วันนี้ได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรมอีสตินแกรนด์สาทร ให้มารับประทานบุฟเฟ่ต์มื้อพิเศษที่ห้องอาหาร The Glass House ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของโรงแรม วิธีการเดินทางก็ง่ายๆ ลง BTS สถานีสุรศักดิ์ก็เดินสะพานทางเชื่อมเข้าโรงแรมได้เลยทันที โดยบุฟเฟ่ต์วันนี้ที่ทางเราได้ถูกรับเชิญให้เข้ามารีวิวชื่อว่า Buffet Grand Weekend จุดเด่นก็คืออาหารทะเลและอาหารนานาชาติ รวมไปถึงฟัวกราหรือตับห่านราคาแสนแพง สามารถทานได้ไม่อั้น ในราคา 1,800 บาทnet. รวมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว(แต่ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะ) นั่งทานได้ตั้งแต่ 18:00 น.ถึง 22:00 น.โดยบุฟเฟ่ต์จัดทุกวันศุกร์-เสาร์และวันอาทิตย์จะเป็นมื้อกลางวัน 12:00 น.ถึง 15:00 น. พิเศษมีส่วนลดสูงสุดถึง 30% เพียงจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ อาทิซิตี้แบงก์/กสิกรไทย/ไทยพาณิชย์ KTC /กรุงศรีอยุธยา/กรุงเทพและ UOB ส่วนร้านอาหารนั้นจะหลากหลายอลังการสมราคาแค่ไหน ? เราไปชมด้วยกันเลยครับ

เริ่มจากโซนแรกเป็น Sea Food On Ice โดยที่นี่จัดมาในถังไม้เรียงไว้ให้ตักได้อย่างสะดวก มีให้เลือกทานทั้งกุ้งแม่น้ำปูอลาสก้า ปูม้า กุ้งขาว และวัตถุดิบที่ไม่เคยเห็นที่โรงแรมไหนอย่าง Blue Crab รสชาติค่อนข้างแตกต่างจากปูที่เคยทานมาก่อนหน้านี้ตัวใหญ่เนื้อมัน เนื้อเยอะทานอร่อย ใครที่ไม่เคยลองทานปูชนิดนี้มาก่อนแนะนำว่าต้องมาลองที่นี่เท่านั้นครับ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ อยากทานอะไรก็ตักใสจานไปวางที่โต๊ะได้ตามสะดวกครับ

โซนต่อมาเป็นสเต็กและอาหารร้อนพร้อมทาน มีให้เลือกทานทั้งสเต็กเนื้อวัว สเต็กเนื้อแกะ พาสต้าซอสต่างๆ โดยเราสามารถสั่งกับโดยตรงเชฟได้จากจุดนี้ แล้วอย่าลืมนำป้ายเลขที่บนโต๊ะมายื่นพร้อมกับสั่งอาหารทิ้งไว้ เมื่อได้แล้ว น้องพนักงานก็จะนำไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ เมนูอาหารร้อนพร้อมทานเริ่มจากกระเพาะปลาหม้อใหญ่ใส่เครื่องให้แน่น/ ซุปครีมเห็ดสไตล์ฝรั่ง/ซีฟู้ดรวมผัดกับเห็ด/ขาเป็ดตุ๋นในน้ำมันราดซอสผลไม้เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งอบ/เนื้อแกะอบ Navarin Ragout/ซีฟู้ดเสียบไม้ราดซอสสไตล์เสฉวน/บล็อคโคลี่ผัดน้ำมันหอย/มัสมั่นเนื้อวัวที่ใส่เนื้อมาให้ชิ้นใหญ่ ดูรสชาติเข้มข้น เท่าที่สังเกตด้วยสายตาแล้ววัตถุดิบต่างๆที่ทางห้องอาหารเลือกใช้นั้นค่อนข้างคุณภาพดีเลยทีเดียว

ใครที่เป็นแฟนของห้องอาหาร Chef Man โรงแรมอีสตินแกรนด์สาทรแล้วก็ ที่นี่ก็มีการนำอาหารจีนของห้องอาหารมาเสิร์ฟในไลน์บุฟเฟ่ต์ด้วยเช่นกัน ทั้งข้าวผัดปูที่ใช้เนื้อปูอลาสก้าแทนปูม้าปกติที่เคยทาน ขนมจีบไส้ต่างๆมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบและซาลาเปาหลากหลายไส้ทั้งไส้ครีมลาวาไข่เค็ม ไส้ครีมลาวาเผือก ไส้ครีม ไส้หมูสับและไส้หมูแดง อยากจะบอกว่าขนมจีบที่นี่คุณภาพดีมาก แป้งบางอัดเนื้อหมูเนื้อกุ้งมาแน่นเต็มคำ ยิ่งทานกับจิ๊กโฉ่ว/ซอสพริกปรุงรสของทางโรงแรมแล้วบอกเลยว่าอร่อยเด็ดสุดๆ ใครที่เป็นสาวกอาหารจีนห้ามพลาดติ่มซำของที่นี่เลยครับ

สเต็กเนื้อวัวอบชิ้นใหญ่มีเชฟคอยตัดให้พร้อมเสิร์ฟ ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อวัวที่นี่ยังมีปลาเก๋าอบตัวใหญ่ยักษ์เนื้อสีขาวให้ทาน เมนูอาหารปรุงสดเริ่มจากปอเปี๊ยะสด/ก๋วยเตี๋ยวหลอด/ก๋วยจั๊บ(อยากใส่หมูกรอบล้วนไม่เครื่องในยังไงก็สั่งได้) มีเชฟยืนทำให้สดๆจานต่อจาน เป็ดย่าง/หมูแดง/หมูกรอบพร้อมซอสราด อยากทานเยอะราดน้ำซอสชุ่มฉ่ำแค่ไหนก็หยิบตักกันได้ตามใจ อยากจะบอกว่าส่วนตัวแล้วชอบก๋วยเตี๋ยวหลอดของที่นี่มาก เส้นเหนียวนุ่มซอสรสชาติเข้มข้นแถมปรุงได้ตามใจ แต่อย่าเผลอทานเยอะเกินไป เดี๋ยวจะไม่มีพื้นที่ให้กับอาหารดีๆอย่างอื่นอีกนะครับ

ส่วนใครที่เป็นสาวกซูชิและปลาดิบ ที่นี่ก็มีโซนจัดให้ค่อนข้างใหญ่โตอยู่เหมือนกัน ทั้งซูชิหลากหลายหน้า ซาชิมิที่หั่นให้สดวางประดับอยู่บนเรือ แต่ถ้ายังถูกใจไม่พอก็สามารถสั่งตรงได้กับเชฟเช่นเดียวกัน คุณภาพของปลาที่นำมาใช้ดูจากสายตาแล้วค่อนข้างดีเลยทีเดียว รับรองว่าใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

หันหลังกลับมาจะเป็นโซนยำและสลัดค็อกเทลพร้อมทานต่างๆ มาในรูปแบบของจานเล็กๆแบบ ทานคำเดียวแล้วจบ มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เลือกหยิบทานได้ตามใจ รวมไปถึงสลัดควินัวที่จัดอยู่อย่างโดดเด่น ใครที่เป็นสายยำหรือว่ารักสุขภาพ โซนนี้น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย เพราะมีให้เลือกข้างหลังทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นจานเล็กๆก็เถอะ

ถัดมาเป็นโซนสลัดซึ่งค่อนข้างจะยาวและมีน้ำสลัดให้เลือกหลากหลาย ปรุงรสเองได้ตามใจ บางทีก็รู้สึกว่าจะเรียงยาวเกินไปหน่อยเพราะว่ากินพื้นที่ทั้งหมดของอีกฝั่งนึงไปเลย ส่วนผลไม้ของที่นี่ มีให้เลือกทานเป็นผลไม้ไทยทั้งส้มเขียวหวาน/ลำไย/แก้วมังกร/สับปะรด/เสาวรสและแตงโมพร้อมกับน้ำจิ้มพริกเกลือ เอาจริงๆโซนนี้ผมแทบไม่ได้แตะเลยเพราะว่าเรามาทานบุฟเฟ่ต์โรงแรม ลุยทานแต่พวกเมนูเนื้อสัตว์ซะมากกว่า แต่ถ้าใครอยากทานที่นี่ก็มีครบ

โซนต่อมาเป็นของหวานที่ค่อนข้างอลังการ และมีให้เลือกค่อนข้างเยอะถ้าให้อธิบายให้หมดรีวิวนี้ก็จะยาวไปสักหน่อย งั้นขอยกเป็นบางส่วนแล้วกันนะครับ มีให้เลือกทานตั้งแต่ขนมเค้กหน้าต่างๆ/คุกกี้ในกระปุกหยิบได้ตามใจ/ ช็อกโกแลตฟองดูพร้อมผลไม้หั่นชิ้นเล็กๆ/มาการอง/ทาร์ตผลไม้/ฟรุตสลัด/ขนมไทยอย่างครองแครงน้ำกะทิ/ทีรามิสุ/ครีมบูเล่/ชีสเค้กและอีกสารพัดของหวาน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีให้เลือกเกือบทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังไม่หมดนะครับผม

ส่วนอาหารโซนถัดมาของที่นี่วางไว้ค่อนข้างงงไปหน่อยนึง หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเมนูเทมปุระจะต้องอยู่ในไฟสีส้มเพื่อรักษาความร้อนเอาไว้เลยต้องมาอยู่ที่มุมนี้ เป็นเทมปุระทอดรวมพร้อมกับน้ำจิ้มเทมปุระ ส่วนข้างๆกันเป็นบัวลอยน้ำขิงที่สามารถตักบัวลอยและราดน้ำขิงได้ตามใจ ส่วนที่เห็นในหม้อปิดอยู่นั้นเป็นถั่วแดงต้มเอาใจคุณผู้ใหญ่ที่ชอบทานของหวานแบบร้อนๆ (ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล ผู้ใหญ่ที่บ้านผม ทานอาหารเสร็จทีไรเรียกหาบัวลอยน้ำขิงทุกที)