สัตตวัญญาณัฎฐิกถา ทวายตนกถา
[๖๕] ดูกรอานนท์ วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ เหล่านี้ วิญญาณฐิติ ๗ เป็นไฉน คือ:-
๑. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกมนุษย์ และพวกเทพบางพวก พวกวินิบาตบางพวก นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๑ 👁(ในชั้นกามาวจร 🌎 เรียกว่า lok)
๒. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องในชั้นพรหมผู้บังเกิดด้วยปฐมฌาน และสัตว์ผู้เกิดในอบาย ๔ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๒ 👁 ( ฌานที่ 1 ชั้นที่ 1 - ชั้นที่ 3)
๓. สัตว์มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกเทพชั้นอาภัสสร นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๓ 👁 (ฌานที่ 2 ชั้นที่ 4 - ชั้นที่ 6)
๔. สัตว์ที่มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพชั้นสุภกิณหะ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๔ 👁 (ฌานที่ 3 ชั้นที่ 7 - ชั้นที่ 9)
ดูกรอานนท์ บรรดาวิญญาณฐิติทั้ง ๗ ประการนั้น วิญญาณฐิติข้อที่
๑ มีว่า สัตว์มีกายต่างกันมีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกมนุษย์และพวกเทพบางพวก พวกวินิบาตบางพวก ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า.
ดูกรอานนท์ บรรดาวิญญาณฐิติทั้ง ๗ ประการนั้น วิญญาณฐิติข้อที่
๒. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องในชั้นพรหมผู้บังเกิดด้วยปฐมฌาน และสัตว์ผู้เกิดในอบาย ๔
(เช่น นิรยะ. นรก ฯ เป็นต้น)
ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า.
......ฯลฯ
วิญญาณฐิติที่ ๗ มีว่า สัตว์ผู้เข้าถึงชั้นอากิญจัญญายตนะ ด้วยมนสิการว่า ไม่มีอะไร เพราะล่วงชั้นวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
ดูกรอานนท์ เพราะภิกษุมาทราบชัดความเกิดและความดับทั้งคุณและโทษ และอุบาย
เป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติ ๗ และอายตนะ ๒ เหล่านี้ ตามเป็นจริงแล้ว ย่อมเป็นผู้หลุดพ้นได้ เพราะไม่ยึดมั่น
อานนท์ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ปัญญาวิมุตติ ฯ
.
👁👁👁👁👁👁👁..🔚.
http://www.84000.org/tipitaka/read/bypage.php?book=10&page=69&pages=8&pagebreak=0&x=12&y=12
.ป.ล
เช่น น้ำ(H2O) คงสภาพเป็นของเหลว (โมเลกุล) เหือดแห้งแห้งไป(ระเหย)กลายเป็นไอน้ำ(หรือกลุ่มหมอกกลายไปเป็นน้ำค้างหยดลงดิน)
(เช่น ในตอนเช้ามืดอากาศชื้นมีหมอกมากตอนกลางวันจะร้อนจัด เป็นต้น)
จากไอน้ำ(ละออง)ลอยขึ้นไปรวมตัวกัน(ชั้นบรรยากาศหรือฟ้า)กลายไปเป็นเมฆจากเมฆเกิดการควบแน่นกลายไปเป็นฝน
(หรือเกล็ดหิมะ)ตกลงมาจากหยดน้ำรวมตัวกันกลายเป็นแอ่งน้ำ สระ ฯ หนอง ฯ คลอง ฯบึง ฯ ห้วยฯ ไหลไปกลายเป็นแม่น้ำสายต่างๆ ...ความปรากฎของสิ่งมีชีวิตจึงได้ก่อเกิดมีขึ้น🌱🦠🧫🧪 ........ฯลฯ.....กลับคืนไป..สู่ทะเล ฯ🌊
.🛶
.⛵️🚤🛥🛳⛴🚢⚓️🏝🏖
เมื่อน้ำหายไปกลายเป็นเกาะหรือแผ่นดินทิ้งไว้แต่เพียงร่องรอย.....👣
🏜🏔⛰🌋🗻🗿🗽🗼🏰🏯🏟
.
เมื่อน้ำไม่มี( O2 ) แก๊สก็ไม่มี (หรือเครื่องสร้าง O2) พืช และสิ่งมีชิวิตก็ย่อมสาปสูญ...สิ้นไปตามกาลเวลา (O, 8).....☀️(ธรรมะ-(ชาติ)){เช่น น้ำย่อมเปลี่ยนสถานะใช่ตัวตนที่แท้จริงหรือไม่ แล้วหายไปได้อย่างไร.)
.
(ที่ใดไม่มีน้ำก็ไม่มีสิ่งที่มีชีวิตก่อเกิดกำเนิดให้มีขึ้น....ดับไปเป็นธรรมด้าธรรมด่าธรรมดา.)
🌤⛅️🌥☁️🌦🌈🌧🌪⛈🌩⚡️🌧💧☂️💦☔️🌨❄️⛄️☃️🌫....☀️🔥💨.
.
ถ้าไม่มีน้ำเสียแล้ว สิ่งที่เรียกว่า มนุษย์พร้อมกับวิญญาณจะมีขึ้นมาอย่างไรได้เล่า? (ก็ก่อเกิดให้เป็นดินและแร่ธาตุอื่นขึ้นอีกไม่ได้.)☀️🌙🌎🌍🌏.⭐️
ฉันนั้นแล. (เหลืออยู่.แต่เพียงว่างเปล่าและปราศจากรูปร่าง
ทุกสิ่งก็ถูกมาประกอบเข้ากันจากความว่างเปล่า
เช่น
. อากาศอาศัยไม้ โครงสร้าง ผนัง หลังคา ประตู หน้าต่าง (ไฟฟ้า ประปา) ฐานราก และที่ดิน
มาประกอบเข้ากันจึงนับว่า ‘เรือน’
🏕⛺️🏠🏡🏘🏚🏗🏭🏢
แม้ฉันใด อากาศอาศัยกระดูก เอ็น เนื้อ
และหนังมาประกอบเข้าด้วยกันจึงนับว่า ‘รูป’(ครบ 32) ฉันนั้น) 🧍♂️🧬👫👩❤️👨🛏👨👩👦👨👩👧👨👩👧👦🩸💉🌡
(เช่น อะตอม....(ควาร์ก) ..+ - e p ฯลฯ หรือ
สารสังเคราะห์อื่นๆ ที่สร้างกันขึ้นมา ⚙️.เรียกว่ารถฯ 🚲🏍🚘🚅 เครื่องบินฯ🛫✈️ 🛩 🚁หุ่นยนต์ฯ ดาวเทียมฯ🛰 gpsฯ📡 มือถือฯ 📲คอมฯ 💻 .....ฯลฯ หรือ
เช่น ี.ิ ี ู๋็๊์ ะาเะแโะโ . ฯลฯ เป็นต้น) ไ i! ชิพหาย. ตายละตู.่
.
นอกจาก"ปฏิจจสมุปปันนธรรม" .มีอะไรบ้าง ?ซึ่งเห็นว่า "เป็นเราของเรา". יהוה ????
.⛽️🔋💡🔦🔌🕯
🧱🔧🔨⛏🔩⛓🔩🧲🔫
.
🧰🔭🔬🕳🩹🩺💊💉🩸 +
.
🪓🔪🗡🛢🚬💣🧨.🚀☄️💥🩸🚗🚕🚙🚌🚎🚓🚑🚒🚐🚔🚧⚒🛠⚔️☠️.💸
🌬🔥🧯💨.💧}เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน{
.
🏬🏣🏤🏦🏨🏪🏫🏩
.
💒🏛⛪️🕌🕍🛕🕋
.
🏥.ขอ🔪(หมอ)ผ่าตัดหรือจักษุ!
.
นันทิราคะ มองให้เห็นว่า "น้ำ"💧 ะที่ไม่สะอาด 🧬.
ว่าด้วย ปัญญาวิมุตติ ฯ
[๖๕] ดูกรอานนท์ วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ เหล่านี้ วิญญาณฐิติ ๗ เป็นไฉน คือ:-
๑. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกมนุษย์ และพวกเทพบางพวก พวกวินิบาตบางพวก นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๑ 👁(ในชั้นกามาวจร 🌎 เรียกว่า lok)
๒. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องในชั้นพรหมผู้บังเกิดด้วยปฐมฌาน และสัตว์ผู้เกิดในอบาย ๔ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๒ 👁 ( ฌานที่ 1 ชั้นที่ 1 - ชั้นที่ 3)
๓. สัตว์มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกเทพชั้นอาภัสสร นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๓ 👁 (ฌานที่ 2 ชั้นที่ 4 - ชั้นที่ 6)
๔. สัตว์ที่มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพชั้นสุภกิณหะ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๔ 👁 (ฌานที่ 3 ชั้นที่ 7 - ชั้นที่ 9)
ดูกรอานนท์ บรรดาวิญญาณฐิติทั้ง ๗ ประการนั้น วิญญาณฐิติข้อที่
๑ มีว่า สัตว์มีกายต่างกันมีสัญญาต่างกัน ได้แก่พวกมนุษย์และพวกเทพบางพวก พวกวินิบาตบางพวก ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า.
ดูกรอานนท์ บรรดาวิญญาณฐิติทั้ง ๗ ประการนั้น วิญญาณฐิติข้อที่
๒. สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องในชั้นพรหมผู้บังเกิดด้วยปฐมฌาน และสัตว์ผู้เกิดในอบาย ๔
(เช่น นิรยะ. นรก ฯ เป็นต้น)
ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพื่อเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า.
......ฯลฯ
วิญญาณฐิติที่ ๗ มีว่า สัตว์ผู้เข้าถึงชั้นอากิญจัญญายตนะ ด้วยมนสิการว่า ไม่มีอะไร เพราะล่วงชั้นวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง ผู้ที่รู้ชัดวิญญาณฐิติข้อนั้น รู้ความเกิดและความดับ รู้คุณและโทษ แห่งวิญญาณฐิติข้อนั้น และรู้อุบายเป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติข้อนั้น เขายังจะควรเพลิดเพลินวิญญาณฐิตินั้นอีกหรือ.
ไม่ควร พระเจ้าข้า ฯ
ดูกรอานนท์ เพราะภิกษุมาทราบชัดความเกิดและความดับทั้งคุณและโทษ และอุบาย
เป็นเครื่องออกไปจากวิญญาณฐิติ ๗ และอายตนะ ๒ เหล่านี้ ตามเป็นจริงแล้ว ย่อมเป็นผู้หลุดพ้นได้ เพราะไม่ยึดมั่น
อานนท์ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ปัญญาวิมุตติ ฯ
.
👁👁👁👁👁👁👁..🔚.
http://www.84000.org/tipitaka/read/bypage.php?book=10&page=69&pages=8&pagebreak=0&x=12&y=12
.ป.ล
เช่น น้ำ(H2O) คงสภาพเป็นของเหลว (โมเลกุล) เหือดแห้งแห้งไป(ระเหย)กลายเป็นไอน้ำ(หรือกลุ่มหมอกกลายไปเป็นน้ำค้างหยดลงดิน)
(เช่น ในตอนเช้ามืดอากาศชื้นมีหมอกมากตอนกลางวันจะร้อนจัด เป็นต้น)
จากไอน้ำ(ละออง)ลอยขึ้นไปรวมตัวกัน(ชั้นบรรยากาศหรือฟ้า)กลายไปเป็นเมฆจากเมฆเกิดการควบแน่นกลายไปเป็นฝน
(หรือเกล็ดหิมะ)ตกลงมาจากหยดน้ำรวมตัวกันกลายเป็นแอ่งน้ำ สระ ฯ หนอง ฯ คลอง ฯบึง ฯ ห้วยฯ ไหลไปกลายเป็นแม่น้ำสายต่างๆ ...ความปรากฎของสิ่งมีชีวิตจึงได้ก่อเกิดมีขึ้น🌱🦠🧫🧪 ........ฯลฯ.....กลับคืนไป..สู่ทะเล ฯ🌊
.🛶
.⛵️🚤🛥🛳⛴🚢⚓️🏝🏖
เมื่อน้ำหายไปกลายเป็นเกาะหรือแผ่นดินทิ้งไว้แต่เพียงร่องรอย.....👣
🏜🏔⛰🌋🗻🗿🗽🗼🏰🏯🏟
.
เมื่อน้ำไม่มี( O2 ) แก๊สก็ไม่มี (หรือเครื่องสร้าง O2) พืช และสิ่งมีชิวิตก็ย่อมสาปสูญ...สิ้นไปตามกาลเวลา (O, 8).....☀️(ธรรมะ-(ชาติ)){เช่น น้ำย่อมเปลี่ยนสถานะใช่ตัวตนที่แท้จริงหรือไม่ แล้วหายไปได้อย่างไร.)
.
(ที่ใดไม่มีน้ำก็ไม่มีสิ่งที่มีชีวิตก่อเกิดกำเนิดให้มีขึ้น....ดับไปเป็นธรรมด้าธรรมด่าธรรมดา.)
🌤⛅️🌥☁️🌦🌈🌧🌪⛈🌩⚡️🌧💧☂️💦☔️🌨❄️⛄️☃️🌫....☀️🔥💨.
.
ถ้าไม่มีน้ำเสียแล้ว สิ่งที่เรียกว่า มนุษย์พร้อมกับวิญญาณจะมีขึ้นมาอย่างไรได้เล่า? (ก็ก่อเกิดให้เป็นดินและแร่ธาตุอื่นขึ้นอีกไม่ได้.)☀️🌙🌎🌍🌏.⭐️
ฉันนั้นแล. (เหลืออยู่.แต่เพียงว่างเปล่าและปราศจากรูปร่าง
ทุกสิ่งก็ถูกมาประกอบเข้ากันจากความว่างเปล่า
เช่น
. อากาศอาศัยไม้ โครงสร้าง ผนัง หลังคา ประตู หน้าต่าง (ไฟฟ้า ประปา) ฐานราก และที่ดิน
มาประกอบเข้ากันจึงนับว่า ‘เรือน’
🏕⛺️🏠🏡🏘🏚🏗🏭🏢
แม้ฉันใด อากาศอาศัยกระดูก เอ็น เนื้อ
และหนังมาประกอบเข้าด้วยกันจึงนับว่า ‘รูป’(ครบ 32) ฉันนั้น) 🧍♂️🧬👫👩❤️👨🛏👨👩👦👨👩👧👨👩👧👦🩸💉🌡
(เช่น อะตอม....(ควาร์ก) ..+ - e p ฯลฯ หรือ
สารสังเคราะห์อื่นๆ ที่สร้างกันขึ้นมา ⚙️.เรียกว่ารถฯ 🚲🏍🚘🚅 เครื่องบินฯ🛫✈️ 🛩 🚁หุ่นยนต์ฯ ดาวเทียมฯ🛰 gpsฯ📡 มือถือฯ 📲คอมฯ 💻 .....ฯลฯ หรือ
เช่น ี.ิ ี ู๋็๊์ ะาเะแโะโ . ฯลฯ เป็นต้น) ไ i! ชิพหาย. ตายละตู.่
.
นอกจาก"ปฏิจจสมุปปันนธรรม" .มีอะไรบ้าง ?ซึ่งเห็นว่า "เป็นเราของเรา". יהוה ????
.⛽️🔋💡🔦🔌🕯
🧱🔧🔨⛏🔩⛓🔩🧲🔫
.
🧰🔭🔬🕳🩹🩺💊💉🩸 +
.
🪓🔪🗡🛢🚬💣🧨.🚀☄️💥🩸🚗🚕🚙🚌🚎🚓🚑🚒🚐🚔🚧⚒🛠⚔️☠️.💸
🌬🔥🧯💨.💧}เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน{
.
🏬🏣🏤🏦🏨🏪🏫🏩
.
💒🏛⛪️🕌🕍🛕🕋
.
🏥.ขอ🔪(หมอ)ผ่าตัดหรือจักษุ!
.
นันทิราคะ มองให้เห็นว่า "น้ำ"💧 ะที่ไม่สะอาด 🧬.