แปลกเหรอ ที่เราเป็นคนตรงๆ และชอบความชัดเจน

พอดีเรามีปัญหากับคนบางคนในเรื่องแบบนี้ เราเป็นคนที่ต้องการความชัดเจน อะไรถูกก็บอกว่าถูก อะไรผิดก็บอกว่าผิด อะไรทำได้ก็บอกว่าได้ อะไรทำไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ เราจะไม่ชอบคำพูดประเภทที่ว่า "ทำได้ แต่ไม่ควรทำ" , "ทำได้ แต่ไม่แนะนำ" , "ไม่ผิด แต่ปกติเขาไม่ทำกัน" ทำนองนี้

คนที่เรามีปัญหาด้วยเป็นคนในโซเชียล แต่เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบาย เราจะสมมติให้เป็นคนในชีวิตจริงละกัน สมมติว่าคนๆ นั้นเป็นหัวหน้าเรา เขาบอกว่าที่นี่ไม่มีทำงานล่วงเวลานะ ไม่ต้องขอค่า OT (แต่ก่อนหน้านี้ฝ่ายบุคคลเคยบอกว่า ถ้าอยู่ทำงานเกินเวลาก็ขอค่า OT ได้) เราเลือกที่จะเชื่อหัวหน้า เพราะเห็นว่า พนง. คนอื่นๆ ก็ไม่เห็นขอค่า OT กันสักคน อีกอย่างในกฎระเบียบที่เป็นสัญญาจ้างก็ระบุข้อความเหมือนกับว่าไม่สามารถขอค่า OT ได้ เราจึงเลือกที่จะไม่ขอ ทำเหมือนคนอื่นๆ ไป 

พอเราผ่านโปร เราก็ถามหัวหน้าอีกว่า จริงๆ แล้ว พนง. สามารถขอค่า OT ได้ไหม หัวหน้าบอกว่า "จริงๆ มันก็ได้แหละ แต่มันเหมือนเป็นช่องโหว่ของกฎระเบียบ กฎเขียนมาเหมือนว่าขอไม่ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ พนง. ขอค่า OT โดยที่ไม่ได้อยู่ล่วงเวลาเพราะทำงานจริงๆ" เราก็เข้าใจว่าขอได้ ต่อมาเราเห็นคนอื่นขอ เราก็เลยขอบ้าง เพราะเราอยู่ทำงานล่วงเวลาจริงๆ และการขอค่า OT ของที่นี่ก็ไม่ต้องให้หัวหน้าเซ็นอนุมัติ เพราะข้อมูลผ่านระบบตรงไปถึงฝ่ายบุคคลเลย แต่ พนง. คนอื่นๆ ก็สามารถเห็นได้ด้วยว่าเราขอ OT) ต่อมาคนที่เคยขอ OT ก็เลิกขอไป เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เราก็ยังขอต่อไป ไม่มีใครว่าอะไร เราเองก็รู้สึกตะหงิดๆ ว่าทำไมคนอื่นไม่ยอมขอ ทั้งๆ ที่มีสิทธิขอ

และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็ได้ยินหัวหน้าพูดกับ พนง. ที่มาใหม่ว่า ที่นี่ไม่บังคับให้ทำงานล่วงเวลา ไม่ต้องขอค่า OT นะ เราก็เอ๋อเลย สงสัยมากว่าตกลงมันขอได้หรือขอไม่ได้ เพราะตอนนี้มีเราคนเดียวที่ขอ คนอื่นๆ ไม่ขอ เราต้องการคำตอบแบบฟันธงเลยว่าตกลงมันขอได้หรือเปล่า เพราะการที่เราขออยู่คนเดียวนั้น ถึงจะไม่มีใครว่า แต่เราก็เกรงว่ามันจะไม่สมควรหรือเปล่า หรือจะไปสร้างความไม่พอใจให้คนอื่นๆ หรือเปล่า จะดูเหมือนเราเอาเปรียบใครหรือเปล่า (เรานึกถึงใจคนอื่นนะ แต่นึกถึงสิทธิของตัวเองมากกว่า) แต่ตอนนั้นเราไม่อยากถามหัวหน้าแล้ว เพราะมันจะดูเหมือนถามซ้ำซาก และตอนนั้นเราก็มีปัญหากับหัวหน้าด้วย (เรื่องอื่นนะ ไม่ใช่เรื่อง OT แต่ก็ไม่รู้ว่ามันมีสาเหตุมาจากเรื่องเราขอ OT ด้วยหรือเปล่า เพราะเราคิดว่าเรื่องทุกเรื่องสามารถโยงถึงกันได้ ถ้าคนมันอยากจะโยง)

ทีนี้เราตัดสินใจไปถามฝ่ายบุคคลเป็นการส่วนตัว เพราะคิดว่าคนที่น่าจะให้คำตอบชัวร์สุดก็ฝ่ายบุคคลนี่แหละ ฝ่ายบุคคลบอกว่าเราสามารถขอ OT ได้ ไม่ผิดกฎ เราก็โอเค เข้าใจชัดแล้ว แต่จากนั้นฝ่ายบุคคลเอาเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าเรา หัวหน้าก็ไม่พอใจ ว่าเราเลย ว่า 'ทำไมมีข้อข้องใจแล้วไม่ถามเขา ทำไมถึงข้ามไปถามคนอื่น แล้วเขาก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าสามารถขอ OT ได้ แต่มันเป็นช่องโหว่ของกฎ เหมือนเป็นการโกงที่ไม่ผิด ถ้ามันผิดฝ่ายบุคคลก็ต้องแจ้งแล้วไม่ใช่หรือ แล้วคำตอบที่เขาเคยตอบเรา เขาก็ถามฝ่ายบุคคลมาก่อนแล้ว แล้วเราจะงงอะไรอีก'

เราไม่ชอบสิ่งที่หัวหน้าพูดเลย ทั้งโกงเอย ใช้ช่องโหว่เอย มันฟังดูเหมือนเราทำสิ่งไม่ดีไม่ควร ทั้งๆ ที่เราไม่ใช่คนแบบนั้น เราก็อธิบายตรงๆ เลยว่า 'เราเคยถามหัวหน้าแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจน หัวหน้าพูดแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน เราถึงต้องไปถามฝ่ายบุคคลไง เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ผิดจริงๆ' หัวหน้าบอกว่า 'ที่คนอื่นๆ เขาไม่ขอ OT เป็นเพราะเขาอาจไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่ยอมขอเอง' ทีนี้มี พนง. คนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาว่า 'ตัวเขานั้นรู้ว่าสามารถขอได้ แต่ที่เขาไม่ขอก็เพราะเขาเป็นคนดีมีคุณธรรม' (เราฟังแล้วอยากจะอ้วกใส่ แต่ก็นิ่งไว้ เพราะไม่เคยมีเรื่องกับเขามาก่อน) แล้วหัวหน้าก็ยังคิดอีกว่าการที่เราไปถามฝ่ายบุคคลแบบเงียบๆ มันดูเหมือนเราเอาตัวรอดคนเดียว ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คิดแบบนั้น เราไปถามเงียบๆ เพื่อไม่ให้ดูเหมือนเราหักหน้าเขาต่อหน้า พนง. คนอื่นๆ ต่างหาก (มีเราคนเดียวที่ขอ OT แล้วจะดูเหมือนเราเอาตัวรอดคนเดียวได้ไง คนอื่นๆ ก็เห็นอยู่ว่าเราขอ)

เราก็พูดเลยว่า 'แต่การที่หัวหน้าบอกว่าเราใช้ช่องโหว่หรือการโกง มันก็แปลว่าเราทำผิด ไม่ใช่เหรอ' เพราะถ้าเรียกว่าการโกง เรามองว่ามันผิดอยู่แล้ว เราคิดอะไรตรงๆ หัวหน้าก็ยกตัวอย่างเลยว่า 'ถ้าการใช้ช่องโหว่มันผิด แบบนี้คนเป็นทนายความก็ไม่สามารถหยิบเอาช่องโหว่ของกฎหมายมาว่าความได้สิ' เราฟังแล้วเอ๋ออีกครั้ง เราไม่รู้หรอก ไม่ได้เรียนจบด้านกฎหมาย แต่เราคิดว่าเถียงต่อไปก็ไม่จบไม่สิ้น เบื่อแล้ว สุดท้ายก็เลยจบตรงที่เราพูดขอบคุณหัวหน้าที่ให้คำตอบเราอีกครั้ง และก็ขอโทษไปด้วยถ้าเราทำให้เขาไม่พอใจ (ทั้งๆที่เราคิดว่าเราไม่ผิด แต่กลายเป็นเราต้องขอโทษเขาเพื่อจะจบเรื่อง ต้องใช้ความฝืนทนอดกลั้นขนาดไหนคิดดู)

แต่เรารู้สึกว่าหัวหน้าก็คงยังไม่พอใจเราอยู่นั่นแหละ เราดูเอาจากพฤติกรรมของเขาที่มีต่อเรา เปรียบเทียบกับที่มีต่อคนอื่น เราก็เข้าใจว่าหลายคนโกรธแล้วหายยาก อีโก้สูง อคติแรง แต่เราก็สงสัยว่ามันแปลกหรือผิดมากเหรอกับสิ่งที่เราทำลงไป เราก็แค่ต้องการรักษาสิทธิตัวเอง และก็ต้องการความชัดเจน ไม่คลุมเครือ

(ปล. ถ้าอ่านแล้วอย่าตอบนะว่า "ไม่ผิด แต่ไม่ควร" หรืออะไรเทือกนี้ เราเตรียมคำสวนกลับไว้แล้ว อยากได้ความคิดเห็นแบบชัดเจนจากใจเลย จะ yes หรือ no ก็ว่ามาเลย เราชอบแบบนี้มากกว่า)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่