Day 6 (19/09/2019): Pilanesberg National Park - Palace of The Lost City Hotel at Sun City


มื้อเช้า ที่ Soho Hotel 

สั่ง Omelette ไป ทำมาชิ้นใหญ่ยักษ์มาก

วันนี้ มีภารกิจสำคัญ นั้นคือส่องสัตว์ตามล่า Big5 เพราะฉะนั้น หลังจากทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จ ทำเรื่อง Check-out  เราก็รีบบึ่งไป
Pelanesberg National Park เรยมีทางออกจาก Suncity ขับไปประมาณ 1 Km ก็มาถึง

ลิงค์ไปกระทู้ก่อนหน้าครับ
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 0 เตรียมตัวก่อนไป  https://ppantip.com/topic/39285952
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 1 Cape Town Day1-2   https://ppantip.com/topic/39287807
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 2 Cape Town Day 2  https://ppantip.com/topic/39288194
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 3 Cape Town Day 3  https://ppantip.com/topic/39288681
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 4 Cape Town Day 4  https://ppantip.com/topic/39293488
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 5 Johannesburg 5 https://ppantip.com/topic/39299788

และแล้วเราก็มาถึงประตูทางเข้า จ่ายค่าผ่านประตูเสร็จ (300Rand) จะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำเส้นทางการเดินทาง ข้อปฏิบัติต่างๆ
อธิบายเสร็จเราก็พร้อมลุย !! ขอสารภาพจริง ๆ ว่าตอนแรก ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะใช่ว่าจะไม่เคยเห็นสัตว์เหล่านี้ตามสวนสัตว์
กะว่าจะเข้าไปขับรถเล่นซัก 2 ชั่วโมงแล้วก็กลับ แต่ปล่าวเลยครับ เพราะยิ่งขับเข้าไปยิ่งสนุกครับ ความสนุกไม่ได้อยู่ที่แค่การได้เจอสัตว์ป่าครับ
แต่มันอยู๋ที่การได้ตามหาและการค้นพบครับ ผมกับแฟนได้ใช้เวลาอยู่ในอุทยานแห่งนี้ถึง 5 ชั่วโมงเต็ม ๆ ขับรถจนเพลียเลย 

ประตูทางเข้า จ่ายเงินค่าเข้าที่ซุ้ม

บรรยากาศใน Pelanesberg National Park 

บรรยากาศใน Pelanesberg National Park 

ระว่างทางก็จะเจอป้ายเตือนเป็นระยะๆ

ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะไปส่องสัตว์ป่าที่ Pelanesberg National Park นะครับ

          - สำหรับคนที่วางแผนจะเช่ารถขับเข้าไปในอุทยานแห่งนี้ แนะนำว่าตอนเช่ารถควรจะเช่ารถที่สมรรถภาพดี ๆ หน่อย
 เพราะทางด้านในจะเป็นถนนลูกรัง มีทางขึ้นเขาลงเขาเยอะ ถ้าฝนตกอาจจะได้มีหลุมบ่อให้ตกหล่มกันได้ ควรระวัง
          - มีทางเข้าได้หลายทาง ซื้อตั๋วได้ที่ด่านทางเข้า 
          - Google Maps อาจจะมีสัญญาณขาด ๆ หาย ๆ บ้างในอุทยานแห่งนี้ แผนที่มีขายตรงที่ขายตั๋ว
          - ห้ามออกจากตัวรถโดยเด็ดขาดขณะอยู่ในอุทยาน เพราะอาจโดนแด๊กได้นะครับ
          - ที่นีมีช้างเยอะมาก บางครับก็เดินขวางถนนเลย ให้เกียรติเค้านะครับถ้าไม่อยากแบน
          - ในอุทยานจะมีจุดสำหรับส่องสัตว์เป็นกระท่อมอยู่ตามจุดต่าง ๆ จะสามารถนำรถเข้าไปจอดได้ ระหว่างทางเดินไปที่จุดส่องสัตว์
จะมีรั้วไฟฟ้าอยู่อย่าไปเผลอแตะเชียวนะ
          - ห้ามขับรถเร็วด้วยนะครับ
          - แดดแรงมาก แว่นกันแดด ครีมกันแดด เป็นสิ่งจำเป็นเครับ
          - ควรจะเตรียมน้ำ อาหารรองท้องไปด้วยนะครับ เพราะใช้เวลาในนั้นค่อนข้างนาน สามารถขับออกมาซื้อข้างนอกแล้วเข้าไปใหม่ได้ 
แต่มันก็กว้างและไกลพอสมควรเลย
          - ใครต้องการจะถ่ายรูปสัตว์ป่า ควรจะเตรียมกล้องที่สามารถถ่ายรูประยะไกล ๆ ได้ ไม่งั้นถ่ายมาจะเหมือนมดเลย
          - ห้ามให้อาหารสัตว์ ถ้าไม่อยากโดนรุม
          - ถ้าใครที่ไม่ได้เช่ารถสามารถซื้อทัวร์จากโรงแรมได้เลยครับ มีหลากหลายแบบให้เลือก 
          - ส่วนใหญ่สัตว์ป่าจะอยู่ใกล้ ๆ แหล่งน้ำครับ 

ส่องสัตว์จนชุมปอดแล้ว ก็ได้เวลากลับโรงแรม แต่ว่าเราจะไม่ได้กลับไปที่ Soho แล้วนะครับ เราจะไปโรงแรมที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน มีชื่อเก๋ ๆ ว่า Palace of the Lost City หรือ ราชวังแห่งเมืองที่สาบสูญ แค่ชื่อก็อลังการแล้วครับ ตัวโรงแรมยิ่งอลังการกว่า ประทับใจตั้งแต่ก่อนเข้าโรงแรม ตอนขับรถไปที่โรงแรมจะมีพนักงานต้อนรับยืนต้อนรับเราอยู่ระหว่างทาง เค้าบอกว่า "คุณไม่ใช่แค่ลูกค้าเมื่อคุณมาที่นี่ คุณเป็น King and Queen" กันเลยทีเดียว พอไปถึงพนักงานรับรถจะนำรถเราไปจอดให้ครับ แล้วก็ไปทำเรื่อง check-in 


สภาพรถหลังไปส่องสัตว์ มันก็จะเขรอะๆประมาณนี้ครับ

Lobby โอ่โถงอลังการมากครับ เป็นเพดานสูง และมีจิตรกรรมฝาผนัง พอเดินเข้ามาแล้วให้ความรู้สึกว่าเป็นโรงแรมที่เก่าครับ แต่เก่าแบบมีเสน่ห์ และสะอาดสะอ้านมากเลย พนักงานที่นี่แตกต่างจากโรงแรมก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ คือ ยิ้มแย้ม รวดเร็ว และ ใส่ใจ เช็คอินรวดเร็ว แล้วก็พาที่ห้องทันที

Lobby โรงแรม

บรรยากาศห้อง

บรรยากาศโรงแรม โซน Outdoor และ Indoor

พอเก็บของเรียบร้อย ไม่รอช้าได้เวลาสำรวจโรงแรม โรงแรมแห่งนี้เป็นเหมือนพระราชวังแบบ African จริง ๆ ครับ คือเป็นวังใหญ่ ๆ และมีสวน มีป่าอยู่ทั้งภายในและภายนอก มีทางเดินให้สำรวจป่าด้วยครับสำหรับคนที่ชอบเดินสำรวจธรรมชาติกว้างใหญ่มากและหลงเอาได้ง่าย ๆ ห้องอาหารหลักโอโถงใหญ่โตสง่างาม ในโรงแรมก็จะมีอนุเสาวรีย์สัตว์ป่าอยู่หลายตัว ตัวอาคารภายในจะเป็นแบบ Atrium หรือ เป็นอาคารแบบเปิดภายใน ชั้นล่างสุดสามารถมองเห็นหลังคาได้ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวาของโรงแรม สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนหอคอยของโรงแรมได้ แค่ตัวโรงแรมนี้ก็เที่ยวได้ทั้งวันแล้วครับ 


ถาพถ่ายโรงแรมจากมุมสูง

อนุเสาวรีย์สัตว์ป่า

ไม่รู้ว่างาช้างทั้งหลายแหล่นี่ของจริงทั้งหมดรึปล่าว ถ้าจริงจะแอบโกรธ

ป่าที่อยู่ติดกับโรงแรม

มีทางเดินไปสระว่ายน้ำด้านหลังของโรงแรมด้วย ซึ่งผมมาทราบทีหลังว่าเป็นสระแบบเปิดเผยครับ คือคนที่ไปต้องไม่ใส่อะไรเลยครับ 
แต่ว่าในวันที่ผมไปเค้าปิดไม่ให้เข้าอยู๋ (โอ้ย!! อยากรู้อยากเห็น แต่ได้ยินว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุซะเยอะครับ 
ใช่ว่าไปแล้วจะเจอแต่นางแบบมาใช้บริการ ใครอยากลองก็เรียนเชิญได้ครับ) 


หอยทากอบเนยกระเทียมชีสเสริฟพร้อมกับขนมปัง

ข้าวต้มทะเล เมนู Signature ของทางร้าน

เย็นวันนั้นเราก็เดินไปทานอาหารเย็นที่ห้างเดิมครับ แต่คราวนี้เปลี่ยนไปทานร้านอาหารโปรตุเกต ชื่อว่า Calisto's Portuguese Restaurant ครับ 
เมนูที่สั่งจะเป็นหอยทากอบเนยกระเทียมชีสครับ ซึ่งราดชีสมาให้แบบไม่อั้นจริง ๆ ครับ ส่วนอีกเมนูจะเป็นเมนู Signature ของทางร้านเลยครับ 
เป็นอาหารแบบ Mediterranean ครับ จะเป็นข้าวต้มทะเลครับ ซึ่งอร่อยมากครับ รสและกลิ่นของอาหารทะเลฟุ้งไปทั่วเลยครับ 
มาเสิร์ฟกันทั้งหม้อกันเลยทีเดียว หิวมากกินกันหมดหม้อเลยครับสองคน

อิ่มแล้วก็กลับมาเดินสำรวจโรงแรมยามค่ำคืนอีกรอบเป็นการย่อยไปในตัว แล้วก็กลับเข้าห้องนอนหลับปุ๋ย
สำหรับวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ครับ