🤣 สวัสดีค่าาาา จากวันนี้ไปสัก 4-5 วัน เราจะพาเพื่อนๆไปชมร้านอาหารระดับโลกที่เราได้ไปทานมาที่ยุโรปตะวันออก และบาวาเรียกันค่า เเม้ว่าป้ายบางร้านจะติดป้ายมิชลินของปี 2018 และบางร้านปิดป้ายปี 2019 แต่อันที่จริงแล้วทริปนี้เราเพิ่งไปมาเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากันนี่เอง ร้านแรกขอเริ่มจากสุดยอดภัตตาคารหรูใจกลางกรุง Vienna 🇦🇹 ประเทศ Austria กันก่อน กับทริป
ฝากกดไลต์ กดแชรเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้าาาา
FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇦🇹 Steirereck im Stadtpark - สไตรีเรค อิม สตัทปาร์ค
⭐️⭐️ 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳 19 Points Gault-Millau (4 Torques) - 19 คะแนน โกท- มิโจไกด์ (หมวก 4 ใบ)
🏵 2019 World’s Best Restaurant No.17 - ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ 17
🥄 เชฟ Heinz Reitbauer เกิดเมื่อปีค.ศ. 1970 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ครอบครัวของเขาเปิดร้านอาหารสไตรีเรค(เดิม)ในกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย โดยเน้นเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองออสเตรียเป็นหลัก หลังจากโตจนถึงวัยเรียน ครอบครัวก็ปูเส้นทางให้กับลูกชายโดยส่งเข้าเรียนที่ Hospitality school เพื่อเรียนรู้หลักสูตรการโรงแรมในเมือง Altotting แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน หลังจากเรียนจบ ไฮน์ก็เดินทางเข้าสู่เส้นทางพ่อครัวโดยเข้าทำงานในร้านอาหารระดับสูงมากมายในหลายประเทศ เช่น ร้านอาหาร Alain Chapel ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับสามดาวมิชลินในเมือง Mionnay ของเชฟ Alain Chapel, Mosimann’s ร้านอาหารในกรุงลอนดอนของอดีตเชฟระดับสองดาวมิชลินชาวสวิส Anton Mosimann และยังเคยร่วมงานกับสุดยอดเชฟแห่งทศวรรษอย่าง Joël Robuchon อีกด้วย
🍾 หลังจากสั่งสมประสบการณ์มากมาย เชฟ Heinz จึงย้ายร้านอาหารจากร้านเดิมเปลี่ยนมาตั้งอยู่ที่สุดยอดทำเลทองคือใจกลางสวนสาธารณะ Stadtpark และตั้งชื่อร้านตามสถานที่ว่า สไตรีเรค อิม สตัทพาร์ค ตัวร้านมีขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน ผนังร้านกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองผ่านได้จากนอกร้านทำให้ร้านดูโปร่ง ในห้องอาหารเป็นโต๊ะกลมปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกับไฟสีส้มดูหรูหรา ชั้นล่างมีห้องเก็บชีส ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บสมุนไพร และครัวชั้นเลิศ
🇦🇹 สไตรีเรค อิม สตัทพาร์ค เสิร์ฟอาหารออสเตรียร่วมสมัย มีเมนูเปลี่ยนไปตามฤดูกาล บางเมนูหาทานได้ยากและทานกันเฉพาะกลุ่ม เช่น ไตกระต่าย หัวใจกวาง ศีรษะหมูป่า สมองลูกวัว เป็นต้น อาหารที่นี่ใส่ใจในรายละเอียด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ในด้านรสชาติบอกตรงๆว่าด้วยความที่เป็นอาหารออสเตรีย ทำให้ทั้งความซับซ้อนและความหลากหลายทางรสชาติออกมาสู้อาหารชั้นนำของยุโรปอย่างอาหารฝรั่งเศสหรืออาหารอิตาลีไม่ได้ แต่ถือว่าเชฟ Heinz เก่งมากที่สามารถนำอาหารดั้งเดิมของออสเตรียมาตีความเสียใหม่จนได้อาหารหน้าตาสุดโมเดิร์นเสิร์ฟในห้องอาหารแบบนี้ ในเรื่องของราคาก็ถือว่าสูงตามมาตรฐานร้านอาหารระดับสองดาวมิชลินที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในประเทศกลุ่มยุโรปตะวันออก
วันนี้เราได้สั่ง Tasting Menu ชุดใหญ่ของทางร้านคนละชุดทำให้ได้ทานอาหาร “ทุกจาน” ที่มีเสิร์ฟในร้าน ดังนี้
📃 Tasting Menu (165++ EUR/p)
SELECTIONS OF BREAD
AMUSE BOUCHE
SALMON TROUT
Salmon Trout with young Peas, Kohlrabi & Scottish Lovage
or
VEAL TONGUE
Carrot Variety with Tangerine, Veal Tongue & Radish
|
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
or
ASPARAGUS
Asparagus Soup with Bergamot, wild Hop Shoots & Speck
|
ARCTIC CHAR
Arctic Char with Moro Blood Orange, Quinoa & Dill
or
PIKE–PERCH
Pike–perch with fermented Asparagus & Soya Beans
|
MUSHROOM
Mushroom ‘Beuschel’ with Forest Perennial Rye & Mushroom Plant
or
CABBAGE
Pointed Cabbage with Cape Gooseberry, Hemp & Sweet Clover
|
KID GOAT
Kid Goat Shoulder with Potatoes, Cucumber & Rosemary Blossom
or
MILK–FED VEAL
Veal Cheeks & Brain with white Asparagus, Spruce Tips & ‘Topaz’ Apple
SELECTED CHEESES FROM OUR MEIEREI
Bergfichte, Camembert, Roter Brie & Livarot
or
RHUBARB
Rhubarb with Cherry Blossom, Coconut & Lemon Thyme
|
SWEET CORN
Sweet Corn with Tamarillo, Geranium & Nasturtium
or
BISHOP ́S HAT
Bishop ́s Hat with Calamansi, Sheep ́s Milk Yogurt & Einkorn
PETIT FOURS
✌️อาหารมีเอกลักษณ์สูงมาก มีความคิดสร้างสรรค์ ในด้านรสชาติที่นี่ทำอาหารออกมาค่อนข้างติดรสเปรี้ยว ทำให้ส่วนตัวเเล้วเราคิดว่ารสชาติอาหารยังเป็นรองฝรั่งเศสหรืออิตาเลียนอยู่พอสมควร ราคาสูงเนื่องจากเป็นร้านอาหารระดับทอปของโลก
รสชาติ : 15/20
ราคา : 14/20
ความคุ้มค่า : 14/20
บรรยากาศ : 18/20
บริการ : 18/20
ความประทับใจโดยรวม : 16/20
ตัวร้านมีขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน ผนังร้านกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองผ่านได้จากนอกร้านทำให้ร้านดูโปร่ง ในห้องอาหารเป็นโต๊ะกลมปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกับไฟสีส้มดูหรูหรา
AMUSE BOUCHE
สำหรับเซ็ทอมูสบูชหรืออาหารเรียกน้ำย่อยมีห้าอย่างด้วยกันคือ
- Beetroot with sour cream and lemon juice
- Typical Austrian dumpling with plum and poppy seeds
- Baby cucumber with crispy potatoes
- Fried bread with cabbage flavored with paprika dipping sauce
- Broccoli with broccoli coins and walnuts
AMUSE BOUCHE
Beetroot with sour cream and lemon juice
บีทรูปสีแดงสวยงามทำออกมาเป็นทรงกลม ด้านในเป็นซาวครีม และด้านนอกเป็นน้ำมะนาวรสเปรี้ยวช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (15/20)
AMUSE BOUCHE
Baby cucumber with crispy potatoes
ถัดมาคือแตงกวา Cylinders of “melothria” พันด้วยมันฝรั่งกรอบมีรสออกเปรี้ยว (15/20)
AMUSE BOUCHE
Typical Austrian dumpling with plums and poppy seeds
อันถัดมาเป็นอาหารพื้นบ้านของออสเตรียคือ Germknödel เกี๊ยวทรงกลม ด้านในเป็นบ๊วยรสเปรี้ยวอ่อนๆ ด้านนอกคลุกกับปอปปี้ซีดกรอบๆ (13/20)
AMUSE BOUCHE
Fried bread with cabbage flavored with paprika dipping sauce
Blattl แป้งพัฟกรอบเสิร์ฟให้ทานคู่กับซอสกะหล่ำปลีและปาปริก้า (14/20)
AMUSE BOUCHE
Broccoli with broccoli coins and walnuts
สุดท้ายคือบรอคโคลี่ทานกับบร็อคโคลี่หั่นเป็นเหรียญกลมและถั่ววอลนัทกรอบ (13/20)
SALMON TROUT
Salmon Trout with young Peas, Kohlrabi & Scottish Lovage
จานนี้คือปลาแซลมอนเทร้าท์สดๆจาก Ramsau เมืองในเเคว้นบาวาเรียประเทศเยอรมัน และเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Berchtesgaden ด้วยความที่เป็นแซลมอนป่าทำให้มีมีเนื้อเนียน นุ่ม ละมุนลิ้น ไม่มีกลิ่นคาว ทานกับผักเคียงต่างๆคือ โคลราบีสดที่นำไปอบในเตาอบ โคลราบีดองกับเอลเดอร์ฟลาวเวอร์และเวอจูส ใส่เมล็ดถั่วลันเตาตรงกลาง ส่วนตัวซอสเป็นซอส Mountain trout garum หรือน้ำปลาหมักภายใต้อุณหภูมิคงที่ค่าหนึ่ง สูตรนี้ใช้กันมาตั้งเเต่ยุคกรีกและโรมัน ได้จากการนำปลาไปหมักกับเกลือจนได้น้ำจากตัวปลามาส่วนหนึ่ง ต่อมานำไปกรองกากออกออกแล้วหมักต่อจนได้เป็นการุม นอกจากนี้ยังมีซอสสีเขียวข้างๆทำจากถั่วลันเตาโรยด้านบนด้วยหนังปลาเทร้ากรอบ (16/20)
VEAL TONGUE
Carrot Variety with Tangerine, Veal Tongue & Radish
จานถัดมาคือลิ้นวัวฝานบาง นำไปหมักและรมควันจนเนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอม ด้านบนคือเเครอทหลากหลายพันธุ์ มีรสชาติ ความหวาน ความเปรี้ยว กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีขิง ส้มเขียวหวานอบแห้งหมักกับวิสกี้และเลมอน ฮอร์สแรดิช และเลมอนเวอบีนา ลูกเล่นของจานนี้คือการเปรียบเทียบเนื้อสัมผัสของลิ้นวัวและเเครอท รวมไปถึงรสชาติเปรี้ยวหวานที่เเตกต่างกันของเเครอทพันธุ์ต่างๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆของส้มเข้ากันได้อย่างดี (15/20)
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
ถัดมาทางคือเห็ด ปอม ปอม บล็อง โดยทางร้านจะนำเห็ดสดๆมาให้ดูก่อน (17/20)
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
ทางร้านนำเห็ดปอม ปอม บล็องไปนึ่งกับกุหลาบและขมิ้น ด้านบนบนมีถั่วพีแคน บีทรูทขาว เลมอนเมเยอร์ งาม้อนหรือเพอริลล่า เวอบีนา มีสเปลท์ที่นำไปคาราเมลไลซ์จนกรอบ ด้านล่างเป็นข้าวโอ๊ตอบกรอบ และข้าวโอ๊ตซุเฟล่ ด้านข้างสีน้ำตาลเป็นซอสทำจากเห็ดและเนยกุหลาบ ตัวเห็ดมีรสหวานอมขม คล้ายเห็ดฟางแต่อร่อยกว่ามาก เนื้อนุ่มของเห็ดตัดกันอย่างลงตัวกับความกรอบขององค์ประกอบอื่นๆที่ใส่มา มีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ อร่อยมากจริงๆ (17/20)
ASPARAGUS
Asparagus Soup with Bergamot, wild Hop Shoots & Speck
จานี้คือซุปหน่อไม้ฝรั่ง ได้จากการนำหน่อไม้ฝรั่งสดไปนึ่งกับเบอร์กามอทและเวอจูสทำให้มีรสอมเปรี้ยว ยังมีหน่อไม้ฝรั่งขาวต้มกับน้ำแอปเปิ้ล ด้านบนเป็นต้นฮอร์ปจากฟาร์ม Toni Fickert บริเวณชานเมืองของกรุงเวียนนา โดยปกติฮอร์ปเป็นพืชที่พบได้ในยุโรปเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทางร้านเล่าให้ฟังว่าพืชชนิดนี้มีรสชาติหวาน มีกลิ่นคล้ายถั่ว และมีรสชาติดีที่สุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ของปีเท่านั้น ทางร้านหั่นเป็นท่อนกลมๆใส่ไว้ด้านบน มีครีมซุปหน่อไม้ฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีพริกไทยญี่ปุ่นเพื่อความซับซ้อนให้รสชาติอีกด้วย (15/20)
ARCTIC CHAR
Arctic Char with Moro Blood Orange, Quinoa & Dill
ปลาแซลมอนประเภท Arctic Char เป็นปลาเเซลมอนน้ำจืด พบได้บริเวณทะเลสาบในแถบมหาสมุทรอาร์คติค มีรสชาติอร่อย และเนื้อสัมผัสพิเศษกว่าปลาเเซลมอนทั่วๆไป ทางร้านได้ปลามาจาก Wolf Bio Fisch เมือง Ramsau ประเทศเยอรมันนำไป slow cook กับผิวส้มบลัดออเร้นจ์และบราวน์บัตเตอร์ นอกจากนี้ยังมีปลาแซลมอนเผา ราดด้วยซอสส้มบลัดออเร้นจ์รสหวานอมขม และน้ำมันผักชีลาว ด้านบนทอปด้วยควินัวกรอบ มีส้มบลัดออเร้นจ์โมโร่อบแห้งและมาริเนท สุดท้ายทอปด้านบนด้วยคือควินัวร์ ผักฉ่อย และเฟนเนล กะหล่ำปลีเคี่ยวกับ sauerkraut juice ซึ่งเป็นซอสทำจากกะหล่ำปลีหมัก (16/20)
PIKE–PERCH
Pike–perch with fermented Asparagus & Soya Beans
ส่วนท้องปลาไพค์เพิร์ชนำไปกงฟีกับถั่วเหลืองหมักและถั่วเหลืองแห้ง มีความนุ่มเนียน และมีกลิ่นหอมธรรมชาติของเนื้อปลา เริ่มจากนำปลาไพค์เพิร์ชไปมาริเนทกับน้ำมันพริกเสฉวน มีหน่อไม้ฝรั่งขาวนำไปหมักเป็นระยะเวลาสามอาทิตย์ และบ่มไว้อีกหกเดือนทำให้มีรสเปรี้ยว และมีกลิ่นเฉพาะตัว สุดท้ายด้านบนเป็นหนังปลาทอดกรอบ และยังมีแตงกวาอบกรอบอีกด้วย ราดด้วยน้ำมันพาสลีย์ผสมกับน้ำหมักทำจากหน่อไม้ฝรั่ง ออกรสเปรี้ยวๆมันๆ ตัดรสหวานของเนื้อปลาได้ดี (14/20)
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
[CR] 🇦🇹 Steirereck im Stadtpark - สไตรีเรค อิม สตัทปาร์ค ห้องอาหารออสเตรียที่ดีที่สุดในโลก
ฝากกดไลต์ กดแชรเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้าาาา
FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇦🇹 Steirereck im Stadtpark - สไตรีเรค อิม สตัทปาร์ค
⭐️⭐️ 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳 19 Points Gault-Millau (4 Torques) - 19 คะแนน โกท- มิโจไกด์ (หมวก 4 ใบ)
🏵 2019 World’s Best Restaurant No.17 - ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ 17
🥄 เชฟ Heinz Reitbauer เกิดเมื่อปีค.ศ. 1970 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ครอบครัวของเขาเปิดร้านอาหารสไตรีเรค(เดิม)ในกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย โดยเน้นเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองออสเตรียเป็นหลัก หลังจากโตจนถึงวัยเรียน ครอบครัวก็ปูเส้นทางให้กับลูกชายโดยส่งเข้าเรียนที่ Hospitality school เพื่อเรียนรู้หลักสูตรการโรงแรมในเมือง Altotting แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน หลังจากเรียนจบ ไฮน์ก็เดินทางเข้าสู่เส้นทางพ่อครัวโดยเข้าทำงานในร้านอาหารระดับสูงมากมายในหลายประเทศ เช่น ร้านอาหาร Alain Chapel ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับสามดาวมิชลินในเมือง Mionnay ของเชฟ Alain Chapel, Mosimann’s ร้านอาหารในกรุงลอนดอนของอดีตเชฟระดับสองดาวมิชลินชาวสวิส Anton Mosimann และยังเคยร่วมงานกับสุดยอดเชฟแห่งทศวรรษอย่าง Joël Robuchon อีกด้วย
🍾 หลังจากสั่งสมประสบการณ์มากมาย เชฟ Heinz จึงย้ายร้านอาหารจากร้านเดิมเปลี่ยนมาตั้งอยู่ที่สุดยอดทำเลทองคือใจกลางสวนสาธารณะ Stadtpark และตั้งชื่อร้านตามสถานที่ว่า สไตรีเรค อิม สตัทพาร์ค ตัวร้านมีขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน ผนังร้านกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองผ่านได้จากนอกร้านทำให้ร้านดูโปร่ง ในห้องอาหารเป็นโต๊ะกลมปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกับไฟสีส้มดูหรูหรา ชั้นล่างมีห้องเก็บชีส ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บสมุนไพร และครัวชั้นเลิศ
🇦🇹 สไตรีเรค อิม สตัทพาร์ค เสิร์ฟอาหารออสเตรียร่วมสมัย มีเมนูเปลี่ยนไปตามฤดูกาล บางเมนูหาทานได้ยากและทานกันเฉพาะกลุ่ม เช่น ไตกระต่าย หัวใจกวาง ศีรษะหมูป่า สมองลูกวัว เป็นต้น อาหารที่นี่ใส่ใจในรายละเอียด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ในด้านรสชาติบอกตรงๆว่าด้วยความที่เป็นอาหารออสเตรีย ทำให้ทั้งความซับซ้อนและความหลากหลายทางรสชาติออกมาสู้อาหารชั้นนำของยุโรปอย่างอาหารฝรั่งเศสหรืออาหารอิตาลีไม่ได้ แต่ถือว่าเชฟ Heinz เก่งมากที่สามารถนำอาหารดั้งเดิมของออสเตรียมาตีความเสียใหม่จนได้อาหารหน้าตาสุดโมเดิร์นเสิร์ฟในห้องอาหารแบบนี้ ในเรื่องของราคาก็ถือว่าสูงตามมาตรฐานร้านอาหารระดับสองดาวมิชลินที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในประเทศกลุ่มยุโรปตะวันออก
วันนี้เราได้สั่ง Tasting Menu ชุดใหญ่ของทางร้านคนละชุดทำให้ได้ทานอาหาร “ทุกจาน” ที่มีเสิร์ฟในร้าน ดังนี้
📃 Tasting Menu (165++ EUR/p)
SELECTIONS OF BREAD
AMUSE BOUCHE
SALMON TROUT
Salmon Trout with young Peas, Kohlrabi & Scottish Lovage
or
VEAL TONGUE
Carrot Variety with Tangerine, Veal Tongue & Radish
|
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
or
ASPARAGUS
Asparagus Soup with Bergamot, wild Hop Shoots & Speck
|
ARCTIC CHAR
Arctic Char with Moro Blood Orange, Quinoa & Dill
or
PIKE–PERCH
Pike–perch with fermented Asparagus & Soya Beans
|
MUSHROOM
Mushroom ‘Beuschel’ with Forest Perennial Rye & Mushroom Plant
or
CABBAGE
Pointed Cabbage with Cape Gooseberry, Hemp & Sweet Clover
|
KID GOAT
Kid Goat Shoulder with Potatoes, Cucumber & Rosemary Blossom
or
MILK–FED VEAL
Veal Cheeks & Brain with white Asparagus, Spruce Tips & ‘Topaz’ Apple
SELECTED CHEESES FROM OUR MEIEREI
Bergfichte, Camembert, Roter Brie & Livarot
or
RHUBARB
Rhubarb with Cherry Blossom, Coconut & Lemon Thyme
|
SWEET CORN
Sweet Corn with Tamarillo, Geranium & Nasturtium
or
BISHOP ́S HAT
Bishop ́s Hat with Calamansi, Sheep ́s Milk Yogurt & Einkorn
PETIT FOURS
✌️อาหารมีเอกลักษณ์สูงมาก มีความคิดสร้างสรรค์ ในด้านรสชาติที่นี่ทำอาหารออกมาค่อนข้างติดรสเปรี้ยว ทำให้ส่วนตัวเเล้วเราคิดว่ารสชาติอาหารยังเป็นรองฝรั่งเศสหรืออิตาเลียนอยู่พอสมควร ราคาสูงเนื่องจากเป็นร้านอาหารระดับทอปของโลก
รสชาติ : 15/20
ราคา : 14/20
ความคุ้มค่า : 14/20
บรรยากาศ : 18/20
บริการ : 18/20
ความประทับใจโดยรวม : 16/20
ตัวร้านมีขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน ผนังร้านกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองผ่านได้จากนอกร้านทำให้ร้านดูโปร่ง ในห้องอาหารเป็นโต๊ะกลมปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกับไฟสีส้มดูหรูหรา
AMUSE BOUCHE
สำหรับเซ็ทอมูสบูชหรืออาหารเรียกน้ำย่อยมีห้าอย่างด้วยกันคือ
- Beetroot with sour cream and lemon juice
- Typical Austrian dumpling with plum and poppy seeds
- Baby cucumber with crispy potatoes
- Fried bread with cabbage flavored with paprika dipping sauce
- Broccoli with broccoli coins and walnuts
AMUSE BOUCHE
Beetroot with sour cream and lemon juice
บีทรูปสีแดงสวยงามทำออกมาเป็นทรงกลม ด้านในเป็นซาวครีม และด้านนอกเป็นน้ำมะนาวรสเปรี้ยวช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี (15/20)
AMUSE BOUCHE
Baby cucumber with crispy potatoes
ถัดมาคือแตงกวา Cylinders of “melothria” พันด้วยมันฝรั่งกรอบมีรสออกเปรี้ยว (15/20)
AMUSE BOUCHE
Typical Austrian dumpling with plums and poppy seeds
อันถัดมาเป็นอาหารพื้นบ้านของออสเตรียคือ Germknödel เกี๊ยวทรงกลม ด้านในเป็นบ๊วยรสเปรี้ยวอ่อนๆ ด้านนอกคลุกกับปอปปี้ซีดกรอบๆ (13/20)
AMUSE BOUCHE
Fried bread with cabbage flavored with paprika dipping sauce
Blattl แป้งพัฟกรอบเสิร์ฟให้ทานคู่กับซอสกะหล่ำปลีและปาปริก้า (14/20)
AMUSE BOUCHE
Broccoli with broccoli coins and walnuts
สุดท้ายคือบรอคโคลี่ทานกับบร็อคโคลี่หั่นเป็นเหรียญกลมและถั่ววอลนัทกรอบ (13/20)
SALMON TROUT
Salmon Trout with young Peas, Kohlrabi & Scottish Lovage
จานนี้คือปลาแซลมอนเทร้าท์สดๆจาก Ramsau เมืองในเเคว้นบาวาเรียประเทศเยอรมัน และเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Berchtesgaden ด้วยความที่เป็นแซลมอนป่าทำให้มีมีเนื้อเนียน นุ่ม ละมุนลิ้น ไม่มีกลิ่นคาว ทานกับผักเคียงต่างๆคือ โคลราบีสดที่นำไปอบในเตาอบ โคลราบีดองกับเอลเดอร์ฟลาวเวอร์และเวอจูส ใส่เมล็ดถั่วลันเตาตรงกลาง ส่วนตัวซอสเป็นซอส Mountain trout garum หรือน้ำปลาหมักภายใต้อุณหภูมิคงที่ค่าหนึ่ง สูตรนี้ใช้กันมาตั้งเเต่ยุคกรีกและโรมัน ได้จากการนำปลาไปหมักกับเกลือจนได้น้ำจากตัวปลามาส่วนหนึ่ง ต่อมานำไปกรองกากออกออกแล้วหมักต่อจนได้เป็นการุม นอกจากนี้ยังมีซอสสีเขียวข้างๆทำจากถั่วลันเตาโรยด้านบนด้วยหนังปลาเทร้ากรอบ (16/20)
VEAL TONGUE
Carrot Variety with Tangerine, Veal Tongue & Radish
จานถัดมาคือลิ้นวัวฝานบาง นำไปหมักและรมควันจนเนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอม ด้านบนคือเเครอทหลากหลายพันธุ์ มีรสชาติ ความหวาน ความเปรี้ยว กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีขิง ส้มเขียวหวานอบแห้งหมักกับวิสกี้และเลมอน ฮอร์สแรดิช และเลมอนเวอบีนา ลูกเล่นของจานนี้คือการเปรียบเทียบเนื้อสัมผัสของลิ้นวัวและเเครอท รวมไปถึงรสชาติเปรี้ยวหวานที่เเตกต่างกันของเเครอทพันธุ์ต่างๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆของส้มเข้ากันได้อย่างดี (15/20)
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
ถัดมาทางคือเห็ด ปอม ปอม บล็อง โดยทางร้านจะนำเห็ดสดๆมาให้ดูก่อน (17/20)
POM POM BLANC
Pom Pom Blanc with Oat, Albina Beet & Perilla
ทางร้านนำเห็ดปอม ปอม บล็องไปนึ่งกับกุหลาบและขมิ้น ด้านบนบนมีถั่วพีแคน บีทรูทขาว เลมอนเมเยอร์ งาม้อนหรือเพอริลล่า เวอบีนา มีสเปลท์ที่นำไปคาราเมลไลซ์จนกรอบ ด้านล่างเป็นข้าวโอ๊ตอบกรอบ และข้าวโอ๊ตซุเฟล่ ด้านข้างสีน้ำตาลเป็นซอสทำจากเห็ดและเนยกุหลาบ ตัวเห็ดมีรสหวานอมขม คล้ายเห็ดฟางแต่อร่อยกว่ามาก เนื้อนุ่มของเห็ดตัดกันอย่างลงตัวกับความกรอบขององค์ประกอบอื่นๆที่ใส่มา มีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ อร่อยมากจริงๆ (17/20)
ASPARAGUS
Asparagus Soup with Bergamot, wild Hop Shoots & Speck
จานี้คือซุปหน่อไม้ฝรั่ง ได้จากการนำหน่อไม้ฝรั่งสดไปนึ่งกับเบอร์กามอทและเวอจูสทำให้มีรสอมเปรี้ยว ยังมีหน่อไม้ฝรั่งขาวต้มกับน้ำแอปเปิ้ล ด้านบนเป็นต้นฮอร์ปจากฟาร์ม Toni Fickert บริเวณชานเมืองของกรุงเวียนนา โดยปกติฮอร์ปเป็นพืชที่พบได้ในยุโรปเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทางร้านเล่าให้ฟังว่าพืชชนิดนี้มีรสชาติหวาน มีกลิ่นคล้ายถั่ว และมีรสชาติดีที่สุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ของปีเท่านั้น ทางร้านหั่นเป็นท่อนกลมๆใส่ไว้ด้านบน มีครีมซุปหน่อไม้ฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีพริกไทยญี่ปุ่นเพื่อความซับซ้อนให้รสชาติอีกด้วย (15/20)
ARCTIC CHAR
Arctic Char with Moro Blood Orange, Quinoa & Dill
ปลาแซลมอนประเภท Arctic Char เป็นปลาเเซลมอนน้ำจืด พบได้บริเวณทะเลสาบในแถบมหาสมุทรอาร์คติค มีรสชาติอร่อย และเนื้อสัมผัสพิเศษกว่าปลาเเซลมอนทั่วๆไป ทางร้านได้ปลามาจาก Wolf Bio Fisch เมือง Ramsau ประเทศเยอรมันนำไป slow cook กับผิวส้มบลัดออเร้นจ์และบราวน์บัตเตอร์ นอกจากนี้ยังมีปลาแซลมอนเผา ราดด้วยซอสส้มบลัดออเร้นจ์รสหวานอมขม และน้ำมันผักชีลาว ด้านบนทอปด้วยควินัวกรอบ มีส้มบลัดออเร้นจ์โมโร่อบแห้งและมาริเนท สุดท้ายทอปด้านบนด้วยคือควินัวร์ ผักฉ่อย และเฟนเนล กะหล่ำปลีเคี่ยวกับ sauerkraut juice ซึ่งเป็นซอสทำจากกะหล่ำปลีหมัก (16/20)
PIKE–PERCH
Pike–perch with fermented Asparagus & Soya Beans
ส่วนท้องปลาไพค์เพิร์ชนำไปกงฟีกับถั่วเหลืองหมักและถั่วเหลืองแห้ง มีความนุ่มเนียน และมีกลิ่นหอมธรรมชาติของเนื้อปลา เริ่มจากนำปลาไพค์เพิร์ชไปมาริเนทกับน้ำมันพริกเสฉวน มีหน่อไม้ฝรั่งขาวนำไปหมักเป็นระยะเวลาสามอาทิตย์ และบ่มไว้อีกหกเดือนทำให้มีรสเปรี้ยว และมีกลิ่นเฉพาะตัว สุดท้ายด้านบนเป็นหนังปลาทอดกรอบ และยังมีแตงกวาอบกรอบอีกด้วย ราดด้วยน้ำมันพาสลีย์ผสมกับน้ำหมักทำจากหน่อไม้ฝรั่ง ออกรสเปรี้ยวๆมันๆ ตัดรสหวานของเนื้อปลาได้ดี (14/20)
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้