สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีปัญหาที่กังวลใจ จนบางครั้งรู้สึกจิตตก ซึมเศร้า อยากขอคำแนะนำค่ะ
ตอนนี้เรากับสามีช่วยกันทำธุรกิจส่วนตัว โดยอาศัยบ้านสามีเป็นทั้งร้านค้าและเป็นทั้งที่พักอาศัย โดยมีเรา สามี พ่อสามี และ แม่สามีอยู่ด้วย
เราทั้งสองเปิดร้านตั้งแต่หกโมงครึ่งถึงหกโมงเย็น เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะหยุดขายไม่ได้ ถ้าของขายไม่หมดภายในรอบนั้นก็ขาดทุนอย่างเดียว โดยปกติในแต่ละวันก็จะขายค่อนข้างดี มีลูกค้าเข้ามาซื้อของทั้งวัน แต่ก็จะมีประมาณ10วันต่อเดือนที่จะยุ่งเป็นพิเศษแทบไม่ได้พัก สามีก็ต้องไปเอาของที่ต่างจังหวัดเดือนละ2ครั้ง(ไปค้างวันสองวันกลับ) ช่วงนั้นเราก็ต้องอยู่เฝ้าหน้าร้านเป็นหลัก เพราะพ่อแม่สามีเขายกกิจการให้ เขาไม่ทำแล้ว
ที่นี้พอเราใกล้คลอด เราก็ตั้งใจไว้ว่าจะเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านตัวเอง(มีแม่เราอยู่คนเดียว ถ้าเราพาลูกมาอยู่นี้ เราก็จะได้ดูแม่ด้วย จริงๆแม่ยังไม่แก่มากค่ะ แต่เราก็อดเป็นห่วงไม่ได้) ซึ่งอยู่คนละอำเภอกับบ้านสามี(ห่างกันประมาณยี่สิบกว่ากิโล) แต่สิ่งที่เรากังวลคือ ถ้าเราเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านเราแล้ว ช่วงระหว่างวันสามีก็จะไม่ได้เจอเราและลูก และสามีต้องขับรถไปกลับทุกวัน และต้องตื่นเช้าขึ้นอย่างน้อยก็ประมาณตีห้า และเราก็อดห่วงไม่ได้ว่าสามีจะเหนื่อยไหม สามีขับรถไปมาจะปลอดภัยหรือเปล่า และพอเราอยู้บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ ไม่ค่อยได้เจิใคร เราจะเหงาจะเศร้าไหมคะ
แต่ถ้าถามเราว่าที่ไหนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเลี้ยงลูกเรามากกว่า เราคิดว่าคงเป็นบ้านเราเอง เพราะบ้านเราค่อนข้างมีพื้นที่กว้างขวาง มีห้องน้ำทั้งในและนอกห้องนอน มีห้องครัวปิดมิดชิด และเป็นบ้านปิดทำให้ไม่ค่อยมีแมลงต่างๆ
ต่างกับบ้านสามีที่ต้องเปิดหน้าบ้านขายของทำให้มีแมลง หนูและงูตัวเล็กๆเข้ามาบ้าง ครัวเป็นครัวเปิด ใช้ตากผ้าและทำกับข้าวรวมกัน และอีกอย่างคือมีห้องน้ำแค่ชั้นล่างเท่านั้น แต่ห้องนอนเรากับสามีอยู่ข้างบน เราเลยกลัวว่าจะไม่สะดวกในการเลี้ยงเด็กอ่อน
ปัญหากับพ่อแม่สามีก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็ไม่คุยกับเรา หรือถ้าเรานั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหาร เขาก็จะตักข้าวไปกินที่อื่น เราไหว้ก็รับไหว้บ้างหรือทำเป็นไม่รับบ้าง แต่เราอดทนได้เพราะรักสามีค่ะ แต่ที่เราเป็นห่วงมากๆคือเรื่องของความสะอาดของพ่อแม่สามี และคำพูดจามากกว่า เวลาทั้งสองไปข้างนอกมา พอกลับมาถึงบ้านจะทานอาหารก็หยิบเลยโดยไม่ล้างมือ หรือบางทีของตกที่พื้นบ้านก็เอามากิน บางครั้งก็พูดคำหยาบ (แต่สามีเราไม่เป็นนะคะ) เรากังวลว่าลูกเราจะได้สิ่งเหล่านี้มา ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไร
แล้วถ้าเราเลือกเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านตัวเอง เวลาที่ว่างจากการเลี้ยงลูก เราจะรู้สึกผิดไหมคะที่ไม่ได้ช่วยสามี (จริงๆเราก็มีธุรกิจของเราเองที่บ้านค่ะ แต่เราจ้างลูกน้อง เราเลยไม่ค่อยยุ่ง ไม่ต้องแวะเข้าไปดูร้านบ่อยก็ได้)
ส่วนเรื่องการเงินเรากับสามีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เราทั้งสองหาได้เกินคนละหกหลักต่อเดือนต่อค่ะ ปัญหาก็ทีแต่ที่กล่าวไปข้างบน ยังไงก็รบกวนเพื่อนสมาชิกมาตอบด้วยนะคะ เราอาจจะเรียบเรียงสับสนไปบ้าง แต่เราคิดมากจริงๆ จนรู้สึกเหมือนจะเป็นซึมเศร้าแล้วค่ะ ปัจจุบันเวลาเรามาบ้านตัวเอง เราก็จะเป็นห่วงและรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่กับสามี แต่ถ้าเราอยู่กับสามีตลอดโดยไม่ได้แวะมาบ้าน เราก็จะรู้สึกว่าเราเป็นลูกที่แย่ ปล่อยให้แม่อยู่คนเดียว
มีใครเคยเป็นแบบนี้ไหมคะ เครียดจังเลยค่ะ ช่วยเข้ามาตอบหน่อยค่ะ
ตอนนี้เรากับสามีช่วยกันทำธุรกิจส่วนตัว โดยอาศัยบ้านสามีเป็นทั้งร้านค้าและเป็นทั้งที่พักอาศัย โดยมีเรา สามี พ่อสามี และ แม่สามีอยู่ด้วย
เราทั้งสองเปิดร้านตั้งแต่หกโมงครึ่งถึงหกโมงเย็น เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะหยุดขายไม่ได้ ถ้าของขายไม่หมดภายในรอบนั้นก็ขาดทุนอย่างเดียว โดยปกติในแต่ละวันก็จะขายค่อนข้างดี มีลูกค้าเข้ามาซื้อของทั้งวัน แต่ก็จะมีประมาณ10วันต่อเดือนที่จะยุ่งเป็นพิเศษแทบไม่ได้พัก สามีก็ต้องไปเอาของที่ต่างจังหวัดเดือนละ2ครั้ง(ไปค้างวันสองวันกลับ) ช่วงนั้นเราก็ต้องอยู่เฝ้าหน้าร้านเป็นหลัก เพราะพ่อแม่สามีเขายกกิจการให้ เขาไม่ทำแล้ว
ที่นี้พอเราใกล้คลอด เราก็ตั้งใจไว้ว่าจะเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านตัวเอง(มีแม่เราอยู่คนเดียว ถ้าเราพาลูกมาอยู่นี้ เราก็จะได้ดูแม่ด้วย จริงๆแม่ยังไม่แก่มากค่ะ แต่เราก็อดเป็นห่วงไม่ได้) ซึ่งอยู่คนละอำเภอกับบ้านสามี(ห่างกันประมาณยี่สิบกว่ากิโล) แต่สิ่งที่เรากังวลคือ ถ้าเราเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านเราแล้ว ช่วงระหว่างวันสามีก็จะไม่ได้เจอเราและลูก และสามีต้องขับรถไปกลับทุกวัน และต้องตื่นเช้าขึ้นอย่างน้อยก็ประมาณตีห้า และเราก็อดห่วงไม่ได้ว่าสามีจะเหนื่อยไหม สามีขับรถไปมาจะปลอดภัยหรือเปล่า และพอเราอยู้บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ ไม่ค่อยได้เจิใคร เราจะเหงาจะเศร้าไหมคะ
แต่ถ้าถามเราว่าที่ไหนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเลี้ยงลูกเรามากกว่า เราคิดว่าคงเป็นบ้านเราเอง เพราะบ้านเราค่อนข้างมีพื้นที่กว้างขวาง มีห้องน้ำทั้งในและนอกห้องนอน มีห้องครัวปิดมิดชิด และเป็นบ้านปิดทำให้ไม่ค่อยมีแมลงต่างๆ
ต่างกับบ้านสามีที่ต้องเปิดหน้าบ้านขายของทำให้มีแมลง หนูและงูตัวเล็กๆเข้ามาบ้าง ครัวเป็นครัวเปิด ใช้ตากผ้าและทำกับข้าวรวมกัน และอีกอย่างคือมีห้องน้ำแค่ชั้นล่างเท่านั้น แต่ห้องนอนเรากับสามีอยู่ข้างบน เราเลยกลัวว่าจะไม่สะดวกในการเลี้ยงเด็กอ่อน
ปัญหากับพ่อแม่สามีก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็ไม่คุยกับเรา หรือถ้าเรานั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหาร เขาก็จะตักข้าวไปกินที่อื่น เราไหว้ก็รับไหว้บ้างหรือทำเป็นไม่รับบ้าง แต่เราอดทนได้เพราะรักสามีค่ะ แต่ที่เราเป็นห่วงมากๆคือเรื่องของความสะอาดของพ่อแม่สามี และคำพูดจามากกว่า เวลาทั้งสองไปข้างนอกมา พอกลับมาถึงบ้านจะทานอาหารก็หยิบเลยโดยไม่ล้างมือ หรือบางทีของตกที่พื้นบ้านก็เอามากิน บางครั้งก็พูดคำหยาบ (แต่สามีเราไม่เป็นนะคะ) เรากังวลว่าลูกเราจะได้สิ่งเหล่านี้มา ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไร
แล้วถ้าเราเลือกเอาลูกมาเลี้ยงที่บ้านตัวเอง เวลาที่ว่างจากการเลี้ยงลูก เราจะรู้สึกผิดไหมคะที่ไม่ได้ช่วยสามี (จริงๆเราก็มีธุรกิจของเราเองที่บ้านค่ะ แต่เราจ้างลูกน้อง เราเลยไม่ค่อยยุ่ง ไม่ต้องแวะเข้าไปดูร้านบ่อยก็ได้)
ส่วนเรื่องการเงินเรากับสามีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เราทั้งสองหาได้เกินคนละหกหลักต่อเดือนต่อค่ะ ปัญหาก็ทีแต่ที่กล่าวไปข้างบน ยังไงก็รบกวนเพื่อนสมาชิกมาตอบด้วยนะคะ เราอาจจะเรียบเรียงสับสนไปบ้าง แต่เราคิดมากจริงๆ จนรู้สึกเหมือนจะเป็นซึมเศร้าแล้วค่ะ ปัจจุบันเวลาเรามาบ้านตัวเอง เราก็จะเป็นห่วงและรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่กับสามี แต่ถ้าเราอยู่กับสามีตลอดโดยไม่ได้แวะมาบ้าน เราก็จะรู้สึกว่าเราเป็นลูกที่แย่ ปล่อยให้แม่อยู่คนเดียว