สวัสดีค่าาาา มากันดึกๆอีกแล้ว มายั่วๆให้ใครหลายคนที่นอนดึกต้องน้ำลายสอ ท้องร้องโจ๊กๆ 55 วันนี้มากับร้านอาหารระดับมิชชิน เพลท ที่ได้แนวคิดจากธรรมชาติมาผสมผสานกับรสชาติแบบไทยๆ จะน่ากินขนาดไหน ไปชมกันเลยค่าาาา

อะๆ ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้า

เพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ

🍽 Cuisine de Garden - คูซีน เดอ กาเด้น

Michelin Plate - มิชลิน เพลท

ร้านอาหารชื่อดังจากเมืองเชียงใหม่โดยเชฟแนน ลีลวัฒน์ มั่นคงติพันธ์ ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมารังสรรค์ออกมาเป็นอาหารจำนวน 10 คอร์ส มีจุดเด่นในการนำวัตถุดิบและรสชาติแบบไทยๆ มาผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารแบบตะวันตก
ตัวร้านตกแต่งได้สวยงาม มีนกกระดาษสีแดงห้อยลงมาจากกิ่งไม้ มีไฟคล้ายดาวตกแต่งทั่วร้าน โต๊ะทุกตัวเป็นสีดำ ตัดกับพื้นไม้ดูเรียบหรู โรแมนติคมาก
มาพูดถึงเรื่องอาหารจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีเอกลักษณ์ในการผสมผสานอาหารสองสัญชาติได้อย่างลงตัว รสชาติถือว่าดีกว่ามาตรฐาน แต่ไม่มีจานไหนที่อร่อยจนว้าวหรือต้องกลับมาทานอีก จาน Signature อย่าง NEST มีกิมมิคที่ดี แต่ในด้านรสชาติถือว่าเฉยๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ โดยรวมแล้วถือว่าเหมาะสมที่จะอยู่ในระดับ Michelin Plate แต่ยังห่างชั้นกับร้านระดับติดดาว Michelin Star อยู่มากพอสมควร
ในด้านราคา ร้านเพิ่งปรับราคาใหม่จาก 1590++ เป็น 1950++ ต่อคน อาจจะสูงไปเล็กน้อยสำหรับรสชาติและคุณภาพวัตถุดิบ เพราะราคานี้เกือบเทียบเท่าร้านระดับ 1 Michelin Star อย่าง Saawaan และ R•Haan เลย เเต่หากมองบรรยากาศ และการบริการ ถือว่าก็ไม่ได้แพงจนรับไม่ได้

📝 Cuisine de Garden 10 Course Tasting Menu (1950++/p)

- FALLEN LEAF
House Made Brioche w/ Porcini Cream Cheese

- MANGROVE
Kombu Cracker w/ Cured Scallop, Farmed Kelp, Chakram & Yuzu Foam

- RICE FIELD
Beef Tartare w/ Riceberry Crumble & Local Vegetables
Grilled Snakehead Fish w/ Tamarind Sauce & Tamarind Leaf

- KOI POND
Kombu Cured Prawn w/ Chive Pesto & Pickled Red Long Bean

- ROSELLE
Chicken Liver Pâté Tartlette w/ Granola, Roselle Leaf & Roselle Powder

- CRABPUCCINO
Smoked Corn Chowder w/ Blue Swimmer Crab & Smoked Corn Wafer

- NEST
Pulled Chicken w/ Onsen Egg, Crispy Rice Vermicelli & Truffle Sense

- GARDEN
Pan Seared Smoke Rainbow Trout w/ Burnt Eggplant & Local

☘️ Vegetables
Grilled Japanese F1 Hokkaido Beef w/ Burnt Eggplant & Local Vegetables (Add 400++ THB)

- JAO
Caramelized Sugar Cane Ice Cream w/ Coconut Apple & Seasonal Fruit

- CACTUS
Canelé w/ Pandan Powder & Crème Anglaise

- STONE
House Made Chocolate w/ Seasonal Fruit Filled

รสชาติ : 5/10
ราคา : 6/10
ความคุ้มค่า : 6/10
บรรยากาศ : 7/10
บริการ : 7/10

ความประทับใจโดยรวม : 6/10

อาหารอร่อย ร้านสวยงาม บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการแวะมาทานสักครั้ง

FALLEN LEAF
House Made Brioche w/ Porcini Cream Cheese

สำหรับคอร์สแรกคือ “ใบไม้ร่วง” เป็นคอร์สเริ่มต้น มีคอนเซปมาจากฤดูใบไม้ร่วง เปรียบเสมือนใบทองกวาวร่วงจากกิ่งไม้สู่พื้นดิน สำหรับใบทองกวาวเป็นขนมปังบริยอช วิธีทานให้แบ่งขนมปังตามรอยกลีบของใบทองกวาว ทาด้วยพอชินีครีมชีส ในด้านรสชาติถือว่าขนมปังบริยอชแข็งไปเล็กน้อย ยังสู้ขนมปังบริยอชที่เราเจอที่ Le Normandie หรือที่ L'Atelier de Joël Robuchon ไม่ได้ ตัวพอชินีครีมชีสเนื้อสัมผัสใช้ได้แต่น่าจะเนียนกว่านี้อีกสักหน่อ

MANGROVE
Kombu Cracker w/ Cured Scallop, Farmed Kelp, Chakram & Yuzu Foam

สำหรับคอร์สถัดมาคือ “ป่าชายเลน” โดยมีคอนเซปเป็นพืชน้ำและอาหารทะเล เริ่มจากแผ่นสาหร่ายคอมบุทอดด้านล่าง ข้างบนเป็นหอยเชลล์ขนาบข้างด้วยสาหร่ายเคลป์ ซอสที่ใช้ทำจากผำซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่ง ใบที่ยื่นมาข้างบนคือใบชะคราม และโฟมสีขาวทำจากส้มยูซู

MANGROVE
Kombu Cracker w/ Cured Scallop, Farmed Kelp, Chakram & Yuzu Foam

ในด้านรสชาติจะเน้นไปทางรสอูมามิจากกรดกลูตามิคซึ่งพบมากในสาหร่าย ช่วยทำให้อาหารคอร์สถัดไปอร่อยขึ้น มีกลิ่นของทะเล รสออกเค็มเล็กน้อย อร่อยใช้ได้

RICE FIELD
Beef Tartare w/ Riceberry Crumble & Local Vegetables
Grilled Snakehead Fish w/ Tamarind Sauce & Tamarind Leaf

สำหรับคอร์สนี่มีคอนเซปคือ ”ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” เริ่มจากในน้ำมีปลา คือก้อนสีเขียวกลมๆ ทำจากปลาช่อนแดดเดียวย่าง คลุกกับซอสมะขามและใบมะขามอ่อน กินคำเดียวทั้งคำ รสชาติที่นำมาก่อนคือรสปลาช่อน มีกลิ่นหอมของการย่างถ่าน ตัดกับรสเปรี้ยวของซอสมะขาม อร่อยใช้ได้เลย

RICE FIELD
Beef Tartare w/ Riceberry Crumble & Local Vegetables
Grilled Snakehead Fish w/ Tamarind Sauce & Tamarind Leaf

ส่วนในนามีข้าวคือทาทาร์เนื้อโรยด้วยผงกรอบทำจากข้าวไรซ์เบอรี่ ใบสีเขียวคือผักแขยงซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จานนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในคอร์สที่ดีที่สุดในมื้อนี้ ด้วยรสชาติของทาทาร์เนื้อที่ตัดกันลงตัวกับครัมเบิ้ลของข้าวไรซ์เบอรี่ ทำออกมาไม่มีกลิ่นคาวเลย มีกลิ่นหอมของผักแขยงแซมมาพอดีๆ อร่อยมากเลย —

KOI POND
Kombu Cured Prawn w/ Chive Pesto & Pickled Red Long Bean

คอร์สนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก “บ่อปลาคาร์ป” ของญี่ปุ่น โดยเชฟใช้กุ้งขาวจากจังหวัดสุราฎร์ธานี ตัวกุ้งมีรสหวานธรรมชาติ สอดไส้มันกุ้งรสมันปนเผ็ดเล็กน้อย ขนาบข้างด้วยซอสเพสโต้และด้วยถั่วฝักยาวแดงที่นำไปดอง มีชีสนมควายจากจังหวัดเชียงใหม่ ทอปด้วยดอกกวางตุ้งและผักชีลาว จานนี้จุดเด่นคงหนีไม่พ้นกุ้งที่ทำออกมาสุกกำลังดี เนื้อเด้ง หวาน ไส้มันกุ้งก็อร่อย เสริมรสกุ้งได้ดีมากจริงๆ ซอสด้านข้าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ถั่วฝักยาวเเดงเพิ่มเนื้อสัมผัสเคียวกรุบ อร่อยใช้ได้เลย

ROSELLE
Chicken Liver Pâté Tartlette w/ Granola, Roselle Leaf & Roselle Powder

ROSELLE หรือ “กระเจี๊ยบ” มีองค์ประกอบส่วนแรกคือทาร์ตเล็ต หรือทาร์ตขนาดเล็ก รองด้านล่างด้วยกราโนล่าและลูกเดือย ด้านบนเป็นปาเตทำจากตับไก่ ทอปด้วยผลกระเจี๊ยบและใบมิ้นท์ โรยด้วยผงกระเจี๊ยบสีม่วงดูสวยงาม สำหรับตัวทาร์ตเล็ตแป้งกรอบกำลังดี ตับไก่ที่เป็นส่วนของปาเตทำออกมาดีมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลย มีความเนียนนุ่มของตับไก่เข้ากันได้กับขนมปัง ผลกระเจี๊ยบออกรสเปรี้ยวเล็กน้อย ตัดความเลี่ยนของปาเตได้อย่างดี ถือเป็นการนำปาเตของฝรั่งเศสมาประยุกต์ได้ดีและอร่อยมาก

ROSELLE
Chicken Liver Pâté Tartlette w/ Granola, Roselle Leaf & Roselle Powder

อีกด้านคือใบกระเจี๊ยบ โรยด้วยผงกระเจี๊ยบ รสเปรี้ยวจี๊ด ตัดรสกับน้ำส้มสายชูบัลซามิคที่นำไปรีดัคชั่นจนข้น ออกรสหวาน สดชื่นดีมาก ถือว่าเป็นคอร์สที่นำเสนอมุมของกระเจี๊ยบในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างดีเยี่ยม

CRABPUCCINO
Smoked Corn Chowder w/ Blue Swimmer Crab & Smoked Corn Wafer

สำหรับคอร์สถัดมา คือ ”แครปปูชิโน” หรือซุปข้าวโพดหวานรมควัน ที่เน้นรสหวานธรรมชาติจากข้าวโพด โรยข้างบนด้วยผงกาแฟ เพิ่มกลิ่นและความซับซ้อนให้กับอาหารคอร์สนี้ได้ดี ด้านข้างคือเวเฟอร์เนื้อปูผสมกับพูเรทำจากข้าวโพด วิธีทานให้ทานสองอย่างควบคู่กั

CRABPUCCINO
Smoked Corn Chowder w/ Blue Swimmer Crab & Smoked Corn Wafer

จานนี้ถือว่ามีการผสมผสานรสชาติของซุปข้าวโพดและกาแฟได้ลงตัวมากๆ เสริมด้วยเวเฟอร์ปูที่ทำออกมาเข้ากันกับซุปได้เป็นอย่างดี เป็นอีกคอร์สที่เราประทับใจในมื้อ

NEST
Pulled Chicken w/ Onsen Egg, Crispy Rice Vermicelli & Truffle Sense

มาถึงคอร์สที่เป็น Signature ของทางร้านคือ NEST หรือ ”รังนก” ประกอบด้วยไข่ออนเซ็นที่นำไปซูวีด์ที่อุณหภูมิ 63.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการซูวีด์ไข่ รองด้วยเส้นหมี่ข้าวทอดกรอบดูคล้ายรังนก ด้านล่างเป็นไก่ฉีก ปรุงแต่งกลิ่นด้วยทรัฟเฟิลออย ผสมกับเห็ดชิทาเกะ และเห็ดพอชินี

วิธีทานให้ตอกไข่ออนเซ็นลงบนรังนกเส้นหมี่ข้าว ทานพร้อมกันกับไก่และเห็ดด้านล่


NEST
Pulled Chicken w/ Onsen Egg, Crispy Rice Vermicelli & Truffle Sense

สำหรับรสชาติตัวไข่ก็เป็นไข่ซูวีทั่วๆไป หมี่ข้าวทอดกรอบสีเหลืองทองเพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับจาน ส่วนรสและกลิ่นหลักๆของจานคือส่วนของไก่ฉีกผสมเห็ดชิทาเกะและเห็ดพอชินี ตอนทานจะมีกลิ่นหอมของเห็ดชิทาเกะ และมีรสขมเล็กๆของเห็ดพอชินี โดยรวมแล้วถือว่ามีกิมมิคที่ดี ส่วนรสชาติอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ยังไม่พอที่จะเรียกความว้าวได้ สามารถจินตนาการได้จากวัตถุดิบที่ใส่ลงไป และออกมาแบบนั้นเลย ไม่ได้ซับซ้อนอะไร กลิ่นทรัฟเฟิลยังไม่เด่น หากจะปรับปรุงน่าจะเริ่มจากไก่ฉีกด้านล่างที่ยังพัฒนารสชาติได้อีกมาก ทำให้ว้าวมากกว่านี้ได้

GARDEN
Grilled Japanese F1 Hokkaido Beef w/ Burnt Eggplant & Local Vegetables (Add 400++ THB)

สำหรับเมนคอร์สคือ GARDEN หรือ “สวน” โดยมีคอนเซปคือสวนผักสีเขียวที่เป็น Side Dish มีฐานสีเขียวทำจากมะเขือม่วงเผา ออนทอปด้วยองค์ประกอบหลายอย่างคือดอกโสน ดอกกระเจี๊ยบ ผักปัง ผักชี ผักชีลาว และไข่เค็ม

สำหรับจานแรกเราเพิ่มเงิน 400++ บาทเพื่ออับเกรดเป็นเนื้อ F1 Hokkaido ปรุงมาสุกระดับ Medium ตัวเนื้อปรุงมาดีใช้ได้ ละลายในปากสมกับเป็นเนื้อญี่ปุ่น ราดด้วยซอสสีน้ำตาลทำจานปอนสึและส้มยูซู รสชาติเปรี้ยวเค็มตัดกับรสเนื้อได้เป็นอย่างดี พอกินกับ GARDEN ที่เป็นผักเคียงถือว่าอร่อยใช้ได้ โดยในแต่ละคำเราจะตักได้องค์ประกอบของผักต่างชนิดกัน ทำให้รสชาติเเต่ละคำที่ทานแตกต่างกันไปเล็กน้อย ถือว่าเป็นจุดเด่นของจานนี้ —

GARDEN
Pan Seared Smoke Rainbow Trout w/ Burnt Eggplant & Local Vegetables

สำหรับอีกจานเราเลือกเป็นปลาเรนโบเทร้าต์ ทำมาได้สุกกำลังดี เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว หนังกรอบ ทานกับ GARDEN ที่เป็นผักเคียงและซอสได้อร่อยมากเช่นกัน

ไปต่อกันในคอมเม้นเช่นเคยค่ะ

ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining

รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ