‘เหลิม’ ซัด ‘ประยุทธ์’ อย่าจุ้นปมซักฟอกขุดยุค คสช. ไม่ใช่หน้าที่ ลั่นมวยยกแรกเริ่มแล้ว
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3314073

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการกิจการพิเศษ (กพศ.) พรรคเพื่อไทย โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน กพศ. เพื่อเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เบื้องต้นที่ กพศ.ได้กำหนดตัวรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไว้ 5 คนนั้น จากการหารือจะเสนอนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้นำไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีก 6 พรรคว่าจะเพิ่มเติมรัฐมนตรีท่านอื่นอีกหรือไม่ หากมีก็ไม่ขัดข้อง ถือว่าเป็นสิทธิชอบธรรมในการทำงานร่วมกัน แม้แต่คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย หากมีข้อมูลและตัวบุคคลไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ตนก็ไม่ขัดข้อง
 
“ขณะนี้เรามีความพร้อม 100% ทั้ง ส.ส.ผู้ที่จะอภิปราย และพยานหลักฐาน ยืนยันว่าจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง แต่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อผู้อภิปราย เพราะรัฐบาลนี้ต่อเนื่องมาจาก คสช.ที่มีนิสัยเกเร ใครเห็นต่างก็หัวแตก ปากแตก ถูกทุบรถ และยังไม่สามารถจับใครได้เลย แต่เบื้องต้นฝ่ายค้านจะเตรียมผู้อภิปราย 25 คน ส่วนวันเวลาในการอภิปราย ผมอยากให้พ้นเทศกาลตรุษจีนไปก่อน อยากให้คนจีนสนใจเยอะๆ”
 
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาระบุว่ารัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 5 เดือน ไม่ควรอภิปรายเรื่องเก่านั้น ตนไม่คัดค้าน แต่ไม่เห็นด้วย เพราะรัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีผู้นำปฏิวัติเป็นนายกฯ นายกฯ มี ม.44 มีสนช.ในสภาฯ แล้วใครจะกล้า ดังนั้น จึงอย่าพูดและอย่ามากำหนดว่าอะไรควร ไม่ควรพูด เพราะเรื่องอยู่ที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อย่ามาพูดว่าฝ่ายค้านเล่นการเมืองจนทำให้สับสน การออกมาพูดแบบนี้ถือว่ารัฐบาลกินยาผิดซองแล้ว พวกคุณไม่มีหน้าที่กำหนด อย่างนี้เรียกว่า ปากกล้าขาสั่น
 
“พวกคุณหมดเวลาแล้ว พอเถอะ วันนี้ไม่มีใครกลัวใคร แล้วเลิกคิดที่จะไปตีหัวใคร วันนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้อภิปรายนะ ดังนั้นอย่ามาคุกคามผม ส่วนกรณีที่เปิดข้อมูลการซื้อขายที่ดินของครอบครัวของ พล.อ.ประยุทธ์ย่านบางบอนนั้น ผมไม่สามารถพูดได้ว่าจะโยงไปทำให้พล.อ.ประยุทธ์มีตำหนิหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามวยยกแรกเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนรายละเอียดมีผู้ที่จะอภิปรายแล้ว ผมพูดมากเดี๋ยวรสชาติไม่มี วันนี้ผมจั่วหัวให้แล้ว พรรคต้องเดินต่อ ผมเป็นแค่กองหนุน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
 
เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่าจะอภิปรายย้อนไปในสมัยรัฐบาล คสช.ได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากประธานชวนอนุญาตแล้ว รัฐบาลจะทำอย่างไร นอกจากยืนขึ้นแล้วขอไม่ตอบ ไม่ตอบก็เรื่องของคุณ ส่วนประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่ขอบอก เพราะต้องรออีก 6 พรรคร่วมด้วย แต่ตนมั่นใจว่าหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้กระแสสังคมเบื่อนายกฯ และรัฐบาล จนคนชิงชังว่า มีเรื่องมีราวกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ
 
“ส่วนล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น ขอถามกลับว่ามีสมัยไหนที่เขาโหวตล้มกันเอง ไม่มีหรอก แต่ครั้งนี้ผมทายใจผู้แทนไม่ออก ถ้าข้อมูลฝ่ายค้านไหลมากๆ ผู้แทนก็อาจรักบ้านรักเมือง ไม่เอาด้วยกับรัฐบาลแล้วก็เป็นได้ แต่ฝ่ายเราโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้น อาจเป็นข่าวที่รัฐบาลไอโอก็ได้ เขาทำเก่งว่าเรามีงูเห่าเยอะนั้น ผมไม่เชื่อ เพราะผู้แทนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณภาพ ผมอยู่มานานเชื่อมั่นพวกเรากันมากกว่า ส่วนจะส่งนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย บุตรชาย เป็นตัวแทนในการอภิปรายหรือไม่ ถือเป็นสิทธิ แต่ในใจผมมองว่าพรรษายังไม่ถึง ยังมีอีกหลายครั้ง ยังมีเวลา”
 
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ กพศ. กล่าวว่า คงได้มีการหารือกับอีก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้า เพื่อสรุปข้อมูลและตัวบุคคลที่จะอภิปราย ยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ไม่เลอะเทอะ ไม่กระจัดกระจาย แต่ต้องการชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความไม่เหมาะสม ความไร้ประสิทธิภาพของตัวรัฐบาล ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ จะส่งผลกระทบต่อการวางตัวผู้ที่อภิปรายหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องอนาคต เพราะเป็นเรื่องของพรรคอนาคตใหม่จะพิจารณา แต่มั่นใจว่าพรรคฝ่ายค้านจะร่วมมือกันอย่างดีทั้ง 7 พรรค รวมทั้งพรรคเศรษฐกิจใหม่ด้วย
 

---

 
“ศรีสุวรรณ”แนะนายกฯลาออกเชื่อ ศก.ดีขึ้นแน่
https://www.innnews.co.th/politics/news_567189/

"ศรีสุวรรณ" มาแรง แนะนายกฯลาออก เชื่อเป็นทางออกแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เย้ยอ่าคิดว่าเก่งอยู่คนเดียว ปล่อยให้คนที่มีความสามารถมากกว่ามาทำหน้าที่แทน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Srisuwan Janya” ว่านับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่กลางปี 2557 จนถึงปัจจุบัน กินระยะเวลาไปกว่า 5-6 ปี แม้จะประสบผลสำเร็จในด้านการควบคุมความขัดแย้งทางการเมืองลงได้ระดับหนึ่ง แต่กลับล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมาก แม้จะพยายามใช้นโยบายประชานิยม สารพัดแจก ที่ตนเองเคยเกลียดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แถมยังใช้ข้ออ้างว่าเป็นปัญหาของเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะที่ไทย แต่คงลืมมองดูเวียดนาม ที่อยู่ในอาเซียนด้วยกันที่เศรษฐกิจเขาโตมากกว่า 7%
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2549294358453343&set=a.395652870484180&type=3
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหันมาพิจารณาตัวเองว่า ไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง การมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็เป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองบังคับเท่านั้น 5 เดือนของ ครม.ใหม่ที่ผ่านมา จึงเป็นบทพิสูจน์ได้ชัดยิ่งว่าล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการทำลายการส่งออกโดยสิ้นเชิง แม้พยายามจะใช้มาตรการเอื้อกลุ่มทุนโดยการผลักดัน EEC แก้ไขกฎหมายภาษีที่ดิน ให้ต่างชาติมาเช่าที่ได้ 99 ปี แก้ไขกฎหมายประมงเพื่อเอาใจอเมริกา-ยุโรป ปล่อยให้ต่างชาติมาแย่งอาชีพคนไทยจนเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ฯลฯ แต่คงลืมไปว่าปัญหาปากท้องของคนจน คนชั้นกลางเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ามาตรการต่างๆ เหล่านั้น ที่พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลว และกำลังนำไปสู่การก่อปัญหาใหม่ๆที่ยากจะแก้ไขได้ตามมา
 
นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กระแนะกระแน๋ว่าถ้าจะตำหนิปัญหาเศรษฐกิจ ก็ให้บอกทางแก้มาด้วยนั้น อย่าพูดเอามันเฉยๆ นั้น เรื่องพรรค์นี้คนไทยไม่ได้พูดเอามันครับ ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีมากมายครับ แต่ที่สำคัญมากที่สุด คือ ขอแนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากนายกรัฐมนตรีไปเสียเถอะครับ อย่าคิดว่าท่านเก่งอยู่คนเดียว ให้คนที่มีความสามารถมากกว่ามาทำหน้าที่แทนเถอะ เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะกลายเป็นกระทิงขึ้นมาทันที ไม่เชื่อลองดูสิครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2549294358453343&set=a.395652870484180&type=3