ขอบ่น TG 626/627 ไป Sendai (SDJ) หน่อยครับ
ขาไป 28/12/2562 TG 626 นั่งแถวที่ 51 A และ 51 B พอขึ้นเครื่อง เจอเลยครับตู้เก็บสัพพาระบนศีรษะ มีคนเอากระเป๋าเดินทางไปใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเอาของเราไปไว้ช่องอื่นแทน นั่งไปซักพักสังเกตุเห็นว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่อง ดูแลผู้โดยสารแถวหน้า (50A,50B ,50C) ของเราดีจัง พอสังเกตุดูการแต่งตัว ถึงบางอ้อว่า “กระโปรงม่วง เสื้อชมพูบานเย็น” นี้เอง ถึงว่าดูแลดีเป็นพิเศษ จนก่อนเครื่องลงพนักงานต้อนรับบนเครื่องมาเสริฟ์อาหาร ปรากฏว่า ท่านผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ที่นั่ง 50 A เธอไม่ทานอาหาร เธอจะนอนและไม่ยอมปรับเก้าอี้ขึ้น เพื่อให้แถวของผมสามารถทานอาหารได้สะดวกหน่อย พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็ดูแลเธอดีมากปล่อยไปอย่างนั้น ไม่ยอมปลุกหรือแจ้งให้เธอทำการปรับเก้าอี้ซักนิดหนึ่ง อาจจะเพราะความเกรงใจว่าอาวุโสกว่า และปล่อยให้เราลำบากไป เฮ้อ.........
ขากลับ 5/1/2563 TG 627 นั่งแถวที่ 51 A และ 51 B เหมือนเดิม พอขึ้นเครื่อง เจอเลยครับตู้เก็บสัพพาระบนศรีษะ ปิดไปแล้วเรียบร้อยแถม พนักงานต้อนรับบนเครื่อง แจ้งว่า “ห้ามเปิด เต็มแล้วค่ะ” สุดท้ายเราต้องเอาของตัวเองไปเบียดเข้าที่ช่องเก็บ 52 53 แทน (ดีว่าของไม่หาย) พอนั่งปุบเหมือนเดิมแฮะ พนักงานต้อนรับบนเครื่องดูสนิทสนมและเอาใจใส่ดูแลผู้โดยสารแถวหน้า (50A,50B ,50C) ดีอีกแล้ว อ้าวแต่คราวนี้แต่งตัวแบบธรรมดานี่ไม่ใช่เครื่องแบบ พอซักพักก่อนเครื่องลงประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มมีการเคลื่อนไหวถือถุงเสื้อสูทไปห้องน้ำทั้งแถวเลย กลับมาอ้าว“กระโปรงม่วง เสื้อชมพูบานเย็น” อีกแล้ว แต่รอบนี้ดีหน่อยว่าน้องที่นั่ง 50 A มีมารยาทดีมาก สังเกตุเห็น อ๋อสาวญี่ปุ่นนี่เอง ถึงได้รู้จักเกรงใจผู้โดยสารที่เสียเงิน
สรุปคือ
1.สัพพาระของผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ ทำให้เบียดบังที่เก็บสัพพาระผู้โดยสารคนอื่น ส่งผลทำให้เราก็ต้องไปเบียดคนอื่นต่อ จริงๆถ้าเดินทางมาด้วยในฐานะผู้โดยสาร หรืออาศัยเดินทางมาเพื่อปฏิบัตหน้าที่ก็ตาม ผมว่าไม่ควรปิดกั้นไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นเอาสัพพาระไปใส่ด้วยหรือควรจะโหลดกระเป๋าไปเลยครับ เพราะอย่างไรเสียก็มี Priority Bag คอยรองรับอยู่แล้ว ทำแบบนี้ดูมีอภิสิทธิ์ชนมากว่าคนที่เสียเงินจองที่นั่ง,จ่ายค่าโดยสาร และทำให้ทุกท่านยังมีงานทำกันอยู่
2.ผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ทั้งหลาย ท่านมาในฐานะผู้โดยสารและด้วยจิตสำนึกในการทำงานบริการ ควรจำเป็นอย่างที่จะต้องทำการปรับที่นั่งให้โดยอัตโนมัติ เพราะตนเองทราบดีอยู่แล้วว่าการกระทำเช่นนี้กระทบต่อสิทธิ์ต่อผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลังอยู่ หาสามัญสำนึกไม่มี ไม่รู้ทำงานด้านนี้ได้ไง
3. พนักงานต้อนรับบนเครื่อง ที่ปฏิบัติหน้าที่ควรจะทำหน้าที่ของตน อย่าเห็นแก่พรรคพวกตัวเอง หรือมองว่าอาวุโสกว่า ตำแหน่งสูงกว่าแล้วไม่กล้าบอก ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่เสียเงินจองที่นั่ง,จ่ายค่าโดยสาร มาใช้บริการท่าน ไม่ได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งผมเดินทางมากับหลายสายการบิน มั่นใจว่าสายการบินอื่นไม่เป็นแบบนี้ เค้าดูแลเทคแคร์ผู้โดยสารทุกคนดีเสมอภาคกัน โดยเฉพาะเวลาทานอาหารเค้าจะเดินมาและแจ้งให้ทุกคนปรับเบาะที่นั่งเพื่อให้คนด้านหลังสามารถทานอาหารได้สะดวกสบาย ถึงแม้ว่าผู้โดยสารจะหลับอยู่ก็ตาม
4.การที่ต้องเสียที่นั่งในลักษณะแบบนี้ ซึ่งทั้ง 2 ไฟล์ เสียที่นั่งไป 9 ที่นั่ง /ไฟล์ เป็นเงินประมาณ 180,000 บาทต่อไฟล์ (อ้างอิงจากราคาที่ผมจองและรอบบริเวณที่ผมนั่ง) ด้วยเงินจำนวนนี้น่าจะพอช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆของ TG ได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่การเสียที่นั่งในลักษณะแบบนี้ไป ทำให้คนไทยอย่างผมมองว่า TG มีปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการ,สวัสดิการพนักงานและจิตสำนึกในการให้บริการผู้โดยสารของพนักงาน ก็ไม่แปลกที่ TG จะขาดทุน และหลายๆคนจะเลิกใช้บริการท่านไป เช่นเดียวกับผมก็จะไม่ใช้บริการ TG อีกแล้ว เพราะโดยภาพรวมแล้วไม่มีอะไรประทับใจเลยจริงๆ (จากประสบการณ์ประทับใจ สายการบิน Korea air,EVA)
5.ทั้งขาไปและขากลับใช้รถบัสไปส่งที่เครื่องบิน ขาไปพอรับได้เพราะออกดึก แต่ขากลับลงมาจากเครื่องเจอแดดร้อนๆ แทบแย่เพราะปรับสภาพไม่ทัน ในเมื่อ TG จะขาย Direct Flight ในกรณี SDJ ผมว่าเข้าเทียบที่ Gate หน่อยดีไหมครับ เพราะ TG ก็แชร์ผู้โดยสารกับ ANA และ JAL อยู่แล้วผมว่าน่าจะดูดีกว่าเยอะครับ
ปล.ข้อความนี้มิได้มีเจตนา/จงใจ ทำลายชื่อเสียง TG แม้แต่นิด เป็นเพียงเสียงสะท้อนจากผู้โดยสารตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งอยากเห็น TG มีกำไรประคองธุรกิจไปได้ (SDJ มีอนาคตครับ TG มาถูกทางแล้ว) ใช่ว่าซักแต่จะทำแล้วขาดทุนอยู่ร่ำไป ผมมองว่างานบริการเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากต่อความรู้สึกของผู้ใช้บริการ ดังนั้นงานด้านบริการ TG ต้องทำได้ดีกว่านี้ ถ้าพนักงานคนไหนแก่กะโหลกกะลา ปรับไม่ได้แล้ว ในเชิงบริหารก็ล้างเลือดใหม่เข้าคนรุ่นใหม่ที่รักในการทำงานบริการและพร้อมกว่าเข้าทำเถอะครับ
ขอบ่น TG SDJ ไฟล์ท หน่อยครับ
ขาไป 28/12/2562 TG 626 นั่งแถวที่ 51 A และ 51 B พอขึ้นเครื่อง เจอเลยครับตู้เก็บสัพพาระบนศีรษะ มีคนเอากระเป๋าเดินทางไปใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเอาของเราไปไว้ช่องอื่นแทน นั่งไปซักพักสังเกตุเห็นว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่อง ดูแลผู้โดยสารแถวหน้า (50A,50B ,50C) ของเราดีจัง พอสังเกตุดูการแต่งตัว ถึงบางอ้อว่า “กระโปรงม่วง เสื้อชมพูบานเย็น” นี้เอง ถึงว่าดูแลดีเป็นพิเศษ จนก่อนเครื่องลงพนักงานต้อนรับบนเครื่องมาเสริฟ์อาหาร ปรากฏว่า ท่านผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ที่นั่ง 50 A เธอไม่ทานอาหาร เธอจะนอนและไม่ยอมปรับเก้าอี้ขึ้น เพื่อให้แถวของผมสามารถทานอาหารได้สะดวกหน่อย พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็ดูแลเธอดีมากปล่อยไปอย่างนั้น ไม่ยอมปลุกหรือแจ้งให้เธอทำการปรับเก้าอี้ซักนิดหนึ่ง อาจจะเพราะความเกรงใจว่าอาวุโสกว่า และปล่อยให้เราลำบากไป เฮ้อ.........
ขากลับ 5/1/2563 TG 627 นั่งแถวที่ 51 A และ 51 B เหมือนเดิม พอขึ้นเครื่อง เจอเลยครับตู้เก็บสัพพาระบนศรีษะ ปิดไปแล้วเรียบร้อยแถม พนักงานต้อนรับบนเครื่อง แจ้งว่า “ห้ามเปิด เต็มแล้วค่ะ” สุดท้ายเราต้องเอาของตัวเองไปเบียดเข้าที่ช่องเก็บ 52 53 แทน (ดีว่าของไม่หาย) พอนั่งปุบเหมือนเดิมแฮะ พนักงานต้อนรับบนเครื่องดูสนิทสนมและเอาใจใส่ดูแลผู้โดยสารแถวหน้า (50A,50B ,50C) ดีอีกแล้ว อ้าวแต่คราวนี้แต่งตัวแบบธรรมดานี่ไม่ใช่เครื่องแบบ พอซักพักก่อนเครื่องลงประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มมีการเคลื่อนไหวถือถุงเสื้อสูทไปห้องน้ำทั้งแถวเลย กลับมาอ้าว“กระโปรงม่วง เสื้อชมพูบานเย็น” อีกแล้ว แต่รอบนี้ดีหน่อยว่าน้องที่นั่ง 50 A มีมารยาทดีมาก สังเกตุเห็น อ๋อสาวญี่ปุ่นนี่เอง ถึงได้รู้จักเกรงใจผู้โดยสารที่เสียเงิน
สรุปคือ
1.สัพพาระของผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ ทำให้เบียดบังที่เก็บสัพพาระผู้โดยสารคนอื่น ส่งผลทำให้เราก็ต้องไปเบียดคนอื่นต่อ จริงๆถ้าเดินทางมาด้วยในฐานะผู้โดยสาร หรืออาศัยเดินทางมาเพื่อปฏิบัตหน้าที่ก็ตาม ผมว่าไม่ควรปิดกั้นไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นเอาสัพพาระไปใส่ด้วยหรือควรจะโหลดกระเป๋าไปเลยครับ เพราะอย่างไรเสียก็มี Priority Bag คอยรองรับอยู่แล้ว ทำแบบนี้ดูมีอภิสิทธิ์ชนมากว่าคนที่เสียเงินจองที่นั่ง,จ่ายค่าโดยสาร และทำให้ทุกท่านยังมีงานทำกันอยู่
2.ผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ทั้งหลาย ท่านมาในฐานะผู้โดยสารและด้วยจิตสำนึกในการทำงานบริการ ควรจำเป็นอย่างที่จะต้องทำการปรับที่นั่งให้โดยอัตโนมัติ เพราะตนเองทราบดีอยู่แล้วว่าการกระทำเช่นนี้กระทบต่อสิทธิ์ต่อผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลังอยู่ หาสามัญสำนึกไม่มี ไม่รู้ทำงานด้านนี้ได้ไง
3. พนักงานต้อนรับบนเครื่อง ที่ปฏิบัติหน้าที่ควรจะทำหน้าที่ของตน อย่าเห็นแก่พรรคพวกตัวเอง หรือมองว่าอาวุโสกว่า ตำแหน่งสูงกว่าแล้วไม่กล้าบอก ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่เสียเงินจองที่นั่ง,จ่ายค่าโดยสาร มาใช้บริการท่าน ไม่ได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งผมเดินทางมากับหลายสายการบิน มั่นใจว่าสายการบินอื่นไม่เป็นแบบนี้ เค้าดูแลเทคแคร์ผู้โดยสารทุกคนดีเสมอภาคกัน โดยเฉพาะเวลาทานอาหารเค้าจะเดินมาและแจ้งให้ทุกคนปรับเบาะที่นั่งเพื่อให้คนด้านหลังสามารถทานอาหารได้สะดวกสบาย ถึงแม้ว่าผู้โดยสารจะหลับอยู่ก็ตาม
4.การที่ต้องเสียที่นั่งในลักษณะแบบนี้ ซึ่งทั้ง 2 ไฟล์ เสียที่นั่งไป 9 ที่นั่ง /ไฟล์ เป็นเงินประมาณ 180,000 บาทต่อไฟล์ (อ้างอิงจากราคาที่ผมจองและรอบบริเวณที่ผมนั่ง) ด้วยเงินจำนวนนี้น่าจะพอช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆของ TG ได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่การเสียที่นั่งในลักษณะแบบนี้ไป ทำให้คนไทยอย่างผมมองว่า TG มีปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการ,สวัสดิการพนักงานและจิตสำนึกในการให้บริการผู้โดยสารของพนักงาน ก็ไม่แปลกที่ TG จะขาดทุน และหลายๆคนจะเลิกใช้บริการท่านไป เช่นเดียวกับผมก็จะไม่ใช้บริการ TG อีกแล้ว เพราะโดยภาพรวมแล้วไม่มีอะไรประทับใจเลยจริงๆ (จากประสบการณ์ประทับใจ สายการบิน Korea air,EVA)
5.ทั้งขาไปและขากลับใช้รถบัสไปส่งที่เครื่องบิน ขาไปพอรับได้เพราะออกดึก แต่ขากลับลงมาจากเครื่องเจอแดดร้อนๆ แทบแย่เพราะปรับสภาพไม่ทัน ในเมื่อ TG จะขาย Direct Flight ในกรณี SDJ ผมว่าเข้าเทียบที่ Gate หน่อยดีไหมครับ เพราะ TG ก็แชร์ผู้โดยสารกับ ANA และ JAL อยู่แล้วผมว่าน่าจะดูดีกว่าเยอะครับ
ปล.ข้อความนี้มิได้มีเจตนา/จงใจ ทำลายชื่อเสียง TG แม้แต่นิด เป็นเพียงเสียงสะท้อนจากผู้โดยสารตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งอยากเห็น TG มีกำไรประคองธุรกิจไปได้ (SDJ มีอนาคตครับ TG มาถูกทางแล้ว) ใช่ว่าซักแต่จะทำแล้วขาดทุนอยู่ร่ำไป ผมมองว่างานบริการเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากต่อความรู้สึกของผู้ใช้บริการ ดังนั้นงานด้านบริการ TG ต้องทำได้ดีกว่านี้ ถ้าพนักงานคนไหนแก่กะโหลกกะลา ปรับไม่ได้แล้ว ในเชิงบริหารก็ล้างเลือดใหม่เข้าคนรุ่นใหม่ที่รักในการทำงานบริการและพร้อมกว่าเข้าทำเถอะครับ