[ความเดิม] เมื่อนักล่าเงินรางวัลชาวแมนดาลอร์พบว่าเด็กอายุ 50 คนหนึ่งซึ่งใช้ 'พลัง' ได้
ถูกหมายตาเพราะเกี่ยวข้องกับแผนลับบางอย่างของซากทัพจักรวรรดิ เขาจึงพาเด็กหนีพร้อมหมายใจจะสืบหาความจริงเบื้องหลัง
แมนโดที่เจอตั้งค่าหัวใส่ จนโดนเหล่านักล่าเงินรางวัลคนอื่นๆ ไล่ล่าหนัก แวะกบดานเพื่อรอให้เรื่องเงียบลงบ้าง บนดาวบ้านนอกชื่อซอร์แกน
และตัดสินใจรับงาน ช่วยพวกชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งเขาไปอาศัยอยู่ จากกลุ่มโจรที่คอยระราน
โดยร่วมมือกับคาร่า ดูน/ทหารรับจ้างหญิง ที่มาเกษียณก่อนกำหนดแถวนั้น
ทั้งสองฝึกสอนวิธีต่อสู้แก่ชาวบ้าน ทำให้สามารถปราบปรามโจรสำเร็จ ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเองภายหลัง
[สปอยล์ตอน 5] แมนโดทำลายทั้งยานและชีวิตของนักล่าเงินรางวัลที่อยากได้ค่าหัวเขา
แต่ด้านยานใบมีดโกน (Razor Crest) ของเค้าเองก็เสียหายเอาเรื่อง
ดังนั้นพระเอกเลยต้องขับพาหนะสำหรับเดินทางข้ามอวกาศ ไปลงจอดแถวอู่ซ่อมบนดาวทะเลทรายที่อยู่ใกล้ตัวสุดเวลานั้นอย่าง 'ทาทูอีน' (Tatooine)
ปกติเพลิ มอตโต (Peli Motto) ผู้หญิงที่ดูแลอู่ 3-5 ในท่าจอดยานเมืองโมส ไอส์เลย์ (Mos Eisley) จะใช้ดรอยด์ช่วยซ่อมยาน
แต่แมนโดยืนกรานปฏิเสธแบบหัวแข็ง และจ่ายมัดจำค่าซ่อมให้แบบไม่มากมายอะไร มอตโตจึงรับงานแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
พระเอกทิ้งหนูน้อยเพื่อนร่วมทางที่กำลังหลับไว้บนยาน และเดินเข้าตัวเมืองเพื่อหางานทำ (จะได้เอาเงินมาจ่ายค่าซ่อมยานส่วนที่เหลือ)
เขาพบโทโร คาลิแคน (Toro Calican) นักล่าเงินรางวัลหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นมือใหม่ในสายงานนี้ที่ยังไม่มีกิลด์ไหนยอมรับ
คาลิแคนผู้อยากได้ชื่อเสียง รู้ตัวว่าฝีมือกับประสบการณ์ของเขาไม่มากพอจะจับเฟนเนค แชนด์ (Fennec Shand)
ทหารรับจ้างหญิงที่โด่งดังเพราะเคยสังหารคนระดับสูงในองค์กรอาชญากรรมต่างๆ มานักต่อนัก
จึงเสนอจะมอบค่าหัวทั้งหมดแก่พระเอก หากเขาช่วยจับตัวเธอได้สำเร็จ
แมนดาโลเรี่ยนยอมรับข้อเสนอของคาลิแคน และสั่งให้ไปหามอเตอร์ไซค์สำหรับเดินทางข้ามทะเลทรายมา 2 คัน แล้วตามไปเจอกันอีกทีที่อู่ 3-5
ด้านแมนดาโลเรี่ยนล่วงหน้ากลับมาเช็คสถานะยานตัวเองกับไอ้หนูเพื่อนร่วมทาง
ก่อนพบว่ามอตโตกำลังดูแลเด็กให้โดยไม่ได้ขอ และโดนต่อว่าเรื่องทิ้งเด็กไว้แบบดูไร้ความรับผิดชอบ (พร้อมกับโดนเคลมเงินค่าดูแลเด็กเพิ่มอ้อมๆ)
คาลิแคนเอามอเตอร์ไซค์มาให้แถวอู่ตามที่แมนโดขอ เขาทักทายมอตโตกับไอ้ตัวเล็กพอเป็นพิธี
แล้วซิ่งมอเตอร์ไซค์ฝ่าทะเลทรายไปล่าเป้าหมายพร้อมพระเอก
แต่เมื่อพบเฟนเนค แชนด์, พวกเขาต้องตระหนักว่าถึงมากันสองคนก็ยังเสียเปรียบ
เนื่องจากหล่อนครอบครองปืนพลังแรงสูงสำหรับซุ่มโจมดีจากระยะไกล และคอยส่องยิงพวกเขาจากบนชัยภูมิที่อยู่สูงกว่า
พระเอกเลยรอความมืดของช่วงเวลากลางคืน, ใช้วิธีปล่อยพลุแสงเพื่อให้แชนด์แสบตาเป็นระยะ และขี่มอเตอร์ไซค์รี่เข้าประชิดเป้าหมาย
ด้วยแผนนี้บวกกับความร่วมแรงร่วมใจ ทำให้ทั้งสองใส่กุญแจมือแชนด์สำเร็จ แม้เสียพาหนะไป 1 คัน
ขณะแมนโดไปตามหาสัตว์ขี่ได้แถวนั้นเพื่อใช้เดินทางกลับพร้อมกัน 3 คน (ขี่มอเตอร์ไซค์คันเดียวห้ามซ้อนสามนะจ๊ะ)
แชนด์ที่พบว่าคาลิแคนไม่รู้เรื่องค่าหัวของแมนโด พยายามยั่วยุให้เขาหันมาร่วมมือกับเธอเพื่อจัดการแมนโดแทน
ทีแรกคาลิแคนไม่เชื่อเรื่องที่แชนด์เล่าและไม่สนเรื่องเงิน
แต่เมื่อหล่อนบอกว่าตามข่าวหมอนั่นหิ้วเด็กไปไหนมาไหนด้วย บวกกับการพาแมนโดไปยังกิลด์จะสร้างชื่อเสียงให้อย่างยิ่ง
คาลิแคนจึงยอมเชื่อ... ทว่าสังหารแชนด์ทิ้งเพราะรู้ทัน ว่าหากร่วมมือกับผู้หญิงคนนี้จะโดนหักหลังแน่
เมื่อพระเอกขี่สัตว์กลับมาแล้วพบศพแชนด์ก็มองสถานการณ์ออกทันที
พอเขาไปถึงที่อู่ 3-5 ก็เจอคาลิแคนกำลังจับเด็กกับมอตโตไว้เป็นตัวประกันตามคาด
แต่ฝ่ายคาลิแคนกลับไม่คาดคิดว่าพลุแสงยังเหลืออยู่
ฉะนั้นเมื่อถูกมันทำให้ตาพร่า ชีวิตของคนอยากดังผู้นี้จึงต้องถึงฆาต
แม้ไม่มีใครได้ค่าหัวของแชนด์
แต่มอตโตที่ยอมลำบากซ่อมยานใบมีดโกนจนเสร็จโดยไม่ใช้ดรอยด์, ช่วยดูแลเด็กน้อย และต้องตกกระโดนพลอยโจนมาเป็นตัวประกันอีกคน
ได้รับการตบรางวัลอย่างงามจากแมนโดก่อนเขาเดินทางออกจากทาทูอีน
ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง, มีเงาของบุคคลลึกลับผู้นึงกำลังเดินเข้ามาดูศพแชนด์
[วิจารณ์] ทีแรกกะจะตั้งฉายามาเรียกเหล่าตัวละครใหม่แทนชื่อ (อะไรทำนอง ป้าหัวฟู, หนุ่มมือใหม่, เป้าหมายหญิง)
ทว่าพอลองเรียบเรียงเนื้อหาดู ดันพบว่ามันจะชวนให้เกิดความสับสนมากกว่า
สะท้อนว่าโครงสร้างย่อยในเนื้อเรื่องของตอน 5 ซับซ้อนกว่าตอน 4
ทั้งที่มันไม่ได้ผลักดันเรื่องราวหลัก ให้เดินหน้าไปมากนักทั้งสองตอนนั่นแหละ
แต่ในขณะที่ตอน 4 แค่สรุปว่าพระเอกแวะพักข้างทางบนดาวดวงนึง
และร่วมมือกับทหารรับจ้างหญิงที่บังเอิญเจอกันปกป้องหมู่บ้านชานเมือง ก็คงพอจะมองเห็นภาพรวมของเหตุการณ์
ตอน 5 กลับไม่ใช่อะไรเรียบง่ายแบบนั้น และถ้าเล่าแค่ว่าพระเอกแวะซ่อมยาน, ร่วมงานกับนักล่ามือใหม่เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนโดนหักหลัง
นอกจากจะไม่เห็นภาพรวมจริงๆ ของมัน ยังทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้น่าสนุกยังไงด้วยอีกต่างหาก
ด้านการปูทางสู่จุดหักมุมก็ต้องขอชม เพราะสำหรับซีรีส์แนวคาวบอยอวกาศแบบนี้ การระแวงตัวละครหน้าใหม่ไว้ก่อนถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ขอสารภาพว่า พอเจอคาลิแคนแสดงพฤติกรรมอ่อนหัด สลับกับเรียกเสียงฮาเป็นระยะ
ผมก็ลดความระแวงเขาลงเรื่อยๆ จนมองว่าหมอนี่ต้องหันไปร่วมมือกับแชนด์แล้วโดนตลบหลังฆ่าตายแหง
ทั้งที่เขาแสดงให้เห็นความฉลาดของตัวเองก่อนหน้านั้นบ้างแล้ว
ส่วนที่อยากติของตอนนี้ก็อาจไม่ใช่ข้อเสียจริงๆ หรอก เพราะมันเกี่ยวกับความคาดหวังส่วนตัว
คือไหนๆ พาคนดูซีรีส์กลับมาทาทูอีนแล้ว ก็ควรให้เห็นสภาพสังคมปัจจุบันของดาวทะเลทรายที่คนติดตามแฟรนไชส์สตาร์วอร์สคุ้นเคยหน่อย
อารมณ์ของตอนนี้คือแค่แวะไปชมวิวตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อย แทบไม่รู้สภาพความเป็นไปของสังคมบนทาทูอีนเวลานั้นเลย
[ปล.] แม้จะเหลือเพียง 3 ตอน แต่เชื่อว่ายังสรุปจบเรื่องลงทันในซีซั่นแรก เพราะเวลาเดินเรื่องจริงจังเนื้อหาของซีรีส์นี้ไปค่อนข้างไวอยู่
[Spoil+Review] The Mandalorian Ep.5 >>หล่อนอยู่บนที่สูงกว่า