เมื่อรถบูมกับพ่อขับมาถึงบ้าน เขาทำหน้าที่เป็นคนลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน แล้วรถพ่อก็คล่อยๆเคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถ ที่ทำต่อออกมาจากตัวบ้านความกว้างได้คันเดียวแต่ถ้าความยาวน่าจะจอดต่อกันได้สองคัน
เมื่อรถจอดสนิทบูมเดินไปหยิบของฝากที่ย่าเตรียมมาให้เอาไปให้แม่ทำกับข้าวเย็นนี้ แต่ระหว่างนั้นบูมหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ไลน์ส่งให้อาร์ บอกว่าตนเองถึงบ้านแล้ว พอส่งเรียบร้อยก็กดเบอร์โทรหาย่าเพื่อจะบอกว่าตนเองถึงบ้านแล้วเช่นกัน
คนที่รับสายเป็นน้องเบส บูมเดินคุยโทรศัพท์ไปด้วยมือหนึ่งก็ถือของเข้าไปไว้ในครัวให้แม่ กว่าบูมจะถึงบ้านก็เกือบทุ่มแล้ว แม่ทำกับข้าวเสร็จเร็บร้อย เพราะบูมเห็นฝาชีครอบไว้ที่โต๊ะกินข้าว รอบูมกับพ่อกลับมาถึงแค่นั้น
บูมเดินตรงไปที่ตู้เย็นเอาพริกผักต่างๆเข้าตู้ และเอาปลาไปใส่ไว้ในกะละมังเทน้ำใส่เล็กน้อย แล้วเอาถาดสังกระสีมาปิดปากไว้ เอาเขียงมาทับไว้อีกทีนึง เพื่อป้องกันการดิ้นหนีของปลา ปากก็คุยโทรศักท์กับน้องเบสไป
"แค่นี้นะน้องเบส อย่าลืมบอกยายนะว่าพี่บูมถึงบ้านแล้ว"
"อือๆ..."
บูมวางสายจากน้องสาว ทันใดนั้นแม่ก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมพ่อตามมาติดๆ
บูมนั่งลงบนโต๊ะกินข้าวหัวโต๊ะเป็นตำแหน่งของพ่อส่วนฝั่งตรงข้ามบูมคือแม่ กับข้าวมื้อนี้ฝีมือแม่ก็อร่อยไม่แพ้ฝีมือย่า หน้าตาเมนูอาหารก็จะไม่แตกต่างกันมาก ถ้าเป็นภูมิภาคเดียวกันหรือจังหวัดเดียวกัน
"ได้อะไรมาเยอะแยะ"
แม่ถามบูมเมื่อตอนลงรถมาเห็นถืออะไรอยู่แว็บๆไม่ได้สนใจถาม ก็คงจะเป็นเช่นทุกๆอาทิตย์ แต่แม่ก็อยากรู้ว่ามันมีอะไรบ้าง จะได้ทำกับข้าวทันไม่ให้มันเน่าเสียไปสะก่อน
หลายครั้งกินไม่ทันเน่าก่อนก็มีต้องทิ้งไป แม่เสียดายย่าอุตส่าเอามาฝาก บูมเงยหน้าขึ้นมามองแม่แต่เคี้ยวข้าวยังไม่หมด พยายามเคี้ยวแล้วกลืนให้หมดเพื่อที่จะตอบคำถามผู้เป็นแม่
"เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปล่าช่อน ปู่ไปเอามาจากนา ฝนตกเมื่อคืนนี้"
"ขังไว้ยังเดี๋ยวดิ้นหนีหมด"
"ขังแล้ว"
พูดจบบูมทานข้าวต่อ และจากนั้นก็เป็นพ่อกับแม่สนทนากัน เมื่อทุกคนทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เขาทำหน้าที่ล้างจาน
แม่สอนให้บูมทำถึงเป็นผู้ชายยังไงก็ต้องทำ เผื่อมีครอบครัวจะได้ทำเป็น จะได้แบ่งเบาภาระภรรยาในอนาคตได้ นี่ไม่ติดว่าสมัยนี้มีเครื่องซักผ้าแม่คงสอนเขาซักผ้าด้วยแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ล้างจาน หุงข้าวกรอกน้ำบูมทำหมด ก็เป็นลูกคนเดียวของบ้าน บูมเคยอยากมีน้องแม่บอกว่ามีคนเดียวแล้วตั้งใจเลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดีกว่ามีหลายคนแล้วดูแลได้ไม่เต็มร้อย
อยากมีน้องก็น้องเบสไง จะเอาน้องอะไรอีกเขาคิดขณะที่มือก็ล้างจานไปด้วย
บูมคิดถึงอาร์ป่านนี้ทำอะไรอยู่นะ กินข้าวเย็นหรือยัง นี่ก็พึ่งจะทุ่มกว่าๆ กว่าจะถึงเวลาคุยอีกนานมันคิดถึงมันอยากคุยมาก ปกติก็คุยกันทุกวันไม่เคยเบื่อ จันทร์ถึงศุกร์ก็เจอกันทุกวัน ก็คนมันคิดถึงในใจอยากคุยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าเป็นไปได้
ฉับ ฉับ ฉับ!!
เสียงมีดกระทบกับท่อนมันสำประหลัง ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ พ่อกับแม่ของอาร์เป็นคนตัดส่วนเธอเป็นคนเก็บท่อนมันที่ถูกตัดแล้วไปแช่น้ำในโอ่งที่ทำการผสมฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
แช่ไว้สามสิบวินาทีก็เอาขึ้นมาใส่ถุงปุ๋ยที่ได้มาจากการซื้อปุ๋ยนั้นแหละ ฉลากข้างถุงมีเขียนบอกว่า สูตร 16-16-8-8 ปุ๋ยในโตรเจนชั้นดี
ถุงด้านนอกจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนถุงด้านในใช้แล้วทิ้งไปเลยเพราะปนเปื้อนสารเคมีแล้ว
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน บ้านอาร์มีอาชีพทำไร่ทำนาทำสวนตามฤดูการ พ่อแม่หวังอยากให้อาร์ได้เป็นครู มีสวัสดิการดี ยามพ่อแม่เจ็บป่วยจะได้ไม่ลำบาก
และในตระกูลของอาร์ยังไม่มีใครได้รับราชการสักคนเลย จบการศึกษาสูงสุดก็แค่ ปวช แล้วก็ลงไปหางานโรงงานทำที่กรุงเทพ ได้โบนัสสิ้นปีมาก็เยอะอยู่นะแต่พ่อแม่อาร์ไม่ปราถนาที่จะให้อาร์ทำแบบนั้น ทั้งสองอยากให้ลูกรับราชการมากกว่า
เหมือนเป็นตัวแทนของตัวเองที่จบเพียง ม.3 ที่ได้จบระดับมัธยมต้นก็เพราะว่าที่บ้านเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ไม่อย่างนั้นก็คงได้จบแค่ ป.6
อาร์เป็นความหวังของพ่อแม่ อาร์ถึงไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าอาร์มีแฟนแล้ว กลัวพ่อแม่เสียใจ และอาร์ยังตั้งใจเรียน ผลการเรียนออกมาในระดับที่พ่อแม่ภาคภูมิใจทุกเทอม มันคือกำลังใจในการทำงานหาเงินส่งอาร์เรียนหนังสือ อาร์จะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจเด็ดขาด
อาร์ก้มหน้าก้มตาทำงานช่วยพ่อแม่แบบไม่เหน็ดเหนื่อย เงินทุกบาทที่อาร์ใช้จ่ายก็มาจากสิ่งนี้แหละ
มือก็หยิบท่อนมันจากที่พ่อแม่ตัดไว้ มาแช่น้ำฮอร์โมน แล้วหยิบใส่ถุงอยู่แบบนี้จนตอนนี้ได้เกือบสิบกว่าถุงแล้ว
ตาก็มองทีวีไปด้วย ตอนนี้ละครหลังข่าวกำลังเล่น โจรกับพระเอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเหมือนว่าพระเอกกำลังเสียท่าให้กับผู้ร้ายแล้ว พระเอกโดนยิงสะแล้ว....
เมื่อละครจบแปลว่าจะต้องเป็นช่วงที่อาร์คุยกับบูม ถ้าพ่อแม่ยังไม่นอนอาร์จะใช้วิธีแชท มีคุยบ้างแต่ต้องคุยให้เบาที่สุด ดังนั้นแล้วอาร์เลือกวิธีแชทดีกว่าเพราะมันปลอดภัยที่สุด
"อาร์เอ้ยละครจบไปอาบน้ำนอนนะลูก พรุ่งนี้วันจันทร์เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน"
"พ่อกับแม่ขอต่ออีกสักหน่อย นี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว จะได้เอาไปปลูกสักที เดี๋ยวฝนเร่งมาจะปลูกไม่ทัน"
"อาร์ขอช่วยพ่อสักหน่อยก่อน จะได้สิบถุงแล้วขอเอาให้ได้สักสิบถุงก่อนอาร์ค่อยไปอาบน้ำนอน"
สามคนพ่อแม่ลุกยิ้มให้กัน ภูมิใจที่อาร์เป็นคนขยัน พ่อแม่พาทำอะไรทำตามหมด ไม่บ่นว่าเหนื่อยสักคำ เด็กรุ่นเดียวกันกับอาร์มีเหรอจะทำแบบนี้
พอเวลาปลูกอาร์ก็ไปช่วยพ่อแม่ปลูก ตากแดดตากลมไม่เคยบ่น ถึงอย่างนั้นอาร์ก็ไม่ผิวเสียเพราะอาร์ดูแลตัวเองดีมาก
เมื่อถึงเวลาละครหลังข่าวจบ อาร์ขอตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเข้านอน ทั้งเหงื่อ ทั้งสารเคมีจากน้ำยาฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตของมันสำประหลัง
อาร์อาบน้ำฟอกสบู่เสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ามาแต่งตัวในห้องนอนของตัวเอง ทาครีมบำรุผิวหน้าก่อนนอน ทาแป้งให้เรียบร้อย แล้วหยิบมือถือ ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์หาบูมด้วยรูปภาพเคลื่อนไหวได้ ซึ่งตัวนี้มันต้องสั่งซื้อเอง ตัวฟรีมีแต่ภาพนิ่ง
"เฮลโลอาร์มาแล้ว"
ทางด้านบูมเองฟังเพลงในยูทูปเอาหูฟังเสียบหูรอเวลาอาร์ไลน์มา อื๊ด! เสียงมือถือสั่นเพราะมีข้อความจากใครบางคนแทรกเข้ามา
หากโทรศัพท์ไม่ได้ถูกใช้งานมันก็จะมีเสียงออกมาแทนการสั่น บูมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นอาร์ก็ปิดยูทูปตอบแชทอาร์ทันที บูมก็รอเวลานี้มานานแล้วเช่นกัน
"ว่าไงจ๊ะคนสวย"
"ปากหวานอีกแล้ว ไปนอนบ้านย่าเป็นไง มีสาวๆมาอ่อยมั้ยละ"
"สาวไหนจะมี มีแต่สาวอาร์คนเดียวนี้แหละครับ"
"พรุ่งนี้เจอกันน๊า ไม่ได้เจอสองวันคิดถึงมาก"
"บูมจะรักอาร์ตลอดไป"
ค่ำคืนนี้จบด้วยคำว่าบูมจะรักอาร์ตลอดไปเช่นเคย
คืนนี้ไม่มีดาว อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตกเดือนนี้เป็นต้นฤดูฝน สักพักลมเริ่มพัดใบไม้ปลิวใส่หลังคาบ้าน ทันไดนั้นฝนก็เริ่มลงเมิดโปรยปรายลงมา
บูมนึกถึงวันพรุ่งนี้ของเนสว่าเนสจะไปสมัครเรียนโรงเรียนไหนนะ ยายจันทร์จะพาหลานไปสมัครที่ไหน แต่บูมคิดว่ายังไงยายจันทร์ก็ไม่พาเนสเข้ามาสมัครเรียนในตัวเมืองหรอก ก็คงจะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอนั้นแหละ
ด้วยเรื่องการเดินทาง ระยะเวลาในการเดินทางมาโรงเรียนค่อนข้างไกลด้วย ยังไงสะเนสก็คงได้เรียนในโรงเรียนประจำอำเภอ
อยากถามแต่ไม่มีช่องทางใดให้ติดต่อเลย เดี๋ยวเจอกันอาทิตย์หน้าค่อยแลกเฟสบุ๊คกันละกัน เวลานี้เขาขอนอนคิดถึงอาร์ดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นสายเดี๋ยวโดนฝ่ามือพิฆาตของแม่อีก
เช้านี่เนสตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะยายจะพาไปสมัครเรียน โรงเรียนที่ยายเลือกให้เป็นโรงเรียนประจำอำเภอของยายเอง
เป็นโรงเรียนเดิมของแม่ที่เคยเรียนสมัยเด็กๆ เนสแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนของโรงเรียนเดิมที่กรุงเทพ เวลานี้ไม่รู้ว่าจะใส่ชุดอะไรให้ดูเหมาะสมที่สุด ก็เห็นแต่ชุดนักเรียนนี่แหละ
ตอนนี้เป็นเวลาพึ่งจะหกโมงเช้าเอง เนสทานข้าวเช้าด้วยน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ที่ยายซื้อมาให้จากตลาด
นั่งกินที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านรอยาย เนสมองลอดผ่านต้นชะอมกับต้นกระถินไปยังบ้านย่าของบูม เพราะนั่งหันหน้ามาทางนี้อยู่แล้ว
เนสมองเห็นน้องเบสแต่งตัวใส่ชุดนักเรียนเตรียมตัวไปโรงเรียนเหมือนกัน อดคิดในใจไม่ได้ว่าน้องเบสก็ตื่นเช้าเหมือนกันแฮะ
ย่าของบูมมองเห็นเนสกำลังค่อยๆซดน้ำเต้าหู้ปากก็เป่าไปด้วย คงจะร้อนน่าดู ยิ้มให้เนสและถามเนส
"วันนี้ไปสมัครเรียนเหรอเนส ไปโรงเรียนไหนละ"
"ไปโรงเรียนใกล้ๆบ้านนี่ละจะยาย โรงเรียนประจำอำเภอเรานี่แหละ"
"ดีแล้วลูกไปเรียนไกลๆตื่นเช้าอีก เจ้าบูมขนาดบ้านมันใกล้โรงเรียนมันยังตื่นสาย ได้แม่มันปลุกทุกวัน"
ย่าของบูมเดินออกมาส่งหลานมานั่งรอรถรับส่งนักเรียนที่หน้าบ้าน รถรับส่งมาพอดีเป็นรถแบบรถตู้ มีป้ายติดท้ายรถว่ารถรับส่งนักเรียน คนขับรถเดินลงมาเปิดประตูให้น้องเบสขึ้นไปนั่งประจำที่ จากนั้นคนขับรถก็เลื่อนประตูปิดอย่างมิดชิด
"ขับรถดีๆละ"
"ครับยาย ไปแล้วนะครับ"
คนขับรถเปิดประตูด้านคนขับเข้าไปนั่งแล้วสตาร์ออกรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของนักเรียนคนอื่น หลังจากคุยกับยายไม่กี่ประโยค
ยายจันทร์พาเนสนั่งรถสองแถวเข้ามาในตัวอำเภอโดยให้คนขับไปจอดที่หน้าโรงเรียนเลย แล้วเพิ่มเงินค่าโดยสารให้
ปกติรถโดยสารสายนี้จะไม่ผ่านหน้าโรงเรียน เมื่อนั่งมาลงที่ท่ารถก็ต้องนั่งวินหรือสามล้อเครื่องมาอีกที
สองยายหลานมาถึงโรงเรียนพร้อมๆกับนักเรียนหลายคน และหลายๆคนมองสองยายหลานอย่างแปลกใจ มองประมาณว่าคนนี้นักเรียนใหม่สินะ
ยายจันทร์มองหาคนที่จะช่วยเป็นธุระได้และก็มองเห็นภารโรงกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงจูงมือเนสเดินเข้าไปหาเพื่อสอบถามว่าต้องทำยังไงอะไรบ้าง
ระหว่างนั้นเนสก็คอยสังเกตสภาพแวดล้อมของโรงเรียน มันช่างร่มรื่นดีจริงๆ ถึงโรงเรียนนี้จะเป็นโรงเรียนชั้นนำของอำเภอ อำเภอนี้ก็ค่อนข้างเจริญไม่แพ้อำเภอเมืองเหมือนกัน แต่ความร่มรื่นของต้นไม้ยังปรากฎให้เห็นเด่นชัด
ความเย็นสบาย ร่มเงา หายใจได้ปลอดโปร่งที่สุด ไม่เหมือนโรงเรียนที่กรุงเทพที่เนสเคยเรียนตั้งแต่เด็กๆ ที่มีแต่ควัน มีแต่ตึก หาความร่มรื่นร่มเงาแบบโรงเรียนนี้ไม่ได้เลย เนสชักเริ่มจะชอบที่นี้แล้วสิ
ยายจันทร์จูงมือเนสเดินตรงไปหาภารโรงหนุ่มคนนั้น จะว่าหนุ่มก็น่าจะสี่ซ่าห้าสิบแล้วละ แต่อ่อนกว่ายายแน่นอน
เขากำลังลากสายยางรถน้ำต้นชาดัดที่ปลูกไว้เป็นไม้ประดับ ถูกตกแต่งดัดให้เป็นรูปสวยงามต่างๆ
เขาก็มองเห็นสองยายหลานที่กำลังเดินตรงมายังตัวเองแล้วละ จึงวางสายยางไว้แล้วเดินไปปิดก๊อกน้ำแล้วจึงเดินวนกลับมาหายายอีก
"ยายมีอะไรให้ช่วยหรือครับ"
เมื่อยายจันทร์กับเนสเดินมาถึงเขาพอดี
"ยายจะพาหลานมาสมัครเรียนต่อ ม.2 พ่อหนุ่มรู้มั้ยต้องไปติดต่อใครอะไรยังไง พอดีหลานยายมันย้ายมาจากกรุงเทพ"
"คุณยายเชิญห้องธุระการเลยครับ เดี๋ยวตามมมาเลย"
พร้อมเอามือชี้ไปที่อาคารๆหนึ่ง เป็นที่ตั้งของห้องธุระการ อาคารนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอล ตรงข้ามกับเสาร์ธงชาติ ซึ่งเป็นอาคารที่ยายกับหลานเดินผ่านมาเมื่อกี่
จากนั้นเขาก็นำสองยายหลานไปยังห้องธุระการ แต่ครูเวณยังไม่มาตอนนี้ยังเช้าอยู่ นักเรียนก็มาไม่กี่คน ยังไม่ถึงเจ็ดโมงด้วยซ้ำ
"ห้องธุระการยังไม่เปิด ยายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ"
พร้อมเอาผ้ามาเช็ดโต๊ะที่ถูกอ็อคให้ติดกันประมาณสี่ตัว ตั้งอยู่หน้าห้องเอาไว้สำหรับผู้ปกครองที่มาติดติดต่อนั่งรอ
"ขอบคุณมากๆพ่อหนุ่ม"
เรื่องสั้น....รักสามเศร้า....3
เมื่อรถจอดสนิทบูมเดินไปหยิบของฝากที่ย่าเตรียมมาให้เอาไปให้แม่ทำกับข้าวเย็นนี้ แต่ระหว่างนั้นบูมหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ไลน์ส่งให้อาร์ บอกว่าตนเองถึงบ้านแล้ว พอส่งเรียบร้อยก็กดเบอร์โทรหาย่าเพื่อจะบอกว่าตนเองถึงบ้านแล้วเช่นกัน
คนที่รับสายเป็นน้องเบส บูมเดินคุยโทรศัพท์ไปด้วยมือหนึ่งก็ถือของเข้าไปไว้ในครัวให้แม่ กว่าบูมจะถึงบ้านก็เกือบทุ่มแล้ว แม่ทำกับข้าวเสร็จเร็บร้อย เพราะบูมเห็นฝาชีครอบไว้ที่โต๊ะกินข้าว รอบูมกับพ่อกลับมาถึงแค่นั้น
บูมเดินตรงไปที่ตู้เย็นเอาพริกผักต่างๆเข้าตู้ และเอาปลาไปใส่ไว้ในกะละมังเทน้ำใส่เล็กน้อย แล้วเอาถาดสังกระสีมาปิดปากไว้ เอาเขียงมาทับไว้อีกทีนึง เพื่อป้องกันการดิ้นหนีของปลา ปากก็คุยโทรศักท์กับน้องเบสไป
"แค่นี้นะน้องเบส อย่าลืมบอกยายนะว่าพี่บูมถึงบ้านแล้ว"
"อือๆ..."
บูมวางสายจากน้องสาว ทันใดนั้นแม่ก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมพ่อตามมาติดๆ
บูมนั่งลงบนโต๊ะกินข้าวหัวโต๊ะเป็นตำแหน่งของพ่อส่วนฝั่งตรงข้ามบูมคือแม่ กับข้าวมื้อนี้ฝีมือแม่ก็อร่อยไม่แพ้ฝีมือย่า หน้าตาเมนูอาหารก็จะไม่แตกต่างกันมาก ถ้าเป็นภูมิภาคเดียวกันหรือจังหวัดเดียวกัน
"ได้อะไรมาเยอะแยะ"
แม่ถามบูมเมื่อตอนลงรถมาเห็นถืออะไรอยู่แว็บๆไม่ได้สนใจถาม ก็คงจะเป็นเช่นทุกๆอาทิตย์ แต่แม่ก็อยากรู้ว่ามันมีอะไรบ้าง จะได้ทำกับข้าวทันไม่ให้มันเน่าเสียไปสะก่อน
หลายครั้งกินไม่ทันเน่าก่อนก็มีต้องทิ้งไป แม่เสียดายย่าอุตส่าเอามาฝาก บูมเงยหน้าขึ้นมามองแม่แต่เคี้ยวข้าวยังไม่หมด พยายามเคี้ยวแล้วกลืนให้หมดเพื่อที่จะตอบคำถามผู้เป็นแม่
"เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปล่าช่อน ปู่ไปเอามาจากนา ฝนตกเมื่อคืนนี้"
"ขังไว้ยังเดี๋ยวดิ้นหนีหมด"
"ขังแล้ว"
พูดจบบูมทานข้าวต่อ และจากนั้นก็เป็นพ่อกับแม่สนทนากัน เมื่อทุกคนทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เขาทำหน้าที่ล้างจาน
แม่สอนให้บูมทำถึงเป็นผู้ชายยังไงก็ต้องทำ เผื่อมีครอบครัวจะได้ทำเป็น จะได้แบ่งเบาภาระภรรยาในอนาคตได้ นี่ไม่ติดว่าสมัยนี้มีเครื่องซักผ้าแม่คงสอนเขาซักผ้าด้วยแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ล้างจาน หุงข้าวกรอกน้ำบูมทำหมด ก็เป็นลูกคนเดียวของบ้าน บูมเคยอยากมีน้องแม่บอกว่ามีคนเดียวแล้วตั้งใจเลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดีกว่ามีหลายคนแล้วดูแลได้ไม่เต็มร้อย
อยากมีน้องก็น้องเบสไง จะเอาน้องอะไรอีกเขาคิดขณะที่มือก็ล้างจานไปด้วย
บูมคิดถึงอาร์ป่านนี้ทำอะไรอยู่นะ กินข้าวเย็นหรือยัง นี่ก็พึ่งจะทุ่มกว่าๆ กว่าจะถึงเวลาคุยอีกนานมันคิดถึงมันอยากคุยมาก ปกติก็คุยกันทุกวันไม่เคยเบื่อ จันทร์ถึงศุกร์ก็เจอกันทุกวัน ก็คนมันคิดถึงในใจอยากคุยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าเป็นไปได้
ฉับ ฉับ ฉับ!!
เสียงมีดกระทบกับท่อนมันสำประหลัง ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ พ่อกับแม่ของอาร์เป็นคนตัดส่วนเธอเป็นคนเก็บท่อนมันที่ถูกตัดแล้วไปแช่น้ำในโอ่งที่ทำการผสมฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
แช่ไว้สามสิบวินาทีก็เอาขึ้นมาใส่ถุงปุ๋ยที่ได้มาจากการซื้อปุ๋ยนั้นแหละ ฉลากข้างถุงมีเขียนบอกว่า สูตร 16-16-8-8 ปุ๋ยในโตรเจนชั้นดี
ถุงด้านนอกจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนถุงด้านในใช้แล้วทิ้งไปเลยเพราะปนเปื้อนสารเคมีแล้ว
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน บ้านอาร์มีอาชีพทำไร่ทำนาทำสวนตามฤดูการ พ่อแม่หวังอยากให้อาร์ได้เป็นครู มีสวัสดิการดี ยามพ่อแม่เจ็บป่วยจะได้ไม่ลำบาก
และในตระกูลของอาร์ยังไม่มีใครได้รับราชการสักคนเลย จบการศึกษาสูงสุดก็แค่ ปวช แล้วก็ลงไปหางานโรงงานทำที่กรุงเทพ ได้โบนัสสิ้นปีมาก็เยอะอยู่นะแต่พ่อแม่อาร์ไม่ปราถนาที่จะให้อาร์ทำแบบนั้น ทั้งสองอยากให้ลูกรับราชการมากกว่า
เหมือนเป็นตัวแทนของตัวเองที่จบเพียง ม.3 ที่ได้จบระดับมัธยมต้นก็เพราะว่าที่บ้านเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ไม่อย่างนั้นก็คงได้จบแค่ ป.6
อาร์เป็นความหวังของพ่อแม่ อาร์ถึงไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าอาร์มีแฟนแล้ว กลัวพ่อแม่เสียใจ และอาร์ยังตั้งใจเรียน ผลการเรียนออกมาในระดับที่พ่อแม่ภาคภูมิใจทุกเทอม มันคือกำลังใจในการทำงานหาเงินส่งอาร์เรียนหนังสือ อาร์จะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจเด็ดขาด
อาร์ก้มหน้าก้มตาทำงานช่วยพ่อแม่แบบไม่เหน็ดเหนื่อย เงินทุกบาทที่อาร์ใช้จ่ายก็มาจากสิ่งนี้แหละ
มือก็หยิบท่อนมันจากที่พ่อแม่ตัดไว้ มาแช่น้ำฮอร์โมน แล้วหยิบใส่ถุงอยู่แบบนี้จนตอนนี้ได้เกือบสิบกว่าถุงแล้ว
ตาก็มองทีวีไปด้วย ตอนนี้ละครหลังข่าวกำลังเล่น โจรกับพระเอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเหมือนว่าพระเอกกำลังเสียท่าให้กับผู้ร้ายแล้ว พระเอกโดนยิงสะแล้ว....
เมื่อละครจบแปลว่าจะต้องเป็นช่วงที่อาร์คุยกับบูม ถ้าพ่อแม่ยังไม่นอนอาร์จะใช้วิธีแชท มีคุยบ้างแต่ต้องคุยให้เบาที่สุด ดังนั้นแล้วอาร์เลือกวิธีแชทดีกว่าเพราะมันปลอดภัยที่สุด
"อาร์เอ้ยละครจบไปอาบน้ำนอนนะลูก พรุ่งนี้วันจันทร์เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน"
"พ่อกับแม่ขอต่ออีกสักหน่อย นี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว จะได้เอาไปปลูกสักที เดี๋ยวฝนเร่งมาจะปลูกไม่ทัน"
"อาร์ขอช่วยพ่อสักหน่อยก่อน จะได้สิบถุงแล้วขอเอาให้ได้สักสิบถุงก่อนอาร์ค่อยไปอาบน้ำนอน"
สามคนพ่อแม่ลุกยิ้มให้กัน ภูมิใจที่อาร์เป็นคนขยัน พ่อแม่พาทำอะไรทำตามหมด ไม่บ่นว่าเหนื่อยสักคำ เด็กรุ่นเดียวกันกับอาร์มีเหรอจะทำแบบนี้
พอเวลาปลูกอาร์ก็ไปช่วยพ่อแม่ปลูก ตากแดดตากลมไม่เคยบ่น ถึงอย่างนั้นอาร์ก็ไม่ผิวเสียเพราะอาร์ดูแลตัวเองดีมาก
เมื่อถึงเวลาละครหลังข่าวจบ อาร์ขอตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเข้านอน ทั้งเหงื่อ ทั้งสารเคมีจากน้ำยาฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตของมันสำประหลัง
อาร์อาบน้ำฟอกสบู่เสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ามาแต่งตัวในห้องนอนของตัวเอง ทาครีมบำรุผิวหน้าก่อนนอน ทาแป้งให้เรียบร้อย แล้วหยิบมือถือ ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์หาบูมด้วยรูปภาพเคลื่อนไหวได้ ซึ่งตัวนี้มันต้องสั่งซื้อเอง ตัวฟรีมีแต่ภาพนิ่ง
"เฮลโลอาร์มาแล้ว"
ทางด้านบูมเองฟังเพลงในยูทูปเอาหูฟังเสียบหูรอเวลาอาร์ไลน์มา อื๊ด! เสียงมือถือสั่นเพราะมีข้อความจากใครบางคนแทรกเข้ามา
หากโทรศัพท์ไม่ได้ถูกใช้งานมันก็จะมีเสียงออกมาแทนการสั่น บูมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นอาร์ก็ปิดยูทูปตอบแชทอาร์ทันที บูมก็รอเวลานี้มานานแล้วเช่นกัน
"ว่าไงจ๊ะคนสวย"
"ปากหวานอีกแล้ว ไปนอนบ้านย่าเป็นไง มีสาวๆมาอ่อยมั้ยละ"
"สาวไหนจะมี มีแต่สาวอาร์คนเดียวนี้แหละครับ"
"พรุ่งนี้เจอกันน๊า ไม่ได้เจอสองวันคิดถึงมาก"
"บูมจะรักอาร์ตลอดไป"
ค่ำคืนนี้จบด้วยคำว่าบูมจะรักอาร์ตลอดไปเช่นเคย
คืนนี้ไม่มีดาว อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตกเดือนนี้เป็นต้นฤดูฝน สักพักลมเริ่มพัดใบไม้ปลิวใส่หลังคาบ้าน ทันไดนั้นฝนก็เริ่มลงเมิดโปรยปรายลงมา
บูมนึกถึงวันพรุ่งนี้ของเนสว่าเนสจะไปสมัครเรียนโรงเรียนไหนนะ ยายจันทร์จะพาหลานไปสมัครที่ไหน แต่บูมคิดว่ายังไงยายจันทร์ก็ไม่พาเนสเข้ามาสมัครเรียนในตัวเมืองหรอก ก็คงจะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอนั้นแหละ
ด้วยเรื่องการเดินทาง ระยะเวลาในการเดินทางมาโรงเรียนค่อนข้างไกลด้วย ยังไงสะเนสก็คงได้เรียนในโรงเรียนประจำอำเภอ
อยากถามแต่ไม่มีช่องทางใดให้ติดต่อเลย เดี๋ยวเจอกันอาทิตย์หน้าค่อยแลกเฟสบุ๊คกันละกัน เวลานี้เขาขอนอนคิดถึงอาร์ดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นสายเดี๋ยวโดนฝ่ามือพิฆาตของแม่อีก
เช้านี่เนสตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะยายจะพาไปสมัครเรียน โรงเรียนที่ยายเลือกให้เป็นโรงเรียนประจำอำเภอของยายเอง
เป็นโรงเรียนเดิมของแม่ที่เคยเรียนสมัยเด็กๆ เนสแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนของโรงเรียนเดิมที่กรุงเทพ เวลานี้ไม่รู้ว่าจะใส่ชุดอะไรให้ดูเหมาะสมที่สุด ก็เห็นแต่ชุดนักเรียนนี่แหละ
ตอนนี้เป็นเวลาพึ่งจะหกโมงเช้าเอง เนสทานข้าวเช้าด้วยน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ที่ยายซื้อมาให้จากตลาด
นั่งกินที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านรอยาย เนสมองลอดผ่านต้นชะอมกับต้นกระถินไปยังบ้านย่าของบูม เพราะนั่งหันหน้ามาทางนี้อยู่แล้ว
เนสมองเห็นน้องเบสแต่งตัวใส่ชุดนักเรียนเตรียมตัวไปโรงเรียนเหมือนกัน อดคิดในใจไม่ได้ว่าน้องเบสก็ตื่นเช้าเหมือนกันแฮะ
ย่าของบูมมองเห็นเนสกำลังค่อยๆซดน้ำเต้าหู้ปากก็เป่าไปด้วย คงจะร้อนน่าดู ยิ้มให้เนสและถามเนส
"วันนี้ไปสมัครเรียนเหรอเนส ไปโรงเรียนไหนละ"
"ไปโรงเรียนใกล้ๆบ้านนี่ละจะยาย โรงเรียนประจำอำเภอเรานี่แหละ"
"ดีแล้วลูกไปเรียนไกลๆตื่นเช้าอีก เจ้าบูมขนาดบ้านมันใกล้โรงเรียนมันยังตื่นสาย ได้แม่มันปลุกทุกวัน"
ย่าของบูมเดินออกมาส่งหลานมานั่งรอรถรับส่งนักเรียนที่หน้าบ้าน รถรับส่งมาพอดีเป็นรถแบบรถตู้ มีป้ายติดท้ายรถว่ารถรับส่งนักเรียน คนขับรถเดินลงมาเปิดประตูให้น้องเบสขึ้นไปนั่งประจำที่ จากนั้นคนขับรถก็เลื่อนประตูปิดอย่างมิดชิด
"ขับรถดีๆละ"
"ครับยาย ไปแล้วนะครับ"
คนขับรถเปิดประตูด้านคนขับเข้าไปนั่งแล้วสตาร์ออกรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของนักเรียนคนอื่น หลังจากคุยกับยายไม่กี่ประโยค
ยายจันทร์พาเนสนั่งรถสองแถวเข้ามาในตัวอำเภอโดยให้คนขับไปจอดที่หน้าโรงเรียนเลย แล้วเพิ่มเงินค่าโดยสารให้
ปกติรถโดยสารสายนี้จะไม่ผ่านหน้าโรงเรียน เมื่อนั่งมาลงที่ท่ารถก็ต้องนั่งวินหรือสามล้อเครื่องมาอีกที
สองยายหลานมาถึงโรงเรียนพร้อมๆกับนักเรียนหลายคน และหลายๆคนมองสองยายหลานอย่างแปลกใจ มองประมาณว่าคนนี้นักเรียนใหม่สินะ
ยายจันทร์มองหาคนที่จะช่วยเป็นธุระได้และก็มองเห็นภารโรงกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงจูงมือเนสเดินเข้าไปหาเพื่อสอบถามว่าต้องทำยังไงอะไรบ้าง
ระหว่างนั้นเนสก็คอยสังเกตสภาพแวดล้อมของโรงเรียน มันช่างร่มรื่นดีจริงๆ ถึงโรงเรียนนี้จะเป็นโรงเรียนชั้นนำของอำเภอ อำเภอนี้ก็ค่อนข้างเจริญไม่แพ้อำเภอเมืองเหมือนกัน แต่ความร่มรื่นของต้นไม้ยังปรากฎให้เห็นเด่นชัด
ความเย็นสบาย ร่มเงา หายใจได้ปลอดโปร่งที่สุด ไม่เหมือนโรงเรียนที่กรุงเทพที่เนสเคยเรียนตั้งแต่เด็กๆ ที่มีแต่ควัน มีแต่ตึก หาความร่มรื่นร่มเงาแบบโรงเรียนนี้ไม่ได้เลย เนสชักเริ่มจะชอบที่นี้แล้วสิ
ยายจันทร์จูงมือเนสเดินตรงไปหาภารโรงหนุ่มคนนั้น จะว่าหนุ่มก็น่าจะสี่ซ่าห้าสิบแล้วละ แต่อ่อนกว่ายายแน่นอน
เขากำลังลากสายยางรถน้ำต้นชาดัดที่ปลูกไว้เป็นไม้ประดับ ถูกตกแต่งดัดให้เป็นรูปสวยงามต่างๆ
เขาก็มองเห็นสองยายหลานที่กำลังเดินตรงมายังตัวเองแล้วละ จึงวางสายยางไว้แล้วเดินไปปิดก๊อกน้ำแล้วจึงเดินวนกลับมาหายายอีก
"ยายมีอะไรให้ช่วยหรือครับ"
เมื่อยายจันทร์กับเนสเดินมาถึงเขาพอดี
"ยายจะพาหลานมาสมัครเรียนต่อ ม.2 พ่อหนุ่มรู้มั้ยต้องไปติดต่อใครอะไรยังไง พอดีหลานยายมันย้ายมาจากกรุงเทพ"
"คุณยายเชิญห้องธุระการเลยครับ เดี๋ยวตามมมาเลย"
พร้อมเอามือชี้ไปที่อาคารๆหนึ่ง เป็นที่ตั้งของห้องธุระการ อาคารนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอล ตรงข้ามกับเสาร์ธงชาติ ซึ่งเป็นอาคารที่ยายกับหลานเดินผ่านมาเมื่อกี่
จากนั้นเขาก็นำสองยายหลานไปยังห้องธุระการ แต่ครูเวณยังไม่มาตอนนี้ยังเช้าอยู่ นักเรียนก็มาไม่กี่คน ยังไม่ถึงเจ็ดโมงด้วยซ้ำ
"ห้องธุระการยังไม่เปิด ยายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ"
พร้อมเอาผ้ามาเช็ดโต๊ะที่ถูกอ็อคให้ติดกันประมาณสี่ตัว ตั้งอยู่หน้าห้องเอาไว้สำหรับผู้ปกครองที่มาติดติดต่อนั่งรอ
"ขอบคุณมากๆพ่อหนุ่ม"