สวัสดีค่ะ เราจะมารีวิวแชร์ประสบการณ์การสอบและวิธีการเตรียมตัวสอบของเรา ในการสอบ ก.พ. ภาค ก ระดับป.ตรี ปี 2567 รอบ Paper&Pencil ที่ได้สอบไปในวันที่ 25 สิงหา 67 ที่ผ่านมาค่ะ โดยผลการสอบและคะแนนได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. นี้ และผลคือเราสอบผ่าน !  เรารส.ดีใจมากๆ เพราะเป็นการสอบก.พ.ครั้งแรกในชีวิตของเรา และช่วงก่อนประกาศผลเราแอบรส.เครียดและกังวลมาก เพราะกลัวไม่ผ่าน พอผลออกมาปรากฏว่าผ่านเลยรส.ดีใจและโล่งมากๆๆๆ 555

       ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการริวิว เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าการสอบ ก.พ. นี้มันคืออะไร ต้องสอบอะไรบ้าง และจะสอบไปเพื่ออะไร?
          สำหรับผู้ที่สนใจอยากรับราชการคงคุ้นเคยกับการสอบนี้กันดี โดย การสอบ ก.พ. เป็นการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกบุคคลในทุกวุฒิการศึกษาและสาขาวิชาชีพ ที่มีความสนใจอยากทำงานราชการให้เข้ามาทำงานในหน่วยงานของรัฐอย่างกระทรวง กรมต่างๆ  อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรมศุลกากร เป็นต้น ในหลากหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น นักวิเคราะห์นโยบายและแผน วิศวกร พยาบาล นักบัญชี นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ (แต่ก็จะมีกระทรวงการต่างประเทศในการสอบตำแหน่งนักการทูตปฎิบัติการ ที่ไม่ได้คัดเลือกผ่านการสอบ ก.พ. แต่กระทรวงจะจัดสอบเอง แยกออกมา) ซึ่งการจัดสอบอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. โดย ณ ปัจจุบัน การสอบ ก.พ. แบ่งเป็น 3 ระดับขั้น ได้แก่ ภาค ก ภาค ข และภาค ค ซึ่งก็ต้องสอบให้ผ่านไปทีละระดับ ถึงจะได้บรรจุเป็นข้าราชการ ดังนั้น ภาค ก จึงเปรียบเสมือนเป็นประตูสำคัญด่านแรกหรือบันไดขั้นแรกของบรรดาผู้ที่ใฝ่ฝันอยากรับราชการที่ต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว การสอบก.พ.นี้ ได้แบ่งระดับวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครสอบเป็น 4 ระดับ คือ ระดับ 1 ปวช. ระดับ 2 ปวท./ปวส. ระดับ 3 ปริญญาตรี และระดับ 4 ปริญญาโท ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีหลักเกณฑ์แตกต่างกัน โดยในบทความนี้จะรีวิวถึงการสอบในระดับ 3 หรือป.ตรี

   วิชาที่สอบในการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) และเกณฑ์คะแนนการสอบผ่าน (ระดับป.ตรี)
        แบ่งเป็น 3 วิชาหลัก ได้แก่
            1) วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 50 ข้อ (เต็ม 100 คะแนน ต้องได้ 60 คะแนนขึ้นไป)
            2) วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี  (25 ข้อ เต็ม 50 คะแนน ต้องได้ 30 คะแนนขึ้นไป)
            3) วิชาภาษาอังกฤษ 25 ข้อ (เต็ม 50 คะแนน ต้องได้ 25 คะแนนขึ้นไป)

         โดยเรื่องที่ออก ตัวอย่างข้อสอบ และรายละเอียดอื่นๆ ในการสอบ สามารถไปดูศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้
      https://guruacademy.in.th/gpblog/pre-test-structure
      https://www.gurupoliceacademy.com/what-is-gorpor/

   ต่อไปมาเข้าสู่พาร์ทรีวิวการเตรียมสอบของเรากัน
      
           เกริ่นก่อนว่าเรามีเวลาเตรียมสอบไม่นาน คือเราเริ่มอ่านช่วงปลายๆ ก.ค. แต่ก็ไม่ได้อ่านทุกวันสม่ำเสมอ ละก็ช่วงนั้นคาบเกี่ยวกับสอบ Toeic ด้วย (เราสอบ TOEICช่วงกลางเดือนสิงหา)  ก็เลยเน้นทุ่มอ่าน TOEIC มากกว่า หรือก็คือแทบไม่ได้แตะหรืออ่านสอบก.พ.จริงจังเลย (แต่คิดว่าก็มีประโยชน์กับการสอบพาร์ทอังกฤษ ก.พ. อยู่) พอสอบ TOEIC เสร็จ เราถึงมาเริ่มเตรียมสอบ ก.พ.อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นก็เหลือเวลาแค่ประมาณ 10 วันก่อนถึงวันสอบ ก็คือค่อนข้างไฟไหม้มาก โดยเราได้เตรียมตัวสอบในแต่ละวิชา ดังนี้

1) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
     โดยพาร์ทนี้สามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 2 ส่วน คือ คณิตศาสตร์และภาษาไทย พาร์ทนี้เราค่อนข้างกังวล เพราะส่วนตัวไม่ได้เป็นคนถนัดเลข การเตรียมตัวอันดับแรก เราได้list เรื่องทั้งหมดที่ออกสอบ ละก็ดูสถิติจำนวนข้อที่ออกในแต่ละเรื่องจากปีก่อนๆ เพื่อดูว่าเรื่องไหนที่ออกบ่อย จำนวนข้อเยอะ เราก็จะเน้นอ่าน+ทำโจทย์เรื่องนั้น อย่างเช่น เลข ก.พ. เรื่องเงื่อนไขสัญลักษณ์ออกเยอะมาก (ประมาณ 10 ข้อ) เราเลยคิดว่าจะต้องเก็บเรื่องนี้ให้ได้ เพราะจะส่งผลต่อคะแนนอย่างมาก พาร์ทเลขส่วนใหญ่ เราติวฟรีในยูทูป ช่อง พี่น็อต GoodBrain ช่องนี้ดีมากๆๆๆ แนะนำเลย สอนเข้าใจละเอียดมาก มีเอกสารประกอบการติวให้โหลดฟรี อีกทั้งมีเทคนิคการทำข้อสอบให้ด้วย (พี่เค้าติวทุกวิชาที่ใช้สอบก.พ.เลย ส่วนตัวเราติววิชาเลข ไทย และกม.) นอกจากนี้ เราก็ได้ฝึกทำโจทย์จากในนส. สอบก.พ.  2 เล่ม (เดวแปะไว้ให้ค่ะ)





 

 2) วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี

         วิชานี้ตอนแรกเราตั้งใจจะอ่านกม.ฉบับเต็มแบบละเอียดทุกเรื่อง+ทำสรุป แต่เอาเข้าจริง พอมาอ่านจริงๆแล้ว เรารส.อ่านไม่ค่อยเข้าหัว55555 จำและจับประเด็นไม่ค่อยได้ ละมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก จนรส.ท้อ T_T บวกกับตอนนั้นใกล้สอบแล้วเหลือเวลาไม่มาก  เราเลยเปลี่ยนมาใช้วิธีติวสรุปนห.จากคลิปติวในยูทูปกับพี่น็อต (เจ้าเดิม) ซึ่งส่วนตัวรส.ว่าworkกว่ามากๆ เพราะติวเตอร์จะย่อยสรุปประเด็นสำคัญของกม.แต่ละฉบับ ที่มักออกสอบให้ ทำให้เราสามารถโฟกัสได้ตรงจุดและประหยัดเวลา ที่ชอบมากๆ คือพี่น็อตมีเทคนิคการจำดีมากๆ แบบทำให้เราจำได้ฝังหัวขึ้นใจเลย555 (แต่ถ้ามีเวลาเยอะก็อยากแนะนำให้อ่านฉบับเต็มไปด้วยก็ดี) พอติวแต่ละเรื่องจบ เราก็จะมาอ่านทบทวนที่เรียนไป จากนั้น ก็จะฝึกทำโจทย์ข้อสอบในแอปข้อสอบ ก.พ. (ซึ่งดีมากกกก แบบ ก.ไก่ร้อยล้านตัว บอกเลยว่าแอปนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราผ่านพาร์ทกม. เลยย) โดยเป็นแอปที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงาน ก.พ. หน่วยงานที่จัดสอบเลยย ความเริ่ดความปังของแอปนี้คือ นอกจากมีข้อสอบเยอะมากๆ ทุกวิชาแล้ว ยังมีข้อสอบเก่าที่เคยออกสอบจริงให้ฝึกทำด้วย พร้อมเฉลยละเอียดทุกข้อ โดยเราสามารถเลือกโหมดได้ว่าจะให้ทำแล้วเฉลยทีละข้อเลย หรือจะให้ทำเสร็จรู้คะแนนรวมที่ได้ก่อน ละค่อยเฉลยทีเดียวก็ได้ +มีจับเวลาเสมือนจริง เราทำแล้วรส.สนุกมาก555 ฟีลเหมือนเล่นเกม แบบพยายามอัพคะแนนไปเรื่อยๆ55 อีกทั้งยังมีไฟล์กม.ฉบับเต็มให้อ่านทุกฉบับที่ออกสอบ แถมมีอัพเดทแจ้งเตือนข่าวสารการสอบต่างๆ ด้วย คือเริ่ดเกินอ่ะ เลิฟแอปนี้มากกก 555  พอเวลาเราทำเสร็จแต่ละชุด ก็จะแคปเฉลยแต่ละข้อไว้ ทั้งข้อที่ทำผิด และข้อที่ทำถูกแต่เฉลยมีส่วนที่เรายังไม่รู้และน่าสนใจ ละก็มาอ่านทวนเฉลยทั้งหมดก่อนสอบ ประมาณ 2-3 รอบโดยในเฉลยก็จะมีอ้างอิงตามมาตราใน พ.ร.บ., พ.ร.ฎ. และประมวลประกอบด้วย ซึ่งบอกเลยว่าข้อสอบจริงที่สอบ คือตรงและใกล้เคียงกับข้อสอบที่เราฝึกทำมากแบบมากๆๆ บางข้อคือตรงเป๊ะๆ จนแอบตกใจ 555 ต้องขอบคุณแอปนี้จริงๆ พอวันก่อนสอบเราก็อ่านสรุปของพี่นิอต + อ่านทวนโจทย์/เฉลยทุกข้อทั้งหมดที่เราเคยทำในแอปก.พ. ละก็ไปสอบ


แอปนี้เบยย




อันนี้เป็นคลิปตะลุยโจทย์กม. ก.พ. ของพี่แมงปอ แบบจะสอนทำโจทย์อธิบายไปทีละข้อๆ ดีมั่กๆ แต่แนะนำว่าควรอ่านนห.ให้จบสักรอบก่อนค่อยดู

3) วิชาภาษาอังกฤษ
      
      อยากบอกว่าวิชานี้เป็นวิชาที่อาศัยบุญเก่า เพราะถ้าใครถนัดEng เป็นทุนเดิม พฐ.ดีอยู่แล้วก็สบายมาก เพราะตัวข้อสอบไม่ได้ออกลึกหรือยากมาก ส่วนตัวเรามีพฐ.Eng อยู่แล้วประมาณนึง ก็เลยแทบไม่ได้เตรียมสอบวิชานี้เลย แต่ก็มีลองฝึกทำข้อสอบจากในแอปก.พ. บ้าง ละก็อย่างที่เราบอกว่าก่อนหน้าที่จะสอบเราก็อ่าน Eng เตรียมสอบ TOEIC ด้วย ก็มีส่วนช่วยในการสอบก.พ. เหมือนกัน สิ่งที่เราอยากแนะนำในการเตรียมสอบอังกฤษ ก.พ.คือ ลองพยายามนำอังกฤษมาอยู่และใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ดูหนัง อ่านข่าวEngบ่อยๆ อาจเป็นวิธีเดิมๆ ที่หลายคนแนะนำ แต่มันก็ได้ผลจริงๆ ละก็พอเจอศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายก็หาความหมายเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์

https://www.bbc.com/news/topics/cj3ergr8209t
https://www.bangkokpost.com/

อันนี้เป็นเวบข่าว Eng ที่เราแนะนำค่ะ

อันนี้เป็นเซตหนังสืออังกฤษ ของดร.ศุภวัฒน์ ซึ่งจะแยกนห.เป็นเรื่องๆ ในแต่ละเล่ม ทั้ง grammar, vocab, reading ฯลฯ โดยจะมีการอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่พฐ+ โจทย์เยอะมากก แนะนำสำหรับใครที่อยากเริ่มปูพฐ. และฝึกฝนในแต่ละพาร์ท (ปล.เราเคยฝึกทำแทบทุกเล่มละ เป็นFCท่านนึงของดร.555) 

พาร์ทต่อไปเราจะเล่าถึงปสก.วันสอบและเทคนิค+คำแนะนำในการสอบ
      เราได้สอบรอบบ่าย (มีสอบทั้งรอบเช้าและบ่าย โดยผู้จัดสอบจะจัดให้ เราเลือกเองไม่ได้ ข้อสอบคนละชุดกัน) โดยจะแจกข้อสอบทุกวิชาให้ทำพร้อมกันทีเดียว ให้เวลาสอบ 3 ชม. สามารถเลือกทำวิชาไหนก่อนก็ได้ โดยเรามีเทคนิค&คำแนะนำในการทำ ดังนี้

1) ส่วนตัวแนะนำว่าให้ทำพาร์ทอังกฤษกับกม. ให้เสร็จก่อน ถ้าเสร็จภายในชม.แรกจะดีมาก จะได้เอาเวลาที่เหลืออีก 2 ชม.ไปทุ่มให้พาร์ทความสามารถทั่วไป เพราะพาร์ทนี้มีการคำนวณ ถ้าทำก่อน อาจทำให้ใช้เวลานาน และmanageเวลามาทำพาร์ทอื่นไม่ทัน
2) พาร์ทความรู้ความสามารถทั่วไปอาจทำส่วนภาษาไทยให้เสร็จก่อน ละค่อยมาทำเลข พาร์ทเลขอาจข้ามข้อไปทำส่วนที่มั่นใจก่อน จะได้ไม่เสียเวลาติดกับข้อนึงนานๆ (แต่อย่าเผลอลืมทำข้อที่ข้ามนะ)
3) วิชาเลขบางข้อ ถึงแม้เราจะไม่รู้สูตรการคำนวณ แต่เราก็สามารถทำได้ โดยใช้การแทนค่าจากchoice ทีละข้อ (ตอนสอบเราใช้วิธีนี้55) แต่ถ้าจำสูตรไปก็ดี เพราะประหยัดเวลากว่า
4) คืนก่อนวันสอบ พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ จะได้สมองโล่ง เฟรช ละก็วันสอบไม่ต้องอ่านนส. (อาจแค่ทวนนิดๆหน่อยๆก็ได้)
5) ตอนสอบเสร็จ ไม่จำเป็นต้องไปเช็คคำตอบจากกลุ่ม เพจ หรือติวเตอร์ใดๆ ถือคติว่า let it go จ้าา  เพราะถ้าเช็คแล้วคำตอบไม่ตรงอาจทำให้เราจิตตกและเครียดกังวลได้ (เราเคยมาแล้ว555) ละก็อยากบอกว่าอย่าเชื่อเฉลยมาก เพราะอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องจริงๆ เสมอไป อย่างเช่น เหมือนเราที่ไปดูเฉลยEng เลยคิดว่าผิดข้อนึง แต่พอผลออกมากลับได้เต็ม ดังนั้น แนะนำว่ารอประกาศผลเลยดีกว่า จบๆ ไม่มีดราม่า555



   ก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวปสก.การสอบ ก.พ. ของเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ สุดท้ายเราอยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆคน ที่กำลังเตรียมสอบอยู่ หรือใครที่ผิดหวังกับการสอบรอบที่ผ่านๆ มา อยากบอกว่าคนที่สอบผ่านกับไม่ผ่าน ไม่ได้มีใครเก่งไปกว่าใครเลย การสอบไม่ได้เป็นการชี้วัดความฉลาด แต่เป็นการวัดว่าใครเตรียมพร้อมในการสอบมามากกว่า ขอแค่ไม่ย่อท้อ ขยัน มีวินัย และอ่านให้ถูกจุด ก็สามารถผ่านได้ เป็นกลจ.ให้ทุกคนค่ะ สู้ๆ where there's a will there's a way ka

ปล.ใครอยากปรึกษาเราหรือถามอะไรเพิ่มเติม สามารถส่งข้อความมาถามทาง FB: เรียว แก้ว ได้เลยค่ะ เรายินดีมากๆ