☺️ วันนี้เราขอนำภาพของห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ในแถบเทือกเขา Dolomites มาฝากกันจ้า
เช่ยเคยจ้าา ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้าา
>>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇮🇹 Aga - อะกา
⭐️ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน
⛰ ในประเทศ Italy ทางตอนเหนือไม่ไกลจากเมือง Venice มีแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย นั่นก็คือเทือกเขา Dolomites โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว สกีรีสอร์ทจำนวนมากเเน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนในหน้าร้อนวิวของทะเลสาบมิซูริน่า (Lake Misurina) และรูปทรงที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาตรีไซม์ ดิ ลาวาเรโด (Tri Cime di Lavaredo) ก็สวยงามไม่แพ้ใคร และนักท่องเที่ยวที่มาแถบนี้มักจะใช้กอตินา แดมเปซโซ่ (Cortina d'Ampezzo) เมืองใหญ่ทางตอนเหนือที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้เป็นจุดค้างคืน
🏬 ไม่ไกลกันนัก Aga เป็นร้านอาหารประจำโรงแรมที่เราเข้าพักคือ Hotel Villa Trieste ซึ่งตั้งอยู่ที่ตีนเขามองเต เปลโม (Monte Pelmo) ในเมืองซานวิโต้ ดิ กาโดเร (San Vito di Cadore) โดยได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินตั้งเเต่ปี 2016 ภายในตกแต่งด้วยวัสดุไม้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ตัวร้านมีขนาดค่อนข้างเล็ก ดำเนินงานโดยเชฟหนุ่มอายุน้อย Oliver Piras เสิร์ฟเมนูอาหารอิตาเลียนที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น แต่มีการนำเทคนิคการปรุงและรสชาติของอาหารจากทั่วโลกเข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นรสชาติใหม่ วันนี้หลังจากขับรถวนไปวนมาในเเถบเทือกเขา (นับรวมเเล้วหลายร้อยโค้งหักศอก) ทำให้สั่งอาหารมาทานได้ไม่มากนัก แต่ก็พยายามเลือกเมนูที่เชฟเเนะนำ อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีรสชาติแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร จานที่แปลกที่สุดขอยกให้ Amuse-bouche อย่างที่สามคือ Rabbit kidneys หรือไตกระต่ายที่บอกเลยว่าเราเองก็เพิ่งลองทานเป็นครั้งเเรกเช่นกัน
เมนูวันนี้
- Local Bread from The Dolomites (Complimentary)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Carrot Gratin, Fermented Strawberries , Rabbit Kidneys
- Fregola Minestra, Schie shrimp and Currant broth, Tarragon (25 EUR)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
- Venison, Potatoes Purè and Bayleaf juice (36 EUR)
- Petit Four
Marshmallow with Peach, Apple
👍 อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีวัตถุดิบเเปลกๆมากมาย ยังไม่ถึงกับว้าว เชฟยังอายุน้อยอยู่มาก
รสชาติ : 13/20
ราคา : 9/20
ความคุ้มค่า : 12/20
บรรยากาศ : 14/20
บริการ : 15/20
ความประทับใจโดยรวม : 13/20
- Amuse-bouche (Complimentary)
Carrot Gratin
อย่างแรกที่อร่อยแบบไม่น่าเชื่อคือกราแตงทำจากแครอท วางบนเปลือกแครอทอบกรอบ กินเเล้วจะมีรสหวานตัดกับเนื้อสัมผัสกรอบๆของเปลือก มีกลิ่นหอมแครอท อร่อยใช้ได้เลย (14/20)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Fermented Strawberries
อย่างที่สองคือสตรอเบอรี่ดองทานกับคอกเทล จานนี้รสชาติไม่หวือหวา ให้รสออกเปรี้ยวเล็กน้อยช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (12/20)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Rabbit Kidneys
อมูสบูชจานสุดท้ายคือ "ไตกระต่าย" นั่นเอง เชฟบอกว่านี่เป็นอาหารพื้นเมืองของแถบภูเขา Dolomiti เริ่มจากหั่นไตแต่ละข้างเป็นสองซีก จากนั้นนำไปทอดจนกรอบ มีสีเหลืองทอง ข้างบนเป็น Gooseberries หรือผลโทงเทงหั่นสไลด์โรยด้วยมายองเนส รสชาติแปลกดี เนื้อสัมผัสเคี้ยวกรุบๆ เเต่เชฟเตรียมมาค่อนข้างดีทำให้ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนเครื่องในทั่วไป (13/20)
- Local Bread from The Dolomites (Complimentary)
ขนมปังและกริสซินี่ทำจากแป้งพื้นเมืองของที่นี่ผสมกับแป้งจากเมือง Padova กินกับเนยพื้นเมืองของแถบเทือกเขา รสชาติโดยรวมของขนมปังที่นี่ถือว่าใช้ได้เลย โดยเฉพาะเนยที่ทำออกมาได้ดีมากเทียบกับร้านอื่นๆในอิตาลีที่ผ่านมา (14/20)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
จานแรกคือ Primi ที่เชฟตั้งใจทำเลียนแบบราเมนของญี่ปุ่นโดยใช้เส้นพาสต้าตาโยลินี่ของแบบอิตาเลี่ยนซึ่งเป็นเส้นกลมเรียวบางทานกับ Ragout juice ออกรสเค็ม ทานเเล้วรู้สึกคล้ายราเมนจริงๆ แต่เป็นราเมนที่มีกลิ่นอายของอิตาเลียนแบบเต็มๆ (13/20)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
เสิร์ฟให้ทานคู่กับ Licorice Tea ที่เชฟตั้งเลียนแบบชาเขียวญี่ปุ่น (10/20)
- Fregola Minestra, Schie shrimp and Currant broth, Tarragon (25 EUR)
จานนี้เป็นฟรีโกล่าหรือพาสต้าทรงกลมของอิตาลี เคี้ยวเเล้วมีเนื้อสัมผัสหนึบๆ เสิร์ฟให้ทานกับซุปทำจากองุ่นผสมกับมันจากหัวกุ้ง จานนี้รสชาติไม่หวือหวามากนัก แต่เราแปลกใจที่รสขององุ่นกับมันกุ้งจะทำออกมาได้เข้ากัน ทานได้อร่อย เพราะดูจากส่วนผสมไม่น่าเข้ากันได้เลย (13/20)
- Venison, Potatoes Purè and Bayleaf juice (36 EUR)
เนื้อกวางกับพูเรทำจากมันฝรั่งโฮมเมดที่ใช้เวลาเตรียมด้วยมือนานถึง 45 นาที เป็นอาหารพื้นเมืองของแถบภูเขา Dolomites นี่เอง เนื้อกวางเสิร์ฟมาในความสุกมีเดียมแรร์ เชฟทำออกมาได้ดีมาก ยังคงความฉ่ำของเนื้อไว้ได้ครบถ้วน ไร้ซึ่งกลิ่นสาบของสัตว์ป่า กัดเเล้วเนื้อเเทบจะละลายในปาก ราดด้วยน้ำซอสสีเขียวทำจากใบเบย์ มีรสหวานนิดๆ อร่อยสุดๆ (15/20)
- Petit Four (Complimentary)
Marshmallow with Peach, Apple
อันแรกเป็นมาร์ชแมลโลเคี้ยวหนึบ โรยด้วยซอสสีส้มคล้าย Coulis ทำจากลูกพีช มีรสเปรี้ยวตัดกับหวาน (12/20)
อันที่สองเป็นแอปเปิ้ลโรยด้วยผงทำจากส้มยูซุและพริกไทย รสเปรี้ยวของส้มกับรสและกลิ่นของแอปเปิ้ลตัดกันเเปลกๆดี (11/20)
ราคา 98 EUR หรือประมาณ 3,300 บาท
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
[CR] 🇮🇹 Aga - อะกา อาหารอิตาลีระดับ 1 ดาวมิชลิน ในแถบเทือกเขา Dolomites
เช่ยเคยจ้าา ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้าา
>>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇮🇹 Aga - อะกา
⭐️ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน
⛰ ในประเทศ Italy ทางตอนเหนือไม่ไกลจากเมือง Venice มีแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย นั่นก็คือเทือกเขา Dolomites โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว สกีรีสอร์ทจำนวนมากเเน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนในหน้าร้อนวิวของทะเลสาบมิซูริน่า (Lake Misurina) และรูปทรงที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาตรีไซม์ ดิ ลาวาเรโด (Tri Cime di Lavaredo) ก็สวยงามไม่แพ้ใคร และนักท่องเที่ยวที่มาแถบนี้มักจะใช้กอตินา แดมเปซโซ่ (Cortina d'Ampezzo) เมืองใหญ่ทางตอนเหนือที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้เป็นจุดค้างคืน
🏬 ไม่ไกลกันนัก Aga เป็นร้านอาหารประจำโรงแรมที่เราเข้าพักคือ Hotel Villa Trieste ซึ่งตั้งอยู่ที่ตีนเขามองเต เปลโม (Monte Pelmo) ในเมืองซานวิโต้ ดิ กาโดเร (San Vito di Cadore) โดยได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินตั้งเเต่ปี 2016 ภายในตกแต่งด้วยวัสดุไม้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ตัวร้านมีขนาดค่อนข้างเล็ก ดำเนินงานโดยเชฟหนุ่มอายุน้อย Oliver Piras เสิร์ฟเมนูอาหารอิตาเลียนที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น แต่มีการนำเทคนิคการปรุงและรสชาติของอาหารจากทั่วโลกเข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นรสชาติใหม่ วันนี้หลังจากขับรถวนไปวนมาในเเถบเทือกเขา (นับรวมเเล้วหลายร้อยโค้งหักศอก) ทำให้สั่งอาหารมาทานได้ไม่มากนัก แต่ก็พยายามเลือกเมนูที่เชฟเเนะนำ อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีรสชาติแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร จานที่แปลกที่สุดขอยกให้ Amuse-bouche อย่างที่สามคือ Rabbit kidneys หรือไตกระต่ายที่บอกเลยว่าเราเองก็เพิ่งลองทานเป็นครั้งเเรกเช่นกัน
เมนูวันนี้
- Local Bread from The Dolomites (Complimentary)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Carrot Gratin, Fermented Strawberries , Rabbit Kidneys
- Fregola Minestra, Schie shrimp and Currant broth, Tarragon (25 EUR)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
- Venison, Potatoes Purè and Bayleaf juice (36 EUR)
- Petit Four
Marshmallow with Peach, Apple
👍 อาหารโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีวัตถุดิบเเปลกๆมากมาย ยังไม่ถึงกับว้าว เชฟยังอายุน้อยอยู่มาก
รสชาติ : 13/20
ราคา : 9/20
ความคุ้มค่า : 12/20
บรรยากาศ : 14/20
บริการ : 15/20
ความประทับใจโดยรวม : 13/20
- Amuse-bouche (Complimentary)
Carrot Gratin
อย่างแรกที่อร่อยแบบไม่น่าเชื่อคือกราแตงทำจากแครอท วางบนเปลือกแครอทอบกรอบ กินเเล้วจะมีรสหวานตัดกับเนื้อสัมผัสกรอบๆของเปลือก มีกลิ่นหอมแครอท อร่อยใช้ได้เลย (14/20)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Fermented Strawberries
อย่างที่สองคือสตรอเบอรี่ดองทานกับคอกเทล จานนี้รสชาติไม่หวือหวา ให้รสออกเปรี้ยวเล็กน้อยช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (12/20)
- Amuse-bouche (Complimentary)
Rabbit Kidneys
อมูสบูชจานสุดท้ายคือ "ไตกระต่าย" นั่นเอง เชฟบอกว่านี่เป็นอาหารพื้นเมืองของแถบภูเขา Dolomiti เริ่มจากหั่นไตแต่ละข้างเป็นสองซีก จากนั้นนำไปทอดจนกรอบ มีสีเหลืองทอง ข้างบนเป็น Gooseberries หรือผลโทงเทงหั่นสไลด์โรยด้วยมายองเนส รสชาติแปลกดี เนื้อสัมผัสเคี้ยวกรุบๆ เเต่เชฟเตรียมมาค่อนข้างดีทำให้ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนเครื่องในทั่วไป (13/20)
- Local Bread from The Dolomites (Complimentary)
ขนมปังและกริสซินี่ทำจากแป้งพื้นเมืองของที่นี่ผสมกับแป้งจากเมือง Padova กินกับเนยพื้นเมืองของแถบเทือกเขา รสชาติโดยรวมของขนมปังที่นี่ถือว่าใช้ได้เลย โดยเฉพาะเนยที่ทำออกมาได้ดีมากเทียบกับร้านอื่นๆในอิตาลีที่ผ่านมา (14/20)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
จานแรกคือ Primi ที่เชฟตั้งใจทำเลียนแบบราเมนของญี่ปุ่นโดยใช้เส้นพาสต้าตาโยลินี่ของแบบอิตาเลี่ยนซึ่งเป็นเส้นกลมเรียวบางทานกับ Ragout juice ออกรสเค็ม ทานเเล้วรู้สึกคล้ายราเมนจริงๆ แต่เป็นราเมนที่มีกลิ่นอายของอิตาเลียนแบบเต็มๆ (13/20)
- Tagliolini Ragout juice, Licorice Tea (22 EUR)
เสิร์ฟให้ทานคู่กับ Licorice Tea ที่เชฟตั้งเลียนแบบชาเขียวญี่ปุ่น (10/20)
- Fregola Minestra, Schie shrimp and Currant broth, Tarragon (25 EUR)
จานนี้เป็นฟรีโกล่าหรือพาสต้าทรงกลมของอิตาลี เคี้ยวเเล้วมีเนื้อสัมผัสหนึบๆ เสิร์ฟให้ทานกับซุปทำจากองุ่นผสมกับมันจากหัวกุ้ง จานนี้รสชาติไม่หวือหวามากนัก แต่เราแปลกใจที่รสขององุ่นกับมันกุ้งจะทำออกมาได้เข้ากัน ทานได้อร่อย เพราะดูจากส่วนผสมไม่น่าเข้ากันได้เลย (13/20)
- Venison, Potatoes Purè and Bayleaf juice (36 EUR)
เนื้อกวางกับพูเรทำจากมันฝรั่งโฮมเมดที่ใช้เวลาเตรียมด้วยมือนานถึง 45 นาที เป็นอาหารพื้นเมืองของแถบภูเขา Dolomites นี่เอง เนื้อกวางเสิร์ฟมาในความสุกมีเดียมแรร์ เชฟทำออกมาได้ดีมาก ยังคงความฉ่ำของเนื้อไว้ได้ครบถ้วน ไร้ซึ่งกลิ่นสาบของสัตว์ป่า กัดเเล้วเนื้อเเทบจะละลายในปาก ราดด้วยน้ำซอสสีเขียวทำจากใบเบย์ มีรสหวานนิดๆ อร่อยสุดๆ (15/20)
- Petit Four (Complimentary)
Marshmallow with Peach, Apple
อันแรกเป็นมาร์ชแมลโลเคี้ยวหนึบ โรยด้วยซอสสีส้มคล้าย Coulis ทำจากลูกพีช มีรสเปรี้ยวตัดกับหวาน (12/20)
อันที่สองเป็นแอปเปิ้ลโรยด้วยผงทำจากส้มยูซุและพริกไทย รสเปรี้ยวของส้มกับรสและกลิ่นของแอปเปิ้ลตัดกันเเปลกๆดี (11/20)
ราคา 98 EUR หรือประมาณ 3,300 บาท
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้