(พระไพศาล)ตัวเราประกอบด้วยกายกับใจอยู่ด้วยกันแต่มีคุณสมบัตรตรงกันข้ามเช่นกายชอบอยู่นิ่งใจชอบขยับกายจะแข็งแรงต้องออกกำลัง

ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
โดย พระไพศาล วิสาโล

ชีวิตประกอบไปด้วยกายกับใจ
อยู่ด้วยกันแต่มีคุณสมบัตรตรงกันข้าม
เช่น กายเป็นก้อน มีน้ำหนัก ชั่งตวงวัดได้
ใจไม่มีน้ำหนักชั่งตวงวัดไม่ได้

กายเคลื่อนขยับทำได้ทีละก้าวไปได้ช้า
ใจแล่นไปได้รวดเร็วมาก แค่พริบตาก็สามารถไปได้สุดขอบฟ้าไปก้นบึ้งของมหาสมุทธได้ ระยะทางไม่ใช่ปัญหาของใจ

กายชอบอยู่นิ่งๆไม่อยากทำงาน
ใจไม่ชอบอยู่นิ่ง เดินทางไปสารพัด
เวลาไปไหนใจไม่ได้ไปเปล่าๆเอาความทุกข์กลับมาด้วย

กายเวลาสัมผัสของร้อนของแหลม
กายรีบชักมือออกมาทันทีไม่ต้องสั่ง
กายรีบหนีออกจากภัยคุกคาม
ใจเวลาเจอภัยคุกคามแทนที่จะรีบหนีกลับวิ่งเข้าหา
ยิ่งโกรธ ยิ่งเกลียด ยิ่งกังวลก็ยิ่งไปหมกมุ่นกรุ่นคิดแต่สิ่งนั้น

กายฉลาดกว่าใจ ใจไม่ฉลาดเลยเพราะถ้าทำแบบนั้นแล้วจะยิ่งทุกข์

กายถ้าต้องแบกอะไรก็จะรีบปล่อยรีบวางถ้าหนักมากๆมันวางเองเลย
แต่ใจชอบแบกทั้งที่ทุกข์ก็ยังแบก
ยึดติดอดีตที่ผ่านไปแล้ว ยึดติดอนาคต
ยึดติดสิ่งที่คิดปรุงแต่งจากเหตุการณ์ปัจจุบัน

ถ้ารักกายรักใจ
ต้องฝึกให้กายทำงานออกกำลังกาย
การฝึกใจต้องทำตรงข้ามกับกายคือต้องทำให้นิ่ง
ฝึกใจให้อยู่กับเนื้อกับตัวจะพบกับความสงบ
ฝึกใจให้รู้จักปล่อยรู้จักวาง
ใจจะปล่อยวางได้ต้องรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น
ตัวที่จดจำอารมณ์คือสติแต่เราไม่ค่อยได้ใช้
ฝึกสติบ่อยๆให้รู้กายรู้ใจอยู่เนืองๆ
กายทำอะไรใจก็รู้
เวลาเกิดอารมณ์อะไรขึ้นที่ใจ ใจก็รู้ทัน
สติเหมือนสัญญาณเตือนภัยไม่ให้ลุกลาม
เพียงแค่ความไม่พอใจเกิดขึ้นสติก็บอกใจ ไม่ปล่อยให้ลุกลามเป็นความหงุดหงิด โกรธ
สุขก็รู้ทุกข์ก็รู้ไม่ปล่อยให้หลงลืมตัว
รู้ทันและวางมันลง
ฝึกใจแบบนี้ก็จะปลอดภัยกับความทุกข์ได้

สังเกตจากรอบตัวเราจะเห็นว่าใครที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะแข็งแรงและไม่ค่อยป่วยต่างกับคนที่ไม่ออกกำลังจะป่วยบ่อยและอ่อนแอ

ใครมีความเห็นอย่างไรแนะนำได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่