สวัสดีครับ กระทู้นี้จะเป็นการรีวิวการไปเช่ารถขับที่ประเทศ South Africa ของพวกเรา บอกเลยว่า Happy มาก ฟินที่สุด
ทริปนี้เราเน้นไปเที่ยวแบบสบาย ๆ โปรแกรมไม่แน่นเอี๊ยด เน้นขับรถชมวิว ดูสัตว์ป่าชิวๆ เดินตลาด หาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน
ขอเกริ่น..เหตุผลที่ผมอยากจะไปเที่ยวประเทศนี้เป็นเพราะว่าได้ยินกิตติศัพท์เรื่องความสวยมานานแล้ว แต่จริง ๆ แล้วมีอีกเหตุผลนึงลึก ๆ
ก็คือ ผมจะดูข่าวต่างประเทศค่อนข้างเยอะและมักจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการเหยียดผิวผมเลยมีความคิดที่ว่าอยากจะไปเห็นไปเจอคนเหล่านี้
พูดคุยกับเค้าแล้วประเมินเองว่า มันเป็นอย่างที่ CNN หรือ FOX News ชอบขู่ให้เรากลัวกันจริง ๆ รึปล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ได้มีโอกาสไปเที่ยว
ประเทศอิหร่านกับอียิปต์มาแล้ว ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าชาวมุสลิมไม่ได้เป็นคนหัวรุนแรง ไม่ได้น่ากลัว แถมออกจะน่ารักและเป็นกันเองด้วยซะอีก
คราวนี้ก็เลยอยากจะไปพิสูจน์ว่าคนดำใน แอฟริกานั้นเถื่อนจริงรึปล่าว แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะไปถึงประเทศยาก ๆ อย่างโซมาเลีย หรือคองโกนะครับ
ขอเริ่มที่ South Africa
ประเทศ South Africa นั้นเป็นประเทศที่เจริญมาก จากข้อมูลเค้าใช้คำว่าประเทศพัฒนาแล้ว (ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา)
ไปถึงแล้วก็รู้สึกว่าเจริญจริง น้ำประปาดื่มได้ ถนนหนทางไม่มีสายไฟรกรุงรัง เป็นระเบียบ ทางเท้าไม่มีกระเบื้องปูพี้นดุ๊กดิ้กพ่นน้ำได้ (ขอแขวะนิดนึง)
ห้างสรรพสินค้าเยอะแยะใหญ่โต อาหารการกินอุดมสมบูรณ์และที่สำคัญไม่แพงเลย แถมคุณภาพดีมาก ๆ อีกด้วย
ข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับ South Africa ก่อนนะครับ
- Visa ไปได้เลย 30 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า
- สภาพอากาศ South Africa เป็นประเทศที่อยู่ใต้สุดของทวีป Africa ล้อมรอบด้วยทะเลสามด้าน อากาศเลยมีหลากหลายมาก
ทั้งเย็นชื้น ร้อนชื้น และร้อนแห้งแบบทะเลทรายไปเลย แต่ส่วนใหญ่อุณหภูมิจะไม่ต่ำมากหรือสูงมาก เพราะฉะนั้นอากาศโดยรวมค่อนข้างสบาย
ทั้งปีเลยแหละ ช่วง Dry Season หรือ ตั้งแต่ พฤษภาคม – กันยายน อุณภูมิเฉลี่ยจะประมาณ 12-28 องศาเซลเซียส และ ช่วง Wet Season
ตั้งแต่ ตุลาคม – เมษายน อุณภูมิเฉลี่ยจะประมาณ 15-28 องศาเซลเซียส ช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อาจจะมีฝนตกเยอะหน่อย
(Philip Briggs, safaribooking.com, 2019) เพราะฉะนั้นหมายความว่า เที่ยวได้ทั้งปี เตรียมเสื้อหนาวกับขายาวไปบ้างก็พอแล้ว
แถมแดดก็แรงมากตอนกลางวัน ตอนที่ผมไปใส่ขาสั้นรองเท้าแตะเดินสบาย ๆ
ไปตามสถานทีท่องเที่ยวจะได้เจอกับกลุ่มนักเรียนมาทัศนศึกษากันพอจะขอถ่ายรูปจะรีบวิ่งกันเข้ามาอยู่ในเฟรมกันเลยเชียว
- ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ รองลงมาก็คือคนผิวขาว ถัดมาคือคนผิวสี (คือ Mixed race ระหว่างคนขาวและคนดำ) ที่เหลือก็คือคน เอเชีย
คนที่มีฐานะส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนขาว รองลงมาก็จะเป็นเอเชีย และท้ายที่สุดก็จะเป็นคนผิวดำ (ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนดำรวย ๆ นะ)
(https://en.wikipedia.org/wiki/Ethnic_groups_in_South_Africa, 2019)
- ศาสนา ส่วนใหญ่นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค เพราะฉะนั้น ร้านอาหาร ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดวันอาทิตย์
- คนผิวดำในประเทศนี้มีจังหวะหรือ Vibe ในตัวแทบจะทุกคนเลย ลงเครื่องเดินเข้าเกตมาเจอพนักงานจัดระเบียบคน rap ไปด้วยทำงานไปด้วย กระทั่งคนไร้บ้านบางคนยังเดินไปเต้นไปด้วย พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนผิวดำถึงเป็นเจ้าของเพลง Rap กับ Hip-Hop เป็นกันทั้งประเทศจริง ๆ
- คนไร้บ้านเยอะพอสมควรเลย แถมดุดันกว่าบ้านเราเยอะและเป็นคนหนุ่มสาวด้วย ส่วนใหญ่บ้านเราจะนั่งเฉย ๆ ทำตัวน่าสงสาร แต่ที่นี่มีมากมายหลายแบบเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ให้ระวังตัวดี ๆ เวลาเที่ยว
- อาหารการกินส่วนใหญ่ของประเทศนี้จะเป็นอาหารฝรั่งคล้าย ๆ บ้านเราครับ เช่น สเต็ก, แฮมเบอร์เกอร์, อาหารทะเลปิ้งย่าง อาหารอินเดีย
น่าจะเป็นอาหารที่แพร่หลายในประเทศนี้เพราะมีเมนูอาหารอินเดียแทรกอยู่แทบจะทุกร้าน ถ้าเป็นอาหารพื้นเมืองของทวีปแอฟริกาเลยมักจะเป็น
อาหารแบบอาหรับครับ เพราะประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกานับถือศาสนาอิสลาม จะเป็นพวกอาหารที่ใช้ ถั่ว เนื้อไก่ และแกะเยอะ ทานค่อนข้างยากหน่อยสำหรับคนไทย (แต่ผมก็กินได้หมดและ)
- กาแฟ ที่นี่ร้านกาแฟอร่อยเกือบทุกร้านแล้วราคาไม่แพง แก้วประมาณ 50-70 บาท ถ้าที่ไทยคุณภาพแบบนี้เราว่า 100up
- ประเทศ South Africa มีอัตราอาชญากรรมค่อนข้างสูง สูงขนาดติดอันดับต้นๆของโลก แต่ก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ มาตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่เขียนบอกไว้ในที่นี้ไม่ได้อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านอยากเลิกมาเที่ยวที่นี่ แต่ก็อยากให้ระวังตัวเวลามาเที่ยว ตอนกลางคืนไม่ควรออกไปไหนคนเดียวถ้าอยู่ในย่านที่ไม่ปลอดภัย ถ้าอยากไป Pub บาร์ ให้ไปตามคาสิโนน่าจะปลอดภัยกว่า ที่เราไปมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและผู้คนก็น่ารักเป็นมิตรออกจะฮา ๆ ด้วยซ้ำ
- ปลั้กไฟที่นี่เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขอย้ำ!! เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซื้อแบบ universal จากที่บ้านไปก็ใช้ไม่ได้ ต้องไปซื้อใหม่อยู่ดี บางโรงแรมอาจจะมีรูปลั้กกลมสองขาให้ใช้ แต่ปลั้กทั่วไปจะเป็นแบบสามขากลม) หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายซิมและที่Airport หรือซื้อที่ไทยเตรียมมาเลยก็ได้
- สกุลเงิน (Rand) 1 Rand = 2.2 บาท ณ วันที่ 14/09/2019
- ร้านอาหารส่วนใหญ่ทิปประมาณ 10% แต่ก็ไม่ได้บังคับเหมือนอเมริกา
- ถ้ามีอะไรอยากรู้เพิ่มเติมถามมาได้ใน comment นะครับ ถ้ารู้ก็จะตอบ ถ้าไม่รู้เดี๋ยวไปหามาให้ (ถ้ามีเวลาว่างพอ)
Nelson Mandala กับ ภรรยา รัฐบุรุษคนสำคัญของ South Africa และของโลกเลยครับ
แพลนทริปท่องเที่ยว
Day 1 (14/09/2019): BKK - Addis Ababa Airport (Ethiopia Airport) - Cape Town Airport - The Onyx Apartment Hotel - V&A Waterfront
Day 2 (15/09/2019): Lion Head - Signal Hill - Castle of Good Hope - Kirstenbosch National Botanical Garden - The Onyx Apartment Hotel
Day 3 (16/09/2019): BoKaap Museum - Green Market - Table Mountain - Chapman's Peak Drive -
Simon’s Town –Seaforth Beach Parking Lot (จุดชมเพนกวิ้นฟรี) - Protea Point B&B
Day 4 (17/09/2019): Cape of Good Hope – Cape Point - Boulders Beach (Penguin Kingdom) - Muizenberg Beach – The Onyx Apartment Hotel - Mojo Market - V&A Waterfront
Day 5 (18/09/2019): Cape Town Airport - OR Tambo Airport (Johannesburg Airport) - Soho Hotel & Casino at Sun City
Day 6 (19/09/2019): Pilanesberg National Park - Palace of The Lost City Hotel at Sun City
Day 7 (20/09/2019): The Cradle of Humankind - Sterkfontein Caves - Protea Hotel Fire & Ice! Pretoria Menlyn - Menlyn Park Shopping Centre
Day 8 (21/09/2019): Hazel Food Market - Union Buildings - Rosebank Mall - Neighbourgoods Market - Menlyn Park Shopping Centre - Protea Hotel Fire & Ice! Pretoria Menlyn
Day 9-10 (22-23/09/2019): Irene Village Mall - OR Tambo Airport - BKK
ว่าถึงเรื่องการขับรถ
ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ต้องมีในการที่จะไปเช่ารถขับที่ South Africa คือ
1. พาสปอร์ต (ต้องมีอยู่แล้วเนอะ)
2. ใบขับขี่สากล ไปทำที่ขนส่งได้ทั่วประเทศ 505 บาท (ไปทำที่จตุจักรเร็วสุด)
3. บัตรเครดิตเพราะบริษัทเช่ารถจะกันวงเงินไว้ 8500 Rand ประมาณ 17000 บาท ณ วันที่ 14/09/2019
4. Voucher ที่จองรถไว้ ควรจะจองรถเช่าให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่ที่ไทย ไป walk-in ออกจะเสี่ยงไปหน่อย
เสร็จแล้วก็ไปหา Counter ของบริษัทที่เราจองรถไว้ที่สนามบินได้เลยกรอกเอกสารรอเค้าจัดการเรื่องเอกสาร เสร็จแล้วก็ไปเอารถ แล้วออกลุย!!
การขับรถใน South Africa นั้น รื่นรมย์มากเลยเพราะ รถไม่ติด ถนนหนทางมีป้ายบอกชัดเจนเข้าใจง่ายไปไหนมาไหนง่ายกว่าบ้านเราเยอะ คนขับรถมีน้ำใจ (เนื่องจากไปขับรถมาหลายประเทศแล้ว คิดว่ามีบ้านเราที่เดียวที่เวลากระตุกไฟ แปลว่า “หยุด กูจะไป” เพราะบ้านอื่นเวลากระตุกไฟแปลว่า
“เชิญคุณก่อน”) ถ้าจะไปขับรถที่ South Africa นั้นไม่ยากเพราะพวงมาลัยอยู่ด้านเดียวกับบ้านเรา กฎระเบียบไม่เคร่งมากทำไห้ไม่เกร็งมากเวลาขับ
แต่อาจจะต้องเรียนรู้บางอย่างก่อนจะไปหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยไปขับรถเมืองนอกมากก่อนนะครับ เช่น
1. อันนี้สำคัญมาก ป้าย Stop สีแดง คือหยุด หมายถึงให้หยุดจริง ๆ มองซ้ายขวาก่อน ก่อนจะออกรถ และเวลาเจอแยกที่มีป้ายหยุดให้รถสลับกันไป ไม่ใช่แย่งกันไป ต้องกะจังหวะดี ๆ
2. ที่ South Africa ไม่มีเลี้ยวซ้าย ขวา ผ่านตลอด ให้หยุดที่ไฟแดง ไฟเขียวค่อยไป
3. ที่นี่มี Speed Limit รถบางคันจะมีเสียงคอยเตือนเลยถ้าขับเร็วเกินกำหนด แต่คน South Africa ก็ยังขับเกินกันอยู่เนือง ๆ
4. ถนนจะเป็นทางขึ้นเขาลงเขาเยอะ เพราะฉะนั้นอย่าขับเร็วเวลาลงเขา จะเบรกไม่อยู่เอานะครับ บางครั้งสัญญาณไฟก็จะอยู่ตามหัวโค้งด้วยระวังดี ๆ
5. ส่วนถ้ามีขึ้นทางด่วน รถเช่าจะติดเครื่องตัดค่าทางด่วนอยู่แล้ว (ประมาณ easy pass) ขับผ่านมันก็จะ ติ๊ดๆ ตัดเงินเราไป ซึ่งรถเช่าจะไปตัดบัตรเครดิตเราอีกที (เนี่ยยังไม่รู้โดนไปเท่าไหร่ ฮ่าๆ)
6. เวลาจอดรถตามข้างทางจะมีคนคอยโบกรถให้ใส่ชุดสีเขียวบ้างส้มบ้างก็ให้ทิปเค้านิดหน่อย ถ้าจอดตามอาคารตามห้าง ก็จะเสียค่าจอดต้องเดินเอาบัตรจอดรถไปจ่ายเงินที่ตู้ก่อนนะครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ 2 คน = 51,555
- ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 2 คน = 3,985
- ค่าโรงแรม 8 คืน = 25,770
- ค่ารถเช่า Cape Town 14-18/9/2019 = 2,477
- ค่ารถเช่า Joburg 18-22/9/2019 = 2,477
- ค่าบัตรผ่านสถานที่ต่างๆ = 5,610
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม = 11,500
- ค่าน้ำมัน = 2,232
- ค่าทำใบขับขี่สากล 2 คน = 1,010
- ทางด่วน = 500
- ซิมโทรศัพท์ = AIS 899 + Vodacom 559 = 1458
- อื่น..,tips,ค่าจอดรถ = 500
รวมประมาณ 109,074 บาท, หาร 2 คน เฉลี่ยตกคนละ 54,537 บาท
โอม ดึ๋ง ๆๆ
[CR] รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า // Season 1 : Road Trip ที่ South Africa 9 วัน // EP 0 เตรียมตัวก่อนไป
คนที่มีฐานะส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนขาว รองลงมาก็จะเป็นเอเชีย และท้ายที่สุดก็จะเป็นคนผิวดำ (ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนดำรวย ๆ นะ)
(https://en.wikipedia.org/wiki/Ethnic_groups_in_South_Africa, 2019)
- ศาสนา ส่วนใหญ่นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค เพราะฉะนั้น ร้านอาหาร ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดวันอาทิตย์
- คนผิวดำในประเทศนี้มีจังหวะหรือ Vibe ในตัวแทบจะทุกคนเลย ลงเครื่องเดินเข้าเกตมาเจอพนักงานจัดระเบียบคน rap ไปด้วยทำงานไปด้วย กระทั่งคนไร้บ้านบางคนยังเดินไปเต้นไปด้วย พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนผิวดำถึงเป็นเจ้าของเพลง Rap กับ Hip-Hop เป็นกันทั้งประเทศจริง ๆ
- คนไร้บ้านเยอะพอสมควรเลย แถมดุดันกว่าบ้านเราเยอะและเป็นคนหนุ่มสาวด้วย ส่วนใหญ่บ้านเราจะนั่งเฉย ๆ ทำตัวน่าสงสาร แต่ที่นี่มีมากมายหลายแบบเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ให้ระวังตัวดี ๆ เวลาเที่ยว
- อาหารการกินส่วนใหญ่ของประเทศนี้จะเป็นอาหารฝรั่งคล้าย ๆ บ้านเราครับ เช่น สเต็ก, แฮมเบอร์เกอร์, อาหารทะเลปิ้งย่าง อาหารอินเดีย
น่าจะเป็นอาหารที่แพร่หลายในประเทศนี้เพราะมีเมนูอาหารอินเดียแทรกอยู่แทบจะทุกร้าน ถ้าเป็นอาหารพื้นเมืองของทวีปแอฟริกาเลยมักจะเป็น
อาหารแบบอาหรับครับ เพราะประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกานับถือศาสนาอิสลาม จะเป็นพวกอาหารที่ใช้ ถั่ว เนื้อไก่ และแกะเยอะ ทานค่อนข้างยากหน่อยสำหรับคนไทย (แต่ผมก็กินได้หมดและ)
- กาแฟ ที่นี่ร้านกาแฟอร่อยเกือบทุกร้านแล้วราคาไม่แพง แก้วประมาณ 50-70 บาท ถ้าที่ไทยคุณภาพแบบนี้เราว่า 100up
- ประเทศ South Africa มีอัตราอาชญากรรมค่อนข้างสูง สูงขนาดติดอันดับต้นๆของโลก แต่ก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ มาตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่เขียนบอกไว้ในที่นี้ไม่ได้อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านอยากเลิกมาเที่ยวที่นี่ แต่ก็อยากให้ระวังตัวเวลามาเที่ยว ตอนกลางคืนไม่ควรออกไปไหนคนเดียวถ้าอยู่ในย่านที่ไม่ปลอดภัย ถ้าอยากไป Pub บาร์ ให้ไปตามคาสิโนน่าจะปลอดภัยกว่า ที่เราไปมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและผู้คนก็น่ารักเป็นมิตรออกจะฮา ๆ ด้วยซ้ำ
- ปลั้กไฟที่นี่เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขอย้ำ!! เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซื้อแบบ universal จากที่บ้านไปก็ใช้ไม่ได้ ต้องไปซื้อใหม่อยู่ดี บางโรงแรมอาจจะมีรูปลั้กกลมสองขาให้ใช้ แต่ปลั้กทั่วไปจะเป็นแบบสามขากลม) หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายซิมและที่Airport หรือซื้อที่ไทยเตรียมมาเลยก็ได้
- สกุลเงิน (Rand) 1 Rand = 2.2 บาท ณ วันที่ 14/09/2019
- ร้านอาหารส่วนใหญ่ทิปประมาณ 10% แต่ก็ไม่ได้บังคับเหมือนอเมริกา
- ถ้ามีอะไรอยากรู้เพิ่มเติมถามมาได้ใน comment นะครับ ถ้ารู้ก็จะตอบ ถ้าไม่รู้เดี๋ยวไปหามาให้ (ถ้ามีเวลาว่างพอ)
Day 1 (14/09/2019): BKK - Addis Ababa Airport (Ethiopia Airport) - Cape Town Airport - The Onyx Apartment Hotel - V&A Waterfront
Day 2 (15/09/2019): Lion Head - Signal Hill - Castle of Good Hope - Kirstenbosch National Botanical Garden - The Onyx Apartment Hotel
Day 3 (16/09/2019): BoKaap Museum - Green Market - Table Mountain - Chapman's Peak Drive -
Simon’s Town –Seaforth Beach Parking Lot (จุดชมเพนกวิ้นฟรี) - Protea Point B&B
Day 4 (17/09/2019): Cape of Good Hope – Cape Point - Boulders Beach (Penguin Kingdom) - Muizenberg Beach – The Onyx Apartment Hotel - Mojo Market - V&A Waterfront
Day 5 (18/09/2019): Cape Town Airport - OR Tambo Airport (Johannesburg Airport) - Soho Hotel & Casino at Sun City
Day 6 (19/09/2019): Pilanesberg National Park - Palace of The Lost City Hotel at Sun City
Day 7 (20/09/2019): The Cradle of Humankind - Sterkfontein Caves - Protea Hotel Fire & Ice! Pretoria Menlyn - Menlyn Park Shopping Centre
Day 8 (21/09/2019): Hazel Food Market - Union Buildings - Rosebank Mall - Neighbourgoods Market - Menlyn Park Shopping Centre - Protea Hotel Fire & Ice! Pretoria Menlyn
Day 9-10 (22-23/09/2019): Irene Village Mall - OR Tambo Airport - BKK
ว่าถึงเรื่องการขับรถ
ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ต้องมีในการที่จะไปเช่ารถขับที่ South Africa คือ
1. พาสปอร์ต (ต้องมีอยู่แล้วเนอะ)
2. ใบขับขี่สากล ไปทำที่ขนส่งได้ทั่วประเทศ 505 บาท (ไปทำที่จตุจักรเร็วสุด)
3. บัตรเครดิตเพราะบริษัทเช่ารถจะกันวงเงินไว้ 8500 Rand ประมาณ 17000 บาท ณ วันที่ 14/09/2019
4. Voucher ที่จองรถไว้ ควรจะจองรถเช่าให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่ที่ไทย ไป walk-in ออกจะเสี่ยงไปหน่อย
เสร็จแล้วก็ไปหา Counter ของบริษัทที่เราจองรถไว้ที่สนามบินได้เลยกรอกเอกสารรอเค้าจัดการเรื่องเอกสาร เสร็จแล้วก็ไปเอารถ แล้วออกลุย!!
การขับรถใน South Africa นั้น รื่นรมย์มากเลยเพราะ รถไม่ติด ถนนหนทางมีป้ายบอกชัดเจนเข้าใจง่ายไปไหนมาไหนง่ายกว่าบ้านเราเยอะ คนขับรถมีน้ำใจ (เนื่องจากไปขับรถมาหลายประเทศแล้ว คิดว่ามีบ้านเราที่เดียวที่เวลากระตุกไฟ แปลว่า “หยุด กูจะไป” เพราะบ้านอื่นเวลากระตุกไฟแปลว่า
“เชิญคุณก่อน”) ถ้าจะไปขับรถที่ South Africa นั้นไม่ยากเพราะพวงมาลัยอยู่ด้านเดียวกับบ้านเรา กฎระเบียบไม่เคร่งมากทำไห้ไม่เกร็งมากเวลาขับ
แต่อาจจะต้องเรียนรู้บางอย่างก่อนจะไปหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยไปขับรถเมืองนอกมากก่อนนะครับ เช่น
1. อันนี้สำคัญมาก ป้าย Stop สีแดง คือหยุด หมายถึงให้หยุดจริง ๆ มองซ้ายขวาก่อน ก่อนจะออกรถ และเวลาเจอแยกที่มีป้ายหยุดให้รถสลับกันไป ไม่ใช่แย่งกันไป ต้องกะจังหวะดี ๆ
2. ที่ South Africa ไม่มีเลี้ยวซ้าย ขวา ผ่านตลอด ให้หยุดที่ไฟแดง ไฟเขียวค่อยไป
3. ที่นี่มี Speed Limit รถบางคันจะมีเสียงคอยเตือนเลยถ้าขับเร็วเกินกำหนด แต่คน South Africa ก็ยังขับเกินกันอยู่เนือง ๆ
4. ถนนจะเป็นทางขึ้นเขาลงเขาเยอะ เพราะฉะนั้นอย่าขับเร็วเวลาลงเขา จะเบรกไม่อยู่เอานะครับ บางครั้งสัญญาณไฟก็จะอยู่ตามหัวโค้งด้วยระวังดี ๆ
5. ส่วนถ้ามีขึ้นทางด่วน รถเช่าจะติดเครื่องตัดค่าทางด่วนอยู่แล้ว (ประมาณ easy pass) ขับผ่านมันก็จะ ติ๊ดๆ ตัดเงินเราไป ซึ่งรถเช่าจะไปตัดบัตรเครดิตเราอีกที (เนี่ยยังไม่รู้โดนไปเท่าไหร่ ฮ่าๆ)
6. เวลาจอดรถตามข้างทางจะมีคนคอยโบกรถให้ใส่ชุดสีเขียวบ้างส้มบ้างก็ให้ทิปเค้านิดหน่อย ถ้าจอดตามอาคารตามห้าง ก็จะเสียค่าจอดต้องเดินเอาบัตรจอดรถไปจ่ายเงินที่ตู้ก่อนนะครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ 2 คน = 51,555
- ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 2 คน = 3,985
- ค่าโรงแรม 8 คืน = 25,770
- ค่ารถเช่า Cape Town 14-18/9/2019 = 2,477
- ค่ารถเช่า Joburg 18-22/9/2019 = 2,477
- ค่าบัตรผ่านสถานที่ต่างๆ = 5,610
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม = 11,500
- ค่าน้ำมัน = 2,232
- ค่าทำใบขับขี่สากล 2 คน = 1,010
- ทางด่วน = 500
- ซิมโทรศัพท์ = AIS 899 + Vodacom 559 = 1458
- อื่น..,tips,ค่าจอดรถ = 500
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้