ไม่ค่อยได้เขียน รีวิวอะไรใน pantip นะคะ แต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆ
ว่าด้วยเรื่องขอวีซ่าอังกฤษ...(แชร์ไว้เป็นวิทยาทาน)
คือ การ approve Visa จะเป็นหน้าที่ของสถานฑูตอังกฤษ แต่!! ดันมีหน่วยงานเอกชนชื่อว่า VFS เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ ซึ่งเค้าเคลมว่า เพื่อทำให้การจัดการเป็นไปในรูปแบบ digital แต่เรากลับมองว่า นี่มันหน่วยงานแสวงหาผลประโยชน์ที่โคตรแย่
ขั้นตอนการขอ Visa คนที่เคยๆขอก็จะทราบอยู่แล้วว่า ต้องกรอกแบบฟอร์มของสถานฑูต ยืดยาว มากมายอยู่แล้ว พร้อมจ่ายเงินออนไลน์เพื่อเป็นค่า Visa ให้แก่สถานทูตอังกฤษ ซึ่งเราทำ 6 month visa ต้องจ่ายเงิน 121£ เป็นเงินไทยประมาณ 4,500 บาทอยู่แล้ว ก็คิดว่าจะจบละ ยัง!! ยังไม่จบแค่นั้น!!!! หลังจากจ่ายเงินจำนวนนั้นแล้ว website จะพาเราไปยัง website ของ VFS เราจะต้องลงทะเบียนอีกครั้งโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจากของ Government UK (ที่กรอกไปแล้วทั้งหมด) หลายคนจะงง ว่า เอ๊ะ...นี่ชั้นมาทำอะไรที่นี่วะ จ้าาา เช่นกัน เราก็งง แต่ก็ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ระบบจะให้เราเลือกสถานที่ในการยื่นเอกสาร ซึ่งขอบอกว่า มันไม่มีการอธิบายใดๆเลย มีแค่ชื่อสถานที่ เราก็คิดว่าเลือกที่ไหนก็ได้ที่เราสะดวกงะ ก็บรรจงเลือก สยามพารากอนเลย จากนั้น ระบบจะให้เราเลือกวันและรอบเวลา ซึ่ง!! จี๊ดตรงที่ อ้าว ทำไมมันมีแค่วันพุธวะ และรอบที่เราจะได้ก็ตั้งวันที่ 18 ก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าจะเปลี่ยนสาขาได้ พยายามกดแก้ไข กด back กลับไป ยังไงก็ไม่ได้จ้าาาา เลือกแล้วคือเลือกเลย!!!! อ่ะงงดิ เราเลยจำใจต้องทำไปจนสุดทางโดยที่ระบบเรียกเก็บเงินเราอีก 3,800 จ้าาาา เราก็เฮ้ยยย กูจ่ายไปแล้วทำไมต้องมาจ่ายอีก หยุดการกระทำในทันที แล้วกลับไปหาความช่วยเหลือจากกูเกิ้ลแทน (ปล. หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้น่าจะสงสัยว่า เอ่า แล้วทำไมไม่โทรไปถามไอ้ VFS เลยล่ะ ก็เพราะ VFS นั้นติดต่อไม่ได้ง่ายๆนาจา จะสอบถามต้องเสียตัง แค่อีเมลล์ไปถามยังต้องเสียตังเล้ยยย) จนได้คำตอบว่า อ่อ สาขาพารากอนนั้นเปิดทำการเฉพาะวันพุธ และเป็นแค่รถเคลื่อนที่เท่านั้น เวลาทำการก็จำกัด เราก็ เอ้าาาาา ละทำไม
ไม่แจ้งรายละเอียดก่อน ทั้งที่ระบบคุณ
เลือกแล้วก็แก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เนี่ย เราก็ร้อนรนมากตอนนั้น ทำไงๆๆๆๆๆ กลัววีซ่าออกไม่ทัน เลยตัดสินใจว่าเอาวะ...ไปถามมันที่ office เลยละกัน วันที่ไปถึงก็ได้ความกระจ่างอีกหลายอย่าง (ดีที่ตัดสินใจมาเองเลย) เราควรเลือกแต่ที่สาขา Bangkok เท่านั้น เพราะจะเปิดทำการ จ.-ศ. ซึ่งต้องจองคิว พนง.บอกว่าคิวเร็วสุดเป็นวันที่ 13 และถ้ามาหลัง 4 โมงเย็นจะต้องจ่ายตังเพิ่มเพราะหลังเวลาทำการ และเสาร์ซึ่งนอกเวลาทำการ ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเช่นกันจ้า (3,400 บาท) วันเสาร์เปิดตั้งแต่ 7โมงถึงเที่ยงเท่านั้นนะ เราก็เลยถามไปว่า แล้วถ้าพี่เลือกสาขาเป็นสยามพารากอนแล้วทำไง น้องก็บอกว่า พี่ก็ต้องขอยกเลิกคำขอ แล้วจะได้รับเงิน refund คืนภายใน 28 วันทำการ!! ห๊ะ!!??? What da !!??? คุณเป็นหน่วยงานระดับชาติที่ห่วยแตกมากกกกกกกกกกกที่สุดใน 3 โลก ระบบห่วยสุดๆ ไม่มีคำอธิบายใดๆ เลือกผิดก็กลับไปแก้ไขข้อมูลไม่ได้
สรุป เราจำใจต้องลบข้อมูลที่ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด แล้วเริ่มใหม่ เพียงเพราะว่าเลือกสาขาที่จะไปยื่นเอกสารผิด!!!
อ่ะ...ใจร่มๆ ไม่เป็นไร ทำใหม่ก็ได้ ผ่านมาแล้วหนนึง เราก็กรอกข้อมูลได้คล่องขึ้น วาร์ปไปถึงตอนกรอกเสร็จเลยละกัน ~ เหมือนเดิม ต้องเข้ามา website ของ VFS แล้วก็เลือกสาขา คราวนี้อย่าหวังจะได้แอ้ม เลือก Bangkok อย่างรวดเร็ว จากนั้นพอมาเลือกรอบเวลา ก็ปรึกษากันกับแฟนว่า อืม...ถ้าเราได้คิวแบบปกติวันที่ 13 เราจะได้วีซ่าประมาณวันที่ 28-30 (ช่วงนี้วีซ่าอังกฤษคนทำเยอะเลยช้าเป็นพิเศษ) มันค่อนข้างหมิ่นเหม่อ่ะ กลัวๆ เลยตัดใจ เลือกคิววันเสาร์ที่ 7 ไป เพราะฉะนั้นคุณต้องจ่ายเพิ่มอีก 3,400 จย้าาา (4,500+3,400 = 8,900) อ่ะ เรามาดูกันว่า 3,400 บาทได้อะไรพิเศษจากคนอื่นเค้าบ้าง 1. บริการส่งเอกสารให้ที่บ้าน 2. SMS แจ้งเตือนเมื่อวีซ่าผ่านหรือไม่ผ่าน 3. ถ่ายเอกสาร ฟรี!! 4. ถ่ายรูปให้ฟรี 6 ใบ แม่จ้าวววววววว นี่น่ะหรือที่กรูจ่ายไปตั้ง 3,400 บาท ก็นะ...ซื้อเวลา ต้องยอมจ่าย จองคิวเสร็จก็ผ่านมาถึงอีกขั้นตอนคือ อัพโหลดเอกสาร คือแว่....อย่างที่บอก ยุคนี้เป็นยุค digital ทำอะไรก็ต้องทันสมัย ไร้กระดาษ แต่เอ๊ะ....ทำไมแต่ละหัวข้อมันชวน งงงวย ไม่มีคำอธิบายให้เข้าใจอีกตาม VFS style ก็ต้องอาศัยอากู๋อีกเหมือนเดิม ค้นๆๆๆๆ จนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต้องใส่ตรงไหน ในจุดนี้ ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่อง computer นะ ลืมไปได้เลย เพราะต้องมีการเตรียมไฟล์ที่ค่อนข้างยุ่งยาก ไหนจะต้องแสกนไฟล์ jpg ไม่เกิน 1.5 MB .pdf ไม่เกิน 10 MB ทาง VFS จึงให้ตัวเลือกเพิ่มเติมมาอีกคือ!!!! ค่า scan เอกสาร 460 บาท!!!!!! OMG คนอย่างชั้นไม่มีทางจ่ายเงินมากกว่านี้ให้แกรแล้วว๊อยยยยย ทำเองโลด เตรียมเอกสารต่างๆอย่างครบถ้วน ไฟล์ก็ต้องระวังไม่ให้ขนาดใหญ่เกินกว่าที่เค้ากำหนด เมื่อคืนนั่งแสกน ตั้งแต่ ห้าทุ่มครึ่ง ถึง ตี 1 หลังจากนั้นก็คิดว่าอัพโหลดสบ้ายยย หมูๆ กดอัพโหลดเรียงแต่ละ CATEGORY ไป เสร็จ ตีห้า!!!!!!!!!!!!! คนอ่านอาจอุทานออกมาว่า อีเว่อ!!! อัพโหลดอะไรนานขนาดนั้น อ๋ออออ ก็เพราะว่า Server VFS มันกาก website มันมี Bug เยอะแยะไปหมดไงค้าาาาาา อัพๆไป ขึ้น "Oops,something went wrong" " please try again" 55555 กว่าจะได้ครบ ก็จบที่ตีห้าจ่ะ ยื่นเอกสารรอบ 9.15 คิดว่าดิฉันได้นอนกี่ ชม.
ผ่านปะ....ตัดมาตอนเช้า ออกจากบ้านมาถึง VFS ก็ยื่นเอกสาร Hard copy ด้วยความมั่นใจว่าชั้นพร้อมมากจุดนี้ พนง. ชีบอกว่า คุณต้อง print หน้านัดหมายใหม่นะคะ เพราะว่าคุณมีการอัพโหลดเอกสารด้วยตนเองด้วย มันจะมีลิสของเอกสารทั้งหมดที่คุณอัพโหลดำปขึ้นให้ด้วย ของคุณไม่มี อ้าวววว...เสียตังให้มันจนด้ายยยย ค่าเปิดคอม 40 บาท ค่า print ใบละ 30 จ่ะ จอบอ เสียไปทั้งหมด 160 บาทถ้วน จากนั้นก็ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย รอผลอย่างเดียว
อ่อ...สุดท้าย ที่ตึกนี้ค่าจอดโหดมาก ชม. ละ 50 ถ้าไม่ประทับตรา ถึงตอนนี้โดนไปแน่ๆ 150 ประทับก็ใช่ว่าจะถูก ฟรี ชม. แรก จ่ายไป 60 บาทจ่ะ
สวัสดีวันดีดีวันนี้....
[CR] รีวิวขั้นตอนที่น่าจะยุ่งยากที่สุดของการขอ UK Visa แบบละเอียดยิบ และ อัพเดทสุด
ว่าด้วยเรื่องขอวีซ่าอังกฤษ...(แชร์ไว้เป็นวิทยาทาน)
คือ การ approve Visa จะเป็นหน้าที่ของสถานฑูตอังกฤษ แต่!! ดันมีหน่วยงานเอกชนชื่อว่า VFS เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ ซึ่งเค้าเคลมว่า เพื่อทำให้การจัดการเป็นไปในรูปแบบ digital แต่เรากลับมองว่า นี่มันหน่วยงานแสวงหาผลประโยชน์ที่โคตรแย่
ขั้นตอนการขอ Visa คนที่เคยๆขอก็จะทราบอยู่แล้วว่า ต้องกรอกแบบฟอร์มของสถานฑูต ยืดยาว มากมายอยู่แล้ว พร้อมจ่ายเงินออนไลน์เพื่อเป็นค่า Visa ให้แก่สถานทูตอังกฤษ ซึ่งเราทำ 6 month visa ต้องจ่ายเงิน 121£ เป็นเงินไทยประมาณ 4,500 บาทอยู่แล้ว ก็คิดว่าจะจบละ ยัง!! ยังไม่จบแค่นั้น!!!! หลังจากจ่ายเงินจำนวนนั้นแล้ว website จะพาเราไปยัง website ของ VFS เราจะต้องลงทะเบียนอีกครั้งโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจากของ Government UK (ที่กรอกไปแล้วทั้งหมด) หลายคนจะงง ว่า เอ๊ะ...นี่ชั้นมาทำอะไรที่นี่วะ จ้าาา เช่นกัน เราก็งง แต่ก็ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ระบบจะให้เราเลือกสถานที่ในการยื่นเอกสาร ซึ่งขอบอกว่า มันไม่มีการอธิบายใดๆเลย มีแค่ชื่อสถานที่ เราก็คิดว่าเลือกที่ไหนก็ได้ที่เราสะดวกงะ ก็บรรจงเลือก สยามพารากอนเลย จากนั้น ระบบจะให้เราเลือกวันและรอบเวลา ซึ่ง!! จี๊ดตรงที่ อ้าว ทำไมมันมีแค่วันพุธวะ และรอบที่เราจะได้ก็ตั้งวันที่ 18 ก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าจะเปลี่ยนสาขาได้ พยายามกดแก้ไข กด back กลับไป ยังไงก็ไม่ได้จ้าาาา เลือกแล้วคือเลือกเลย!!!! อ่ะงงดิ เราเลยจำใจต้องทำไปจนสุดทางโดยที่ระบบเรียกเก็บเงินเราอีก 3,800 จ้าาาา เราก็เฮ้ยยย กูจ่ายไปแล้วทำไมต้องมาจ่ายอีก หยุดการกระทำในทันที แล้วกลับไปหาความช่วยเหลือจากกูเกิ้ลแทน (ปล. หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้น่าจะสงสัยว่า เอ่า แล้วทำไมไม่โทรไปถามไอ้ VFS เลยล่ะ ก็เพราะ VFS นั้นติดต่อไม่ได้ง่ายๆนาจา จะสอบถามต้องเสียตัง แค่อีเมลล์ไปถามยังต้องเสียตังเล้ยยย) จนได้คำตอบว่า อ่อ สาขาพารากอนนั้นเปิดทำการเฉพาะวันพุธ และเป็นแค่รถเคลื่อนที่เท่านั้น เวลาทำการก็จำกัด เราก็ เอ้าาาาา ละทำไมไม่แจ้งรายละเอียดก่อน ทั้งที่ระบบคุณเลือกแล้วก็แก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เนี่ย เราก็ร้อนรนมากตอนนั้น ทำไงๆๆๆๆๆ กลัววีซ่าออกไม่ทัน เลยตัดสินใจว่าเอาวะ...ไปถามมันที่ office เลยละกัน วันที่ไปถึงก็ได้ความกระจ่างอีกหลายอย่าง (ดีที่ตัดสินใจมาเองเลย) เราควรเลือกแต่ที่สาขา Bangkok เท่านั้น เพราะจะเปิดทำการ จ.-ศ. ซึ่งต้องจองคิว พนง.บอกว่าคิวเร็วสุดเป็นวันที่ 13 และถ้ามาหลัง 4 โมงเย็นจะต้องจ่ายตังเพิ่มเพราะหลังเวลาทำการ และเสาร์ซึ่งนอกเวลาทำการ ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเช่นกันจ้า (3,400 บาท) วันเสาร์เปิดตั้งแต่ 7โมงถึงเที่ยงเท่านั้นนะ เราก็เลยถามไปว่า แล้วถ้าพี่เลือกสาขาเป็นสยามพารากอนแล้วทำไง น้องก็บอกว่า พี่ก็ต้องขอยกเลิกคำขอ แล้วจะได้รับเงิน refund คืนภายใน 28 วันทำการ!! ห๊ะ!!??? What da !!??? คุณเป็นหน่วยงานระดับชาติที่ห่วยแตกมากกกกกกกกกกกที่สุดใน 3 โลก ระบบห่วยสุดๆ ไม่มีคำอธิบายใดๆ เลือกผิดก็กลับไปแก้ไขข้อมูลไม่ได้
สรุป เราจำใจต้องลบข้อมูลที่ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด แล้วเริ่มใหม่ เพียงเพราะว่าเลือกสาขาที่จะไปยื่นเอกสารผิด!!!
อ่ะ...ใจร่มๆ ไม่เป็นไร ทำใหม่ก็ได้ ผ่านมาแล้วหนนึง เราก็กรอกข้อมูลได้คล่องขึ้น วาร์ปไปถึงตอนกรอกเสร็จเลยละกัน ~ เหมือนเดิม ต้องเข้ามา website ของ VFS แล้วก็เลือกสาขา คราวนี้อย่าหวังจะได้แอ้ม เลือก Bangkok อย่างรวดเร็ว จากนั้นพอมาเลือกรอบเวลา ก็ปรึกษากันกับแฟนว่า อืม...ถ้าเราได้คิวแบบปกติวันที่ 13 เราจะได้วีซ่าประมาณวันที่ 28-30 (ช่วงนี้วีซ่าอังกฤษคนทำเยอะเลยช้าเป็นพิเศษ) มันค่อนข้างหมิ่นเหม่อ่ะ กลัวๆ เลยตัดใจ เลือกคิววันเสาร์ที่ 7 ไป เพราะฉะนั้นคุณต้องจ่ายเพิ่มอีก 3,400 จย้าาา (4,500+3,400 = 8,900) อ่ะ เรามาดูกันว่า 3,400 บาทได้อะไรพิเศษจากคนอื่นเค้าบ้าง 1. บริการส่งเอกสารให้ที่บ้าน 2. SMS แจ้งเตือนเมื่อวีซ่าผ่านหรือไม่ผ่าน 3. ถ่ายเอกสาร ฟรี!! 4. ถ่ายรูปให้ฟรี 6 ใบ แม่จ้าวววววววว นี่น่ะหรือที่กรูจ่ายไปตั้ง 3,400 บาท ก็นะ...ซื้อเวลา ต้องยอมจ่าย จองคิวเสร็จก็ผ่านมาถึงอีกขั้นตอนคือ อัพโหลดเอกสาร คือแว่....อย่างที่บอก ยุคนี้เป็นยุค digital ทำอะไรก็ต้องทันสมัย ไร้กระดาษ แต่เอ๊ะ....ทำไมแต่ละหัวข้อมันชวน งงงวย ไม่มีคำอธิบายให้เข้าใจอีกตาม VFS style ก็ต้องอาศัยอากู๋อีกเหมือนเดิม ค้นๆๆๆๆ จนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต้องใส่ตรงไหน ในจุดนี้ ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่อง computer นะ ลืมไปได้เลย เพราะต้องมีการเตรียมไฟล์ที่ค่อนข้างยุ่งยาก ไหนจะต้องแสกนไฟล์ jpg ไม่เกิน 1.5 MB .pdf ไม่เกิน 10 MB ทาง VFS จึงให้ตัวเลือกเพิ่มเติมมาอีกคือ!!!! ค่า scan เอกสาร 460 บาท!!!!!! OMG คนอย่างชั้นไม่มีทางจ่ายเงินมากกว่านี้ให้แกรแล้วว๊อยยยยย ทำเองโลด เตรียมเอกสารต่างๆอย่างครบถ้วน ไฟล์ก็ต้องระวังไม่ให้ขนาดใหญ่เกินกว่าที่เค้ากำหนด เมื่อคืนนั่งแสกน ตั้งแต่ ห้าทุ่มครึ่ง ถึง ตี 1 หลังจากนั้นก็คิดว่าอัพโหลดสบ้ายยย หมูๆ กดอัพโหลดเรียงแต่ละ CATEGORY ไป เสร็จ ตีห้า!!!!!!!!!!!!! คนอ่านอาจอุทานออกมาว่า อีเว่อ!!! อัพโหลดอะไรนานขนาดนั้น อ๋ออออ ก็เพราะว่า Server VFS มันกาก website มันมี Bug เยอะแยะไปหมดไงค้าาาาาา อัพๆไป ขึ้น "Oops,something went wrong" " please try again" 55555 กว่าจะได้ครบ ก็จบที่ตีห้าจ่ะ ยื่นเอกสารรอบ 9.15 คิดว่าดิฉันได้นอนกี่ ชม.
ผ่านปะ....ตัดมาตอนเช้า ออกจากบ้านมาถึง VFS ก็ยื่นเอกสาร Hard copy ด้วยความมั่นใจว่าชั้นพร้อมมากจุดนี้ พนง. ชีบอกว่า คุณต้อง print หน้านัดหมายใหม่นะคะ เพราะว่าคุณมีการอัพโหลดเอกสารด้วยตนเองด้วย มันจะมีลิสของเอกสารทั้งหมดที่คุณอัพโหลดำปขึ้นให้ด้วย ของคุณไม่มี อ้าวววว...เสียตังให้มันจนด้ายยยย ค่าเปิดคอม 40 บาท ค่า print ใบละ 30 จ่ะ จอบอ เสียไปทั้งหมด 160 บาทถ้วน จากนั้นก็ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย รอผลอย่างเดียว
อ่อ...สุดท้าย ที่ตึกนี้ค่าจอดโหดมาก ชม. ละ 50 ถ้าไม่ประทับตรา ถึงตอนนี้โดนไปแน่ๆ 150 ประทับก็ใช่ว่าจะถูก ฟรี ชม. แรก จ่ายไป 60 บาทจ่ะ
สวัสดีวันดีดีวันนี้....
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น