หรือทางออกสุดท้ายของเราคือการฆ่าตัวตาย..กับโรคซึมเศร้าที่ไม่ดีขึ้นมาสักที

ปัจจุบันเราอายุ 23 เเล้ว ต้องขอบอกก่อนว่าเราเป็นคนนึงที่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งเเต่อยู่ ม.4 เเล้ว เเต่เราไม่รู้จักโรคนี้ว่ามันคืออะไร เพราะด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกต่างจังหวัด จนมันสะสมขึ้นมากว่าจะรักษาได้ก็ตอนเราขึ้นปี1 (ซิ่วอีก1ปี ที่ซิ่วเพราะคิดว่าตัวเองไม่สบายต้องพักเยอะๆถึงจะหายซึ่งเป็นอะไรที่โง่มาก เพราะสมัยนั้นความรู้เรื่องโรคนั้นยังไม่มี อีกทั้งยายเรายังให้ไปรักษากับหมอผีด้วย ซึ่งเราก็เคยไป เหมือนตลกเเต่คนที่ไม่มีทางออกตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงดีกับชีวิตเพื่อให้เราสามารถเรียนต่อได้ ใช้ชีวิตปกติได้) เพราะไม่รู้จะทำยังไง คือเราต้องทนกับอาการซอมบี้นี้มาตลอดถึง 5 ปีก่อนจะได้รับการรักษา เเต่การได้รับการรักษามันไม่ได้หมายความว่าเราจะดีขึ้น เรากลับทรมาน เจ็บปวดเเสนสาหัสกับการปรับยาเเต่ละครั้ง รุนเเรงเเละทรมาน เเต่การนอนของเราไม่ดีขึ้น เราไม่สามารถนอนหลับสนิทได้ การหลับของเราเเต่ละครั้งเเม้จะกินยานอนหลับเเล้วก็เหมือนกับเราวาร์ปไปอยู่อีกโลกหนึ่งไปใช้ชีวิตอีกโลกหนึ่ง ซึ่งสมองไม่หยุดทำงาน พอตื่นมาก็เหมือนคนไม่ได้นอนเลย พอเช้ามาเราก็ต้องนอน นอนแบบนี้ทั้งวัน เเละฝันเเบบนี้ทั้งวัน เพราะการนอนของเราขาดคุณภาพมาก สมองเราเเย่ ตลอดปีที่ผ่านมา เราพบกับความสูญเสียเยอะมาก จากคนที่เป็นโรคซึมเศร้าที่ได้รู้จักกันในกลุ่มเฟซบุค สนิทๆกัน 5 คน ซึ่งทั้ง 5 คนนี้ ไม่มีใครเเม้เเต่คนเดียวที่รอดพ้นหรือรอดชีวิตจากโรคซึมเศร้าเเละไบโพล่าได้เลย ทุกคนฆ่าตัวตายกันหมดในปีที่ไล่เลี่ยกันมา   เเละในปีล่าสุดนั้นเอง ก็อาจรวมเป็น 6 คน ได้ เพราะพ่อเราก็ฆ่าตัวตายเหมือนกันเเต่เราไม่ทราบสาเหตุที่เเน่ชัดว่าท่านเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ที่ผ่านมาเราเคยคิดวางแผนฆ่าตัวตายเเละพยายามจะทำมาหลายต่อหลายครั้ง เเต่เพื่อนๆหรือรุ่นน้องในมหาลัยก็เข้ามาช่วยเหลือเราตลอด เเต่ยิ่งเราปรึกษากับใครเราก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระมากขึ้นทุกครั้ง จนเราเรียนจบมหาลัย เราไม่สามารถจะเข้าพิธีรับปริญญาได้ ทั้งๆที่เราอยากรับมาก เเต่ด้วยอาการแบบนี้ของเรา เราคิดว่าคงจะทำให้คนอื่นลำบากมากกว่า เพราะเเค่เดินแบบคนปกติเรายังเซเลย ไม่สามารถเดินตรงๆได้เพราะคุณภาพการนอนที่ค่อนข้างเเย่มาก เราเลยตัดใจไม่รับปริญญาในต้นเดือนที่ผ่านมา .เรารู้สึกล้มเหลวมาตลอด เราเป็นเด็กที่เรียนดีมาก ขยันเเละตั้งใจ เรารู้ศักยภาพของตัวเอง เเต่เราไม่สามารถใช้มันได้อีกต่อไปเพราะโรคนี้ มันทำลายศักยภาพทั้งหมดออกจากตัวเราหมด  หมอที่รักษาเราปัจจุบัน เราก็เดาออกเเล้วว่าเค้าคงตันเเล้ว ไม่รู้จะรักษายังไงกับเราเเล้ว เพราะปัจจุบันได้ยาเดิมเเละนัดห่างขึ้นมา เรากินยามาหลายตัวมาก แทบจะหมดทุกชนิดที่มีอยู่ในโรงพยาบาลเเล้วหรือเปล่าเราก็ไม่เเน่ใจ เเต่ถ้าบอกชื่อยา โรคซึมเศร้า หรือยานอนหลับยาคลายกังวล เราจำได้หมดทุกตัวเลยว่ากินอะไรมาเเล้วบ้าง เราทำ ECT ไม่จบคอร์สเพราะต้องรีบกลับไปเรียน เเต่พอไปเรียนเราเจอผลข้างเคียงอย่างหนักจนต้องดรอปเรียน ล้มลุกคลุกคลาน จากเรียนดีกลายเป็นหลังมือ เเต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเราอีกเเล้ว เราไม่รู้จะหาทางออกยังไงเเล้วเหมือนชีวิตมันวนลูปเดิมๆ เราเหนื่อยที่จะต้องหาที่รักษาใหม่ๆ เพราะเราไม่ใช่คนรวยอะไร ซ้ำยังเป็นคนที่จนมากด้วยซ้ำ ตอนนี้มันตันไปหมดทุกอย่างจริงๆเราไม่มีทางออก ทำไมชีวิตอุปสรรคมันเยอะจังเลยเหมือนทุกอย่างบีบให้เราฆ่าตัวตายให้สำเร็จสักที ทางบ้านกดดันให้หางานทำ เเต่เราแทบไม่มีเเรงจะเดินจะลุกออกจากเตียง เราอยากตายมากเราไม่มีทางออกเราภาวนาว่าโลกหลังความตายคงไม่มีแน่ๆใช่มั้ย เพราะเรากลัวที่จะต้องตกนรก เราเเค่กลัวว่าถ้าเกิดเราฆ่าตัวตายเพราะโรคนี้เราก็คงเหมือนกับคนที่สอบไม่ผ่าน สุดท้ายก็ต้องกลับมาสอบใหม่ให้ผ่าน  เรายังเสียดายชีวิตตัวเองอยู่นะ เเต่เราไม่รู้จะอยู่ยังไงต่อไปเเล้ว มันไม่มีความหวัง มันมืดๆไปหมด เราอยากมีชีวิตต่ออยากมีลมหายใจใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเเต่เราคงทำอะไรไม่ได้เเล้ว สถานการณ์ทุกอย่างมันบังคับให้เราฆ่าตัวตายให้สำเร็จเท่านั้นคือทางออก จากสถานการณืที่ทั้ง 5 คน ที่เรารู้จักฆ่าตัวตาย มีทั้งคนที่ปฎิบัติธรรม ทั้งนักกีฬา นักวิ่ง ยังไม่มีใครเลยเเม้เเต่คนเดียวที่รอดชีวิตได้ พวกเค้าทั้งเก่งทั้งฉลาด เเต่เราที่กลับทำอะไรไม่ได้เลย เราพยายามเเล้วทุกคน ทั้งไปทำ sleeptest  ทั้ง ECT เราต้องตายจริงๆเเล้วใช่มั้ย ก่อนตายเราก็อยากอธิษฐานขอให้มีวิธีการรักษาโรคนี้ให้ดีขึ้นมีประสิทธิภาพขึ้นในอนาคต เเละไม่ทรมานเเบบนี้หน่อย เราไม่อยากให้คนอื่นต้องมาทุกข์ทรมานเหมือนเรา เหมือนเกิดมาได้ชีวิต เเต่ใช้ชีวิตไม่ได้ อีกไม่กี่วันต่อจากนี้เราไม่รู้ว่าเราจะตัดสินใจยังไงเเต่นี่มันก็คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้เขียนเอาไว้ให้คนอื่นอ่าน หลังจากที่เราไม่มีโอกาสได้หายใจต่อไปเเล้ว ว่าเราสู้มากเเค่ไหน เเต่เค้ากลับมองเราว่าไม่สู้เลย  เเรงเฮือกสุดท้าย 15 ธันวาคม 62
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่