เราเคยมีเพื่อนสนิทกลุ่มนึง ที่ไปไหนไปกัน คุยกันได้อย่างสนิทใจ ตั้งแต่สมัยมัธยม ก็ติดต่อกันตลอดจนเข้าสู่ช่วงจบมหาวิทยาลัย ในกลุ่มจะมี5-6คน ทั้งชายและหญิง แต่จะมีเพื่อนผู้ชายคนนึงที่เราสนิทมากที่สุด เนื่องจากบ้านเราอยู่ใกล้กัน ไปเรียนพร้อมกันกลับบ้านพร้อมตั้งแต่มัธยม เวลาชวนไปไหนมาไหนคนนี้คือเค้าคุยง่าย สบายๆ เลยทำให้ตัวติดกันตลอด ถึงแม้จบมัธยมแล้วจะแยกย้ายเข้าเรียนกันคนละที่ แต่ยังเจอกันบ่อยๆ จนมาถึงช่วงที่ต่างคนต่างรับปริญญาและช่วงนั้นเราก็ได้มีแฟนคนแรกกกก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมี อยู่แต่กับเพื่อนๆตลอด
ตอนนั้นเพื่อนๆทะยอยกันรับปริญญา เราก็ไปยินดีกับทุกคนในกลุ่ม ยกเว้น เพื่อนชายคนสนิทที่สุดของเรา ที่เราไปไม่ทันเนื่องจากตอนนั้นมันตรงกับที่เราสัมภาษณ์งาน ซึ่งงงง เพื่อนเรางอนนนน ไม่รู้ว่าเพื่อนโกรธคิดว่าเราติดแฟนรึป่าว เลยไม่มายินดี เราพยายามที่จะง้อเพื่อนตลอด แต่เหมือนจะไม่ได้ขึ้น เค้าไม่ค่อยตอบ เวลาทักไปหาก็ถามคำตอบคำ จนมันถึงคิวเราที่รับปริญญาคนสุดท้ายของกลุ่ม แต่ทุกคนในกลุ่มไม่มีใครมาเลย ตอนนั้นเรากลับมาร้องไห้แต่ไม่รู้จะคุยกับใคร ในรูปถ่ายงานรับปริญญาเราที่ ไม่มีเพื่อนสนิทกลุ่มเรา อยู่ในภาพเลยสักคน ไม่รู้ว่าเสียตังค์จ้างตากล้องไปทำไมม 😂
จนเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ เข้าสู่วัยทำงานเต็มตัว ทุกคนเริ่มห่างหายกันไป แต่เราก็ยังได้เห็นไทม์ไลน์บนเฟสบุ๊คกันบ้าง และในที่สุด เราท้อง !! เพื่อนในกลุ่มยังพอมีที่จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้าง แต่เพื่อนคนนั้น..ไม่แม้แต่จะถามถึง เรื่อยมาจนวันที่เราคลอดลูก (เราคิดจริงๆนะว่าเห้ยถ้าเพื่อนในกลุ่มสักคนนึงมีลูกมันต้องเป็นอะไรที่ตื่นเต้น ยินดีมากๆอะ คงอยากไปเจอหลาน ไปเยี่ยมเพื่อน คงดีใจที่ได้เป็นป้าแล้ว แบบเห้ยย เมริงงงได้เป็นแม่คนแล้วนะ)
เพื่อนในกลุ่มบ้างคนทักมาถามว่าอยู่รพ.อะไร เป็นไงบ้าง เดี๋ยวเคลียร์งานแล้วจะไปหานะ แต่จริงๆแล้วไม่มีใครมา โดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลย เราก็รอจนเก้อ ลูกเราจะ2ขวบแล้ว ไม่มีเพื่อนไหนมาหาเลยสักครั้งเดียว จนเราคิดว่ามันอาจจะต้องเลิกคิดว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกับพวกเค้าได้แล้ว เราอาจเคยมีช่วงเวลาร่วมกัน แต่เราอาจจะไม่ได้สำคัญมากมายขนาดนั้น...
หลังจากที่เราคลอดลูกแล้ว เราไม่ติดต่อเพื่อนกลุ่มนั้นอีกเลย ไม่ว่าเราจะเหงา ไม่ว่าจะต้องเจอมรสุมอะไร เราก็ไม่เคยพูดคุยหรือระบายกับเพื่อนกลุ่มนั้นเลย เราเลือกที่จะไม่ตอบแชท ไม่อธิบายอะไรมากมาย
เหตุการณ์หลายๆอย่างมันทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมาเราคงสำคัญตัวเองผิดไป..
ที่มาของกระทู้นี้เพียงแค่ว่า ความทรงจำในเฟสบุ๊คมันแจ้งเตือน และเรากดเข้าไปดู
มันกลับทำให้เรายิ้ม ทำให้หัวใจพองโตขึ้นเมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น
ใจนึงก็อยากที่จะคุย อยากจะพูดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ว่าที่ผ่านมามันคืออะไร แต่อีกใจก็กลัวจะเจ็บที่สุดท้ายคำตอบมันคือเราไม่สำคัญจริงๆ นิ 😣
ทำยังไงถึงจะจูนกับเพื่อนที่เคยสนิทกันมาก แต่ห่างหายกันไปหลายปี ให้ความรู้สึกมันเป็นเหมือนเดิม
ตอนนั้นเพื่อนๆทะยอยกันรับปริญญา เราก็ไปยินดีกับทุกคนในกลุ่ม ยกเว้น เพื่อนชายคนสนิทที่สุดของเรา ที่เราไปไม่ทันเนื่องจากตอนนั้นมันตรงกับที่เราสัมภาษณ์งาน ซึ่งงงง เพื่อนเรางอนนนน ไม่รู้ว่าเพื่อนโกรธคิดว่าเราติดแฟนรึป่าว เลยไม่มายินดี เราพยายามที่จะง้อเพื่อนตลอด แต่เหมือนจะไม่ได้ขึ้น เค้าไม่ค่อยตอบ เวลาทักไปหาก็ถามคำตอบคำ จนมันถึงคิวเราที่รับปริญญาคนสุดท้ายของกลุ่ม แต่ทุกคนในกลุ่มไม่มีใครมาเลย ตอนนั้นเรากลับมาร้องไห้แต่ไม่รู้จะคุยกับใคร ในรูปถ่ายงานรับปริญญาเราที่ ไม่มีเพื่อนสนิทกลุ่มเรา อยู่ในภาพเลยสักคน ไม่รู้ว่าเสียตังค์จ้างตากล้องไปทำไมม 😂
จนเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ เข้าสู่วัยทำงานเต็มตัว ทุกคนเริ่มห่างหายกันไป แต่เราก็ยังได้เห็นไทม์ไลน์บนเฟสบุ๊คกันบ้าง และในที่สุด เราท้อง !! เพื่อนในกลุ่มยังพอมีที่จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้าง แต่เพื่อนคนนั้น..ไม่แม้แต่จะถามถึง เรื่อยมาจนวันที่เราคลอดลูก (เราคิดจริงๆนะว่าเห้ยถ้าเพื่อนในกลุ่มสักคนนึงมีลูกมันต้องเป็นอะไรที่ตื่นเต้น ยินดีมากๆอะ คงอยากไปเจอหลาน ไปเยี่ยมเพื่อน คงดีใจที่ได้เป็นป้าแล้ว แบบเห้ยย เมริงงงได้เป็นแม่คนแล้วนะ)
เพื่อนในกลุ่มบ้างคนทักมาถามว่าอยู่รพ.อะไร เป็นไงบ้าง เดี๋ยวเคลียร์งานแล้วจะไปหานะ แต่จริงๆแล้วไม่มีใครมา โดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลย เราก็รอจนเก้อ ลูกเราจะ2ขวบแล้ว ไม่มีเพื่อนไหนมาหาเลยสักครั้งเดียว จนเราคิดว่ามันอาจจะต้องเลิกคิดว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกับพวกเค้าได้แล้ว เราอาจเคยมีช่วงเวลาร่วมกัน แต่เราอาจจะไม่ได้สำคัญมากมายขนาดนั้น...
หลังจากที่เราคลอดลูกแล้ว เราไม่ติดต่อเพื่อนกลุ่มนั้นอีกเลย ไม่ว่าเราจะเหงา ไม่ว่าจะต้องเจอมรสุมอะไร เราก็ไม่เคยพูดคุยหรือระบายกับเพื่อนกลุ่มนั้นเลย เราเลือกที่จะไม่ตอบแชท ไม่อธิบายอะไรมากมาย
เหตุการณ์หลายๆอย่างมันทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมาเราคงสำคัญตัวเองผิดไป..
ที่มาของกระทู้นี้เพียงแค่ว่า ความทรงจำในเฟสบุ๊คมันแจ้งเตือน และเรากดเข้าไปดู
มันกลับทำให้เรายิ้ม ทำให้หัวใจพองโตขึ้นเมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น
ใจนึงก็อยากที่จะคุย อยากจะพูดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ว่าที่ผ่านมามันคืออะไร แต่อีกใจก็กลัวจะเจ็บที่สุดท้ายคำตอบมันคือเราไม่สำคัญจริงๆ นิ 😣