[Spoil+Review] The Mandalorian Ep.1 >>พูดน้อยต่อยหนัก

ในที่สุดหลังดิสนีย์ซื้อทั้งลิขสิทธิ์สตาร์วอร์สกับลูคัสฟิล์ม/ค่ายผู้ผลิต มาแบบเหมายกแผง และสร้างหนังมาหลายภาค
ก็ถึงคราวที่ค่ายใหญ่เริ่มบุกตลาดช่องดูหนังออนไลน์ตามกระแสบ้าง
ด้วยการเปิดตัวช่อง Disney+ พร้อมสตรีมซีรีส์คนแสดงเรื่องแรกแห่งจักรวาลสตาร์วอร์ส ตอนที่ 1

เหตุการณ์ใน The Mandalorian เกิดหลังภาพยนตร์ภาค Return of the Jedi ห้าปี
ตัวละครเอกคือนักล่าเงินรางวัลชาวแมนดาลอร์ (Mandalorian); ผู้ใช้เกราะที่ละม้ายคล้ายคลึงกับของแจงโก้ และโบบา เฟตต์/สองตัวละครที่เคยมีบทบาทสำคัญในโลกภาพยนตร์อย่างยิ่ง
ยุคดังกล่าว จักรวรรดิเผด็จการอันครองอำนาจเหนือหมู่ดาวทั่วกาแล็คซี่ยาวนาน โดนโค่นล้มเรียบร้อย
เรียกว่าสังคมควรสงบสุขน่าอยู่เพราะการสถาปนาสาธารณรัฐใหม่
แต่เมื่อพิจารณาตอนที่ 1 ของซีรีส์, ดูเหมือนว่าบาดแผลจากสงครามใหญ่จะยังเหลือผลกระทบอย่างมาก จนผู้คนยังคงใช้ชีวิตยากลำบาก


ซีรีส์เปิดเรื่องแบบไม่เกริ่นนำใดๆ โดยให้พระเอกเดินเข้าบาร์ ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์นิสัยนักเลงกำลังรังแกคนผู้หนึ่ง
ซึ่งพระเอกยังไม่ทันเปิดปากพูดอะไร ก็โดนหาเรื่องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
จึงลงเอยที่พระเอกต้องซัดพวกมันให้หมอบทั้งหมด รวมถึงใช้ประตูบาร์งับร่างนักเลงคนนึงขาดเป็นสองท่อน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

แต่ปรากฏว่าชายผู้ถูกรังแกมีค่าหัวติดตัว จึงโดนพระเอกลากไปขึ้นยานอวกาศเพื่อเบิกเงินรางวัล 
โดยซีรีส์ไม่ลืมแสดงนิสัยมัธยัสถ์ของตัวละครให้เห็น ผ่านฉากนั่งต่อรองเงินรางวัลกับหัวหน้ากิลด์ที่เป็นคนแจกงานอย่างมีชั้นเชิง

เนื้อเรื่องจริงๆ ของซีรีส์เริ่มต้นเมื่อนักล่าเงินรางวัลปากหนัก ติดต่อกับชายลึกลับที่มีสตอร์มทรูเปอร์ 4 คนคุ้มกัน
ชายลึกลับมอบโลหะล้ำค่าสำหรับใช้หลอมทำเกราะสไตล์แมนดาลอร์แก่พระเอก และว่าจ้างให้เขานำตัว 'เป้าหมาย' จากดาวหนึ่งกลับมาเป็นๆ 
พระเอกนั่งยานเดินทางเยือนจุดหมาย แต่ไม่ทันได้ทำอะไรก็โดน 'เบิรล์ก' (Blurrg) สัตว์ท้องถิ่นสองขา เล่นงานเสียเกือบสิ้นท่า 
แต่เคราะห์ดีมีคนท้องถิ่นมาช่วยเหลือได้ทันการ 

คนท้องถิ่นทราบกิตติศัพท์ของชาวแมนดาลอร์ดี จึงสอนการขึ่เบิรล์กซึ่งจำเป็นสำหรับเดินทางไกล
และไม่ขอรับค่าตอบแทนความช่วยเหลือใดๆ เพียงขอให้แมนดาลอร์ขจัดแก๊งค์ชาวนิคโต (Nikto) ที่เป็นต้นตอของความวุ่นวายบนดาวระยะหลัง

พระเอกที่ต้องขจัดแก๊งค์นิคโตเพื่อเข้าถึงตัวเป้าหมายอยู่แล้ว เริ่มดำเนินการอย่างระมัดระวัง
เขาสอดส่องฐานที่มั่นศัตรูก่อนลงมือ ทว่ายังไม่ทันได้เรื่องได้ราวอะไร
ดรอยด์นักล่าเงินรางวัลจากกิลด์บอนด์สแมน (Bondsman) ก็บุกเดี่ยวเข้ารังศัตรู ก่อให้เกิดการยิงปืนต่อสู้กันสนั่นหวั่นไหวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
พระเอกกระโจนเข้าร่วมวงก่อนเจ้าหุ่นยนต์จะทำเสียเรื่องมากไป ทั้งสองตกกระไดพลอยโจนต้องร่วมแรงร่วมใจกันปราบแก๊งค์นิคโต

แม้ค่อนข้างทุลักทุเล แต่ศึกนี้คู่หูจำเป็นชนะ และท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เข้าถึงตัวเป้าหมาย
ซึ่งเป็น 'ทารก' อายุ 50 ปี สายพันธุ์เดียวกับโยดา/ปรมาจารย์เจไดในตำนานผู้ล่วงลับ

ทว่าเจ้าดรอยด์ทำท่าจะฆ่าทารก ตามคำขอของผู้ว่าจ้างฝ่ายมัน 
ดังนั้นพระเอกจึงทำลายดรอยด์ทิ้งอย่างไม่ลังเล แม้เพิ่งฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกับหุ่นยนต์ตัวนี้มาหมาดๆ



เดฟ ฟิโลนี่ ที่สร้างความสำเร็จให้อนิเมชั่นซีรีส์ Clone Wars กับ Rebels กำกับตอนแรกออกมาได้ดี
ซีรีส์เล่าเรื่องลื่นไหล, พูดน้อยต่อยหนัก, ไม่ค่อยมีจังหวะยืดยาด  
งานสร้างเข้าขั้นทัดเทียมกับหนังใหญ่ ฉากมืดๆ มองสภาพแวดล้อมไม่เห็นแบบ Solo: A Star Wars Story ถือว่าน้อย
ด้านบทเองก็มีประเด็นพอประมาณ ดูแล้วอยากติดตามปมหลายอย่าง ซึ่งรอการเปิดเผยในตอนต่อๆ ไป

โดยรวมไม่มีอะไรจะติแรงๆ แต่ซีรีส์มีข้อเสียใหญ่อยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือขาดการเล่าเรื่องปูพื้นให้คนดูเข้าใจโลกของมัน
ถ้าผู้ไม่คุ้นเคยกับจักรวาลสตาร์วอร์ส จู่ๆ อยากลองของ ต้องงงเป็นไก่ตาแตกแน่
หรือต่อให้มีพื้นฐานขั้นต่ำ (คือเคยดูแค่ไตรภาค Ep.IV-VI)
การจะมาอินกับชีวิตไส้แห้งของนักล่าเงินรางวัลชาวแมนดาลอร์ มันก็คงยากเกินไปหน่อย

อย่างไรก็ตาม ความสนุกเฉพาะของตอนแรกเผลอๆ จะเหนือกว่าหนังใหญ่อย่าง Solo: A Star Wars Story
เพราะซีรีส์เลือกจะเล่าเรื่องโดยโยนคนดูลงไปในสถานการณ์สำคัญที่ตัวละครต้องเผชิญหน้าทันที
ทำให้ตอนที่ 1 มีฉากแอ็คชั่นเป็นระยะ และท้ายตอนได้พบฉากยิงปืนแสงสนั่นหวั่นไหวทันใจ
ซึ่งเอาเข้าจริงก็อยากให้ทำแบบนี้อีกสักตอนสองตอนด้วยซ้ำ เพราะถ้างานยังดีต่อเนื่อง และเริ่มอินกับมันมากขึ้นเมื่อไหร่
เชื่อว่าต่อให้ซีรีส์ไปเล่าความหลังยืดยาวน่าเบื่อทีหลัง ก็คงติดมันถึงขั้นไม่ยอมเลิกดูจนจบซีซั่นนั่นแหละ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่