มวยคู่เอกระหว่าง “7 พรรคฝ่ายค้าน” และ “รัฐบาลเรือเหล็ก” ที่จะทำการ “พันตู” และ“ตุ๊บตั๊บ” กันในสนามโคลีเซียม ณ เกียกกาย ว่าด้วย“พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2563” ได้ผ่านไปแล้วในวันแรก
ก่อนที่ “สิงห์ฝ่ายค้าน” และ “สมิงฝ่ายรัฐบาล” จะปล่อยทีเด็ดโต้ตอบกันอย่างสุดมันใน “สงครามชิวหา” ปรากฏว่าได้เกิด “มวยก่อนเวลา” เข้าสู่การพิจารณาในสภาก่อน ได้แก่ “การพิจารณา พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์” นำเสนอโดยครม.มีพล.อ.ชัยชาญช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงหลักการและเหตุผล
“มวยก่อนเวลา” หรือ การพิจารณาพ.ร.ก.ดังกล่าวคนไทยทั้งประเทศต่างเชื่อโดยสนิทใจ“ทุกฝ่ายคงให้ผ่านฉลุย”
แต่แล้วก็เกิด “รายการช็อก” อย่างเข็มขัดสั้นเกิดจากการอภิปรายของเลขาฯพรรคอนาคตใหม่ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศต่าง “อ้าปากค้าง”
เหตุที่ต้อง “อ้าปากค้าง” เพราะคำอภิปรายของท่านเลขาฯ “ไปไกล” เกินกว่าใครจะคาดคิด
แต่ที่ “น่าตกใจ” ยิ่งกว่า “อ้าปากค้าง” และยิ่งกว่า “ไปไกล” ตรงที่ผลแห่งการลงมติ มีสส. “เห็นชอบ” กับพ.ร.ก.ดังกล่าว “374 เสียง” และไม่เห็นชอบ 70 เสียง
“374 สส.ที่เห็นชอบ” มาจากพรรคร่วมรัฐบาลและ 6 พรรคฝ่ายค้าน มีเพียง “70 สส.พรรคอนาคตใหม่” ที่ตัดสินใจ “ขับรถย้อนศร”
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมทุกภาคส่วนต่างออกมาวิจารณ์อย่างกระหน่ำ ไม่แพ้การวิจารณ์กรณีจุดพลุแก้มาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญ”
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ “มวยก่อนเวลา” จะมี “อาฟเตอร์ช็อก” ตามมาหรือไม่? คงไม่มีใคร “ทำนายถูก”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
https://www.naewna.com/politic/columnist/41786
มวยก่อนเวลา
ก่อนที่ “สิงห์ฝ่ายค้าน” และ “สมิงฝ่ายรัฐบาล” จะปล่อยทีเด็ดโต้ตอบกันอย่างสุดมันใน “สงครามชิวหา” ปรากฏว่าได้เกิด “มวยก่อนเวลา” เข้าสู่การพิจารณาในสภาก่อน ได้แก่ “การพิจารณา พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์” นำเสนอโดยครม.มีพล.อ.ชัยชาญช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงหลักการและเหตุผล
“มวยก่อนเวลา” หรือ การพิจารณาพ.ร.ก.ดังกล่าวคนไทยทั้งประเทศต่างเชื่อโดยสนิทใจ“ทุกฝ่ายคงให้ผ่านฉลุย”
แต่แล้วก็เกิด “รายการช็อก” อย่างเข็มขัดสั้นเกิดจากการอภิปรายของเลขาฯพรรคอนาคตใหม่ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศต่าง “อ้าปากค้าง”
เหตุที่ต้อง “อ้าปากค้าง” เพราะคำอภิปรายของท่านเลขาฯ “ไปไกล” เกินกว่าใครจะคาดคิด
แต่ที่ “น่าตกใจ” ยิ่งกว่า “อ้าปากค้าง” และยิ่งกว่า “ไปไกล” ตรงที่ผลแห่งการลงมติ มีสส. “เห็นชอบ” กับพ.ร.ก.ดังกล่าว “374 เสียง” และไม่เห็นชอบ 70 เสียง
“374 สส.ที่เห็นชอบ” มาจากพรรคร่วมรัฐบาลและ 6 พรรคฝ่ายค้าน มีเพียง “70 สส.พรรคอนาคตใหม่” ที่ตัดสินใจ “ขับรถย้อนศร”
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมทุกภาคส่วนต่างออกมาวิจารณ์อย่างกระหน่ำ ไม่แพ้การวิจารณ์กรณีจุดพลุแก้มาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญ”
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ “มวยก่อนเวลา” จะมี “อาฟเตอร์ช็อก” ตามมาหรือไม่? คงไม่มีใคร “ทำนายถูก”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
https://www.naewna.com/politic/columnist/41786