ก่อนอื่น ผมต้องบอกก่อนครับว่า "เป็น" คือผมไม่ได้ชอบผู้หญิงครับ เรื่องมันติดอยู่ในใจมานานเกือบหลายสิบปีละครับ และเรื่องมันเริ่มอึดอัดเรื่อย ๆจนถึงตอนนี้...
ตั้งแต่จำความได้ผมมักจะโดนคนรอบข้างถามว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่า ซึ่งสมัยนั้นยังไม่รู้จักคำว่าเกย์ ตอนแรกผมโกรธมากที่โดนล้อแบบนั้น เพราะผมจะตอบโต้ว่าไม่ได้เป็น
เนื่องด้วยว่าตอนเด็ก ๆผมถูกเลี้ยงดูมาให้อยู่ในกรอบเสมอ แม่กับพ่อดุมาก ท่านเขียนกรอบไว้หมดทุกอย่าง จนผมโตขึ้นผมก็รู้ว่าผม ไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบชู้สาว แต่ผมก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเอง
เหตุผลที่แท้จริง ที่ผมไม่สามารถบอกใครบนโลกใบนี้ได้เลย(พูดหรือเปิดเผยแบบตัวจริง) เพราะ ครั้งหนึ่ง แม่เรียกไปคุยและบอกว่า "ถ้าผมเป็น ตุ๊ด หรือ เกย์ เค้าจะฆ่าตัวตายทันที เค้าอับอาย เค้าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้) เค้าพูดจริงจังมาก ผมรู้จักนิศัยแม่ดีและแม่เค้าทำจริงแน่นอน
ซึ่งถ้าถามว่าเค้าแอนตี้เพศที่สามมั้ย เค้าไม่ได้แอนตี้ เค้ามีเพื่อน มีน้องเป็นเพศที่สามเยอะมาก แต่ใดๆบนโลกใบนี้ ผมคือข้อยกเว้น
จนถึงวัยทำงานไม่ว่าจะผ่านมา6ปี ทุกครั้งจะมีผู้หญิงหลายคนมาถามตลอดว่าเป็นไหม ผมไม่สามารถบอกได้เลยครับ พอมีคนมาถามแบบนี้เพื่อนผู้ชายที่ทำงานก็จะออกห่าง มีสเปช เพราะเวลาเพื่อนผู้ชายอยู่กับผมสองคนมักจะมีสายตาหรือคำนินทาและสุดท้ายเพื่อนก็ออกห่างไปซึ่งผมสัมผัสได้ครับ ผมไม่ชอบอยู่กับผู้หญิงมากเกินไปเพราะ สงคมผู้หญิงวัยทำงาน(บางคน) มักจะชอบนินทา ผมไม่อยากเอาตัวเองมาเกี่ยวข้องเรื่องลบๆแบบนี้ งานที่ทำก็หนักละ ชีวิตต้องการพลังบวกบ้าง
ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจ และ คิดว่าผมผิดมากเลยหรอครับที่ผมเป็น การที่ผมจะมีเพื่อนเป็นผู้ชายมันไม่สามารถเป็นได้เลยหรอครับ ผมไม่ออกเเนวตุ้งติ้ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่เหมือนผู้ชายปรกติ
ไม่ปรกติที่ว่าคือ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุ่หรี่ ไม่ชอบดูบอล ขี้กลัว ไม่มั่นใจในตัวเอง รักสงบ คือผมต้องการแค่เพื่อนผู้ชายเท่านั้นครับ
จนถึงตอนนี้ที่ทำงานใหม่ หัวหน้าก็มาถามอีกว่าเป็นไหม ถ้าเป็นบอกพี่ก่อนที่นายใหญ่จะรู้ เพราะเค้ามักจะไม่ชอบเพศที่สามออกเเนวตุ้งติ้ง ใจอยากตะโกนใจจะขาดว่าเป็น จะได้เลิกถาม เลิกสงสัยกันสักที แต่ติดตรงที่ไม่สามารถบอกได้เพราะแม่
ไม่รู้ว่าพวกเค้าอยากรู้ไปทำไม รู้แล้วเค้าจะได้อะไรจากผม แล้วมีผลกระทบอะไรกับเขา อึดอัดมากครับบวกกับช่วงนี้มีปัญหาทางด้านการเงิน งานที่ทำก็ยาก เพื่อนไม่มีอีก ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านนะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าผมผิดอะไร
การที่ผม ''เป็น'' แต่บอกไม่ได้ มันผิดมากขนาดนั้นหรอครับ
ตั้งแต่จำความได้ผมมักจะโดนคนรอบข้างถามว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่า ซึ่งสมัยนั้นยังไม่รู้จักคำว่าเกย์ ตอนแรกผมโกรธมากที่โดนล้อแบบนั้น เพราะผมจะตอบโต้ว่าไม่ได้เป็น
เนื่องด้วยว่าตอนเด็ก ๆผมถูกเลี้ยงดูมาให้อยู่ในกรอบเสมอ แม่กับพ่อดุมาก ท่านเขียนกรอบไว้หมดทุกอย่าง จนผมโตขึ้นผมก็รู้ว่าผม ไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบชู้สาว แต่ผมก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเอง
เหตุผลที่แท้จริง ที่ผมไม่สามารถบอกใครบนโลกใบนี้ได้เลย(พูดหรือเปิดเผยแบบตัวจริง) เพราะ ครั้งหนึ่ง แม่เรียกไปคุยและบอกว่า "ถ้าผมเป็น ตุ๊ด หรือ เกย์ เค้าจะฆ่าตัวตายทันที เค้าอับอาย เค้าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้) เค้าพูดจริงจังมาก ผมรู้จักนิศัยแม่ดีและแม่เค้าทำจริงแน่นอน
ซึ่งถ้าถามว่าเค้าแอนตี้เพศที่สามมั้ย เค้าไม่ได้แอนตี้ เค้ามีเพื่อน มีน้องเป็นเพศที่สามเยอะมาก แต่ใดๆบนโลกใบนี้ ผมคือข้อยกเว้น
จนถึงวัยทำงานไม่ว่าจะผ่านมา6ปี ทุกครั้งจะมีผู้หญิงหลายคนมาถามตลอดว่าเป็นไหม ผมไม่สามารถบอกได้เลยครับ พอมีคนมาถามแบบนี้เพื่อนผู้ชายที่ทำงานก็จะออกห่าง มีสเปช เพราะเวลาเพื่อนผู้ชายอยู่กับผมสองคนมักจะมีสายตาหรือคำนินทาและสุดท้ายเพื่อนก็ออกห่างไปซึ่งผมสัมผัสได้ครับ ผมไม่ชอบอยู่กับผู้หญิงมากเกินไปเพราะ สงคมผู้หญิงวัยทำงาน(บางคน) มักจะชอบนินทา ผมไม่อยากเอาตัวเองมาเกี่ยวข้องเรื่องลบๆแบบนี้ งานที่ทำก็หนักละ ชีวิตต้องการพลังบวกบ้าง
ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจ และ คิดว่าผมผิดมากเลยหรอครับที่ผมเป็น การที่ผมจะมีเพื่อนเป็นผู้ชายมันไม่สามารถเป็นได้เลยหรอครับ ผมไม่ออกเเนวตุ้งติ้ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่เหมือนผู้ชายปรกติ
ไม่ปรกติที่ว่าคือ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุ่หรี่ ไม่ชอบดูบอล ขี้กลัว ไม่มั่นใจในตัวเอง รักสงบ คือผมต้องการแค่เพื่อนผู้ชายเท่านั้นครับ
จนถึงตอนนี้ที่ทำงานใหม่ หัวหน้าก็มาถามอีกว่าเป็นไหม ถ้าเป็นบอกพี่ก่อนที่นายใหญ่จะรู้ เพราะเค้ามักจะไม่ชอบเพศที่สามออกเเนวตุ้งติ้ง ใจอยากตะโกนใจจะขาดว่าเป็น จะได้เลิกถาม เลิกสงสัยกันสักที แต่ติดตรงที่ไม่สามารถบอกได้เพราะแม่
ไม่รู้ว่าพวกเค้าอยากรู้ไปทำไม รู้แล้วเค้าจะได้อะไรจากผม แล้วมีผลกระทบอะไรกับเขา อึดอัดมากครับบวกกับช่วงนี้มีปัญหาทางด้านการเงิน งานที่ทำก็ยาก เพื่อนไม่มีอีก ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านนะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าผมผิดอะไร