ฉันอยากกลับประเทศไทยมาก แต่พ่อขังฉันไว้ที่ต่างประเทศและไม่มีใครช่วยฉันได้เลยTT

!!!!!!!!เราอยากกลับประเทศไทยมากมีใครพอบอกวิธีหรือหนทางหน่อยได้ไหม????
เราเครียดมากๆเลย มืดแปดด้านไปหมด!!

สวัสดีค่ะ เราอายุ17ปี เราเกิดที่ประเทศไทยเป็นลูกครึ่ง พ่อเราเป็นคนต่างชาติ แม่เป็นคนไทย
เราอยู่ไทยตั้งแต่เกิด จนพ่อแม่ของฉันเลิกกัน
พ่อจำเป็นต้องกลับประเทศของเขาไปแต่ก่อนเขากลับเขาก็พยายามจะเอาฉันกลับพี่ชายเรากลับไปประเทศเขาด้วย แต่แม่ไม่เห็นด้วย แม่ทะเลาะกับพ่อหนักมาก แม่ฉันพยายามทุกอย่างที่จะให้ฉันกับพี่ชายอยู่ที่นี่ซึ่งก็สำเร็จ

เมื่อพ่อฉันกลับไปประเทศของเขาแล้ว พ่อยังไม่เลิกพยายามที่จะเอาฉันกับพี่ชายฉันไป
เขาโทรมาหาบ่อยมาก พยายามพูดโน้มน้าวให้ไปอยู่ที่โน้นด้วย เขาบอกว่าแค่มาเที่ยวดูก่อนก็ได้ ถ้าชอบก็อยู่ ถ้าไม่ชอบก็กลับ
(จริงๆแล้วแม่บอกว่าอย่าเชื่อคำพ่อมากนัก แม่ไม่อยากพาฉันกับพี่ไปที่นั่น แต่ฉันด้วยความดื้อ อยากลองไปดูต่างประเทศด้วยฉันจึงบอกแม่ไปว่าอยากไป แต่พี่ชายฉันกับแม่ไม่อยากไปเลยสักนิด)
พ่อจึงส่งตั๋วเครื่องบินมา แล้วบอกให้ไปทำหนังสือเดินทาง และวีซ่า แล้วเราก็เดินทางไปที่นูน

พอเราไปถึงที่นู่นกันเเล้วพ่อก็พาไปเที่ยว พยายามเอาใจให้เรา พยายามซื้อรถมาให้พี่เรา
แต่พวกเรายืนยันที่จะไม่อยู่ต่อ แล้วบอกให้ทำตั๋วกลับให้เรา
พ่อทำตั๋วกลับให้พี่เรากับแม่  แต่ไม่มีตั๋วของฉัน!!!!!!
แน่นอนว่าฉันไม่ได้กลับไป วันที่ไปส่งแม่กับพี่ฉันร้องไห้หนักมาก และอีกหลายวันเป็นเดือน  
ฉันก็ติดต่อกับแม่เป็นประจำ แล้วบอกให้พ่อทำตั๋วให้ฉันกลับ แต่พ่อกับด่าฉันแล้วด่าแม่แล้วพูดแต่คำหยาบๆ เวลาพ่อโกรธก็ยึดโทรศัพท์ฉันไป ตัดเน็ต ห้ามติดต่อกับแม่ กว่าฉันจะได้คืนก็เป็นอาทิตย์
ฉันต้องขอเขาคืนเป็นหลายวัน และทุกครั้งเขาก็จะด่าด้วยคำหยาบๆ พ่อไม่เหมือนกับคนที่ฉันรู้จักเลย วันๆเขาก็ออกไปข้างนอก กว่าจะกลับบ้านก็ดึกแล้ว วันๆเขาแทบไม่พูดกับฉันเลย
ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน
เลยมา3ปีแล้ว(ประเทศนี่เป็นประเทศมุสลิม ส่วนมากผู้หญิงจะไม่ค่อยออกจากบ้าน)

ฉันกับแม่แอบติดต่อสถานทูตขอความช่วยเหลือ
แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยฉันได้ เขาบอกว่าฉันอายุยังบรรลุนิติภาวะ เขาไม่การบุกมาช่วยฉันเพราะกลัวพ่อฉันฟ้องกลับ แล้วแม่ก็ไปฟ้องหย่ากับพ่อ
แต่นั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พ่อฉันบล็อกแม่ทุกช่องทาง

ฉันตัดสินใจคุยกับพ่อเรื่องส่งฉันกลับไป ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ แต่มันกับเป็นพ่อโกรธมาก
เขายึดโทรศัพท์ไป แต่คราวนี้พ่อเห็นข้อความที่ฉันติดต่อกับสถานทูต คราวนี้พ่อยึดโทรศัพท์ฉันไปนานมาก ประมาณ 2-3เดือน แล้วยึดหนังสือเดินทางแล้ว บัตรประชาชนไป

แต่สถานทูตบอกว่าถ้าแม่มารับฉันที่นี่เองเขาจะดำเนินเรื่องวีซ่าให้ แต่มันก็ติดตรงที่ฉันไม่มีพาสปอร์ต นั่นแปลว่าฉันไม่สามารถเดินทางออกประเทศได้ และฉันก็ไม่สามารถนั่งรถออกไปทำใหม่ได้ เพราะฉันไม่สามารถออกจากบ้านนี้ได้เลย

ฉันไม่รู้ต้องทำยังไงต่อ
ฉันรู้สึกท้อมาก ขอให้พ่อเห็นใจฉัน แต่เขาใจแข็งมาก
ฉันอยากกลับไปเรียนมาก ฉันมาที่นี่ตอนจบม.2
แล้วไม่ได้เรียนต่อเลย แค่วุฒิม.3ฉันยังไม่ได้เลย เพื่อนของฉันทุกคนแทบจะเรียนจบกันแล้ว ฉันอยากได้อิสระ ฉันอยู่ที่นี่มา3จะ4ปีแล้ว
ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันน่าจะเชื่อแม่ของฉัน
ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมท่านทะเลาะกันบ่อยมาก ทำไมแม่เลิกกับพ่อ พ่อฉันอารมณ์ร้อนมาก
ไม่ฟังความคิดเห็นฉันเลย

**นี่เป็นกระทู้แรกของฉัน ฉันตั้งใจสมัครแล้วมาตั้งกระทู้เพื่อขอความคิดเห็นและหาหนทางที่ฉันจะได้กลับไป ถ้าฉันเขียนติดกัน หรือทำให้อ่านยากไปขออภัยด้วยนะคะ**
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
แก้ไขคำผิดและเพิ่มข้อความที่ทางเพจ Thai Embassy Islamabad ชี้แจงกรณีของน้องค่ะ

https://www.facebook.com/461911550645723/posts/996696463833893/  







หนู พี่มีญาติทำงานสถานทูตไทยที่ปากีสถาน เค้าบอกว่าได้รับเรื่องที่หนูขอความช่วยเหลือจากทางสถานทูตตั้งแต่เดือน ก.ค. แล้ว แต่ทีนี้ี้เค้าบอกว่าเคสของหนู

1.หนูอยู่ในความดูแลของพ่ออยู่ แล้วเค้าก็ดูแลหนูมาตลอด ไม่ได้ทำร้ายหนู เพียงแต่ถูกจำกัดสิทธิไม่ให้กลับไทยเท่านั้น
2. แล้วพ่อของหนูก็ไม่อนุญาตให้ทางสถานทูตเข้าไปติดต่อหรือเข้าไปในบ้านเพื่อพบหนูเลย

ดังนั้น สถานทูตเค้าจึงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว

ญาติพี่เค้าแนะนำว่า ให้หนูลองทำตัวดี ๆ กับพ่อดู ให้เค้าตายใจ เวลาพ่อลูกดูรักใคร่กันดี ก็เป็นธรรมดาทีแม่เลี้ยงจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ (หนูมีแม่เลี้ยงใช่ไหม)  นั่นล่ะ เค้าอาจจะไปบอกให้พ่อหนูส่งหนูกลับไทยก็ได้  อันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่น่าลองทำดู

วิธีที่สอง อันนี้พี่ลองถามญาติพี่ดูว่าถ้าเกิดหนูเป็นคนหนีออกจากบ้านแล้วไปสถานทูตเองเพื่อจะขอกลับไทยเองจะได้ไหม ญาติพี่เค้าบอกว่า ก็ทำได้ เพียงแต่ว่าต้องเอาพาสปอร์ตของหนูไปด้วย + ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เราถูกคนเป็นพ่อกักตัวไม่ให้ไปไหน หรืออาจจะมีพฤติการณ์ประกอบเล่าว่า เราถูกพ่อทำร้ายร่างกายหรือจิตใจมาตลอด (คือมันต้องมีพฤติการณ์ปรากฎด้วยว่าเราได้รับความเดือนร้อนมา) เราอยากกลับไทยไปหาแม่ + เรายินยอมจะชดใช้ค่าตั๋วเครื่องบินให้เมื่อถึงเมืองไทย

ลองดูก็ไม่เสียหายนะหนู หรือจะทำแบบที่พี่ ๆ เค้าแสดงความเห็นก็ได้นะ ขอพ่อเรียนจนเราจบ แล้วเราก็ค่อยกลับไทยเองก็ได้ เพียงแต่ตอนนี้เราอาจจะไม่สบายใจที่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว แต่มันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะที่จะทนอยู่กับเค้า

ความคิดเห็นที่ 13
ผมเคยไปอยู่ปากีสถาน เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ยังพอมีพรรคพวกที่เป็นคนกันทีนั่นครับ

หนู อยู่เมืองอะไร จะได้คิดช่วยหนู ครับ

สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ

ทำไม สถานฑูต ถึง ช่วยไม่ได้ครับ

ขอรายละเอียด มากกว่านี้ได้มั้ยครับ
จะลองติดต่อเพื่อนในกระทรวงการต่างประเทศ ครับ
ความคิดเห็นที่ 18
ถ้ามี IDcard ของปากีสถานแล้ว
แล้วเท่ากับว่าพ่อไปทำเรื่องให้เป็น Citizen แล้ว เป็นเหตุให้สถานทูตไทยไม่สามารถทำอะไรได้

คิดว่าน่าจะเป็นแบบความเห็นที่ 15 นะคะ เคยมีหนังสือ
https://www.goodreads.com/book/show/587690.Heroine_of_the_Desert
อ่านแล้วยังเครียด

ต้องลองมองหาหน่วยงานสตรีที่เค้าต่อต้านวัฒนะรรมแบบนี้ให้เข้าไปช่วยน้อง

ถ้าเค้าไม่ระแวงว่าเราจะหนี เขาก็ให้ใช้โทรศัพท์
อยุ่มาแล้ว 3-4 ปี ก็รออีก สักปีค่ะ  ระหว่างนี้หัดเรียน หัดเขียนทั้ง Punjabi และ  Urdu
แล้วขอเขาไปเรียนที่ woman colleges บอกว่าขอไปหัดเรียนเขียนอ่านขั้นพื้นฐาน
เท่าที่ค้นดูมีอยู่3-4 ที่มีในจังหวัดที่น้องอยู่  แต่ต้องอย่าให้เค้าระแวงนะคะ
ถ้าเค้ายังเห็นใจเราอยู่บ้างเค้าน่าจะให้ไปเรียน แต่ถ้าเจตนาคือไม่บริสุทธิ์เลย เตรียมขายอย่างเดียว วิธีขออกไปคงไม่ได้ผล

น้องต้องติดต่อองค์กรที่ช่วยเหลือผู้หญิงค่ะ

ไม่คิดว่าไปแจ้งตำรวจหรือขอความช่วยเหลือจากใครในพื้นที่จะเป็นประโยชน์นะคะ อันตรายกว่าเดิม

ความคิดเห็นที่ 94
ขอแบ่งการตอบเป็น ๓ ส่วนนะคะ

ส่วนแรก ถึงเพื่อนสมาชิกพันทิป ที่มีเมตตากรุณา

ส่วนสอง ถึง น้องกับคุณแม่

ส่วนสาม ถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในปากีสถาน
และข้าราชการบริหารของกระทรวงการต่างประเทศ

..........
ส่วนที่ ๑

เรียนเพื่อนสมาชิก ที่ยังแคลงใจ สงสัยเล็กๆ
ว่าด้วยข้อมูลและสำนวนโวหารของเยาวชนคนนี้
ทั้งการสะกดการันต์ ที่แม่นยำ ราวกับจบปริญญาตรี

เราสงสัยเกี่ยวกับพื้นฐานการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
และมารยาทดีงาม มีวุฒิภาวะในการตอบทันทีทันใด
เข้ามาอ่านตั้งแต่แรก และในที่สุด ได้ตัดสินใจ
ส่งลิ้งค์นี้ ไปยังเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทยอิสลามาบัด
ทั้งทางช่องทางของสถานทูต และส่วนบุคคลโดยตรง
รวมถึงส่งตรงไปที่  “ท่าน” ซึ่งเคยเป็น ออท ในสหรัฐ
แล้วปัจจุบัน เป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการบัวแก้วด้วยค่ะ

ได้รับคำตอบมาจาก ฝ่ายเศรษฐกิจและพิธีการทูต
ยืนยันว่า มีหัวหน้ากงสุล ท่านหนึ่งติดตามเรื่องนี้อยู่
เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นจริง และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย
ทุกคน รวมทั้งนโยบายคุ้มครองคนไทยนอกราชอาณาจักร ได้ประสานกับกรมการกงสุลในไทยแล้ว
แต่ มีกฎหมายทัองถิ่น และเป็นปัญหาในครอบครัว

ความช่วยเหลือของสถานทูตไทย ในปากีสถาน
และกรมการกงสุลไทย จึงรับรองมาในขั้นที่ว่า
“อะไรที่ทำได้ดีที่สุด จะดำเนินการตามที่เป็นไปได้
และพยายามหาหนทางแก้ไข อย่างเต็มที่ แน่นอน”

จึงขออนุญาต เคลียร์ให้เพื่อนที่สงสัยจริงหรือไม่
โปรดเชื่อในคำตอบ ของเจ้าหน้าที่จากอิสลามาบัด
และจงวางใจ ในความสามารถแก้ปัญหาของ “ท่าน”

เนื่องจากว่า เยาวชนไทยในต่างแดน เป็นกลุ่มที่มี
ความสำคัญต่อการดูแลคุ้มครอง ไม่มีเลือกปฏิบัติ

จบปัญหาไปได้ว่า มีเรื่องเกิดกับน้องจริง

แต่ ในเรื่องที่ว่า “ใครส่งกระทู้มาพันทิป ใครเขียน”
เรามีความเห็นเป็นส่วนตัวว่า น้องกับคุณแม่ช่วยกัน
คือ พื้นฐานความรู้น้อง คือ ภาษาไทยจากวัยสิบสาม
น้องต้องมาจากโรงเรียนที่มีครูสอนดีเด่นแน่ๆ ที่ใช้
ถ้อยคำได้อย่างเหมาะเจาะ และสำนวนทันสมัยครบ
เช่น ร้องไห้หนักมาก และการผูกประโยคเรียงความ
ได้อย่างชัดเจน เป็นไปได้ว่า น้องเขียน คุณแม่เกลาให้
หรือคุณแม่เขียน ทั้งหมด แต่น้องโพสต์ อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะอย่างไหนก็ตาม เรื่องนี้ สถานทูตยืนยันมีจริง

อันที่สถานทูตไม่ทราบเหมือนกัน คือ ใครตั้งกระทู้
แต่คำตอบ 13-1 Rawanpindi ควรเป็น Rawalpindi
น่าแปลกใจ ที่น้องจะสะกดชื่อเมืองด้วย n แค่สงสัยค่ะ
เพราะเล่าว่า พ่อพาไปเที่ยวมาหมดละ อยู่กับย่าด้วย
และ น้อง“อยู่อย่างดี” มีการเลี้ยงดูดีในครอบครัว

ประการทึ่สอง ข้อมูลจากสถานทูตไทยในปากีสถาน
ระบุตัวเลข จำนวนคนไทย นักเรียน คนทำงานของ
แต่ละมืองไว้ ที่ลงทะเบียนกับสถานทูต 50-100 คน
ในเมืองราวัลปินดี เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญทุกคนแน่
โปรดสบายใจในระดับหนึ่งว่า  บัวแก้วห่วงใยประชาชน

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับการคัดสรร
มาแล้ว ก่อนจะออกมาประจำการ เพื่อดูแลทุกข์สุข
ของประชาชน ทางกรมการกงสุล ประสานอยู่ตลอด
โปรดเชื่อว่า น้องอยู่ในสายตาของฝ่ายคุ้มครองแล้วค่ะ
ทางภาคประชาชน เราไม่อาจล่วงล้ำใดๆที่จะไปกดดัน
หรือขว้างปา ห่อยานอนหลับ ฯ เข้าไปในที่พักของใคร
การแนะนำต่อเยาวชนที่กำลังมืดแปดด้าน จงมีขอบเขต
เพราะนี่เป็นแค่เพียงพื้นที่รับฟังปัญหาและช่วยเหลือ
ในลักษณะให้กำลังใจ นั่นคือ สิ่งที่หลายๆคนทำดีที่สุด
ขอขอบคุณ ผู้มีจิตเมตตา แม้เราต่างมิได้รู้จักน้องคนนี้

........

ส่วนทึ่สอง

ถึงน้องและคุณแม่

ความพลัดพรากเป็นส่วนหนึ่งของบุรพกรรมในชีวิต
เมื่อคนเราต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่มิอาจกระทำ
ให้สมปรารถนาได้ในขณะที่ต้องการ ไม่ว่าจะติดขัด
เพราะอุปสรรคของกาลเวลา ระยะทาง บุคคล กฎหมาย
ประเพณี หรือด้วยอำนาจของสินทรัพย์ และกลยุทธ์
ทางที่จะผ่อนคลายได้ในช่วงเวลานี้ คือ รับความจริง
ที่กำลังเผชิญอยู่ อย่างเข้มแข็ง และเข้าใจในบริบท
ของประเพณีศาสนา วัฒนธรรมของชนต่างชาติ
ซึ่งแม้จะสิ้นพันธะทางกฎหมายแล้ว แต่ทางเผ่าพันธุ์
ยังต้องเป็นเชื้อสายของทั้งสองฝ่าย ที่ขณะนาทีนี้
น้องอยู่ในแผ่นดินของบิดา กฎหมายเอื้อต่อบิดา
วัยวุฒิของน้อง ยังไม่สามารถดำเนินการอย่างผู้ใหญ่
แม้ว่าความปรารถนา จะต้องการกลับมาอยู่เมืองไทย

อย่าคิดว่า ไม่มีใครช่วยอะไรได้ และต้องมีชีวิตรันทด
นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับน้อง หากใช้ช่วงเวลานี้
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลในครอบครัวให้ได้
เมื่อคนๆหนึ่งอยากจะมีความสุข สิ่งที่จะทำได้ง่ายที่สุด
คือเป็นผู้มอบความสุขและความรัก ให้กับคนที่ใกล้ชิด

น้องไม่จำเป็นต้องเลิกกับพ่อ แม้ว่าแม่จะหย่าขาดกันไป

ในกระทู้นี้ น้ำหนักเนื้อหา เทไปที่ความต้องการไปให้พ้น
อันเป็นปัญหาระหว่างผู้ปกครองมาตลอด มิใช่ต่อตัวลูก

พ่อคือชาวต่างชาติ ที่เข้าวัยกลางคน ราว 45-55 ปี
มีงานมีภาระหน้าที่ ดูแลมารดา ภรรยาใหม่ และธิดา
ย่อมมีเหตุผล ตามวัยวุฒิของเขา และหลักดำเนินชีวิต
ต้องขออภัย ที่จะเขียนอย่างตรงไปตรงมาว่า น้อง
ควรจะใช้หลักศาสนา ที่พ่อนับถือ เชื่อมจิตใจพ่อให้ได้วันหนึ่งข้างหน้า พ่อจะเป็นคนที่น้องต้องกลับมาดูแล
เช่นเดียวกับแม่ ซึ่งทั้งสอง คือผู้มีพระคุณผู้ให้กำเนิด
เมื่อพ่อมีเหตุผลทางเชื้อชาติ ที่จะแยกน้องมาราวัลปินดี
สิ่งที่ดีสำหรับน้อง คือ การมีย่า คุยกับย่า หาความรู้เพิ่ม
จากความสัมพันธ์ที่มี ให้การใช้ชีวิตมีประโยชน์ที่สุด
แม้ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปนอกบ้าน แต่น่าจะมีตำรา
มีประวัติศาสตร์ครอบครัว มีเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์
ค้นคว้าในสิ่งที่สนใจ หางานศิลปะทำ จากข้อมูล
ของราวัลปินดี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสนา และกองทัพ

น้องยังเขียนภาษาไทยได้ดีขนาดนี้ ถ้ามีความรู้ใหม่ๆ
เกี่ยวกับบ้านเมือง นำมาเขียนเล่าจะคุ้มค่าแก่เวลา
เพื่อสังคม เมื่อยังกลับไปหาแม่ไม่ได้ ต้องสร้างโลกที่ดี
ของตนเอง ให้มีค่า ให้พ่อยอมรับในสติปัญญาของน้อง
ควบคุมอารมณ์ และสร้างทิศทางด้วยแรงบันดาลใจ

อย่ายึดอยู่เพียงเรื่องเดียวว่า ไม่มีอิสรภาพที่ดิ้นรนใฝ่หา
จากบริบทที่สถานทูตเฝ้าติดตามอยู่ ควรจะใช้สถานทูต
นี่แหละ เป็นแรงบันดาลใจ ใครจะรู้ว่า สักวันน้องอาจจะ
เป็นนักภาษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในสถานทูตก็ได้
ขาดแต่คนชี้นำเท่านั้น ให้มีความหวังและมีความสุข

อย่านำความขาดหมางของพ่อแม่ มาเป็นเกณฑ์ตัดสิน
ว่าเส้นทางชีวิตนี้ผิด เพราะ ณ วันนี้ น้องอยู่กับพ่อแล้ว
ต้องมีสิ่งดีงามในความเป็นพ่อ หาออกมาให้บรรจบกัน
แม้เขาจะเปลี่ยนไป แทนที่จะถามรบเร้าจะขอกลับไทย
เปลี่ยนวิธีการ แนวคำถาม พ่อคะ อยากให้หนูทำงาน
ด้านไหน หรือคุยในสิ่งที่พ่อสนใจเชี่ยวชาญมีความรู้
ยกย่องพ่อ ในความกตัญญูกตเวทีที่เลี้ยงดูย่าของหนู
เปลี่ยนความไม่ไว้วางใจของพ่อและย่า ที่กลัวหนูหนี
มาเป็นความเห็นคุณค่า เชื่อมั่นในความน่ารักของหนู
พ่อไม่ชอบให้อยู่ไทย เพราะหนูสวยมากหรือเปล่าล่ะ
จะกลับไปอยู่กับแม่และพี่ชายนั้น เขาคุ้มครองได้ดีไหม

เรื่องเรียน มือถือก็มี หาความรู้ไปพลางๆจากโซเชี่ยล
มีทุกศาสตร์อยู่แล้ว ชอบแนวไหนก็มุ่งไปทางสาขานั้น
หาข้อมูลสิทธิสตรี ข้อมูลการปกครองจากสถานทูต
อ่านภาษาไทยคล่องกว่า ก็หาความรู้วิชาการไทยก่อน
สารานุกรมสำหรับเยาวชนไทย ทำตารางเรียนขึ้นเอง
ขยัน และใช้เวลาที่มี สร้างบรรทัดฐานของชีวิตที่วินัย

ไม่ว่าจะเป็นลูกครึ่ง ลูกเต็ม วิชา สติปัญญา พัฒนาได้
เป็นครูให้ตนเอง หนูทำได้ ถ้าหนูเขียนกระทู้นี้ขึ้นเอง
หนูเริ่มที่เครื่องหมายตกใจ หนูรู้ว่าสิ่งนี้ดึงดูดใจคน
แนวการเขียน หนูสื่อสารให้คนกเโหวตได้ตั้งแต่ คคห1
มาถึงเกือบ 100 ถ้ายังอ่านอยู่ หนูและแม่ น่าจะยินดี
ที่คนไทยทั่วไป มองเห็นเรื่องนี้ น่าสนใจอันดับหนึ่งเลย

แถมทัาทายความสามารถชาวพันทิป  มาถึงจุดนี้
สถานทูตยังขยับไม่ได้มากกว่าที่ทำมา แล้วพวกเรา
จะทำได้ด้วยวิธีใดเล่า นอกจาก  จิตวิทยาเปลี่ยนใจพ่อ
เพราะตอนนี้ พ่อคือกำแพงที่ปิดโลกของเด็กสาว 17 ไว้
ถ้าใครไขกุญแจใจของพ่อได้ ทำให้พ่อยอมเปิดทาง
ด้วยความเคารพในการตัดสินใจของลูก ก็ไม่ต้องไป
ใช้ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาด้วยกติกาอื่นในสังคม

ขอคุณแม่ ซึ่งเราแน่ใจว่า แบ็คอัพน้องในการตั้งกระทู้
ให้รอเวลาของความเหมาะสม ทางออกไม่หายไปไหน
เพียงแต่ยังไม่ใช่จุดที่คุณแม่ได้เปรียบเท่านั้นเองค่ะ

........

เรียนเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย อิสลามาบัด
ขอบคุณที่ยืนยัน และให้ความเชื่อมั่นว่า
กระทรวงการต่างประเทศ ทุกคนพร้อมจะทำงาน
ตามความรู้ เต็มความสามารถ เพื่อคนไทยในต่างแดน

แม้เรื่องนี้ จะเป็นเพียงงานชิ้นหนึ่งของท่าน แต่ปัญหา
ครอบครัวหญิงไทยกับสามีต่างชาติ และผลกระทบต่อ
เยาวชนที่เป็นเชื้อสายจากหลายชาตินั้น มีอีกนับไม่ถ้วน

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่าย ที่กำลังเผชิญภารกิจนี้
และหวังว่า จะได้อ่านเรื่องเล่าสนุกๆจาก Rawalpindi
ไม่ใช่เรื่อง พ่อขังหนูไว้ อันทำให้เห็นภาพทารุณกรรม
ทางใจอย่างร้ายแรง ขอเป็นเรื่อง เมื่อพ่อพาหนูเที่ยว
และความสุขที่หนูจะเชื่อมใจของพ่อและแม่ให้สำเร็จ
เพื่อความภูมิใจของบรรพชนทั้งสองประเทศ ที่รักหนู
ห่วงใยหนู แต่ว่ามีการแสดงออกที่ต่างกันตามลัทธิ
ศาสนาและความผูกพันต่อแผ่นดินเกิดของแต่ละคน

เมื่อประสบปัญหา ซึ่งแก้ไม่ได้ที่บุคคลภายนอก ทั้งสิ้น
เมื่อนั้น ต้องแก้ไขที่ตนเอง เพราะนั่นคือชีวิตที่มีอยู่จริง
ใครคนหนึ่ง เคยกล่าวไว้เช่นนี้ ในขณะที่ลำบาก
อยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน  โดดเดี่ยว ว้าเหว่
ยากจน ทำงานหนัก คิดถึงบ้าน ท้อถอย เจ็บช้ำ ฯ
ปลอบโยนตนเอง จัดระเบียบความคิด ทำความดี
และยอมรับว่า ลิขิตของชะตากรรม คือของขวัญ
จากพระเจ้า จากสิ่งที่เราสะสมมาหลายชาติภพ
ไม่มีใครจะช่วยใครได้ทุกเรื่องตลอดเวลา
หากคนๆนั้น ไม่ลงมือปฎิบัติเอง ย่อมไม่มีคำแนะนำ
จากใครเลยทั้งสิ้น ที่จะเปลี่ยนอะไรให้เป็นดังที่หวังไว้

โชคดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 15
จาก คห 3, 8, 9, 10, 12 นะฮะ

______

หนู จขกท มาเล่าที่ คห 8-1 ว่า …

วีซ่าหมดแล้วค่ะ แต่พ่อพาไปทำบัตร ID card ของที่นี่หนูสามารถอยู่แบบฟรีวีซ่าค่ะ

และ เล่าที่ คห 12-2 ว่า …

สถานทูตอคยถามว่าจะเป็นไรไหมถ้าเขาจะขอมาเยี่ยมหนูที่นี่ แต่พ่อไม่โอเครที่จะให้พวกเขามาเยี่ยมหนูค่ะ

หนูรู้ที่อยู่หนูค่ะ


^^^
^^^
ถ้างั้น หนู จขกท คงต้องเล่ามาให้หมดแล้วหละ ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เล่ามาว่า ณ ตอนนี้ หนูอยู่ในปากีสถาน ในสถานะไหน อย่างไร

คือถ้าหนูมีสิทธิอยู่ที่นั่นแบบถูกกฏหมาย โดยที่พ่อชาวปากีเป็นผู้ปกครอง

แล้วที่สำคัญคือ ตกลงแล้ว หนูมีสัญชาติอะไรบ้าง มีสัญชาติปากีด้วยไหม

แล้วพ่อชาวปากี มีชื่อเป็นผู้ปกครองด้วยไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามกฏหมายปากี

หนูต้องตอบ ต้องเล่ามาให้หมด เพื่อที่คนในพันทิปจะได้เอาไปวิเคราะห์ หาทางช่วยได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี
และ โดยที่ไม่ผิดกฏหมายปากีฯ ด้วย

คือ ถ้าแม้แต่ทางสถานทูตไทยในปากีทราบเรื่อง และ รู้ว่าหนู จขกท อยู่ที่ไหน แต่ก็ยังไม่สามารถไปเยี่ยมเยียนหนู จขกท ได้
เพราะพ่อของคุณไม่เห็นด้วย


คือเท่าที่อ่านมา ทางสถานทูตไทยที่นั่น เขาก็ช่วย และ ทราบเรื่อง และ ช่วยเท่าที่ช่วยได้อยู่แล้ว
แต่ติดขัดที่พ่อของหนู จขกท

ก็แสดงว่า รายละเอียดจะต้องมีมากกว่าที่หนู จขกท เล่ามา และ จะต้องมีเรื่องของกฏหมาย เรื่องของความชอบธรรมในการ
ที่พ่อของหนู จขกท มีสิทธิในการปกครองหนู จขกท ภายใต้กฏหมายปากีฯ เกี่ยวข้องด้วย




________


จากคำถามใน คห 10 ของเรา หนู จขกท จึงมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ คห 10-1 อีกด้วยว่า …


แม่ไปฟ้องหย่ากับพ่อค่ะ แต่เดินเรื่องนานมากแล้วแม่ไม่มีเงินมากที่จะจ้างทนายนายมา


หาวิธีมาเยอะมากค่ะ จริงๆอยากเอามาตั้งกระทู้ตั้งแต่ปีที่แล้วๆค่ะ แต่ไม่กล้าตั้งสักที



^^^
^^^
ทั้งหมดนี้ เป็นปัญหาครอบครัวนะ ซึ่งมีกฏหมายมาเกี่ยวข้องด้วย

และ อีกทั้งเป็นครอบครัวที่มีคนสองสองชาติแต่งงานกัน

และ ก็เหมือนๆ กับปัญหาครอบครัวอื่นๆ ทั่วโลก ในหลายๆ กรณี คือ ถ้าพ่อแม่มีปัญหากัน

แต่ผลกระทบที่ตกกับลูกนั้น มีมากมายมหาศาล โดยเฉพาะในเรื่องของจิตใจ

หรือ ในหลายๆ กรณี พ่อแม่บางคู่ ที่วุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่พร้อม ความคิดไม่พร้อม เป็นต้น

ก็มักจะใช้ลูกเป็นเครื่องมือ ใช้ลูกเป็นตัวประกัน เอามาทำร้ายกันเองนั่นเอง เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งเจ็บปวด สิ้นหวัง เสียใจ



//

อนึ่ง เคยเห็นข่าวบ่อยๆ โดยเฉพาะข่าวจากสื่อของอังกฤษ ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา มีข่าวปรากฏอยู่เนืองๆ ว่า
ผู้ปกครองบางครอบครัวในปากี ในบางเมือง กักขังหน่วงเหนี่ยวบุตรหลานของตนเอง ส่วนใหญ่เลย เพื่อบังคับขืนใจให้แต่งงานแบบคลุมถุงชน
ถ้าลูกหลาน (ที่เกิดและโตในยูเค) ไม่ยอม ก็กักขังหน่วงเหนี่ยว

แล้วหลายๆ ครอบครัว หลอกลูกหลานให้เดินทางจากยูเคไปปากี โดยเฉพาะในช่วงซัมเม่อร์ ช่วงหยุดยาวๆ เพื่อพาไปแต่งงานคลุมถุงชน
ถ้าไม่แต่งก็คือยึดพาสปอร์ต ขัง แนวๆ นี้แหละ

ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง โดยที่ในหลายๆ เคส รัฐบาลอังกฤษ โฮมออฟฟิสของอังกฤษ
และ สถานทูตอังกฤษในปากีสถาน เป็นต้น ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งช่วยให้กลับอังกฤษได้หลายเคส


________


ถ้าใครสนใจ และ ถ้าหากว่ายังไม่เคยอ่าน ก็สามารถหาอ่านได้ทั่วไปในเน็ต


คือ อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องในกระทู้นี้นัก แต่จากบทความต่างๆ ที่จะสามารถหาอ่านได้ง่าย ก็จะทำให้สามารถเรียนรู้ถึงระบบความคิดบางอย่าง วิธีคิด
ค่านิยมบางอย่าง และ สถานะภาพของสตรีที่เป็นบุตรสาวโดยทั่วๆ ไปในสังคมบางส่วน ในบางพื้นที่ของเขาได้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
โดยเฉพาะสังคมในชนบท หรือ ตามหมู่บ้าน ในบางพื้นที่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่