⭕⭕⭕⭕มาลาริน/อัดฉีด 3.16 แสนล. "เพิ่มเงินบัตรคนจน1พัน-แจกเที่ยว1พัน" หวังกระตุ้นศก.

จัดไปค่ะ....
"บิ๊กตู่” อัดฉีด 3.16 แสนล. "เพิ่มเงินบัตรคนจน1พัน-แจกเที่ยว1พัน" หวังกระตุ้นศก.


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ด้าน คือ ด้านการดูแลภัยแล้ง การดูแลผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการช่วยเหลือค่าครองชีพ ใช้วงเงินรวมทั้งหมด 3.16 แสนล้านบาท ซึ่งมีทั้งงบประมาณปี 62 และวงเงินสินเชื่อสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเสนอให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อให้มีผลทันทีในเดือนส.ค.

สำหรับมาตรการที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือค่าครองชีพ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทุกคนที่ถือบัตรฯ จำนวน 14.5 ล้านคน จะได้รับการเติมเงินพิเศษเพิ่มคนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างส.ค.-ก.ย. นี้ รวม 1,000 บาท ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเดือนละ 500 บาทเป็นเวลา 2 เดือนเช่นเดียวกัน กลุ่มสุดท้าย คือ เงินเลี้ยงดูบุตรสำหรับผู้ที่ที่ถือบัตรฯ ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ได้เดือนละ 300 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ทั้งหมดในมาตรการนี้ใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก


นายอุตตม กล่าวว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ประชุมเห็นชอบให้แจกเงินให้กับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดนอกเขตภูมิลำเนาจำนวน 1,000 บาท โดยมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นจำนวน 10 ล้านคน โดยต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ผ่านแอพพลิเคชั่นที่กระทรวงการคลังจัดทำขึ้น และยังให้ผู้ที่ได้สิทธิ์สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงจากการเดินทางท่องเที่ยวมาขอคืนเงินได้อีก 15% ของค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะมีความชัดเจนหลังจากเสนอให้ครม.เห็นชอบแล้ว และยังมีการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน และอินเดีย แต่ต้องหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไปว่าจะยกเว้นให้นานเท่าไร

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง นายอุตตม กล่าวว่า มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นเวลา 1 ปี และให้สินเชื่อฉุกเฉินจากธ.ก.ส. คนละไม่เกิน 50,000 บาท ปีแรกฟรีดอกเบี้ย รวมวงเงิน 50,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูความเสียจากผลกระทบภัยแล้งรายละไม่เกิน 5 แสนบาท วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ของธ.ก.ส. และช่วยเหลือต้นทุนการผลิตกับชาวนาที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 62/63 ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 3 ล้านคน

นอกจากนี้ยังมีมาตรการการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องจักรสามารถนำเงินค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า รวมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายเล็กและกลาง ทั้งการช่วยเหลือผ่านกองทุนของรัฐบาล จากธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือบสย. ช่วยค้ำประกัน และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน วงเงินรวม 52,000 ล้านบาท สุดท้ายคือ การช่วยพักชำระหนี้เงินต้นให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง

https://siamrath.co.th/n/97272

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody’s Investors Service : Moody’s) ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) จากระดับมีเสถียรภาพ เป็น “เชิงบวก” และคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Credit Rating) ที่ Baa1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของผู้ออกตราสารหนี้ 

เนื่องจากมูดี้ส์มองว่าสถานะการคลังของไทยมีแนวโน้มที่ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการลงทุนทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ

เช่นเดียวกับบริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มประเทศไทย รวมทั้งระบบการเงินของไทยและรัฐบาลใหม่ขึ้นเป็น “บวก” จากระดับ “คงที่” ไปก่อนหน้านั้น

ประเทศไทยมีปัญหาเศรษฐกิจอยู่บ้างจากผลกระทบของสงครามการค้า  แต่มีภูมิคุ้มกันที่ดี

เชื่อมั่นใจการตัดสินใจของฝ่ายเศรษฐกิจค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่