ทริปสามไอเท็มตำนานญี่ปุ่น P.2

ทริปสามไอเท็นตำนานญี่ปุ่น P.2
 
สวัสดีอีกครั้งครับ ในบทความคราวนี้จะเป็นส่วนของการเริ่มต้นการเดินทางกันแล้ว
จากในบทความที่แล้วที่เกริ่นนำถึงทริปนี้โดยคร่าวๆ  วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวการเริ่มต้นเหินฟ้า
ไปตามหาไอเท็มในตำนานของญี่ปุ่นครับ

ลิ้งตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/39256839

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
D-Day
วันที่28 พฤษภาคม
เริ่มต้นตอนเช้า เริ่มเดินทางออกจากจุดรวมพลเวลา 6.00 น. เพื่อไปยังสนามบินขอนแก่น
เราเริ่มต้นจากการเดินทางด้วยเครื่องบินที่ขอนแก่นไปยังสนามบินดอนเมือง และต่อจากดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาติคันไซ โอซาก้า  สำหรับที่ผู้ที่เดินทางแบบ fly thru นั้นสามารถที่จะผ่าน ตม. ของสนามบินขอนแก่นได้เลยครับ โดยไม่ต้องเข้า ตม. ที่ดอนเมืองอีก  เริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นของแอร์เอเชียจะสอบถามถึงเที่ยวบินของเรา และขากลับ  และจะให้เรายื่นพาสปอร์ตแทนบัตรประชาชนครับ
เมื่อได้บอร์ดดิ้งพาสแล้ว ก็ให้เดินเข้าไป ณ จุดตรวจสัมภาระ  เราเดินทางกันโดนไม่มีสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง Backpack กันล้วนๆ เลยง่ายๆสบายๆ  หลังจากผ่านด่านตรวจแล้วให้เดินไปยังทางซ้ายมือของโถงผู้โดยสารขาออก  จะมีจุดตรวจคนเข้าเมือง ให้ทำการผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองตรงนั้นเลยครับ
แนะนำว่าหากใครต้องการรับประทานอาหารหรือซื้อน้ำก็จัดการให้เรียบร้อยครับจะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการออกมา เพราะในห้องรอผู้โดยสารฝั่งคนออกนอกประเทศจะมีแต่ห้องโล่งๆ มีห้องน้ำแค่นั้นครับ ไม่มีร้านค้าอะไรเลย  และพวกผมก็มาเป็นบุคคล VIP  ที่นั่งรอในฝั่งนี้เพียงแค่ 4 ชีวิต
 


เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง จะมีเจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชียเข้ามาพาเราขึ้นเครื่องครับ พร้อมกับติดสติ๊กเกอร์ Fly Thru ด้วย  ได้เวลาเหินฟ้าไปยังดอนเมืองครับ



ถึงดอนเมืองแล้วววว

เมื่อเครื่องบินเข้าเทียบสนามบินดอนเมือง เดินออกมายังทางออกสะพานเทียบอาคาร  เราจะเจอเจ้าหน้าที่ภาคพื้นของแอร์เอเชียยื่นถือป้ายรอเราอยู่ครับ น่าเสียดายไม่ได้ถ่าย ของเยอะไปหน่อย
ทางเจ้าหน้าที่จะพาเราเดินนำไปยังเส้นทางเชื่อมระหว่างอาคารระหว่างประเทศ  เราไม่ต้องออกไปผ่านด่าน ตม. อีกครับ เมื่อถึงจุดทางเชื่อมจะเป็นจุดตรวจสัมภาระอีกครั้งหลังจากตรวจเสร็จออกมาจะเป็นอาคารฝั่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศครับ  แต่นี่แย่นิดหน่อยตรงที่อาคารฝั่งระหว่างประเทศ ร้านค้าน้อยมากกกกกกกกกก!!!!!!!!!  โดยปกติผมจะใช้เพียงแค่ฝั่งภายในประเทศ ร้านค้าเยอะแยะ แลดูมีความศีวิลัยเป็นอย่างมาก  แต่ฝั่งนี้เงียบเหงาสุดๆ มีแค่เพียงโดยผู้โดยสารรอขึ้นเครื่อง และร้านค้านิดๆหน่อยๆ  แม็คโดนัล ร้านอาหารญี่ปุ่นนิดๆ แต่ผมหาเซ่เว่นไม่เจอ เราตั้งใจจะไปกดน้ำดื่มจากตู้กด แต่ในฝั่งนี้ไม่มีตู้กดดีๆแบบฝั่งภายในประเทศเลย มีแต่ตู้เก่าๆธรรมดา  หวังว่าในอนาคตจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับ 55

เนื่องด้วยวันเดินทาง มีลมหนุนทำให้เครื่องจากขอนแก่นมาถึงดอนเมืองเร็วกว่ากำหนด  มานั่งรอกันอย่างเหงาหงอยรอเวลาขึ้นเครื่อง  กำหนดขึ้นเครื่องเวลา 14.50 น.  นั่งรอเดินไปหาอะไรกินตอนเช้าหน่อย แปปๆก็ได้ขึ้นเครื่องแล้วครับ  เครื่องที่เราขึ้นเป็น Airbus 330-300 ของ ไทยแอร์เอเชียX  รูปแบบที่นั่งชั้นประหยัด 3-3-3  ส่วนท้ายๆเครื่องจะปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะเครื่อง  ในช่วงที่เราไปนั้นมีในส่วนของชั้นธุรกิจที่นั่งปรับเอนนอนได้เลย  แต่เราจะขอข้ามไป ไว้มีโอกาสได้นั่งชั้นธุรกิจจะมารีวิวใหม่ 555

ได้เวลาออกเดินทางไปญี่ปุ่นแล้วว
 


เหล่าสมาชิก คณะแสวงบุญชมพูทวีปมีครบ ซัวเจ๋ง โป๊ยก่าย พระถัง หง่อคง ขาดม้า 55

เนื่องด้วยมีสมาชิกบางคนขึ้นเครื่องบินไปครั้งแรก จึงไม่รู้วิธีเคลียร์หู นั่งหูอื้ออยู่ตลอดทั้งไฟล์ท 5555 ลงเครื่องมาบ่นว่าหูดับไป (อ่อนแอก็แพ้ไป)
เราถึงสนามบินนานาชาติคันไซ เวลาประมาณ4ทุ่มที่ญี่ปุ่นครับ  ตามเดิมวันนี้ลมหนุนทั้งวันถึงก็เร็ว
พอลงเครื่องเราก็เดินไปขึ้นรถไฟภายในสนามบินเพื่อไป ตม.  เหมือนเที่ยวที่จะลงไม่มีอีกหรือยังไง เห็นเจ้าหน้าที่เตรียมตัวจะกลับบ้านกันแล้ว กลุ่มผมมาเข้าแถวผ่าน ตม. เป็นท้ายๆแถว  ไม่มีกลุ่มจากเที่ยวบินอื่นมาต่อแถวอีกและเจ้าหน้าที่เริ่มเก็บป้ายปิดแถวครับ  เราพนันกันไว้ว่าซัวเจ๋งเราจะโดน ตม.เข้าห้องเย็นอีกหรือเปล่า  เสียดายที่ผมแพ้พนัน  5555
หลังจากผ่าน ตม. ออกมา เราวางแผนไว้ว่าคืนนี้เราจะนอนพักที่สนามบินครับ  ไปหาข้อมูลมา ที่สนามบินคันไซจะมีโซนให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนอยู่สนามบินสามารถมานอนและของยืนผ้าห่มได้ครับ
โดยให้เราเดินออกมาจากส่วนขาเข้าและขึ้นไปยังชั้น2เดินไปทาง Aero Plaza  หรือเส้นทางจะไปเข้าสถานีรถไฟแหละครับทางเดียวกัน  เมื่อเดินถึงหน้าสถานีรถไฟให้เดินต่อไปอีกจะเป็นทางเชื่อมไปยังพลาซ่า  เดินเข้าไปในพลาซ่าแล้วเดินไปทางแฟมิลี่มาร์ท  จะมีทางเดินไปจนสุดร้านเบอร์เกอร์คิงจะมีซอกเล็กๆ ข้างในนั้นจะเป็นจุดให้นอนพักได้ครับ มีเก้าอี้โซฟา ปลั๊กไฟ เลือกกันตามอัธยาศัยได้เลย  โดยใครจะยืมผ้าห่ม ให้ลงทะเบียนที่เคาท์เตอร์ข้างหน้าห้องครับ และต้องคืนผ้าห่มในตอน 6โมงเช้า

บทความนี้ก็ยาวพอควรแล้ว  เดี๋ยวไปต่อกันคราวหน้า  จะเป็นเรื่องราวของเช้าวันเที่ยวเลยครับ
ติดตามกันในตอนหน้าได้นะครับ  เราจะเริ่มแสวงบุญกันแล้ว
おやすみなさい。
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่