เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมาระหว่างเดินทางไปทำธุระบริเวณประตูน้ำกับสามีซึ่งเป็นชาวยุโรป สามีได้ถูกล้วงกระเป๋า ภายในกระเป๋ามีบัตรเดบิต UOB บัตรเครดิตแบงค์สีเขียว และ บัตรเครติดแบงค์สีเหลือง เมื่อรู้ตัวก้อได้ติดต่อทางธนาคารทันที (ประมาณ 20 นาทีหลังถูกลักทรัพย์) ซึ่งอย่างที่ทราบกันคือต้องรอสายจาก Call center นานมาก ทางแบงค์ได้อายัติบัตร แต่ก้อไม่ได้มีการทวนเเจ้งว่ามีการทำรายการบัตรเดบิตโดยการรูด หลังจากวางสายจึงเห็นว่ามีข้อความเเจ้งว่ามีการใช้บัตร รวมทั้งสามใบมีการรูดทั้งหมด ประมาณสี่เเสนบาท จึงได้โทรไปเเจ้งทางแบงค์อีกครั้งเพื่อปฎิเสธการใช้
ในระหว่างเดินทางไปเเจ้งความที่โรงพักก้อได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร UOB และแบงค์สีเหลือง เจ้าหน้าที่ได้เเจ้งว่า บัตรถูกใช้ที่ร้านขายโทรศัพท์ร้านหนึ่งในต่างจังหวัด(4 ชม. จากกทม) ทางร้านยืนยันว่ามีคนนำถือบัตรทั้งสามใบไปรูดใช้ซื้อสินค้าที่ร้าน (งง มากว่า 20 นาที บัตรไปถึงนั่นได้ยังงัย !!!)
หลังจากดำเนินการเเจ้งความเสร็จและเมื่อกลับบ้านก้อได้กรอกเอกสารปฎิเสธค่าใช่จ่ายทั้งบัตรเดบิตเเละเครดิต พร้อมทั้งใบเเจ้งความส่งไปทั้งสามแบงค์ในคืนนั้น
วันรุ่งขึ้นก้อรีบตามดูกล้อง CCTV ในบริเวณที่เกิดเหตุ พอทราบว่าเหตุการณ์เกิดบริเวณไหน เวลาเท่าไหร่ เกิดอย่างไร จึงไปเเจ้งความในสน.พื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งให้ดำเนินการจับกุมคนผิด พร้อมติดต่อทางธนาคารทั้งสามธนาคารเพื่ออัพเดตข้อมูล
ธนาคารสีเขียวแจ้งว่าจะดำเนินการตรวจสอบกับร้านค้าและยอดใช้จ่ายจะถูก hold ไว้จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
ธนาคาร UOB ได้ส่งรายการการทำรายการ เพื่อใช้ประกอบการเเจ้งความ จึงได้เห็นว่าการรูดบัตรเกิดขึ้น ภายในนาทีที่เราโทรหาธนาคารเพื่ออายัตบัตร !!! และเนื่องจากบัตรเป็นบัตรเดบิต มีการใช้ เงินประมาณแสนบาท ทางธนาคารได้ทำการตัดยอดเงินออกจากบัญชีไปเเละได้ชำระเงินให้ร้านค้าไปเเล้ว สามีก็ย้อนถามว่าบัตรเป็นบัตรรุ่นที่มีชิป ต้องกดรหัส6 ตัว ทำไมถึงมีการทำรายการได้ เจ้าหน้าที่เเจ้งว่า บัตรรุ่นนี้ใช้กดรหัสเฉพาะกดเงิน รูดเงินไม่ต้องกดรหัส!!! และยังบอกอีกว่า เข้าใจว่าเป็นของเราเป็นเคสโจรกรรมจากหลักฐานที่ส่งให้ แต่ระบบเป็นอย่างนี้ ถ้าต้องการเงินจำนวนนี้คืน ต้องดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี ทางเราได้มีการตั้งคำถามกลับไปเรื่องความปลอดภัยในการใช้บัตร เพราะบัตรไม่เคยใช้รูดซื้อของ แต่ก้อไม่ได้รับคำตอบ
ส่วนธนาคารสีเหลืองเเจ้งว่ายอดเงิน เกือบสองแสนบาทที่เกิดขึ้นก่อนการอายัติบัตรเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า ธนาคารอาจพิจารณาดำเนินความช่วยเหลือตามความเหมาะสม เราย้อนถามถึงการตรวจความปลอดภัยในการใช้บัตรของแบงค์อยู่ที่ไหน เช่น ยอดที่รูดเป็น ยอดเงินเกือบเเสนทั้งสองครั้ง บัตรนี้ไม่เคยมีการใช้ยอดสูงขนาดนี้ ทำไมถึงแบงค์ปล่อยโดยไม่มีการตรวจสอบก่อน ? บัตรเป็นชื่อสามีเราซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ทางร้านแจ้งว่าไม่ได้มีการดูว่าใครเป็นไร ชื่อฝรั่ง คนไปเป็นคนไทยก้อไม่สงสัย ถ้าอย่างนี้ใครก้อเอาบัตรเราไปใช้ได้ เเล้วเราก้อต้อง รับผิดชอบ ก้อไม่มีคำตอบจากทางแบงค์ สุดท้ายเจ้าหน้าทีเเจ้งว่ายอดจะhold ไว้เพื่อรอการตรวจสอบ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะรู้ผลเมื่อไหร่อยุ่ที่ผู้ใหญ่จะพิจารณา
รู้สึกเเย่มากค่ะ ผู้เสียหายต้องเจอกับเหตุการณ์โจรกรรม ต้องไปโรงพักหลายๆรอบ ก้อรู้สึกเเย่อยู่เเล้ว ยังต้องมารับแรงกดดันจากธนาคารอีก เครียดมากค่ะตั้งแต่เกิดเรื่อง สามีเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรทำยังงัยต่อไป
ถูกขโมยกระเป๋า รูดบัตรเดบิตเเละเครดิตหลายเเสนบาท ธนาคารปัดความรับผิดชอบ
ในระหว่างเดินทางไปเเจ้งความที่โรงพักก้อได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร UOB และแบงค์สีเหลือง เจ้าหน้าที่ได้เเจ้งว่า บัตรถูกใช้ที่ร้านขายโทรศัพท์ร้านหนึ่งในต่างจังหวัด(4 ชม. จากกทม) ทางร้านยืนยันว่ามีคนนำถือบัตรทั้งสามใบไปรูดใช้ซื้อสินค้าที่ร้าน (งง มากว่า 20 นาที บัตรไปถึงนั่นได้ยังงัย !!!)
หลังจากดำเนินการเเจ้งความเสร็จและเมื่อกลับบ้านก้อได้กรอกเอกสารปฎิเสธค่าใช่จ่ายทั้งบัตรเดบิตเเละเครดิต พร้อมทั้งใบเเจ้งความส่งไปทั้งสามแบงค์ในคืนนั้น
วันรุ่งขึ้นก้อรีบตามดูกล้อง CCTV ในบริเวณที่เกิดเหตุ พอทราบว่าเหตุการณ์เกิดบริเวณไหน เวลาเท่าไหร่ เกิดอย่างไร จึงไปเเจ้งความในสน.พื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งให้ดำเนินการจับกุมคนผิด พร้อมติดต่อทางธนาคารทั้งสามธนาคารเพื่ออัพเดตข้อมูล
ธนาคารสีเขียวแจ้งว่าจะดำเนินการตรวจสอบกับร้านค้าและยอดใช้จ่ายจะถูก hold ไว้จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
ธนาคาร UOB ได้ส่งรายการการทำรายการ เพื่อใช้ประกอบการเเจ้งความ จึงได้เห็นว่าการรูดบัตรเกิดขึ้น ภายในนาทีที่เราโทรหาธนาคารเพื่ออายัตบัตร !!! และเนื่องจากบัตรเป็นบัตรเดบิต มีการใช้ เงินประมาณแสนบาท ทางธนาคารได้ทำการตัดยอดเงินออกจากบัญชีไปเเละได้ชำระเงินให้ร้านค้าไปเเล้ว สามีก็ย้อนถามว่าบัตรเป็นบัตรรุ่นที่มีชิป ต้องกดรหัส6 ตัว ทำไมถึงมีการทำรายการได้ เจ้าหน้าที่เเจ้งว่า บัตรรุ่นนี้ใช้กดรหัสเฉพาะกดเงิน รูดเงินไม่ต้องกดรหัส!!! และยังบอกอีกว่า เข้าใจว่าเป็นของเราเป็นเคสโจรกรรมจากหลักฐานที่ส่งให้ แต่ระบบเป็นอย่างนี้ ถ้าต้องการเงินจำนวนนี้คืน ต้องดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี ทางเราได้มีการตั้งคำถามกลับไปเรื่องความปลอดภัยในการใช้บัตร เพราะบัตรไม่เคยใช้รูดซื้อของ แต่ก้อไม่ได้รับคำตอบ
ส่วนธนาคารสีเหลืองเเจ้งว่ายอดเงิน เกือบสองแสนบาทที่เกิดขึ้นก่อนการอายัติบัตรเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า ธนาคารอาจพิจารณาดำเนินความช่วยเหลือตามความเหมาะสม เราย้อนถามถึงการตรวจความปลอดภัยในการใช้บัตรของแบงค์อยู่ที่ไหน เช่น ยอดที่รูดเป็น ยอดเงินเกือบเเสนทั้งสองครั้ง บัตรนี้ไม่เคยมีการใช้ยอดสูงขนาดนี้ ทำไมถึงแบงค์ปล่อยโดยไม่มีการตรวจสอบก่อน ? บัตรเป็นชื่อสามีเราซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ทางร้านแจ้งว่าไม่ได้มีการดูว่าใครเป็นไร ชื่อฝรั่ง คนไปเป็นคนไทยก้อไม่สงสัย ถ้าอย่างนี้ใครก้อเอาบัตรเราไปใช้ได้ เเล้วเราก้อต้อง รับผิดชอบ ก้อไม่มีคำตอบจากทางแบงค์ สุดท้ายเจ้าหน้าทีเเจ้งว่ายอดจะhold ไว้เพื่อรอการตรวจสอบ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะรู้ผลเมื่อไหร่อยุ่ที่ผู้ใหญ่จะพิจารณา
รู้สึกเเย่มากค่ะ ผู้เสียหายต้องเจอกับเหตุการณ์โจรกรรม ต้องไปโรงพักหลายๆรอบ ก้อรู้สึกเเย่อยู่เเล้ว ยังต้องมารับแรงกดดันจากธนาคารอีก เครียดมากค่ะตั้งแต่เกิดเรื่อง สามีเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรทำยังงัยต่อไป