เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ.ภาสกร คำภู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น, ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผอ.ท่าอากาศยานขอนแก่น, พ.ต.อ.รพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด, พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายการข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ขอนแก่น) พร้อมระดมรถน้ำดับเพลิงจากกรมท่าอากาศยาน, ทต.บ้านเป็ด และ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น
ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มอาคาร โดยมีเปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณฝ้าเพดานของอาคารทั้งหมด และกำลังลุกลามไปทั่วทั้งบริเวณตามระบบท่อส่งอากาศของอาคาร เจ้าหน้าที่จึงใช้โฟมทำการฉีดสกัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่กลุ่มควันยังคงลอยไปทั่วบริเวณอาคาร เปลวเพลิงลุกไหม้ชนวนกันความร้อนและฝ้าเพดาของอาคารในชั้น 3 มากกว่าร้อยละ 40
ขณะที่ผู้โดยสารที่รอการโดยสารในเส้นทางต่างๆในช่วงเช้ารวม 8 เที่ยวบินกว่า 1,000 คน ต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารทั้งฝั่งขาเข้าชั้น 2 และฝั่งขาออกชั้น 3 อย่างโกลาหล เนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมากประกอบกับกระแสไฟฟ้าดับทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสนามบิน สายการบิน และล่ามแปลภาษา รวมทั้งผู้โดยสารบางส่วนต่างช่วยกันควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้นเพลิงเกิดจากบริเวณห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารสนามบินชั้น 3 ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมตัวอาคารทั้งหมด ทำให้ต้องมีการสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณอาคารเพื่อความปลอดภัย
“จากการตรวจสอบเบื้อต้นพบความเสียหายเฉพาะในส่วนของควบคุมไฟของอาคารเท่านั้น ไม่กระทบต่อการควบคุมการบินแต่อย่างใด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสนามบินไม่สามารถที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ในส่วนของการตรวจจำนวนผู้โดยสาร การเช็คอินและระบบอำนวยความสะดวกภาคพื้นทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ในช่วงเช้าขาเข้าจากเส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่-และสุวรรณภูมิ ต้องไปลงจอดที่สนามบินอุดรธานีแทน และขาออกขากขอนแก่นไปภูเก็ต-ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ต้องไปใช้ที่สนามบินอุดรธานีด้วยเช่นกัน” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ประกาศปิดสนามบินขอนแก่นห้ามทำการบินโดยเด็ดขาด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ได้รับผลกระทบทั้งหมดช่วงเช้า ขาเข้า 4 เที่ยวบิน ขาออก 4 เที่ยวบิน และในช่วงเที่ยงขาเข้าและขาออก อย่างละ 4 เที่ยวบินอีกด้วย ทั้งนี้ การจะกลับมาให้บริการได้อีกครั้งนั้น ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง เพราะทุกส่วนจะต้องปลอดภัยสูงสุด เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_724603
ไหม้ระทึก! สนามบินขอนแก่น ผู้โดยสารหนีตายอลหม่าน สั่งปิด!-เปลี่ยนใช้สนามบินอุดรฯ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ.ภาสกร คำภู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น, ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผอ.ท่าอากาศยานขอนแก่น, พ.ต.อ.รพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด, พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายการข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ขอนแก่น) พร้อมระดมรถน้ำดับเพลิงจากกรมท่าอากาศยาน, ทต.บ้านเป็ด และ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น
ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มอาคาร โดยมีเปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณฝ้าเพดานของอาคารทั้งหมด และกำลังลุกลามไปทั่วทั้งบริเวณตามระบบท่อส่งอากาศของอาคาร เจ้าหน้าที่จึงใช้โฟมทำการฉีดสกัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่กลุ่มควันยังคงลอยไปทั่วบริเวณอาคาร เปลวเพลิงลุกไหม้ชนวนกันความร้อนและฝ้าเพดาของอาคารในชั้น 3 มากกว่าร้อยละ 40
ขณะที่ผู้โดยสารที่รอการโดยสารในเส้นทางต่างๆในช่วงเช้ารวม 8 เที่ยวบินกว่า 1,000 คน ต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารทั้งฝั่งขาเข้าชั้น 2 และฝั่งขาออกชั้น 3 อย่างโกลาหล เนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมากประกอบกับกระแสไฟฟ้าดับทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสนามบิน สายการบิน และล่ามแปลภาษา รวมทั้งผู้โดยสารบางส่วนต่างช่วยกันควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้นเพลิงเกิดจากบริเวณห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารสนามบินชั้น 3 ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมตัวอาคารทั้งหมด ทำให้ต้องมีการสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณอาคารเพื่อความปลอดภัย
“จากการตรวจสอบเบื้อต้นพบความเสียหายเฉพาะในส่วนของควบคุมไฟของอาคารเท่านั้น ไม่กระทบต่อการควบคุมการบินแต่อย่างใด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสนามบินไม่สามารถที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ในส่วนของการตรวจจำนวนผู้โดยสาร การเช็คอินและระบบอำนวยความสะดวกภาคพื้นทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ในช่วงเช้าขาเข้าจากเส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่-และสุวรรณภูมิ ต้องไปลงจอดที่สนามบินอุดรธานีแทน และขาออกขากขอนแก่นไปภูเก็ต-ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ต้องไปใช้ที่สนามบินอุดรธานีด้วยเช่นกัน” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ประกาศปิดสนามบินขอนแก่นห้ามทำการบินโดยเด็ดขาด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ได้รับผลกระทบทั้งหมดช่วงเช้า ขาเข้า 4 เที่ยวบิน ขาออก 4 เที่ยวบิน และในช่วงเที่ยงขาเข้าและขาออก อย่างละ 4 เที่ยวบินอีกด้วย ทั้งนี้ การจะกลับมาให้บริการได้อีกครั้งนั้น ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง เพราะทุกส่วนจะต้องปลอดภัยสูงสุด เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_724603