นักวิเคราะห์คาดปี 2563 SET ไป 1800 จุด

กระทู้คำถาม
https://www.matichonweekly.com/column/article_259793

ตั้งไข่หุ้นไทยปี ’63
ดัชนี 1,800 จุด
ไต่ถึงหรือซ้ำรอยปีหมูลุยไฟ…รอดู!
 
ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนดัชนีหุ้นไทยจะกลับเข้าสู่วังวนของการซึมตัวลงอีกครั้ง
หลังจากช่วงก่อนหน้านั้น ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนอย่างหนัก
โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1,574.34 จุด ซึ่งนับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2563 แต่ดูเหมือนดัชนีหุ้นไทยจะยังไม่มีวี่แววปรับตัวขึ้นได้
โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ดัชนีปิดตลาดในภาคเช้าและภาคบ่ายไม่ถึง 1 จุดดี
ทำให้ความหวังที่จะเห็นดัชนีไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดที่นักวิเคราะห์ออกมาคาดกาณ์กันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ระดับ 1,740-2,000 จุด นอกจากจะเป็นไปได้ยากมากแล้ว
ยังอาจจะเห็นปิดปี 2562 ด้วยระดับที่ขึ้นไม่ถึง 1,600 จุดด้วยซ้ำ!
 
โดยต้องบอกว่าปีนี้ถือเป็นปีที่หนักหนาสาหัสกันแทบทุกภาคส่วน
ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นเอง เนื่องจากเปิดปีมาด้วยปัญหาสงครามการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐและจีน โดยมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้การค้าโลกชะลอการเติบโตลง ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลก จนกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศ
เนื่องจากภาคการส่งออกถือเป็นเครื่องมือสร้างรายได้สำคัญของไทยในสัดส่วนกว่า 70% ของภาพรวม เติบโตลดลง
ต่อมาเกิดความไม่แน่นอนในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (เบร็กซิท) ทำให้เศรษฐกิจในประเทศยุโรปโตช้าลง
รวมถึงเจอปัจจัยกระทบจากในประเทศไทยเอง ได้แก่ การเมืองไทยที่สร้างความปั่นป่วนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง หลังเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาล จนกระทั่งเกิดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำขึ้นทำให้เป้าหมายที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ออกมาคาดการณ์ไว้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
ปี 2563 ที่กำลังจะก้าวมาถึง หลายสำนักได้ออกมาให้ทิศทางไว้เบื้องต้นแล้ว ส่วนใหญ่มองภาพดีขึ้นกว่าปี 2562 แทบทั้งหมด
โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในกรอบ 1,450-1,725 จุด โดยต้องเผชิญกับความท้าทายของปัจจัยเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก ค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
คาดว่าปี 2563 การส่งออกไทยจะติดลบที่ 2% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) อาจไม่ดีเท่ากับปี 2562
 
 
 
สอดคล้องกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด มองว่าตลาดหุ้นไทยในปี 2563 ในส่วนของตลาดหุ้นเกิดใหม่ ประเมินว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้ว
เนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงพอสมควร ขณะที่แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังน่าจะไปได้ดี
สำหรับตลาดหุ้นไทยในปี 2563 ประเมินจากปัจจัยพื้นฐาน จึงคาดว่าเป้าหมายสูงสุดของดัชนีจะอยู่ที่ 1,732 จุด ภายใต้พีอี 16 เท่า (อัตราส่วนทางการเงิน ที่จะแสดงถึงอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ ที่ได้จากการนำราคาหุ้นมาเทียบกับกำไรต่อหุ้น)
โดยคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะเติบโตที่ 9% โดยหากมองในกรณีที่ดีที่สุด คาดว่าดัชนีมีโอกาสขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,780 จุดเท่านั้น
ไม่แตกต่างจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ที่มองว่า ในปี 2563 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้ โดยปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ที่จะเร่งตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้จีดีพี ปี 2563 จะโตได้ที่ 2.7 % จึงให้เป้าหมายดัชนีสูงสุดอยู่ที่ระดับ 1,734 จุด พีอี 16.75 เท่า
พร้อมทั้งคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขยายตัวที่ 10.3% หากเทียบกับปี 2562
 
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ มองว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2563 แม้ยังคงมีความเสี่ยงด้านมหภาค เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังเติบโตได้ แม้จะเป็นการโตต่ำลง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จึงประเมินกรอบดัชนีไว้ที่ 1,600-1,800 จุด
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า เป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,800 จุด ซึ่งถือว่าต้องดีกว่าปีนี้แน่นอน พร้อมทั้งคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะเติบโต 8-9% จากปี 2562 ที่กำไรบริษัทจดทะเบียนค่อนข้างโตทรงตัวจากปี 2561
จะเห็นว่าดัชนีหุ้นไทยที่คาดหวังได้เห็นอยู่ในระดับ 1,730 จุด ไปจนถึง 1,800 จุด สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทย หรือเพียงแค่ความหวังลมๆ เนื่องจากหากประเมินตามภาพรวมของตลาดหุ้นไทย
จะเห็นว่าในเดือนธันวาคม 2562 เป็นเดือนที่ดัชนีหุ้นปรับลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
 
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 ตลาดหุ้นไทยปิดลบสวนทางภูมิภาคกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ที่ส่วนใหญ่ปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากเกิดความกังวลในเรื่องของการเจรจาการค้า หลังจากจีนได้ออกมาประกาศว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้ ในการที่สหรัฐออกกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
โดยดัชนีปิดลบที่ระดับ 1,569.53 จุด ถือว่าต่ำสุดในรอบ 11 เดือนนับจากวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ซึ่งดัชนีปิดที่ระดับ 1,548.37 จุด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง เพราะใกล้วันหยุดยาวจึงมีการปิดสถานะก่อนคริสต์มาส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่