้คนรู้สึกว่าเราต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เพราะฉะนั้นคนที่จะเร่งปฏิกริยากระแสของประชาชนคือรัฐบาลเอง”
JJNY : 4in1 ผู้ค้าประตูน้ำครวญยอดขายตก/ช่อชี้ รบ.ทำตัวเองทั้งนั้น/ดัชนีเชื่อมั่นต่ำกว่า50ทุกรายการ/ตรุษจีนเงินไม่สะพัด
https://voicetv.co.th/read/dFAkYMX6A
'สุดารัตน์' นำ 'เพื่อไทย' ถกผู้ประกอบการ - ผู้ค้าย่านประตูน้ำ โดยกลุ่มผู้ค้าครวญกว่าร้อยละ 50 ยอดขายตกลง ชี้ทุนต่างชาติขนาดใหญ่เข้ามาทำลายคนตัวเล็ก ด้าน 'เพื่อไทย' ซัดรัฐบาลให้ความสำคัญต่างชาติมากกว่าคนไทย ยืนยันชงญัตติแก้ปัญหาผลกระทบดังกล่าวเข้าสภาฯ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทย นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายประพนธ์ เนตรรังษี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ร่วมประชุมสัมมนารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ค้าย่านประตูน้ำ
โดยกลุ่มผู้ค้าสะท้อนถึงปัญหา หลากหลายประเด็น โดยเรื่องใหญ่คือยอดขายที่ตกลงกว่าร้อยละ 50 - ร้อยละ 70 ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลจากการเข้ามาของกลุ่มทุนจีน และการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงออนไลน์ ต่างชาติยักษ์ ใหญ่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการงดเว้นภาษี ในส่วนของออฟไลน์ผู้ค้าต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นจีนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น วิธีการเข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีกระบวนการที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของไทย ซึ่งอาจมีผลประโยชน์มาแลกเปลี่ยน ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น อย่างต่อเนื่องมีผลทำให้ยอดขายตกลง ส่งออกได้รับผลกระทบ ย้ายฐานการผลิต
นายโภคิน มองว่านักธุรกิจชาวจีนเข้ามามากขึ้น รวมถึงเมียนมา เวียดนาม ลาว มีการแข่งขันกับผู้ประกอบการไทย สถานการณ์เป็นเช่นนี้มาประมาณ 5 ปีซึ่งจุดแข็งของผู้ประกอบการที่เป็นคนจีนคือมีความขยัน เจ้าเล่ห์ไม่สนใจข้อกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับผลประโยชน์จากพ่อค้าจีน ประกอบกับรัฐบาลของประเทศต้นทางให้การสนับสนุนเช่นเรื่องของค่าขนส่ง หรือการคืนอัตราภาษี ส่วนไทยแม้ผู้ประกอบการพยายามดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้องแต่เมื่อเข้าสู่ระบบกลับถูกตรวจสอบย้อนหลัง ขณะที่ภาษีนิติบุคคลไม่ว่าจะมีกำไรมากน้อย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งหมด เกิดช่องว่างระหว่างผู้ค้าตัวเล็กกับบริษัทขนาดใหญ่ จึงเห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่ควรเสียภาษีเพิ่มขึ้น ไม่ให้ภาระตกไปอยู่กับคนตัวเล็ก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเข้ามาของผู้ค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากจีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้มีอำนาจอาจดีใจเมื่อเห็นการลงทุนหลักหมื่นล้าน จากต่างชาติแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการขนาดเล็กขนาดกลางของไทยกลับเสียเป็นแสนล้าน นอกจากนี้ผู้ประกอบการแสดงความต้องรวมตัวเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงมีแนวคิดที่จะเชิญผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมาพูดคุยเพื่อจัดทำข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมให้รัฐบาลโดยเสนอผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งญัตติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่าจากที่รับฟังปัญหาทราบว่า รัฐบาลส่งเสริมต่างชาติมากกว่า ส่วนเอสเอ็มอีในประเทศไทย เช่นการให้สิทธิพิเศษกับค้าส่งหรือออนไลน์ยักษ์ใหญ่ จนทำให้การทำมาหากินของคนไทยได้รับผลกระทบ ทุนใหญ่ภาษีไม่ต้องเสีย ได้รับการยกเว้นพิธีการทางศุลกากรทุกอย่าง ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศต้นทาง ทำให้ผู้ประกอบการของไทย ไม่ว่าจะเป็นประตูน้ําสําเพ็งตลิ่งชัน บางบอน ได้รับผลกระทบ ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องทบทวนการคุ้มครองและให้สิทธิพิเศษกับคนต่างชาติที่มาค้าขายแข่งกับคนไทย โดยเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ คือการให้สิทธิพิเศษกับคนไทยโดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็ก เอสเอ็มอีจะต้องได้สิทธิพิเศษให้แข็งแรงเพียงพอที่จะยืนสู้กับคนต่างชาติได้
ขณะที่เรื่องของค่าเงินบาทเป็นปัญหาหลักทีขณะที่เรื่องของค่าเงินบาทเป็นปัญหาหลักที่ทำให้การส่งออกและการท่องเที่ยวซบเซา รัฐต้องมีวิธีการบริหารจัดการไม่ปล่อยปละละเลย โดยเชื่อว่ามีหลายมาตรการที่ทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยไม่ใช้การแทรกแซง
ส่วนมาตรการทางภาษีที่เข้ามาตรวจสอบทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าเข้าสู่ระบบ พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าจำเป็นต้องลดภาษี นิรโทษกรรมแล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งทั้งหมดจะทำเป็นรายงานและจะจัดสัมมนาใหญ่อีกครั้ง
ช่อ ปัดอนาคตใหม่ ปลุกม็อบชุมนุม ชี้ถ้าคนจะเดือด มาจากรัฐบาลทำตัวเองทั้งนั้น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3382217
เราเห็นอยู่แล้วในงานวิ่งไล่ลุง คนที่ไปก็รู้ว่าตอนที่วิ่งเป็นคนหนุ่มสาวซะเยอะ เพราะจะให้คนอายุ 50-60 ปีไปวิ่งก็คงมีไม่เยอะที่วิ่งไหว แต่ถ้าดูคนที่ไปร่วมงาน ที่มาพบปะคุยกันจะเห็นว่า มีทุกช่วงวัย
อีกอย่างเราได้เห็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง คือไม่ได้มีฝ่ายใดพยายามจัดงานให้ชนในสถานที่เดียวกัน แม้จะชนวัน เวลาก็จริง แต่คนทั้งสองกลุ่มไม่มีทางมาปะทะกันแน่นอน อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า มันคงหมดสมัยแล้วที่จะนำมวลชนต่อมวลชนมาปะทะกัน เพราะทุกคนคงไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
“ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือ อย่าเอาคนมาปะทะกันให้เกิดความรุนแรง อย่าไปใช้วาจาดูถูก ดูหมิ่น ยุยง กันไปมา ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกลียดกันมากขึ้น อีกอย่างคือรัฐบาลเองควรอำนวยความสะดวกในการแสดงออกของประชาชนให้เท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย พูดตรง ๆ คือ เราเห็นว่า ลุ้นอยุ่ทุกวันว่างานวิ่งไล่ลุงจะได้จัดไหม แต่งานเดินเชียร์ลุงราบรื่นมาก เราหวังว่ารัฐเองจะปล่อยให้การแสดงออกแบบนี้เป็นไปอย่างเสรี”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตุในปี 2563 พรรคอนาคตใหม่ พยายามจะเร่งปฏิกริยาให้เกิดการชุมนุม โฆษกอนาคตใหม่ กล่าวว่า คนที่เร่งปฏิกริยาน่าจะเป็นรัฐบาลมากกว่า ต่อให้ใครจะกระตุ้นประชาชนขนาดไหน มันกระตุ้นไม่ขึ้นหรอก หากไม่มีปัจจัยที่ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเดือดร้อนจริง ๆ
“คุณดูสิ น้ำประปาก็เค็ม ฝุ่น PM 2.5 ก็เยอะ คนตกงานเป็นว่าเล่น มีคนฆ่าตัวตายรายวัน ซึ่งเราไม่เห็นข่าวแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2540 แต่ตอนนี้กลับมาอีก ปัญหาเหล่านี้รุมล้อมและทำให้คนรู้สึกว่าเราต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เพราะฉะนั้นคนที่จะเร่งปฏิกริยากระแสของประชาชนคือรัฐบาลเอง”