ไฟไหม้!!! สนามบินขอนแก่น!!! ผู้โดยสารหนีตาย!!! สั่งปิดตลอดวัน!!!

ไฟไหม้!!! สนามบินขอนแก่น!!! ผู้โดยสารหนีตาย!!! สั่งปิดตลอดวัน!!!

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 ม.ค. 2561





ไฟไหม้สนามบินขอนแก่น ผู้โดยสารหนีตายจ้าละหวั่น ต้นเพลิงเกิดจากห้องควบคุมระบบไฟฟ้า
เบื้องต้น สั่งปิดสนามบินตลอดทั้งวัน กระทบตารางบินป่วน พร้อมนำผู้โดยสารนับพันไปใช้สนามบินอุดรฯ แทน

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2561 ร.ต.อ.ภาสกร คำภู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น, ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผอ.ท่าอากาศยานขอนแก่น, พ.ต.อ.รพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด, พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายการข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ขอนแก่น) พร้อมระดมรถน้ำดับเพลิงจากกรมท่าอากาศยาน, ทต.บ้านเป็ด และ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น เข้าทำการสกัดและควบคุมเพลิง

ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มอาคาร โดยมีเปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณฝ้าเพดานของอาคารทั้งหมด และกำลังลุกลามไปทั่วทั้งบริเวณตามระบบบท่อส่งอากาศของอาคาร เจ้าหน้าที่จึงใช้โฟมทำการฉีดสกัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่กลุ่มควันยังคงลอยไปทั้งบริเวณอาคาร เนื่องจากเปลวเพลิงลุกไหม้ชนวนกันความร้อน และฝ้าเพดานของอาคารในชั้น 3 มากกว่าร้อยละ 40

ขณะที่ผู้โดยสารที่รอการโดยสารในเส้นทางต่างๆ ในช่วงเช้ารวม 8 เที่ยวบิน กว่า 1,000 คน ต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารทั้งฝั่งขาเข้าชั้น 2 และฝั่งขาออกชั้น 3 อย่างโกลาหล เนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมาก ประกอบกับกระแสไฟฟ้าดับทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสนามบิน, สายการบิน และล่ามแปล รวมทั้งผู้โดยสารบางส่วนต่างช่วยกันควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้นเพลิงเกิดจากบริเวณห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารสนามบินชั้น 3 ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมตัวอาคารทั้งหมด ทำให้ต้องมีการสั่งห้ามผู้ที่มีไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณอาคาร เพื่อความปลอดภัย

"จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความเสียหายเฉพาะในส่วนของที่ควบคุมไฟของอาคารเท่านั้น ไม่กระทบต่อการควบคุมการบินแต่อย่างใด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสนามบินไม่สามารถที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ ในส่วนของการตรวจจำนวนผู้โดยสาร การเช็กอิน และระบบอำนวยความสะดวกภาคพื้น ทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ในช่วงเช้าขาเข้าจากเส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ต้องไปลงจอดที่สนามบินอุดรธานีแทน และขาออกจากขอนแก่นไปภูเก็ต-ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ต้องไปใช้ที่สนามบินอุดรธานีด้วยเช่นกัน"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้ประกาศปิดสนามบินขอนแก่น ห้ามทำการบินโดยเด็ดขาด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ได้รับผลกระทบทั้งหมดช่วงเช้า ขาเข้า 4 เที่ยวบิน ขาออก 4 เที่ยวบิน และในช่วงเที่ยงขาเข้าและขาออก อย่างละ 4 เที่ยวบินอีกด้วย ทั้งนี้ การจะกลับมาให้บริการได้อีกครั้งนั้นต้องรอยืนยันอีกครั้ง เพราะทุกส่วนจะต้องปลอดภัยสูงสุด เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ขณะที่ กรมท่าอากาศยาน ส่งหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนกรณีไฟไหม้ที่ท่าอากาศยานขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 05.00 น. ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่า บริเวณห้องไฟฟ้า ภายในอาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 มีไฟลุกไหม้ บริเวณตู้ควบคุมไฟฟ้า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงของท่าอากาศยานขอนแก่น ให้ดำเนินการตามแผนฉุกเฉินกรณีไฟไหม้ ภายในอาคาร ซึ่งสามารถควบคุมเพลิงได้เรียบร้อยแล้ว สำหรับสาเหตุเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง จากการดับเพลิงทำให้มีควันและเศษโฟมที่ทำการดับไฟ และภายในอาคารยังไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ท่าอากาศยานขอนแก่น จึงได้แจ้งออกประกาศ NOTAM ปิดทำการอาคารที่พักผู้โดยสารครึ่งวัน เพื่อแก้ไขระบบไฟฟ้า โดยในเช้านี้มีเที่ยวบินแจ้งเปลี่ยนไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี

กรมท่าอากาศยานได้ส่งทีมวิศวกรไฟฟ้าไปตรวจสอบสาเหตุ และประเมินความเสียหาย พร้อมเร่งซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ให้สามารถใช้งานได้เป็นปกติ คาดว่าจะเรียบร้อยในบ่ายวันนี้ ขณะนี้สายการบินได้จัดรถรับส่งผู้โดยสารไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเที่ยวบินได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของสายการบิน
- สายการบินไทยสมายล์ โทร.02-118-8888 หรือ 1181
- สายการบินไทยแอร์เอเชีย โทร 02-515-9999
- สายการบินนกแอร์ โทร 1318
- สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ โทร 02-529-9999
สำหรับความคืบหน้ากรมท่าอากาศยานจะแจ้งให้ทราบต่อไป

https://www.thairath.co.th/content/1187217
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่