ขออนุญาตเขียนบอกเป็นข้อ ๆ
เพื่อให้ทุกท่านอ่านเข้าใจได้ง่าย

ประการแรก: คน(จะ)ซื้อ อ้างว่าตัวเองเป็น"นายหน้า" แต่พอซัก 2-3 วันถัดมา กลับมาบอกว่า "ผมกำลังหาคนที่ให้ผมกู้เงินอยู่ เพื่อมาซื้อที่ดินของคุณ เพราะเพิ่งขาดทุนจากมังคุด 10 ล้าน"

ไอ่เราก็งง...นายหน้า มันมีหน้าที่ติดต่อหาคนซื้ออย่างเดียวไม่ใช่หรอกหรือ!? หรือ ที่อ้างว่าตัวเองเป็นนายหน้าก็เพราะต้องการ%

จริง ๆ แล้วตัวเองคือ คนที่จะซื้อเองนั่นแหละ
แต่อ้างคนอื่นซื้อ และแสร้งว่าตนเป็นนายหน้า

1.ผู้ซื้อเคยนัดโอน ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหา ทางผู้จัดการมรดก ก็เลยเดินทางจากกรุงเทพ
เพื่อมาตามนัดที่ชุมพรตามที่ได้พูดตกลงกันไว้ก่อนถึงวันนัดโอน 1 วัน

2.เมื่อถึงวันที่นัดตกลงกันไว้ ผู้ซื้อกลับ ขอเลื่อน มาวันที่ 4 กันยา ซึ่งคือวันนี้ (ในวันที่ 5 สิงหา เราได้ร่างหนังสือสัญญาเอาไว้ ว่าถ้าหากเดือนกันยา คุณไม่มาตามนัด คุณจะต้องโดนปรับจำนวนเงิน 200,000 เป็นค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน คือ คุณออกเอง เราไม่ออกให้ และ ผู้ซื้อ ก็เซ็นสัญญา และ ก็มีพยานอีก 1 คน)

3.เมื่อถึงวันนี้ ครั้งที่สอง ตามที่ผู้ซื้อได้นัดโอนปรากฏว่า เค้าหายหน้าไปเลย เราตามไปเฝ้ารอที่บ้านเช้ายัน 6 โมงเย็น โทรไปตลอด ก็ติดต่อไม่ได้ ทางบ้านผู้ซื้อ ก็อ้างว่า "ไม่รู้เค้าไปไหน ไม่เห็น"
_____

วันนี้ตอนเย็นเราเลยไปลงบันทึกประจำวันเพื่อยืนยันว่าฝ่ายเราไม่ได้ผิดนัด เป็นแค่การป้องกันฝ่ายนู้นแจ้งความกลับเรื่องนี้ เพื่ออาจที่จะหวังเรียกเงิน
อะไรใดใดก็ตามแต่

หลัก ๆ เลย คือ คนฝ่ายเราเสียเวลาทำมาหากินที่กรุงเทพ ตกหลักหมื่น เลยอยากจะสั่งสอนคนแบบนี้บ้างจะได้ไม่เอานิสัยแบบนี้ไปทำกับใครอื่นอีก ถ้าบอกไม่เอาแต่ทีแรก ก็จบ ยังจะให้หอบสังขารมา
รอบสองอีก โดยไม่ได้อะไร มีแต่เสียกับเสีย
^
(ที่ดิน 4 ล้าน พี่น้องแบ่งกัน)

ปล.น่าแปลกใจที่สน.A ใกล้ ๆ ไม่รับเรื่อง กลับไล่ให้ไปสน.B ที่ไกลแสนไกลแทน (__?__)