[CR] การเตรียมตัวสอบ TOEIC ให้ได้คะแนน 800+++

กระทู้รีวิว



สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การสอบโทอิค พร้อมแนวทางการเตรียมตัวสำหรับการสอบโทอิคให้ได้คะแนนดี ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมเคยสอบโทอิคมาแล้ว แต่เนื่องจากคะแนนเก่าหมดอายุไป ครั้งนี้เลยต้องสอบอีกรอบครับ สำหรับข้อสอบโทอิคนั้นแบ่งออกเป็น 7 พาร์ทจำนวนรวม 200 ข้อ ซึ่งแบ่งเป็นพาร์ทการฟังจำนวน 100 ข้อ และพาร์ทการอ่านอีกจำนวน 100 ข้อ มีเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 120 นาที รอบเช้าจัดสอบเวลา 09.00 น. รอบบ่ายจัดสอบเวลา 13.00 น. บางวันอาจมีจัดสอบรอบเย็นด้วยครับ ส่วนค่าสมัครสอบโทอิคราคา 1500 บาท

*** โดยส่วนตัวชอบสอบช่วงบ่ายมากกว่าเพราะจะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก 
*** แนะนำให้เอาเสื้อกันหนาวไปด้วยเพราะในห้องสอบหนาวมากครับ
*** ก่อนสอบแนะนำเข้าห้องน้ำและทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

พาร์ท Listening จำนวน 100 ข้อ 

พาร์ท 1 พาร์ทรูปภาพจำนวน 10 ข้อ ข้อสอบจะมีรูปภาพมาให้ แล้วให้เราฟังคำบรรยายที่สอดคล้องกับรูปภาพ ซึ่งคำบรรยายมักจะอยู่ในรูปของพาร์ท continuous ภาพที่ผมเจอมา เช่น ภาพคนมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ ภาพคนเลือกสินค้า ภาพคนปั่นจักรยานสวนกับรถยนต์ ภาพห้องประชุมที่มีผ้าม่านเปิดอยู่ ภาพคนถือกล่อง เป็นต้น

*** สิ่งที่ควรเตรียมตัวสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ

1. ต้องเตรียมคำศัพท์ที่มักออกบ่อยในพาร์ทนี้ เช่นคำว่า typing a keyboard, examining a merchandise, fountain, fix, repair, vehicle, attach, look at the screen, across the street, across the bridge, riding a bicycle, curtain, ladder, around the table, setting, preparing the food, department store, book shelve, display เป็นต้น

2. ต้องฝึกฟังบ่อยๆเพื่อที่จะได้คุ้นเคยกับสำเนียง และได้รู้ว่าคำศัพท์แต่ละคำออกเสียงยังไง โดยอาจจะหาข้อสอบของ oxford หรือ ets จากยูทูปมาฟังก็ได้ครับ โดยเซริ์ชคำว่า “full listening toeic test ets” เป็นต้น 

พาร์ท 2 คือ พาร์ทถาม-ตอบจำนวน 30 ข้อ ข้อสอบพาร์ทนี้เขาจะให้เราฟังคำถามก่อน จากนั้นก็ฟังคำตอบที่สอดคล้องกับคำถาม ซึ่งพาร์ทนี้ถือว่าไม่ยากมากครับ โดยคำตอบจะมีสามตัวเลือก ที่ผมเจอมาในข้อสอบก็อย่างเช่น where can I put this paper คำตอบก็จะเป็น on the table behind the printer เป็นต้น 

*** สิ่งที่ควรเตรียมตัวสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ

1. คำถามส่วนใหญ่มักจะขึ้นต้นด้วย where, what, when, who, whose, why, how, how come, do you mind........., do you prefer..........., do you need..... เป็นต้น ดังนั้นต้องทบทวนคำถาม และคำตอบลักษณะนี้ให้ดีก่อนไปสอบครับ

2. พาร์ทนี้ก็ต้องฝึกฟังบ่อยๆ ฝึกจากในยูทูปก็ได้ครับ โดยฟังรอบแรกอาจฟังแบบไม่มีสคริป และฟังรอบสองแบบมีสคริป เพื่อให้คุ้นเคยกับสำเนียงและคำศัพท์ ซึ่งคำศัพท์ที่เจอในข้อสอบ เช่น vacation, meeting, printer, table, desk, computer, paper, borrow, near, around, client, prefer เป็นต้น ถ้าใครไม่แม่นคำศัพท์พวกนี้ก็ควรเตรียมตัวไปด้วยนะครับ 

3. บางทีโจทย์ก็อาจจะไม่ใช่คำถามเสมอไป และตัวเลือกมักจะหรอกเรา โดยใช้คำที่อออกเสียงคล้ายกับในโจทย์ ดังนั้น ต้องมีสมาธิในการฟังดีๆครับ

4. ต้องฟัง Tense ที่โจทย์พูดด้วยเพราะโจทย์ใช้ Tense ไหนคำตอบก็มักใช้ Tense นั้นด้วย ตัวอย่างเช่น คำถามเป็น will your mother arrive tomorrow คำตอบก็จะเป็น no, she won’t เป็นต้น

พาร์ท 3-4 ทั้งสองพาร์ทนี้จะมีบทสนทนาระหว่างคนสองคน และคำประกาศต่างๆ รวมกันทั้งสองพาร์ทจำนวน 60 ข้อ โดยแต่ละบทสนาจะมีคำถาม 3 ข้อ บทสนทนาที่เจอมาในข้อสอบ เช่น บทสนทนาเกี่ยวกับการ reschedule meeting, บทสนทนาเกี่ยวกับการจะชัทดาวน์ระบบ เพื่อซ่อมคอมพิวเตอร์ของบริษัท, คำประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเข้าชมมิวเซียม, คำประกาศที่สนามบินเกี่ยวกับไฟท์ดีเลย์ เป็นต้น

*** การเตรียมตัวสำหรับสองพาร์ทนี้คือ

1. ต้องเตรียมคำศัพท์เกี่ยวการนัดหมายการประชุม การสั่งสินค้า คำศัพท์เกี่ยวกับการเงิน การธนาคาร คำศัพท์เกี่ยวกับการรายงานสภาพอากาศ การรายงานการจราจร คำประกาศสนามบิน คำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ หรือมิวเซียม เป็นต้น

2. ในขณะเทปอ่านคำแนะนำการทำข้อสอบ ให้เราข้ามมาอ่านโจทย์และตัวเลือกรอเลยครับ จากนั้นค่อยมารอฟังบทสนทนา พอฟังจบแต่ละบทสนทนาให้รีบฝนข้อสอบทันที แล้วข้ามไปอ่านโจทย์และตัวเลือกบทสนทนาถัดไปรอเลยครับ ทำแบบนี้ไปจนครบข้อที่ 100 ครับ

3. พาร์ทนี้แนะนำว่าต้องฝึกฟังบ่อยๆ เพราะเป็นการฟังแบบจับใจความสำคัญและข้อสอบพูดค่อนข้างเร็วทีเดียว ลองหาตัวอย่างขอสอบจากยูทูปมาฝึกฟังบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับสำเนียงและฝึกจับใจความสำคัญด้วย ฟังครั้งแรกอาจฟังแบบไม่มีสคริป พอฟังครั้งที่สองค่อยเปิดดูสคริปไปด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละคำเขาออกเสียงยังไงบ้าง แหล่งฝึกเพิ่มเติมที่แนะนำก็อย่างเช่น ฝึกจากคลิปข่าวสั้นของ CNN, ฝึกฟังวิทยุภาษาอังกฤษ เป็นต้น 


พาร์ท Reading จำนวน 100 ข้อ 

พาร์ท 5-6 สองพาร์ทนี้จะวัดทั้งแกรมม่าและคำศัพท์จำนวนทั้งสิ้น 52 ข้อ

*** การเตรียมตัวของสำหรับสองพาร์ทนี้คือ

1. เตรียมตัวทำความเข้าใจแกรมม่าและฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ เพราะพาร์ทจะช่วยให้เราอั๊พคะแนนได้เร็วสุด เมื่อเทียบกับพาร์ทอื่น แกรมม่าที่มักออกข้อสอบในพาร์ทนี้ เช่น part of speech, preposition, conjunction, gerund, participle, tense, pronoun, determiner, passive voice, noun clause, if clause, adjective clause, comparison, causative เป็นต้น ส่วนคำศัพท์ที่ออกสอบที่เจอมาก็อย่างเช่นคำว่า proximity เป็นต้น 

2. พาร์ทนี้คือต้องแต่ละข้อควรใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาที เพื่อจะเหลือเวลามากที่สุดสำหรับทำข้อสอบพาร์ท 7 ดังนั้น ต้องเตรียมตัวแกรมม่าให้แน่นที่สุดแน่นแบบเหลือบตามองก็ฝนข้อสอบ

พาร์ท 7 พาร์ทการอ่านจำนวน 48 ข้อ ซึ่งจะทั้ง single passage, double passage, อีเมลย์เขียนโต้ตอบกัน เป็นต้น ตัวอย่าง passage ที่เจอมาก็อย่างเช่น การโฆษณาสินค้า การโฆษณาให้เช่าพื้นที่ออฟฟิศ และมีอีเมลย์โต้ตอบอีเมลย์เชิญชวนวิทยากรมางานสัปดาห์หนังสือ เป็นต้น

*** การเตรียมตัวสำหรับพาร์ทนี้คือ

1. ต้องเตรียมคำศัพท์เกี่ยวกับเชิงการโฆษณา การบริหารจัดการ คำศัพท์ที่ใช้ในการเขียนอีเมลย์ เป็นต้น และต้องฝึกการอ่านบ่อยๆ เพราะการฝึกฝนบ่อยๆจะช่วยให้เราอ่านได้เร็วขึ้น (เดี๋ยวแปะรูปหนังสือ TOEIC ที่น่าใช้ไว้ให้ครับ) นอกจากนี้ยังมีถามพวกคำศัพท์ต่างๆ เช่น engaged in ในบริบทหมายถึงอะไร ซึ่งในข้อสอบหมายถึงคำว่า offer เป็นต้น

2. การทำข้อสอบพาร์ทนี้คืออันดับแรกอ่านสแกนทั้ง passage ก่อนหนึ่งรอบ พออ่านสแกนเสร็จค่อยกลับมาดูคำถามและตัวเลือก อันไหนตอบได้ก็ตอบไปเลย จากนั้นค่อยมาอ่านแบบลงรายละเอียด เพื่อหาคำตอบของข้อที่เหลือ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้น

ขออนุญาติแปะรูปภาพหนังสือที่แนะนำสำหรับการเตรียมสอบโทอิค 3 เล่ม ดังนี้ครับ

1. หนังสือของ oxford

2. หนังสือ อ.นเรศ


3. หนังสือครูเคน

ส่วนผมสอบรอบนี้ได้คะแนน 850 พอดีเลยครับ
ชื่อสินค้า:   Toeic ภาษาอังกฤษ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่