สวัสดีทุกคนค่าาา ไม่ได้เขียนกระทู้นานมาก เพราะไม่ได้เที่ยว 2 ปี
พอเริ่มเปิดประเทศ ก็เลยต้องหาที่ไปไหนสักที่ละ ไม่ไหววว สุดท้ายก็เลือกจะไปอังกฤษ ช่วงกลางเดือน พ.ค.
เราเลือกวันเข้าไปสแกน Bio และถ่ายรูป ในวันที่ 4มีนาคม นับแล้วว่าก่อนบิน 2 เดือนนิดๆ น่าจะทัน เพราะช่วงต้นปีนี้ เห็นคนบอกว่าใช้เวลาพิจารณาเกือบ 2 เดือนเลย
มาเริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มจาก
1.
กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่า ที่ :
https://visas-immigration.service.gov.uk/product/uk-visit-visa
ขอข้ามวิธีการกรอกแบบฟอร์มนะคะ
- ลงทะเบียนเว็บไซต์ก่อนกรอกข้อมูล (User และ Password ของเว็บนี้ จะคนละอันกับ VFS นะคะ)
กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ แต่ละหน้าค่ะ หลายๆคนบอกว่าเอกสารเยอะ ก็เยอะจริงๆค่ะ กรอกหลายหน้ามากๆ แต่ไม่ยากค่ะ ถ้าทำไม่เสร็จในวันเดียว สามารถกดบันทึกแล้วเข้าไปแก้ไขได้เรื่อยๆ จนกว่าจะกดคอนเฟิร์มค่ะ ตอนก่อนกรอกข้อมูลจะมีให้เลือกภาษาด้วย มันจะโชว์คำถามเป็น
ภาษาไทยขึ้นมา พอเข้าใจได้
- กรอกข้อมูลไปจนถึงหน้าคอนเฟิร์ม เมื่อกดคอนเฟิร์มแล้ว หน้าเว็บจะลิงค์ไปที่การนัดหมายกับ VFS center ค่ะ
เราจะเลือกวัน และเวลาได้ ตามตารางที่ว่างค่ะ เราเลือกวันที่ 4 มีนาคม หลังจากวันที่กรอกแบบฟอร์มราวๆ 2 อาทิตย์
- เราไม่เลือก option ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งพาสปอร์ตคืน, Fast Track หรือสแกนเอกสาร (อัพโหลดเองค่ะ)
- พอเลือกวันที่จะไปสแกน Bio เสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไป จะเป็น Self Upload ค่ะ ในส่วนนี้ มาอัพโหลดทีหลังได้ เพราะต้องไปเตรียมเอกสารก่อน
2.
เตรียมเอกสาร (ทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษ)
สิ่งที่เราเตรียมมีดังนี้
1. ใบเสร็จที่ชำระค่าวีซ่า
2. Check list ปริ๊นท์ออกมาด้วยค่ะ จะมีให้ดาวน์โหลดหลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว
3. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกในเว็บเสร็จแล้ว ดาวน์โหลดเป็น PDF file แล้วปริ๊นท์ออกมาทั้งหมดเลยค่ะ มันจะหนาๆเยอะๆหน่อย
4. สำเนาหน้าพาสสปอร์ตเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า (ถ้ามี ถ่ายหน้าที่มีการประทับตราการเดินทางทั้งหมด)
5. หลักฐานการทำงาน (ใบรับรองการทำงาน และใบที่ขอลาพักร้อนพร้อมแจ้งว่าเพื่อไปเที่ยวอังกฤษ ระบุวันลา)
6. หลักฐานการเงิน (สเตทเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน, ใบรับรองจากธนาคารที่แสดงยอดเงินทั้งหมด เป็นเงินปอนด์, สลีปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน)
เรา ใช้บัญชีเงินเดือน มีเงินเข้าออกบ่อยมาก แต่ไม่มีเงินนอนบัญชี เราโอนเงินเข้าไปในบัญชี 12x,xxx
เป็นเงินที่ลงทุนไว้ในคริปโต ขายเหรียญแล้วถอนออกมา จาก Bitkub แล้วเราก็ปริ๊นอีเมลที่ยืนยันการโอนเงินจากบิทคับมาบัญชีเรา
เพื่อโชว์ทางสถานทูตว่าเงินมาจากไหน เขียนบอกไปในจดหมายแนะนำตัว
7. สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ต้องแปล)
8. สำเนาทะเบียนบ้าน (เราแปลไปเอง และแนบฉบับภาษาไทยไปด้วย)
9. เอกสารเรียนจบ (จริงๆไม่ต้องก็ได้มั้ง แต่พอดีเห็นในหัวข้อที่ให้อัพโหลดเอกสาร มีหัวข้อการศึกษาเลยเอามาด้วย)
10. จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร ทำอะไร จะไปเมื่อไหร่ ที่ไหน กับใคร เงินมาจากไหน จะกลับไทยนะ อะไรแบบนี้
11. สำเนาพาสปอร์ตแฟน เราไปเที่ยวกับแฟน (เป็นคนต่างชาติ) ให้แฟนเซ็นต์บนเอกสารว่า “ยืนยันว่าจะไปอังกฤษกับเรา”
12. แพลนเที่ยว เขียนว่าแต่ละวันจะไปไหนบ้าง มีวิธีเดินทางคร่าวๆ จากสถานีไหน ไปไหน
13. ใบจองห้องพัก จองผ่านบุ้คกิ้งแบบยกเลิกได้ จองใส่ชื่อผู้เข้าพักไปสองคน
*เราไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน และไม่ได้ซื้อประกันเดินทางยื่นไป เขียนในจดหมายแนะนำตัวว่าจะซื้อหลังจากได้รับวีซ่าแล้ว* ไม่ต้องเตรียมรูปถ่าย
เอกสารที่ทำสำเนาทุกใบต้องเซ็นต์ชื่อ และ certified true copy และเอกสารทั้งหมดนี้ ให้นำไปวันที่เข้าไปสแกนลายนิ้วมือด้วย
3.
อัพโหลดเอกสาร ที่เว็บไซต์ของ VFS
การกลับเข้าไปอัพโหลดเอกสารภายหลัง จะเป็นในส่วนของ VFS แล้วค่ะ แปลว่าต้องลงทะเบียนใหม่ และเมื่อจะอัพโหลดข้อมูล PDF ไฟล์
เข้าไป เวลาเข้าระบบ จะให้ใส่ Reference Number ( GWFxxx อยู่ในแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า) และ password ที่ลงทะเบียนไว้ค่ะ
เอกสารข้อ 1-3 ด้านบน ไม่ต้องอัพโหลดนะคะ
- เมื่อเข้ามาในเว็บไซต์ เราจะเจอกับหน้านี้ค่ะ ให้เลือก Self upload
เมื่อกดเข้าไปแล้วก็เลือก Upload Files
อัพโหลดไฟล์ได้ครั้งละ 5MB แนะนำให้สแกนแยกทีละส่วนค่ะ
ตัวอย่างที่เราอัพลงไป
เมื่ออัพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบว่าครบแล้ว (จำไม่ได้ว่ามีกดคอนเฟิร์มอะไรอีกไหม) ก็รอวันไปที่ VFS ค่ะ
4.
ไปสแกน Biometric ที่ศูนย์ VFS สุขุมวิท 13
นัด 10:30 ให้ไปก่อนเวลา 15 นาทีค่ะ
ไปถึงถ้าใกล้เวลานัด ก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 28 ได้เลย
ขั้นตอนต่างๆก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกค่ะ
ก่อนเข้าไป ผ่านช่องสแกน วางกระเป๋าโทรศัพท์ (ไม่ได้ปิดเครื่อง เห็นมีคนใช้มือถือค่ะ เราก็ใช้ แต่ไม่ให้ถ่ายรูป)
นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกคนที่มารอบ 10:30 เรียกไปที่หน้าเคาท์เตอร์ ให้เซ็นชื่อที่เอกสาร Check list ค่ะ เสร็จแล้วได้บัตรคิวมา ให้เดินเข้าไป
ในห้อง นั่งรอเรียกคิวอีก จะเป็นเคาท์เตอร์หลายสิบช่อง พอถึงคิว ก็เข้าไปยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ค่ะ เขาจะเอาแค่แบบฟอร์มของเราไป
ถามชื่อ นามสกุล ถามว่ามีเอกสารจะอัพเพิ่มเติมไหม แล้วถามว่าสมัครบริการด่วนไหม สมัครจัดส่งพาสฟอร์ตไหม สมัครรับ SMS ไหม
เราไม่สมัคร อะไรเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
เสร็จตรงนี้แล้ว รอคิวเรียกเข้าไปสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปค่ะ ใครอยากได้วีรูปสวยๆก็แต่งหน้าไปค่ะ
ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงก็เสร็จ จะได้ใบเสร็จกลับมา เก็บไว้ดีๆ เพราะให้นำมาด้วยตอนรับพาสปอร์ต
สแกนลายนิ้วมือวันที่ 4 มีนาคม ได้รับอีเมลวันที่ 23 มีนาคม
สรุประยะเวลานับแล้ว 19 วัน รวมเสาร์อาทิตย์
จะบอกเรื่องอีเมลนิดนึงค่ะ เมลที่เราได้รับวันที่ 23 มีนาคม คือเมลด้านบนนี้
ซึ่งอ่านแล้วจะงงๆ คือมันแจ้งว่าเล่มพาสกลับมาที่ศูนย์ vfs แล้ว ถ้าซื้อบริการจัดส่งพาส ก็จะส่งมาที่ที่อยู่ที่แจ้งไว้ แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องเข้าไป
เขาจะติดต่อกลับมาให้เข้าไปรับวีซ่า
เรารอจน 2 วันผ่านไป ก็ยังไม่มีเมลส่งมาอีก บางคนก็ได้รับเมลอีกฉบับที่จะบอกว่าให้เข้าไปรับได้อีก 2 วัน เราก็ลังเลว่า มันบอกว่ามาถึงแล้ว
ก็น่าจะไปรับได้เลยสิ พอดีไปเห็นกระทู้นึง เขาบอกถ้าได้เมลนี้มาแล้วก็คือพาสกลับมาแล้ว เข้าไปรับได้เลยแหละ เราก็เลยเข้าไปรับพาส
ในวันที่ 25 เลย
สรุปคือถ้าได้เมลนี้ ก็คือเข้าไปรับได้เลยค่ะ
จบรีวิวแล้ว ขาดตกบกพร่องตกไหน ขออภัยด้วยนะคะ
[CR] รีวิวขอวีซ่าอังกฤษ 03/2022 ใช้เวลา xx วัน ใส่เงินโชว์บัญชีทีเดียวก้อนนึงเลย
พอเริ่มเปิดประเทศ ก็เลยต้องหาที่ไปไหนสักที่ละ ไม่ไหววว สุดท้ายก็เลือกจะไปอังกฤษ ช่วงกลางเดือน พ.ค.
เราเลือกวันเข้าไปสแกน Bio และถ่ายรูป ในวันที่ 4มีนาคม นับแล้วว่าก่อนบิน 2 เดือนนิดๆ น่าจะทัน เพราะช่วงต้นปีนี้ เห็นคนบอกว่าใช้เวลาพิจารณาเกือบ 2 เดือนเลย
มาเริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มจาก
1. กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่า ที่ : https://visas-immigration.service.gov.uk/product/uk-visit-visa
ขอข้ามวิธีการกรอกแบบฟอร์มนะคะ
- ลงทะเบียนเว็บไซต์ก่อนกรอกข้อมูล (User และ Password ของเว็บนี้ จะคนละอันกับ VFS นะคะ)
กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ แต่ละหน้าค่ะ หลายๆคนบอกว่าเอกสารเยอะ ก็เยอะจริงๆค่ะ กรอกหลายหน้ามากๆ แต่ไม่ยากค่ะ ถ้าทำไม่เสร็จในวันเดียว สามารถกดบันทึกแล้วเข้าไปแก้ไขได้เรื่อยๆ จนกว่าจะกดคอนเฟิร์มค่ะ ตอนก่อนกรอกข้อมูลจะมีให้เลือกภาษาด้วย มันจะโชว์คำถามเป็น
ภาษาไทยขึ้นมา พอเข้าใจได้
- กรอกข้อมูลไปจนถึงหน้าคอนเฟิร์ม เมื่อกดคอนเฟิร์มแล้ว หน้าเว็บจะลิงค์ไปที่การนัดหมายกับ VFS center ค่ะ
เราจะเลือกวัน และเวลาได้ ตามตารางที่ว่างค่ะ เราเลือกวันที่ 4 มีนาคม หลังจากวันที่กรอกแบบฟอร์มราวๆ 2 อาทิตย์
- เราไม่เลือก option ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งพาสปอร์ตคืน, Fast Track หรือสแกนเอกสาร (อัพโหลดเองค่ะ)
- พอเลือกวันที่จะไปสแกน Bio เสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไป จะเป็น Self Upload ค่ะ ในส่วนนี้ มาอัพโหลดทีหลังได้ เพราะต้องไปเตรียมเอกสารก่อน
2. เตรียมเอกสาร (ทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษ)
สิ่งที่เราเตรียมมีดังนี้
1. ใบเสร็จที่ชำระค่าวีซ่า
2. Check list ปริ๊นท์ออกมาด้วยค่ะ จะมีให้ดาวน์โหลดหลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว
3. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกในเว็บเสร็จแล้ว ดาวน์โหลดเป็น PDF file แล้วปริ๊นท์ออกมาทั้งหมดเลยค่ะ มันจะหนาๆเยอะๆหน่อย
4. สำเนาหน้าพาสสปอร์ตเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า (ถ้ามี ถ่ายหน้าที่มีการประทับตราการเดินทางทั้งหมด)
5. หลักฐานการทำงาน (ใบรับรองการทำงาน และใบที่ขอลาพักร้อนพร้อมแจ้งว่าเพื่อไปเที่ยวอังกฤษ ระบุวันลา)
6. หลักฐานการเงิน (สเตทเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน, ใบรับรองจากธนาคารที่แสดงยอดเงินทั้งหมด เป็นเงินปอนด์, สลีปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน)
เรา ใช้บัญชีเงินเดือน มีเงินเข้าออกบ่อยมาก แต่ไม่มีเงินนอนบัญชี เราโอนเงินเข้าไปในบัญชี 12x,xxx
เป็นเงินที่ลงทุนไว้ในคริปโต ขายเหรียญแล้วถอนออกมา จาก Bitkub แล้วเราก็ปริ๊นอีเมลที่ยืนยันการโอนเงินจากบิทคับมาบัญชีเรา
เพื่อโชว์ทางสถานทูตว่าเงินมาจากไหน เขียนบอกไปในจดหมายแนะนำตัว
7. สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ต้องแปล)
8. สำเนาทะเบียนบ้าน (เราแปลไปเอง และแนบฉบับภาษาไทยไปด้วย)
9. เอกสารเรียนจบ (จริงๆไม่ต้องก็ได้มั้ง แต่พอดีเห็นในหัวข้อที่ให้อัพโหลดเอกสาร มีหัวข้อการศึกษาเลยเอามาด้วย)
10. จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร ทำอะไร จะไปเมื่อไหร่ ที่ไหน กับใคร เงินมาจากไหน จะกลับไทยนะ อะไรแบบนี้
11. สำเนาพาสปอร์ตแฟน เราไปเที่ยวกับแฟน (เป็นคนต่างชาติ) ให้แฟนเซ็นต์บนเอกสารว่า “ยืนยันว่าจะไปอังกฤษกับเรา”
12. แพลนเที่ยว เขียนว่าแต่ละวันจะไปไหนบ้าง มีวิธีเดินทางคร่าวๆ จากสถานีไหน ไปไหน
13. ใบจองห้องพัก จองผ่านบุ้คกิ้งแบบยกเลิกได้ จองใส่ชื่อผู้เข้าพักไปสองคน
*เราไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน และไม่ได้ซื้อประกันเดินทางยื่นไป เขียนในจดหมายแนะนำตัวว่าจะซื้อหลังจากได้รับวีซ่าแล้ว* ไม่ต้องเตรียมรูปถ่าย
เอกสารที่ทำสำเนาทุกใบต้องเซ็นต์ชื่อ และ certified true copy และเอกสารทั้งหมดนี้ ให้นำไปวันที่เข้าไปสแกนลายนิ้วมือด้วย
3. อัพโหลดเอกสาร ที่เว็บไซต์ของ VFS
การกลับเข้าไปอัพโหลดเอกสารภายหลัง จะเป็นในส่วนของ VFS แล้วค่ะ แปลว่าต้องลงทะเบียนใหม่ และเมื่อจะอัพโหลดข้อมูล PDF ไฟล์
เข้าไป เวลาเข้าระบบ จะให้ใส่ Reference Number ( GWFxxx อยู่ในแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า) และ password ที่ลงทะเบียนไว้ค่ะ
เอกสารข้อ 1-3 ด้านบน ไม่ต้องอัพโหลดนะคะ
- เมื่อเข้ามาในเว็บไซต์ เราจะเจอกับหน้านี้ค่ะ ให้เลือก Self upload
เมื่อกดเข้าไปแล้วก็เลือก Upload Files
อัพโหลดไฟล์ได้ครั้งละ 5MB แนะนำให้สแกนแยกทีละส่วนค่ะ
ตัวอย่างที่เราอัพลงไป
เมื่ออัพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบว่าครบแล้ว (จำไม่ได้ว่ามีกดคอนเฟิร์มอะไรอีกไหม) ก็รอวันไปที่ VFS ค่ะ
4. ไปสแกน Biometric ที่ศูนย์ VFS สุขุมวิท 13
นัด 10:30 ให้ไปก่อนเวลา 15 นาทีค่ะ
ไปถึงถ้าใกล้เวลานัด ก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 28 ได้เลย
ขั้นตอนต่างๆก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกค่ะ
ก่อนเข้าไป ผ่านช่องสแกน วางกระเป๋าโทรศัพท์ (ไม่ได้ปิดเครื่อง เห็นมีคนใช้มือถือค่ะ เราก็ใช้ แต่ไม่ให้ถ่ายรูป)
นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกคนที่มารอบ 10:30 เรียกไปที่หน้าเคาท์เตอร์ ให้เซ็นชื่อที่เอกสาร Check list ค่ะ เสร็จแล้วได้บัตรคิวมา ให้เดินเข้าไป
ในห้อง นั่งรอเรียกคิวอีก จะเป็นเคาท์เตอร์หลายสิบช่อง พอถึงคิว ก็เข้าไปยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ค่ะ เขาจะเอาแค่แบบฟอร์มของเราไป
ถามชื่อ นามสกุล ถามว่ามีเอกสารจะอัพเพิ่มเติมไหม แล้วถามว่าสมัครบริการด่วนไหม สมัครจัดส่งพาสฟอร์ตไหม สมัครรับ SMS ไหม
เราไม่สมัคร อะไรเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
เสร็จตรงนี้แล้ว รอคิวเรียกเข้าไปสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปค่ะ ใครอยากได้วีรูปสวยๆก็แต่งหน้าไปค่ะ
ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงก็เสร็จ จะได้ใบเสร็จกลับมา เก็บไว้ดีๆ เพราะให้นำมาด้วยตอนรับพาสปอร์ต
สแกนลายนิ้วมือวันที่ 4 มีนาคม ได้รับอีเมลวันที่ 23 มีนาคม สรุประยะเวลานับแล้ว 19 วัน รวมเสาร์อาทิตย์
จะบอกเรื่องอีเมลนิดนึงค่ะ เมลที่เราได้รับวันที่ 23 มีนาคม คือเมลด้านบนนี้
ซึ่งอ่านแล้วจะงงๆ คือมันแจ้งว่าเล่มพาสกลับมาที่ศูนย์ vfs แล้ว ถ้าซื้อบริการจัดส่งพาส ก็จะส่งมาที่ที่อยู่ที่แจ้งไว้ แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องเข้าไป
เขาจะติดต่อกลับมาให้เข้าไปรับวีซ่า
เรารอจน 2 วันผ่านไป ก็ยังไม่มีเมลส่งมาอีก บางคนก็ได้รับเมลอีกฉบับที่จะบอกว่าให้เข้าไปรับได้อีก 2 วัน เราก็ลังเลว่า มันบอกว่ามาถึงแล้ว
ก็น่าจะไปรับได้เลยสิ พอดีไปเห็นกระทู้นึง เขาบอกถ้าได้เมลนี้มาแล้วก็คือพาสกลับมาแล้ว เข้าไปรับได้เลยแหละ เราก็เลยเข้าไปรับพาส
ในวันที่ 25 เลย สรุปคือถ้าได้เมลนี้ ก็คือเข้าไปรับได้เลยค่ะ
จบรีวิวแล้ว ขาดตกบกพร่องตกไหน ขออภัยด้วยนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้