เรียน ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และพนง.ที่ไม่มีจรรยาบรรณในการทำงานทุกท่าน
เหตุการณ์มีอยู่ว่า ผมคือลูกค้าต้องการกู้เงินเพิ่มหลักล้าน แต่มีฐานข้อมูลที่สาขา A และทำการตรวจสอบเครดิตบูโร และทำการออกหนังสือเพื่อขอกู้ในเอาไว้อยู่ กับพนักงานสาขา A แต่ผมเปลี่ยนใจเพราะต้องการกู้เงินกับสาขา B ซึ่งใกล้บ้านเพื่อความสะดวกการติดต่อมากกว่า เมื่อพนักงานสาขา B ทำเรื่องเอกสารให้ตามที่ผมร้องขอ ปรากฎว่า ติดเอกสารเดิมที่ พนง.สาขา A ทำค้างไว้ในระบบ จึงแจ้งขอให้ยกเลิกเอกสารดังกล่าว แต่พนง.ดังกล่าวกลับดึงเชิง ไม่ยอมทำให้ ผมเองเสียเวลาพอสมควรที่โทรไปโทรมา วิ่งไปวิ่งมา ระยะทางไม่ใช่น้อยๆนะครับ 50-60 กม. เมื่อพนง.สาขา B แจ้งยังไม่ยกเลิกเอกสารเดิม ผมจึงโทรไปที่สาขา A เพื่อให้ยกเลิกเพราะไม่ต้องการกู้ที่นั่น แต่ พนง.สาขา A กลับต่อว่า พนง.สาขา B หาว่าแย่งลูกค้า ทั้งๆที่ผมเองต้องการทำสาขาใกล้บ้านเอง พนง.สาขา A ต้องการยอดกู้นี้ เพื่อได้ยอดตามการบริหารจัดการของ ธ.กรุงไทย ที่บังคับการหายอด และเมื่อเจรจากันแล้ว ทางพนง.สาขา A แจ้งว่า เด่วทำเอกสารให้เลย 5นาที อนุมัติ ผมจึงบอกพนง.สาขา B ๆ น้องเขาก็คงไม่อยากรำคาญ (ผมเข้าใจความรู้สึกนะ น้องเขาก็เตรียมเอกสารจากผมแล้วทุกอย่าง) จึงยอมปล่อยให้ ผมไปใช้บริการตามที่ พนง.สาขา A ต้องการ ซึ่งผมก็ไม่พอใจจุดนี้ แต่ผมรีบจะใช้เงิน จึงต้องปล่อยเลยตามเลย
เรียน ผู้บริหารกรุงไทย คุณไม่ควรปล่อยให้พนง.ทำการกระทำแบบนี้ดีกว่าไหม หรือแม้แต่ ผู้จัดการสาขา เองยังเข้าข้างลูกน้องตัวเอง เพราะได้ยอดเหมือนกันเป็นผลงานสาขาเหมือนกัน ผมมองว่ามันทุเรศครับ ในที่ทำงานแบบนี้ แต่อาจจะมีทุกที่นั่นแหละ มันทำให้พนง.ไม่รักสามัคคีกันแล้ว ยังใส่หน้ากากา ปั่นโกหกหลอกลวง พฤติกรรมในที่ทำงานส่งผลไปที่บ้านไหม ส่งผลถึงเพื่อนไหม แต่ก็อย่างว่านะ ผู้บริหารเองก็คงไม่เดือนร้อนอะไร ขอแค่ให้มีดอกเบี้ยจากลูกค้าเข้าก็พอ เรื่องอื่นไม่สนใจใครจะดีใครจะตัวเงินตัวทอง
มาเพื่อขอระบายสุดท้าย สุดท้ายผมคงไม่ทำธุรกรรมกับธนาคารนี้ดีกว่า พนง. ผจก.สาขาหรือผู้ดูแลเขตภาค ยังแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอยู่เลย และผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่า ที่วงจรอุบาทว์ ได้ไหม อาจจะแรงไป เลยมาขอวิจารณ์การกระทำในนี้แทน
นักเลงคีย์บอร์ด
เรื่องเล่าในที่ทำงานของธนาคาร
เหตุการณ์มีอยู่ว่า ผมคือลูกค้าต้องการกู้เงินเพิ่มหลักล้าน แต่มีฐานข้อมูลที่สาขา A และทำการตรวจสอบเครดิตบูโร และทำการออกหนังสือเพื่อขอกู้ในเอาไว้อยู่ กับพนักงานสาขา A แต่ผมเปลี่ยนใจเพราะต้องการกู้เงินกับสาขา B ซึ่งใกล้บ้านเพื่อความสะดวกการติดต่อมากกว่า เมื่อพนักงานสาขา B ทำเรื่องเอกสารให้ตามที่ผมร้องขอ ปรากฎว่า ติดเอกสารเดิมที่ พนง.สาขา A ทำค้างไว้ในระบบ จึงแจ้งขอให้ยกเลิกเอกสารดังกล่าว แต่พนง.ดังกล่าวกลับดึงเชิง ไม่ยอมทำให้ ผมเองเสียเวลาพอสมควรที่โทรไปโทรมา วิ่งไปวิ่งมา ระยะทางไม่ใช่น้อยๆนะครับ 50-60 กม. เมื่อพนง.สาขา B แจ้งยังไม่ยกเลิกเอกสารเดิม ผมจึงโทรไปที่สาขา A เพื่อให้ยกเลิกเพราะไม่ต้องการกู้ที่นั่น แต่ พนง.สาขา A กลับต่อว่า พนง.สาขา B หาว่าแย่งลูกค้า ทั้งๆที่ผมเองต้องการทำสาขาใกล้บ้านเอง พนง.สาขา A ต้องการยอดกู้นี้ เพื่อได้ยอดตามการบริหารจัดการของ ธ.กรุงไทย ที่บังคับการหายอด และเมื่อเจรจากันแล้ว ทางพนง.สาขา A แจ้งว่า เด่วทำเอกสารให้เลย 5นาที อนุมัติ ผมจึงบอกพนง.สาขา B ๆ น้องเขาก็คงไม่อยากรำคาญ (ผมเข้าใจความรู้สึกนะ น้องเขาก็เตรียมเอกสารจากผมแล้วทุกอย่าง) จึงยอมปล่อยให้ ผมไปใช้บริการตามที่ พนง.สาขา A ต้องการ ซึ่งผมก็ไม่พอใจจุดนี้ แต่ผมรีบจะใช้เงิน จึงต้องปล่อยเลยตามเลย
เรียน ผู้บริหารกรุงไทย คุณไม่ควรปล่อยให้พนง.ทำการกระทำแบบนี้ดีกว่าไหม หรือแม้แต่ ผู้จัดการสาขา เองยังเข้าข้างลูกน้องตัวเอง เพราะได้ยอดเหมือนกันเป็นผลงานสาขาเหมือนกัน ผมมองว่ามันทุเรศครับ ในที่ทำงานแบบนี้ แต่อาจจะมีทุกที่นั่นแหละ มันทำให้พนง.ไม่รักสามัคคีกันแล้ว ยังใส่หน้ากากา ปั่นโกหกหลอกลวง พฤติกรรมในที่ทำงานส่งผลไปที่บ้านไหม ส่งผลถึงเพื่อนไหม แต่ก็อย่างว่านะ ผู้บริหารเองก็คงไม่เดือนร้อนอะไร ขอแค่ให้มีดอกเบี้ยจากลูกค้าเข้าก็พอ เรื่องอื่นไม่สนใจใครจะดีใครจะตัวเงินตัวทอง
มาเพื่อขอระบายสุดท้าย สุดท้ายผมคงไม่ทำธุรกรรมกับธนาคารนี้ดีกว่า พนง. ผจก.สาขาหรือผู้ดูแลเขตภาค ยังแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอยู่เลย และผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่า ที่วงจรอุบาทว์ ได้ไหม อาจจะแรงไป เลยมาขอวิจารณ์การกระทำในนี้แทน
นักเลงคีย์บอร์ด